ศบค.แถลง ไทยพบผู้ติดเชื้อ 69 ราย สมุทรสาครพบผู้ป่วยเหลือหลักเดียว พร้อมเปิดเดินรถโดยสารเข้าออกจังหวัด คลัสเตอร์ศูนย์กักบางเขนคุมอยู่ ติงโรงงานขนมบางขุนเทียนหละหลวม ทั้งพบต่างด้าวหนีเข้าประเทศผิดกฎหมาย ต้องระดมตรวจจนท.

ที่ทำเนียบรัฐบาล พญ.อภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. แถลงสถานการณ์ประจำวัน ว่า มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 69 ราย เป็นการติดเชื้อในประเทศ 61 ราย ในจำนวนนี้มาจากระบบเฝ้าระวังและระบบบริการ  44 ราย ในจำนวนนี้มาจาก กทม. 30 ราย ตาก 2 ราย นครปฐม 1 ราย นนทบุรี 1 ราย ปทุมธานี 2 ราย สมุทรปราการ 1 ราย สมุทรสาคร 6 ราย และหนองบัวลำภู 1 ราย มาจากการค้นหาเชิงรุกในชุมชน  17 ราย นอกจากนี้ เป็นผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศ 8 ราย ทำให้มีผู้ติดเชื้อสะสม 28,346 ราย หายป่วยสะสม 26,873 ราย อยู่ระหว่างรักษา 1,381 ราย ไม่มีรายงานผู้เสียชีวิตเพิ่มเติม ยอดผู้เสียชีวิตสะสมคงที่ 92 ราย ขณะที่สถานการณ์โลก มีผู้ติดเชื้อสะสม 124,790,051 ราย เสียชีวิตสะสม 2,745,386 ราย   

 

พญ.อภิสมัย กล่าวว่า สำหรับตัวเลขผู้ติดเชื้อใน จ.สมุทรสาครวันนี้มีเพียง 9 ราย มาจากระบบเฝ้าระวังและระบบบริการ 6 ราย ค้นหาเชิงรุก 3 คน โดยในที่ประชุม ศบค.ชุดเล็ก ทาง จ.สมุทรสาครรายงานว่า วันนี้จะเป็นวันแรกที่เปิดให้มีการเดินรถโดยสาร เนื่องจากผู้ติดเชื้อเหลือเพียงตัวเลขหลักเดียว โดยจะมีการทำความสะอาดสถานีขนส่ง ตรวจวัดอุณหภูมิ ก่อนหน้านี้ จ.สมุทรสาครจะไม่เปิดให้มีการเดินข้ามพื้นที่เข้าไปพัก แต่ตอนนี้สามารถเข้าพักได้แล้ว อย่างไรก็ตาม การกระจายผู้ติดเชื้อเหลือใน จ.สมุทรสาคร วงเล็กลง กระจุกอยู่ตรงส่วนกลางใน อ.เมือง เฉพาะบางตำบล และพบผู้ติดเชื้อ 1-2% ระบบสาธารณสุขสามารถควบคุมป้องกันได้ 

 

นอกจากนี้ กรณีที่มีการพบผู้ติดเชื้อในโรงงานขนมที่บางขุนเทียน โดยเมื่อวันที่ 23 มี.ค. 2564 พบผู้ติดเชื้อจำนวน 17 ราย เป็นคนไทยและเมียนมา ผู้ติดเชื้อรายแรกที่พบเนื่องจากเดินทางไปเพื่อขึ้นทะเบียนแรงงานต่างด้าว เมื่อตรวจพบจึงไปค้นหาเชิงรุกในโรงงานดังกล่าว จากการสอบสวนพบว่า โรงงานขนมแห่งนี้มีพื้นที่หน้าร้าน พื้นที่ภายในโรงงานมีการวางมาตรการป้องกันโควิด-19 ที่หละหลวม ส่วนที่พักคนงาน เป็นอาคารพาณิชย์พัก 70 คน ไม่มีมาตรการป้องกันเลย เมื่อมีผู้ติดเชื้อจึงแพร่ไปยังคนอื่นได้ง่าย หลังจากนี้จึงอยากให้โรงงานต่างๆ ช่วยกันทบทวนมาตรการของตัวเอง อย่างไรก็ดี ขณะนี้ กทม.ได้เข้าไปดำเนินการทำความสะอาดในโรงงานดังกล่าวแล้ว และยืนยันว่าสามารถรับประทานขนมได้

