“โรม” เปิดหลักฐาน 2 ตำรวจสันติบาลข่มขู่ถึงคอนโด เผยรู้ชื่อ เชื่อเกี่ยวปมอภิปรายตั๋วช้าง
ที่รัฐสภา นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล แถลงถึงความคืบหน้ากรณีที่มีบุคคลไม่ทราบชื่อติดตามคุกคามตนและภรรยามาถึงที่พัก ว่า ขณะนี้ทราบแล้วว่าเป็นใคร ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการเข้ามาคุกคามคือหน่วยงานสันติบาล ตนคิดว่าหน่วยงานของรัฐไม่สามารถทำภารกิจแบบนี้ได้ แต่ก็ต้องยอมรับว่าในข้อกฎหมายยังไม่ชัด ว่าจะดำเนินการทางกฎหมายอย่างไร ทั้งนี้การที่อยู่ๆ มีสันติบาลมาอ้างว่าเป็นเพื่อนของภรรยาของตน จะขอขึ้นไปบนห้อง นั่นไม่ใช่เรื่องปกติ ตนขอสร้างมาตรฐาน เพื่อให้เจ้าหน้าที่ของรัฐรู้ว่าไม่สามารถใช้อำนาจหน้าที่ซึ่งเป็นตำแหน่งทางราชการมาข่มขู่ประชาชนได้
นายรังสิมันต์ กล่าวว่า เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 26 พ.ค ที่ผ่านมา โดยรูปจากกล้องวงจรปิดของอาคารที่พักอาศัยของตนปรากฏเป็นชาย 2 คน สวมหน้ากากอนามัยไม่ปรากฏใบหน้าชัดเจน ซึ่งเมื่อตนได้แจ้งความที่สภ.รัตนาธิเบศร์ มีประชาชนให้เบาะแสทางเฟซบุ๊กแฟนเพจส่วนตัวว่าชาย 2 คนที่เข้ามาเป็นใคร ขณะที่สภ.รัตนาธิเบศร์ ก็มีหนังสือมาให้หนึ่งฉบับระบุว่า เป็นสันติบาลจริงๆ นอกจากนี้ยังมีพลเมืองดีได้ระบุว่าสันติบาลที่เข้ามานั้น หนึ่งในนั้น คือ รองสารวัตรกองกำกับการสันติบาล 1
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายรังสิมันต์ได้ชี้จุดข้อสังเกตของตำรวจคนดังกล่าว ทั้งการแต่งกายและรองเท้า นาฬิกาที่ตรงกัน เงาในแว่นตาที่สะท้อนรถยนต์ของตำรวจรายดังกล่าว เทียบกับภาพถ่ายของนายตำรวจคนนี้ด้วย
นายรังสิมันต์ กล่าวย้ำอีกว่า ตนไม่เคยมีความโกรธแค้นและไม่ได้รู้จักกับตำรวจนายนี้มาก่อน จึงเป็นไปได้ว่าการมาของตำรวจนายนี้เป็นการมาโดยได้รับคำสั่ง คำถามคือคำสั่งนั้นมาจากใคร เหตุใดตำรวจสันติบาล 2 คนบุกเข้ามาที่คอนโดเพื่อหวังจะเจอภรรยาของตน ภรรยาของตนก็ไม่เคยทำความผิดใด ถ้าสิ่งเหล่านี้ไม่ใช่การข่มขู่คุกคามแล้วจะเรียกว่าอะไร จากข้อมูลเชิงลึกที่ตนทราบมีความเป็นไปได้ว่ากระทำดังกล่าวอาจจะเกิดขึ้นจากอภิปรายไม่ไว้วางใจตั๋วช้าง ซึ่งมีเจ้าหน้าที่ตำรวจและผู้มีอำนาจจำนวนมากเสียผลประโยชน์
เมื่อถามว่าเหตุการณ์นี้สะท้อนถึงความผิดปกติในการทำหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ท่ามกลางสถานการณ์บ้านเมืองขณะนี้หรือไม่ นายรังสิมันต์ กล่าวว่าเราอยู่ในสถานการณ์ที่ความจริงแล้วควรจะปกติ เพราะมีการเลือกตั้งและมีสภาฯ แต่สิ่งที่เห็นมาโดยตลอดคือมีการข่มขู่คุกคามแต่จับมือใครดมไม่ได้ แต่รอบนี้ตนทราบชื่อของตำรวจที่เข้ามาคุกคาม ตนจึงหวังว่าในรอบนี้จะเป็นมาตรฐานว่าจะใช้ตำแหน่งหน้าที่ทางราชการไปข่มขู่คุกคามใครไม่ได้ แม้ตอนนี้ยังอยู่ในขั้นตอนการปรึกษาฝ่ายกฎหมายว่าจะทำเช่นไรต่อไป แต่ตนอยากเห็นการสร้างมาตรฐานและก็หวังว่าเราจะไม่เห็นสันติบาล เจ้าหน้าที่ของรัฐ หรือใครก็ตามไปข่มขู่คุกคามประชาชนอีก