“บิ๊กตู่” สั่งเหล่าทัพ ติดตามสถานการณ์ในเมียนมา ย้ำ! เตรียมพร้อมรับมือกับปัญหาและผลกระทบจากสถานการณ์ความรุนแรงภายในและชายแดน พร้อมสั่งทุกเหล่าทัพให้ความสำคัญกับภารกิจหลัก ในการป้องกันและรักษาความมั่นคงภายใน โดยให้ปรับปรุงแผนป้องกันประเทศให้ทันสมัย

วันที่ 23 เมษายน 2564 ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานประชุมสภากลาโหม ครั้งที่ 4/2564 ไปยังห้องประชุมต่าง ๆ ในรูปแบบการประชุมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ 

ภายหลังการประชุม พล.ท.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม เปิดเผยว่า นายกฯ และรมว.กลาโหม สั่งการให้หน่วยขึ้นตรงกระทรวงกลาโหมและเหล่าทัพ ติดตามสถานการณ์ด้านความมั่นคงในภูมิภาค โดยเฉพาะในเมียนมา และเตรียมพร้อมรับมือกับปัญหาและผลกระทบจากสถานการณ์ความรุนแรงภายในและการสู้รบในพื้นที่ชายแดนที่มีขึ้น โดยให้กองกำลังป้องกันชายแดนของทุกเหล่าทัพ ประสานการทำงานกับหน่วยงานความมั่นคงในพื้นที่ เพิ่มความเข้มงวดกวดขัน การรักษาความมั่นคงตามแนวชายแดนในทุกช่องทาง

โดยย้ำการแสดงท่าทีต่อสถานการณ์ในเวทีระหว่างประเทศ ให้ยึดกรอบของกระทรวงการ ต่างประเทศและแนวทางของอาเซียนเป็นหลัก พร้อมทั้งให้เตรียมความพร้อมในการอพยพคนไทยออกจากเมียนมา กรณีที่สถานการณ์มีความรุนแรงขึ้น รวมทั้งเตรียมการรองรับผู้หนีภัยความไม่สงบชาวเมียนมาตามแนวชายแดน ตามแนวทางที่สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติได้กำหนด โดยยึดหลักมนุษยธรรมและหลักสิทธิมนุษยชน ทั้งนี้ให้ปฏิบัติตามมาตรการควบคุมโรคเคร่งครัด

นอกจากนี้ พล.ท.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม เปิดเผยว่า นายกฯและรมว.กลาโหม ได้เน้นย้ำถึงสถานการณ์ปัจจุบัน ที่กองทัพเข้าไปสนับสนุนรัฐบาลช่วยเหลือประชาชนในหลายภารกิจ ขณะเดียวกัน ขอให้หน่วยขึ้นตรงกระทรวงกลาโหม และทุกเหล่าทัพ ยังคงให้ความสำคัญกับภารกิจหลัก ในการป้องกันประเทศและการรักษาความมั่นคงภายใน โดยให้ปรับปรุงแผนป้องกันประเทศให้ทันสมัย และยังคงต้องเตรียมกำลังให้พร้อม โดยเฉพาะการฝึกในระดับต่าง ๆ เพื่อให้พร้อมใช้กำลังตอบสนองในทุกภารกิจหลักอย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งนี้ต้องมีแผนเผชิญเหตุและมีการซักซ้อม

“ให้ดำรงความต่อเนื่องในการสนับสนุนรัฐบาล ในการป้องกันและแก้ปัญหายาเสพติด การลักลอบเข้าเมืองผิดกฎหมาย การแก้ปัญหาการค้ามนุษย์และการแก้ปัญหาการทำประมงผิดกฎหมายที่ยังเป็นปัญหาสำคัญของชาติ โดยให้น้ำหนักกับการควบคุมโรคและการช่วยเหลือประชาชนฝ่าวิกฤตการแพร่ระบาดของ COVID-19 ไปด้วยกัน” พล.ท.คงชีพกล่าว