‘ชวน’ ไม่เข้าใจ ‘วิษณุ’ บอกเปิดสภาสมัยวิสามัญ ถกร่างพ.ร.บ.ประชามติ เร็วเกินไป ทั้งที่หารือกันแล้วเห็นสอดคล้อง 7 - 8 เม.ย. เหมาะสม ยันกฎหมายนี้เป็นเรื่องด่วนของรัฐบาล ถ้าเปลี่ยนใจไม่เร่งพิจารณาก็เป็นสิทธิ์ของรัฐบาล สภาไม่เกี่ยว

เมื่อวันที่ 24 มี.ค.เวลา 13.00 น. ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา กล่าวถึงกรณีที่นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ออกมาระบุถึงการเปิดประชุมสภาสมัยวิสามัญ ในวันที่ 7-8 เม.ย. เพื่อพิจารณาร่างพ.ร.บ.ออกเสียงประชามติ เร็วเกินไป ว่า เรื่องนี้อยู่ที่คณะกรรมาธิการ(กมธ.)วิสามัญพิจารณาร่างพ.ร.บ.การออกเสียงประชามติ พ.ศ. ... จะต้องพิจารณาให้แล้วเสร็จ ซึ่งเมื่อวันที่ 23 มี.ค.ที่ผ่านมา ตนได้พูดคุยกับนายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย ส.ว. ในฐานะประธานกมธ.ฯ ทราบว่าจะมีการประชุมในวันที่ 1 เม.ย. ก็จะเสร็จ

แต่ถ้ารอให้เสร็จแล้วทำเรื่องกราบบังคมทูลเพื่อเปิดประชุมสภาสมัยวิสามัญอาจจะไม่ทันในวันที่ 7-8 เม.ย. เพราะต้องมีระยะเวลาในการทำเรื่องทูลเกล้าฯ ซึ่งทางคณะกมธ.ฯให้การรับรองแล้วว่าพิจารณาเสร็จทัน อย่างไรก็ตามกฎหมายดังกล่าวเป็นกฎหมายด่วนของรัฐบาล ไม่ใช่สภาฯเป็นผู้เสนอ

ซึ่งได้พูดคุยกับประธานกมธ.ฯ ผู้นำฝ่ายค้าน และนายวิษณุ กันเบื้องต้นแล้วว่าจังหวะเวลาเปิดประชุมสมัยวิสามัญ มีความเห็นสอดคล้องกันว่าวันที่ 7 - 8 เม.ย. เหมาะสม เพราะหลังจากนี้จะเป็นวันหยุดยาวของสมาชิกรัฐสภา

“ผมไม่เข้าใจว่าเร็วเกินไปหมายถึงอะไร ถ้าไม่เร็วก็ต้องไปพิจารณาในสมัยสามัญเดือนพฤษภาคมเลย ถ้าไม่ใช่เรื่องด่วนก็พิจารณาแบบนั้นได้ แต่ในกรณีนี้ถือเป็นเรื่องด่วนที่รัฐบาลเป็นผู้เสนอ” นายชวน กล่าว

เมื่อถามว่ามีบางฝ่ายเป็นห่วงร่างกฎหมายดังกล่าวอาจจะขัดรัฐธรรมนูญ นายชวน กล่าวว่า ไม่ขอวิจารณ์เรื่องนี้ เพราะเราทำหน้าที่ต่อฝ่ายที่เสนอกฎหมายมาให้ได้รับการพิจารณาตามวาระที่สภาดำเนินการ เพื่อไม่ให้กฎหมายค้างพิจารณา แต่การเปิดประชุมสภาสมัยวิสามัญที่ผ่านมาก็เปิดมาเพื่อพิจารณาเรื่องนี้ให้จบ แต่บังเอิญเกิดปัญหาขึ้นมาก็ต้องมาพิจารณาอีกรอบ

เมื่อถามอีกว่าถ้ามีคนไปร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญจะทำให้กระบวนการพิจารณาสะดุดหรือไม่ นายชวน กล่าวว่า คนละเรื่องกัน การไปร้องศาลก็แล้วแต่สมาชิกหรือใครก็ตามที่จะไปร้อง แต่สภาฯมีหน้าที่กำหนดระยะเวลาโดยหารือกับทุกฝ่าย เพราะสภากำหนดเองไม่ได้ ถ้าเกิดรัฐบาลหรือฝ่ายอื่นไม่พร้อม หรือไม่ประสงค์จะเปิดประชุมก็เป็นสิทธิ์ เพราะผู้เสนอเปิดประชุมวิสามัญคือฝ่ายบริหาร ไม่ใช่ฝ่ายนิติบัญญัติ

ดังนั้น จึงอยู่ที่รัฐบาลว่าต้องการให้กฎหมายฉบับนี้เป็นอย่างไร หากรัฐบาลเปลี่ยนใจไม่เร่งเสนอกฎหมายก็เป็นสิทธิ์ของรัฐบาล เราไม่มีปัญหาอะไร สภามีหน้าที่ดูแลนัดวันประชุมและกำหนดวาระให้ เพื่อให้เสร็จภารกิจเท่านั้น ทั้งนี้ทางรัฐบาลได้แจ้งมายังสภาให้ยืนยันว่าติดปัญหาอย่างไร ซึ่งตนตอบไปแล้วว่าเป็นเรื่องของรัฐบาล เพราะเป็นกฎหมายของรัฐบาลที่เป็นเรื่องด่วน