จุรินทร์ ปลื้มดัชนีเชื่อมั่นผู้บริโภคเพิ่มขึ้น 2 เดือนติดกัน อานิสงค์จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและราคาพืชผลการเกษตรปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่อง

วันที่ 8 เมษายน 2564 นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เผยว่าดัชนีความเชื่อมั่น ผู้บริโภคโดยรวมในเดือนมีนาคมที่ผ่านมาปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่อง ทั้งในปัจจุบันและในอนาคต ทุกภาค และทุกอาชีพ โดยเฉพาะในอนาคต ปรับขึ้นมาอยู่ในช่วงเชื่อมั่นติดต่อกันเป็นเดือนที่สอง เนื่องด้วยประชาชนเชื่อมั่นในมาตรการกระตุ้น เศรษฐกิจและราคาพืชผลการเกษตรดีขึ้นจากมาตรการเชิงรุกของกระทรวงพาณิชย์และกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ การเกษตร การควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัส Covid-19 ที่ดำเนินการได้อย่างรวดเร็ว และประชาชนมีความคาดหวัง ในแง่ดีต่อวัคซีน Covid-19

นายจุรินทร์กล่าวเพิ่มเติมว่าดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคโดยรวม เดือนมีนาคม 2564 ปรับตัวเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ ระดับ 47.5 เทียบกับระดับ 45.5 ในเดือนก่อนหน้า เป็นการปรับตัวเพิ่มขึ้นทั้งดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคในปัจจุบันและในอนาคต โดยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคในปัจจุบัน ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากระดับ 38.1 มาอยู่ที่ระดับ 40.2 และ ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคในอนาคต พบว่า ปรับเพิ่มขึ้นจากระดับ 50.4 มาอยู่ที่ระดับ 52.3

เมื่อจำแนกรายภูมิภาค พบว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคปรับตัวเพิ่มขึ้นในทุกภูมิภาค โดยเฉพาะภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จากระดับ 46.1 มาอยู่ที่ระดับ 49.6 และภาคใต้ ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากระดับ 47.0 มาอยู่ที่ระดับ 48.5 เมื่อจำแนกรายอาชีพ พบว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคปรับตัวเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้าทุกกลุ่มอาชีพ โดยเฉพาะกลุ่มผู้ประกอบการ ปรับเพิ่มขึ้นจากระดับ 45.8 มาอยู่ที่ระดับ 49.3 เนื่องจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล ส่งผลให้เศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัว 

ส่วนกลุ่มเกษตรกรปรับเพิ่มขึ้นจากระดับ 46.8 มาอยู่ที่ระดับ 47.7 ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากราคา สินค้าเกษตรที่ปรับตัวสูงขึ้นจากเดือนก่อนหน้า และกลุ่มพนักงานของรัฐ ปรับเพิ่มขึ้นจากระดับ 51.4 มาอยู่ที่ระดับ 52.5 ซึ่งปรับตัวมาอยู่ในระดับเชื่อมั่นติดต่อกันเป็นเดือนที่สอง เนื่องจากเป็นกลุ่มที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของไวรัส Covid-19 น้อยที่สุด

กล่าวโดยสรุป แนวโน้มความเชื่อมั่นที่ปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่องดังกล่าว ชี้ให้เห็นว่าผู้บริโภคมีแนวโน้มมั่นใจ ที่จะจับจ่ายใช้สอยเพิ่มขึ้น ซึ่งหากไม่มีสถานการณ์ปัญหาร้ายแรงอื่นเพิ่มเติม จะเป็นปัจจัยสำคัญที่สนับสนุนให้ เศรษฐกิจไทยค่อย ๆ ฟื้นตัวได้อย่างต่อเนื่องขึ้นเป็นลำดับ