 

พญ.อภิสมัย กล่าวว่า กรณีที่หลายคนตกใจตัวเลขผู้ติดเชื้อในศูนย์กักสวนพลูและบางเขน ที่ตัวเลขเมื่อวันที่ 23 มี.ค. 2564 พุ่งไปถึง 300 กว่ารายนั้น ทางนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุขระบุว่าอย่าดูตัวเลขที่สูง แต่ให้ดูมาตรการป้องกันและจำกัดไม่ให้แพร่กระจายไปยังชุมชน ซึ่งสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองและกระทรวงสาธารณสุขได้เข้าไปกำหนดมาตรการอย่างเข้มข้นแล้ว และวันนี้ตัวเลขเป็นศูนย์แล้ว 

 

นอกจากนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ได้รายงานมายัง ศบค.ชุดเล็กว่า พื้นที่ จ.ประจวบคีรีขันธ์มีจุดผ่านแดนช่องทางธรรมชาติถึง 8 อำเภอ โดยวันที่ 3 มี.ค. 2564 มีผู้ข้ามแดนผิดกฎหมายจำนวน 33 คน และได้ตรวจหาเชื้อโควิด-19 ตั้งแต่ถูกจับกุม แต่ไม่พบผู้ติดเชื้อ กระทั่งมีการตรวจหาเชื้อครั้งที่ 2 พบผู้ติดเชื้อ 4 คน ทำให้ต้องระดมกำลังตรวจเจ้าพนักงานที่ใกล้ชิดผู้ติดเชื้อ 70 กว่าคน และเข้าสู่มาตรการกักตัว อย่างไรก็ตาม สำหรับผู้ข้ามแดนผิดกฎหมายจะจัดสถานที่กักตัวให้ที่กองร้อยตำรวจตระเวนชายแดน เพื่อให้อยู่ห่างจากชุมชน มีรั้วลวดหนาม แต่เมื่อเขากระทำผิด หลังจากการกักตัวแล้วจะต้องส่งตัวฟ้องตามกฎหมายและผลักดันกลับประเทศ

 

พญ.อภิสมัย กล่าวว่า สำหรับแผนการกระจายวัคซีนซิโนแวค 8 แสนโดสที่จะได้มาในเดือน เม.ย.นั้น จะมีการกระจายไปใน 22 จังหวัด โดยแบ่งเป็น 3 ส่วน ส่วนแรกเพื่อการควบคุมการแพร่ระบาดใน 6 จังหวัด ได้แก่ สมุทรสาคร กทม. อ.แม่สอด จ.ตาก ปทุมธานี สมุทรปราการ และนนทบุรี ส่วนที่สอง เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจในจังหวัดท่องเที่ยว 8 จังหวัด ได้แก่ ชลบุรี ระยอง เชียงใหม่ ขอนแก่น กระบี่ พังงา เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี และภูเก็ต  และส่วนที่สาม เพื่อการฟื้นฟูเศรษฐกิจจังหวัดชายแดน 8 จังหวัด ได้แก่ สงขลา สระแก้ว เชียงราย มุกดาหาร นราธิวาส ระนอง หนองคาย และจันทบุรี 

 

