“บิ๊กป้อม” คุ้มครองทรัพยากรทะเล ประชุม คกก. พอใจผลคืบหน้า ขอบคุณ ปชช.ร่วมปกป้องพะยูน โลมา ลดขยะทะเล เห็นชอบพื้นที่เพิ่มเติม อนุรักษ์ป่าชายเลน/ปะการัง อนุมัติเกณฑ์ชดใช้ค่าเสียหาย เสริมความร่วมมือระหว่างประเทศ

เมื่อ 5 เมษายน 2564  พล.ต.พัชร์ชศักดิ์ ปฏิรูปานนท์ ผช.โฆษกประจำรอง นรม. เปิดเผยว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รอง นรม. ได้เป็นประธานการประชุม คณะกรรมการนโยบาย และแผนการบริหารจัดการทรัพยากรทางทะเล และชายฝั่งแห่งชาติ ครั้งที่ 1/2564 โดยมีนายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทส. เข้าร่วมประชุม  ณ  ห้องประชุม 109  สํานักงานปลัดสํานักนายกรัฐมนตรี

ทรัพยากรทางทะเล และชายฝั่งนับเป็นทรัพยากรทางธรรมชาติที่สามารถสร้างมูลค่าให้กับประเทศชาติได้ อย่างมหาศาล และกำลังเป็นกระแสสังคมระดับประเทศและระดับโลก ดังนั้นรัฐบาลจึงได้ให้ความสำคัญต่อการอนุรักษ์/รักษาความอุดมสมบูรณ์ อย่างดีที่สุด  ซึ่งการประชุมในวันนี้ ที่ประชุม ได้รับทราบการดำเนินงานคุ้มครองพื้นที่ ทรัพยากรทางทะเล และชายฝั่ง ซึ่งผ่านการพิจารณาแล้วได้แก่หมู่เกาะกระ อ.ปากพนัง จ.นครศรีธรรมราช และแผนอนุรักษ์ พะยูนแห่งชาติ (ระยะที่ 1 พ.ศ.2563-2565)  จากนั้นที่ประชุม ได้เห็นชอบ(ร่าง)รายงานสถานการณ์ด้านทรัพยากรทางทะเลฯ และการกัดเซาะชายฝั่งของประเทศไทย พ.ศ.2563  

โดยสรุป ระบบนิเวศทางทะเลมีแนวโน้มดีขึ้นทั้งป่าชายเลน และแนวปะการัง  คุณภาพน้ำทะเลร้อยละ 70 อยู่ในเกณฑ์ดี และเห็นชอบ(ร่าง)แผนปฏิบัติการด้านการจัดการปะการังระยะ 5 ปี(พ.ศ.2564-2568) โดยมีเป้าหมายแนวปะการัง 149,025 ไร่ รวมถึงเห็นชอบหลักเกณฑ์การคิดคำนวณมูลค่าความเสียหาย ที่เกิดจากการทำลายพื้นที่แนวปะการัง  นอกจากนั้นที่ประชุมยังได้เห็นชอบ ให้ออกกฎกระทรวงป่าชายเลน จ.ระยองและจ.ฉะเชิงเทรา ให้เป็นพื้นที่ป่าชายเลนอนุรักษ์ ด้วย  สำหรับความร่วมมือระหว่างประเทศ ได้ให้ความเห็นชอบ ความร่วมมือกับจีนในการตั้งศูนย์ปฏิบัติการวิจัยร่วมกัน  แผนปฏิบัติการภูมิภาคอาเซียนว่าด้วยการต่อต้านขยะทะเล รวมถึงการเสนอขอเป็นเจ้าภาพสำนักงาน Decade Coordination Office (DCO) ซึ่งเป็นองค์กรภายใต้ UNเพื่อการพัฒนาการศึกษาวิจัย ด้านมหาสมุทร

 

พล.อ.ประวิตร ได้กำชับ ทส. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้เร่งรัดขับเคลื่อนแผนงานที่ได้ดำเนินการมาแล้วให้เสร็จสิ้นภายในกรอบเวลาที่กำหนด อย่างมีประสิทธิภาพ โดยคำนึงถึงประโยชน์เพื่อการอนุรักษ์และการใช้ทรัพยากรทางทะเลฯ ให้เกิดประโยชน์สูงสุด และสร้างการรับรู้ความเข้าใจให้กับประชาชน พร้อมทั้งขอบคุณประชาชนที่ร่วมกันอนุรักษ์ และเห็นคุณค่าทรัพยากรทางทะเลฯ ทั้งป่าชายเลน/ปะการัง/สัตว์ทะเลหายากและลดปัญหาขยะทะเล ที่ผ่านมา เพื่อเก็บมรดกทางธรรมชาติบริสุทธิ์ เหล่านี้ไว้ให้ลูกหลานไทย สืบไป