นร. ต้องมาก่อน “ดร.กนก” ชี้เป้า! จัดซื้อ แนะ “ตรีนุช” เพิ่มเงิน “ครูชนบท”

ศ.ดร.กนก วงษ์ตระหง่าน สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวแนะนำหลักในการวางนโยบาย และแลกเปลี่ยนแนวทางปฏิบัติงาน ต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการคนใหม่ “นางสาวตรีนุช เทียนทอง” ที่เน้นย้ำให้เอาประโยชน์ของคุณภาพการเรียนรู้ของนักเรียน และชั้นเรียนเป็นสำคัญ ผ่านภารกิจ 3 เรื่อง คือ  

1.) การกระจายอำนาจให้โรงเรียน โดยเฉพาะงบประมาณ

2.) การนำระบบฝึกหัดครูกับมาสร้างครูใหม่

และ 3.) เปลี่ยนวิธีการสอนของครูในชั้นเรียน เพื่อให้เกิดคุณภาพการเรียนรู้ของนักเรียน

“นี่เป็นสิ่งที่ผม และอีกหลายคน หวังว่ารัฐมนตรีท่านนี้จะทำได้สำเร็จ และแม้จะไม่สามารถครอบคลุมทุกชั้นเรียนได้ ก็อาจกำหนดเป็นพื้นที่เป้าหมาย อาทิ จำนวนโรงเรียน หรือชั้นเรียน แล้วทุ่มงบประมาณอย่างเต็มกำลังเพื่อให้ประสบความสำเร็จภายใน 2 ปี ตามอายุรัฐบาลนี้ และเพื่อให้เห็นภาพที่ชัดเจน ผมเสนอให้กำหนดเป็นโรงเรียนจำนวน 5,000 แห่ง และชั้นเรียนจำนวน 30,000 ห้อง เป็นเป้าหมาย ส่วนระบบฝึกหัดครูนั้น ก็ควรให้จัดทำโครงการฝึกหัดครูร่วมกับมหาวิทยาลัย ที่มากกว่า คณะศึกษาศาสตร์ เช่น ต้องมีคณะวิทยาศาสตร์ คณะเกษตรศาสตร์ หรือคณะวิศวกรรมศาสตร์ เป็นต้น มาเข้าร่วมด้วย 10 แห่งกระจายอยู่ทั่วประเทศ เพื่อสร้างครูพันธุ์ใหม่ จำนวน 4,000-5,000 คนในเวลา 2 ปีนี้ และบรรจุครูกลุ่มนี้ทดแทนครูเกษียณทั้งหมด ส่วนการกระจายอำนาจให้โรงเรียน ก็ควรทดลองปฏิบัติกับโรงเรียนที่คัดเลือกตามนโยบายยกระดับชั้นเรียนจำนวน 5,000 โรงเรียนไปพร้อมกันเลย”

นอกจากนี้ อดีตที่ปรึกษารัฐมนตรีท่านนี้ ยังได้กล่าวเตือนถึงกับดักในกระทรวงศึกษาธิการ ตั้งแต่เรื่องของการจัดซื้อจัดจ้าง และการบรรจุ แต่งตั้ง โยกย้ายข้าราชการ ที่ทำลายอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการมาหลายท่านแล้ว
 
“กระทรวงแห่งนี้ มีงบประมาณกว่า 300,000 ล้าน ซึ่งถือว่ามหาศาล ดังนั้น ข้าราชการบางคน และเอกชนบางกลุ่ม ก็จะหาแนวทางในการเสนอโครงการใหม่ ๆ อยู่เป็นระยะ ๆ ในจำนวนเงินที่สูง และวางจุดมุ่งหมายอันเชื่อมโยงไปกับการพัฒนาคุณภาพการศึกษา และยกระดับการบริหารให้มีประสิทธิภาพ แต่ข้อสังเกตที่น่าสนใจก็คือ โครงการเหล่านี้ ส่วนใหญ่จะเน้นไปที่การซื้ออุปกรณ์จำนวนมาก และเทคโนโลยีทันสมัย ที่มีราคาสูง รวมไปถึงการก่อสร้าง แต่มิได้มีการวางลำดับความสำคัญของการใช้เครื่องมือ หรืออุปกรณ์สำหรับครู เพื่อการพัฒนาสาระวิชา และสร้างการสอนที่มีคุณภาพยิ่งขึ้นเลย 

“ส่วนการบรรจุ แต่งตั้ง โยกย้ายครู และบุคลากรทางการศึกษา ส่วนใหญ่มักเป็นการย้ายตามความประสงค์ของครู หรือบุคลากรทางการศึกษา แต่ไม่ใช่ความจำเป็นของนักเรียน และโรงเรียน แต่อย่างใด ดังนั้น ก่อนการบรรจุ แต่งตั้ง โยกย้าย รัฐมนตรีต้องมีข้อมูลชัดเจนถึงความต้องการ และปัญหาจริงของโรงเรียนแต่ละแห่ง เพื่อบริหารจัดการการบรรจุ แต่งตั้ง โยกย้าย ให้ตรงกับความต้องการ และปัญหาของโรงเรียนนั้น ๆ นี่ถึงจะเป็นประโยชน์ต่อนักเรียน และชั้นเรียนอย่างแท้จริง”

รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ยังทิ้งท้ายถึง “วัฒนธรรมการบริหาร” ในกระทรวงศึกษาธิการ ที่ต้องส่งเสริมให้ “คนเก่งและดี” มีความเจริญก้าวหน้า และได้รับบทบาทให้ช่วยทำงานสำคัญ ในการยกระดับคุณภาพการศึกษาของนักเรียนอย่างต่อเนื่อง “ระบบบริหารของกระทรวงต้องรักษาครูที่ดี ที่เก่ง เป็นที่ต้องการของพื้นที่เอาไว้ ไม่ให้ลาออกหรือขอย้ายจากพื้นที่ที่นักเรียนต้องการ ด้วยการจูงใจและสนับสนุนครูเหล่านั้นอย่างเหมาะสมกับความสามารถ และประสบการณ์ เพื่อที่นักเรียนในพื้นที่ด้อยโอกาสจะได้ครูดี ๆ ที่มีคุณภาพสำหรับพวกเขา เช่น การปรับค่าตอบแทนครูในชนบทห่างไกล หรือโรงเรียนขนาดเล็ก ที่มีผลการสอนตามเกณฑ์มาตรฐาน ควรเพิ่มเงินพิเศษอีกเดือนละ 5,000 บาท นอกเหนือไปจากเงินเดือนประจำ และค่าตอบแทนอื่น ๆ ที่ระบบปัจจุบันกำหนดเอาไว้”