พญ.อภิสมัย ตอบข้อซักถามถึงกรณีที่ประชาชน เกิดความสงสัยว่าขณะนี้หลายพื้นที่มีการกระจายวัคซีนไปแล้ว บางคนฉีดเข็มแรก บางคนฉีดครบสองโดส หากเป็นเช่นนี้แสดงว่าเราไม่ต้องป้องกัน ไม่ต้องระมัดระวังตัวเองเหมือนที่ผ่านมาได้หรือไม่ ผ่อนคลายมาตรการทำให้ใช้ชีวิตตามปกติเหมือนก่อนจะมี โควิด-19 ได้หรือไม่ ว่า สิ่งที่สำคัญในการรายงานข่าวทุกๆวัน คือการรายงานถึงต่างประเทศที่ได้ฉีดวัคซีนกันเป็นจำนวนมาก ตอนนี้ทั่วโลกฉีดวัคซีนไปแล้วเกิน 300ล้านโดส รวมทั้งบางประเทศซึ่งมีหลายประเทศที่ฉีดครบสองโดสแล้วแต่เราก็ยังเห็นการรายงานตลอดเวลาว่ายอดผู้ติดเชื้อกลับไม่ได้ดูลดลงสักเท่าไหร่ 

 

โดยเราสามารถดูตัวอย่างจากทางกรมควบคุมโรคที่นำเสนอเพื่อให้เกิดการเรียนรู้ เราพบว่าหลายประเทศมีจุดอ่อน คือ มีการกำหนดมาตรการผ่อนคลายที่เร็วเกินไป ส่วนหนึ่งจะเห็นว่าไม่ได้มีการจำกัดการเดินทางระหว่างประเทศ เช่นสหรัฐอเมริกา จึงเกิดการติดเชื้อมากยิ่งขึ้นแล้วจึงเริ่มกำหนดมาตรการ และอีกหลายพื้นที่ยังไม่ได้มีการกำหนดการยกเว้นการเดินทางระหว่างประเทศ เช่น รัสเซีย ซึ่งเราจะเห็นว่ายังให้คนที่เดินทางมาจากยุโรปเดินทางเข้าออกรัสเซียซึ่งก็จะทำให้เกิดการแพร่ระบาดที่ควบคุมได้ยาก และสิ่งที่สำคัญบางประเทศประชาชนไม่เข้าถึงระบบบริการสาธารณสุข หรือแม้แต่บางแห่งระบบบริการสาธารณสุขที่มีอยู่นั้นอาจจะไม่มีการเตรียมความพร้อมที่จะรองรับระบบการระบาดที่แพร่ไปทั่วโลกเช่นนี้ 

 

ซึ่งถ้าดูแล้วระบบสาธารณสุขของประเทศไทยรวมถึงส่วนที่สำคัญที่เราได้เน้นย้ำกันมาโดยตลอดคือ บ้านเรามี อสม. ที่เดินพูดคุยได้ถึงบ้าน กรมควบคุมโรค ที่เดินทางกันอย่างเหน็ดเหนื่อย หากเราเรียนรู้จากประเทศเพื่อนบ้านหรือประเทศต่าง ๆ ที่มีการฉีดวัคซีนกันแล้วก็อาจจะตอบคำถามนี้ได้ด้วยตัวท่านเอง ว่า การฉีดวัคซีนครบแล้วเราควรดำเนินชีวิตแบบเว้นระยะห่าง สวม หน้ากาก เว้นระยะห่าง ล้างมือ ไม่พูดคุยกันในสถานที่แออัดเกิน 5 นาที พยายามไม่ไปสัมผัส กับผู้ที่มีความเสี่ยงสูงเสี่ยงต่ำ ที่ยังต้องเน้นย้ำกันอยู่เสมอ และอาจจะเป็นนายจ้าง สถานประกอบการ แพทย์ บุคลากรสาธารณสุข หมอฟัน เภสัชกร มีการรายงานชัดเจนว่าการที่บุคลากรเหล่านี้ให้ความสำคัญเมื่อมีคนมาทำฟันก็เตือนกันว่าอย่าลืมสวมหน้ากาก ซึ่งจะได้ทำให้ประชาชนเกิดความตระหนักและได้รับการย้ำเตือนบ่อยๆจะได้ไม่เผลอลืม และทำให้ประเทศไทยได้นำตัวอย่างจากต่างประเทศมาเรียนรู้ จะได้ไม่ซ้ำรอย

 

