“เทพไท” หนุน ทำประชามติ ตั้ง สสร.ยกร่าง รธน.ใหม่ ตอบโจทย์กว่าแก้รายมาตรา
นายเทพไท เสนพงศ์ อดีตส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึง กระแสเรียกร้องให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญในขณะนี้ว่า หลังจากร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ ที่เสนอโดยพรรคร่วมรัฐบาลถูกคว่ำไปในวาระ 3 แล้ว ก็มีแนวทางการแก้ไขรัฐธรรมนูญในรูปแบบรายมาตรา และยังไม่ตกผลึกว่าจะแก้ไขในมาตราใดบ้าง
ถ้าหากพรรคการเมืองแต่ละพรรค ยังเห็นไม่ตรงกันในมาตราที่จะแก้ไข ก็จะยากที่จะประสบความสำเร็จได้ และไม่มีหลักประกันว่าจะได้รับการสนับสนุนจาก ส.ว.หรือไม่ เพราะเบื้องลึกของผู้มีอำนาจในปัจจุบัน ไม่ต้องการที่จะให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญแต่อย่างใด เพียงแต่ได้ตกกระไดพลอยโจนตอนจัดตั้งรัฐบาล จึงได้เขียนนโยบายเร่งด่วนเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญบรรจุไว้ในคำแถลงนโยบาย
แต่เมื่อดูท่าทีของ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีกลาโหม ที่บอกว่า ถ้าอยากตัดวงจรสืบทอดอำนาจ ก็ไปแก้รัฐธรรมนูญให้ได้ก็แล้วกัน หรือแม้แต่พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ก็ยังไม่ยืนยันว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญจะสำเร็จได้ในรัฐบาลชุดนี้หรือไม่ ซึ่งเป็นท่าทีของผู้มีอำนาจคนสำคัญในรัฐบาล ทำให้ความหวังของการแก้ไขรัฐธรรมนูญริบหรี่ ยังไม่เห็นแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์เลย
ส่วนตัวเห็นด้วยกับผลโพลที่ประชาชนต้องการให้มีแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งฉบับ 58% เพราะการแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นรายมาตรา จะไม่ตอบโจทย์การเมืองของประเทศ เพราะการเคลื่อนไหวของกลุ่มการเมืองภาคประชาชน ต้องการให้มีการเลือกตั้ง ส.ส.ร.เพื่อยกร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ทั้งฉบับ เป็นการยกเลิกรัฐธรรมนูญฉบับสืบทอดอำนาจของ คสช. มาเป็นรัฐธรรมนูญฉบับประชาชน ที่มีความยึดโยงกับประชาชนอย่างแท้จริง การยกร่างรัฐธรรมนูญใหม่ขึ้นมาทั้งฉบับ เป็นการปรับปรุงโครงสร้างอำนาจการเมืองใหม่ทั้งหมด ย่อมมีผลดีกว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นรายมาตรา
ถ้าจะเปรียบรัฐธรรมนูญฉบับนี้เป็นบ้าน จำเป็นต้องรื้อหมดทั้งหลัง เพื่อสร้างบ้านหลังใหม่ขึ้นมาทดแทน เพราะรัฐธรรมนูญฉบับนี้เป็นบ้านที่มีฐานรากและโครงสร้างไม่ถูกต้องตามหลักวิศวกรรม หากจะมีการแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นรายมาตรา ก็เป็นเพียงการซ่อมแซมบ้าน ที่มีโครงสร้างไม่แข็งแรง อาจจะพังถล่มได้ในทันที
การเคลื่อนไหวให้มีแก้รัฐธรรมนูญเป็นรายมาตรา ก็เป็นเพียงการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า แก้เกี้ยวหลังจากรัฐธรรมนูญถูกคว่ำในวาระ 3 ซึ่งไม่สามารถแก้ปัญหาความขัดแย้งทางการเมืองของประเทศได้ ทางออกที่ดีที่สุดคือ รัฐบาลต้องจัดทำประชามติตามคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญให้เร็วที่สุด