“สงคราม” อัดรัฐบาลสอบตกแก้ปัญหาโควิด ชี้ประชาชนไม่กล้าฉีดเพราะหวั่นอาการไม่พึงประสงค์
เมื่อวันที่ 12 พฤษภาคม 2564 นายสงคราม กิจเลิศไพโรจน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อชาติ ในฐานะอดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า การลงทะเบียนเพื่อจองคิวเข้ารับการฉีดวัคซีนโควิดของคนไทยผ่านแอพพลิเคชั่นหมอพร้อม พบว่ามีประชาชนมาจองฉีดวัคซีนเพียงแค่ 1.6 ล้านคนเท่านั้น ในขณะที่เป้าหมายที่รัฐต้องฉีดวัคซีนโควิดให้ประชาชนมากกว่า 50 ล้านคน ตัวเลขที่ออกมาถือว่าน้อยมาก วันนี้มีประชาชนที่ฉีดไปแล้วถึงวันนี้ประมาณ 2 ล้านคนจากทั้งหมด 77 ล้านคน
สาเหตุที่ทำให้ประชาชนยังไม่จองคิวฉีดวัคซีน ส่วนหนึ่งมาจากปัญหาเรื่องการลงทะเบียนผ่านแอปพลิเคชั่นหมอพร้อม รวมถึงความไม่แน่ใจเรื่องวัคซีนที่จะได้รับ ปัญหาดังกล่าว อยากให้รัฐบาลให้ความสำคัญในการสื่อสารถึงประชาชน รวมทั้งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องรีบออกมาชี้แจง นอกจากนี้ต้องอธิบายให้ประชาชนคลายกังวลเรื่อง อาการไม่พึงประสงค์หลังฉีดวัคซีน ดังนั้นรัฐบาลต้องทำความเข้าใจกับประชาชนเกี่ยวกับ ประสิทธิภาพและประสิทธิผล วัคซีนที่มีอยู่
นายสงคราม กล่าวด้วยว่า นโยบายการฉีดวัคซีนของรัฐบาล ควรให้ประชาชนทุกคน ทุกกลุ่ม เข้าไปฉีดวัคซีนกันได้เลย รวมทั้งการติดตามอาการหลังฉีด เพื่อสร้างความมั่นใจให้ประชาชน ถ้าคนมาฉีดวัคซีนกันเป็นจำนวนมากไม่พบว่ามีปัญหา เชื่อว่าหากคนที่ฉีดแล้วปลอดภัยประชาชนจะมาฉีดวัคซีนอย่างแน่นอน แต่ที่ยังกลัวเพราะรัฐบาลไม่เคยสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนได้เลย คนในรัฐบาลต่างได้รับวัคซีนที่ดีที่สุด แต่ประชาชนจะได้รับวัคซีนชนิดเดียวกับรัฐบาลหรือไม่ หลังจากนี้รัฐบาลต้องวางแผนเร่งรัดจัดการเพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้ประชาชนโดยเร็วที่สุด
“2 ปีที่ผ่านมาตั้งแต่เกิดวิกฤติโควิดครั้งแรก รัฐบาลสอบตกการแก้ปัญหาประเทศทุกอย่างแล้ว ตั้งแต่การสั่งการไปจนถึงมาตรการที่ออกมา ยิ่งการแก้ปัญหาสถานการณ์โควิดถือเป็นเรื่องสำคัญที่สุดในเวลานี้ รัฐบาลยังสอบตกเรื่องการสื่อสารกับประชาชนอีกหรือ ปัญหาคือ รัฐบาลทำงานไม่เป็น แก้ปัญหาไม่ตรงจุด แม้วัคซีนดีแค่ไหนแต่รัฐบาลทำงานไร้ประสิทธิภาพก็ไม่สามารถสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนได้” นายสงครามกล่าว