ผู้สื่อข่าวถามว่า ช่วยอธิบายเหตุผลที่ ศบค. ตัดสินใจขยายระยะเวลาประกาศใช้ พ.ร.ก. ฉุกเฉินออกไปอีกสองเดือน พญ.อภิสมัย กล่าวว่า คำถามดังกล่าว ศบค. ต้องขออนุญาตถามกลับไปด้วยว่าหลายครั้งที่ได้ย้ำไปเสมอว่า เราต้องการเห็นการขับเคลื่อนทางเศรษฐกิจที่เป็นไปได้อย่างรวดเร็ว ประชาชนกลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติ แต่การแถลงข่าวเพื่อรายงานข้อมูลทุกวันนี้เป็นหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ เป็นข้อมูลที่เกิดจากการร่วมแรงร่วมใจกัน ศบค. ชุดเล็กได้จากการร่วมแรงของทุกฝ่าย ประชุมกันทุกวันไม่มีวันหยุด ร่วมกันระหว่างทุกกระทรวงไม่มีเว้น และมีพื้นที่ที่มีความเสี่ยง ก็รีบประชุมเพื่อให้มีการรายงานอย่างต่อเนื่อง เมื่อสถานการณ์ที่เกิดตัวเลข มีคลัสเตอร์ มีกลุ่มก้อน มีการแพร่ระบาด มีสะเก็ดไฟจาก ตลาดที่สองไปตลาดที่สาม จังหวัดที่หนึ่งไปจังหวัดที่สอง สาม อย่างนี้ทำให้ ศบค. ก็มีความหนักใจ 

 

แต่อย่างไรก็ตามทุกอย่างอยู่บนพื้นฐานของความเป็นห่วงทั้งประชาชน ที่มีโอกาสเสี่ยงเป็นผู้สัมผัสหรือเป็นผู้ติดเชื้อ แต่มีความเป็นห่วงบุคลากรที่ทำงานอยู่ด่านหน้าด้วย ดังนั้น พ.ร.ก. ฉุกเฉิน มีประโยชน์เพียงอย่างเดียวคือช่วยให้สถานการณ์นั้นพื้นที่สามารถทำงานได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ เช่น ช่วงที่จังหวัดสมุทรสาคร ที่จะต้องลงพื้นที่ตรวจโรงงาน ตรวจชุมชน หากไม่มีการบังคับใช้มาตรการ คนที่อยู่ในโรงงานหรือสถานประกอบการก็อาจจะไม่ได้เกิดความร่วมมือกันขนาดนี้ ต้องเรียนว่า ศบค. ไม่ได้ออกมาตรการที่มาจากศบค.เอง แต่เกิดจากการนำเสนอโดยบุคลากรผู้ที่ทำงานในพื้นที่แต่ละจังหวัดเสนอมาว่าขอให้ยังคงมาตรการ ขอให้ยังมีพ.ร.ก. ฉุกเฉิน เพื่อให้เขาสามารถประสานงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ 

 

ยอมรับว่าทุกครั้งที่มีการนำเสนอให้ออกมาตรการ ศบค. มีความหนักใจเพราะหลายคนก็เห็นว่าเราเป็นหน่วยงานที่บริหารความขัดแย้ง เช่นเมื่อครั้งที่พิจารณาว่าโรงเรียนจะเปิดได้หรือไม่ ก็มีความเห็นทั้งสองฝ่าย สงกรานต์จะจัดได้หรือไม่ ก็ยังมีความเห็นไม่ตรงกัน ดังนั้น อย่างที่เรียนว่าการทำงานเพื่อที่จะเลือกทิศทางที่ดีที่สุด และปลอดภัยที่สุดสำหรับประชาชน การควบคุมโรคยังอยู่ในมาตรฐานที่ควบคุมได้ ขณะเดียวกันภาคเศรษฐกิจ และสังคม การดำเนินชีวิตของประชาชนยังต้องทำได้ จึงต้องขอกำลังใจให้ศบค. ด้วยเช่นกัน

 

ท้ายนี้จึงขอฝากว่า สิ่งที่ทุกคนทำได้ดีมาอย่างต่อเนื่องก็ยังขอความร่วมมือต่อไป อย่าเพิ่งเหนื่อยล้า เพราะไวรัสยังไม่หยุดพักกับเรา ขอความร่วมมืออดทนอีกสักนิดเพราะสถานการณ์กำลังดีขึ้น