“ผู้ช่วยเลขาฯ ชวน” ฟาดกลับ ขรก.สภา โพสต์เดือด ชี้ หากไม่พร้อมทำงานขอย้ายออกจากสำนักประชุมได้  ยันสภาฯมีมาตรการเข้มข้นป้องกันโควิด ส่วนไม่เลือกประชาธิปัตย์ อยู่ที่ปชช.ตัดสิน

น.ส.ศิริภา อินทวิเชียร รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะผู้ช่วยเลขานุการประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงกรณีที่มีข้าราชการของสภาผู้แทนราษฎรรายหนึ่งโพสต์ วิพากษ์วิจารณ์ ในทำนองไม่เห็นด้วยกับการประชุมร่วมสภาเพื่อพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญที่ผ่านมา ท่ามกลางสถานการณ์โควิด-19 และกรณีที่มี ส.ว. ติดเชื้อเข้าร่วมประชุมนั้น ต้องโทษ ผู้ยื่นร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญรวมถึงคนนัดประชุม ถึงขั้นประกาศจะไม่เลือกพรรคประชาธิปัตย์อีก ว่า การแสดงออกทางความคิดย่อมเป็นสิทธิเสรีภาพของเขา แต่ความเห็นที่แสดงออกมานั้นก็สะท้อนให้เห็นถึงปัญญาของบุคคลนั้นด้วยเช่นกัน อย่าสำคัญผิด ความปลอดภัย ไม่ใช่การห้ามมาทำงาน แต่เป็นการปฏิบัติตามมาตรการอย่างเคร่งครัด ส่วนตัวเห็นใจข้าราชการสภาฯทำงานหนักโดยเฉพาะในวันประชุม แม้สถานการณ์ยังน่าเป็นห่วง แต่ต้องไม่ลืมหน้าที่หลักของตนเอง และหน้าที่หลักของสภาคือดำเนินการประชุม เพื่อพิจารณาญัตติต่าง ๆ ที่สมาชิกเข้าชื่อมาโดยเฉพาะ ส.ส.ก็ต้องการใช้สภาเป็นเวทีแก้ปัญหาให้กับประชาชนและติดตามการดำเนินงานของฝ่ายบริหาร แต่ต้องไม่ลืมว่าตำแหน่งหน้าที่ของคุณมาจากภาษีของประชาชน หากไม่พร้อมก็สามารถขอย้ายออกไปจากสำนักประชุมได้ 

น.ส.ศิริภา กล่าวต่อว่า มาตรการของสภาฯที่ออกมาถือว่าเข้มข้นมาก ตามมาตรการของกรมควบคุมโรค ทำให้โอกาสการแพร่ระบาดจนเกิดเป็นคลัสเตอร์ใหม่เลยนั้นมีโอกาสน้อยมาก ในรัฐสภามีบุคลากรอยู่ร่วมกันหลายพันคน แต่ยังไม่เกิดการระบาด หรือคลัสเตอร์ มีเพียงแต่ผู้ที่ติดเชื้อจากภายนอกเท่านั้น มีการจัดสรรวัคซีนให้กับบุคลากรของรัฐสภา ก็เพื่อให้รัฐสภาทำหน้าที่แทนประชาชนต่อไปได้ ไม่เช่นนั้นกฎหมายต่างๆโดยเฉพาะงบประมาณแผ่นดิน ก็จะหยุดชะงักบ้านเมืองก็ไปต่อไม่ได้ 

ส่วนจะเลือกหรือไม่เลือกพรรคประชาธิปัตย์ในการเลือกตั้งครั้งหน้านั้นรองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ขึ้นอยู่กับประชาชนจะตัดสินใจ ตนเชื่อมั่นในประธานรัฐสภาที่ได้ปฏิบัติหน้าที่อย่างซื่อสัตย์สุจริต และรัฐมนตรีของพรรคทุกคนก็มีผลงานเป็นที่ประจักษ์ การเสนอญัญติแก้ไขรัฐธรรมนูญจนเป็นที่มาของการประชุมร่วมรัฐสภา ที่ทำให้ข้าราชการบุคคลดังกล่าวไม่เห็นด้วยก็เป็นหนึ่งในพันธสัญญาที่พรรคประชาธิปัตย์ให้ไว้กับประชาชน