สตูล - แม่ทัพภาคที่ 4 ลงพื้นที่ติดตามแนวชายแดนไทยมาเลเซีย สั่งคุมเข้มพื้นที่ป้องกันการลักลอบเข้ามาของแรงงาน เพื่อป้องกันนำเชื้อโควิดสายพันธุ์ใหม่เข้ามา พร้อมทั้งให้กำลังใจเจ้าหน้าที่

พลโทเกรียงไกร ศรีรักษ์ แม่ทัพภาคที่ 4  / ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 และคณะลงพื้นที่ตามแนวชายแดนไทยมาเลเซียพื้นที่ เขตรอยต่อระหว่าง ต.ปูยู อ.เมือง จังหวัดสตูลประเทศไทย ติดแนวเขตรัฐเปอร์ลิส ประเทศมาเลเซีย โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดสตูล ผบ.ร้อย ร.5 พัน 2 ,กอ.รมน.สตูล,ทหารจากกองกำลังเทพสตรี, เจ้าท่า จ.สตูล,ตำรวจน้ำ, ตชด.436 ,ตม.จ.สตูล และฝ่ายปกครองอำเภอเมืองสตูลได้เดินทางตรวจเยี่ยมการปฏิบัติงานของชุดเฝ้าตรวจแนวชายแดนกำลังทหารจากกองกำลังเทพสตรี ซึ่งทำหน้าที่ป้องกันแนวชายแดน เฝ้าระวังการลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายตามแนวชายแดนทางฝั่งทะเล จ.สตูล

ซึ่งหลังจากมีการเปิดด่านให้มีการเดินทางกลับประเทศของคนไทยในมาเลเซีย โดยแม่ทัพภาคที่ 4 ได้นั่งเรือจากท่าเทียบเรือเกาะปูยู อ.เมือง จ.สตูลไปยังเขตรอยต่อระหว่าง ต.ปูยู อ.เมือง จังหวัดสตูลประเทศไทย ติดแนวเขตรัฐเปอร์ลิส ประเทศมาเลเซีย สั่งคุมเข้มพื้นที่ป้องกันการลักลอบเข้ามาของแรงงานต่างด้าวและแรงงานไทยตลอดแนวชายแดนไทยมาเลเซียเพื่อป้องกันนำเชื้อโควิดสายพันธุ์ใหม่เข้ามาพร้อมทั้งให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ ทั้งนี้ใช้ยุทธ์การเดินหน้ากระดานปิดหน้าทะเลทางช่องทางธรรมชาติ ลงทะเลขึ้นฝั่ง เกาะแนวเขตสกัดกั้น หวั่นแรงงานต่างด้าว และคนไทยในต่างแดนหลบหนีเข้าประเทศแบบผิดกฎหมาย ไม่ผ่านเจ้าหน้าที่รัฐ

โดยนำเรือออกลาดตระเวนตามเกาะแก่งที่อยู่ใกล้ป่าชายเลน และเทือกเขาที่ติดแนวเขตประเทศมาเลเซีย เรือตรวจการณ์จอดเทียบท่าในพื้นที่บริเวณนากุ้งร้าง จากนั้นเปิดปฏิบัติการเดินเท้าทันที ไปยังพื้นที่แนวเขตรอยต่อพรมแดนฝั่งแผ่นดินที่ติดกับทะเล มีรั้วกำแพงสูงกั้นแนวเขตระหว่างจังหวัดสตูล ประเทศไทย ติดแนวเขตรัฐเปอร์ลิส ประเทศมาเลเซียที่มีกำแพงกั้นตรงกลางพร้อมลวดหนาม หากไม่มีกำแพง ก็สามารถข้ามได้เพียงไม่ถึง 10 ก้าวจากฝั่งไทย โดยพื้นที่รั้วกำแพงดังกล่าวนั้นอยู่ในพื้นที่เขต ต.ปูยู อ.เมือง จ.สตูล พบบ้าน จำนวน 3 หลังอยู่ใกล้กำแพง และทางทหารเรือตรวจสอบเป็นชาวบ้านอาศัยอยู่บริเวณนั้น

โดยเฉพาะเป็นพื้นที่ที่ติดกับรัฐเปอร์ลิสประเทศมาเลเซีย และมีแนวเขากั้นเขตแดน ทำให้ ผู้ที่ลักรอบสามารถเดินเข้ามาได้ เลย หรือ แม้กระทั้งการเดินทางเข้ามาทางเรือก็ง่าย เนื่องจากแนวเขตชายฝั่งนั้น สามารถเดินลัดเลาะแนวชายฝั่งเข้ามาได้จึงมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้อง ร่วมกับหน่วยงานต่าง ๆ เพื่อ ร่วมกันในการลาดตระเวน ทั้งทางบกและทางทะเล เพื่อไม่ให้แรงงานหลบหนีเข้ามา 


ภาพ/ข่าว  นิตยา แสงมณี ผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดสตูล