รองโฆษกรัฐบาล ยัน รัฐดูแลประชาชนตามรัฐธรรมนูญ ชี้วัคซีน mRNAอยู่ในแผนวัคซีนหลัก รอแค่ส่งมอบ ยก องค์การอนามัยโลก รับรองซิโนแวก-แอสตราฯ-ซิโนฟาร์ม มีประสิทธิภาพ

ที่ทำเนียบรัฐบาล น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวกรณีที่มีการ เตรียมฟ้องรัฐบาล หลังจากคณะรัฐมนตรี มีมติอนุมัติให้จัดซื้อวัคซีนซิโนแวคเพิ่มเติม โดยอ้างว่าการจัดซื้อวัคซีนดังกล่าวขัดต่อรัฐธรรมนูญ เพราะไม่สามารถป้องกันการติดเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์ที่กำลังแพร่ระบาดได้ ว่าองค์การอนามัยโลก ประจำประเทศไทย เผยแพร่ข้อมูลว่าวัคซีนที่ได้รับการรับรองและขึ้นทะเบียนมีความปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ ซึ่งไทยมีวัคซีน 3 ชนิดที่ให้บริการไปแล้ว ได้แก่ แอสตราเซเนกา ซิโนฟาร์ม และ ซิโนแวค ขณะที่แผนจัดหาวัคซีน มีคณะแพทย์ผู้เชี่ยวชาญระดับประเทศ มีงานวิชาการรองรับ เป็นไปตามกฎหมายทุกขั้นตอน สอดคล้องตามรัฐธรรมนูญ และทำตามหลักภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุขระหว่างประเทศ ขององค์การอนามัยโลก

น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า ส่วนความกังวลว่าวัคซีนซิโนแวคที่สั่งซื้อมาต่อเนื่องอาจไม่สามารถป้องกันการติดเชื้อที่กำลังแพร่ระบาด ในปัจจุบันข้อมูลทางการแพทย์ พบว่ายังไม่มีวัคซีนชนิดใดที่สามารถป้องกันการติดเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์เดลต้าได้ 100 เปอร์เซ็นต์ แม้แต่ชนิด mRNA แต่ทุกชนิดรวมทั้งเทคโนโลยีเชื้อตาย สามารถลดการป่วยหนักและการเสียชีวิตได้  

ดังนั้น ในระหว่างรอส่งมอบวัคซีน mRNA อาทิ วัคซีนไฟเซอร์ 20 ล้านโดส ตามแผนวัคซีนหลัก ในช่วงไตรมาสที่ 4 และโมเดอร์นาซึ่งเป็นวัคซีนทางเลือก รัฐบาลจึงเร่งจัดหาและฉีดวัคซีนให้ประชาชนในวงกว้างให้มากที่สุดเพื่อลดการป่วยหนักและการเสียชีวิต ตามนโยบายนายกรัฐมนตรี ซึ่งแผนการดังกล่าวภาครัฐได้ดำเนินการและสื่อสารมาอย่างต่อเนื่อง ไม่ใช่เพิ่งอนุมัติจัดหาในการประชุม ครม.ที่ผ่านมา