องคมนตรี เชิญถุงพระราชทาน มอบแก่ราษฎรกลุ่มบ้านปิยะมิตร 1 จ.ยะลา พร้อมกับเยี่ยมและให้กำลังใจ
เมื่อเวลา 09.10 น. วันที่ 18 มี.ค.63 นายพลากร สุวรรณรัฐ องคมนตรี และคณะฯ เดินทางไปยังวัดพุทธาธิวาส ต.เบตง อ.เบตง จ.ยะลา เพื่อนำเครื่องไทยธรรมพระราชทานไปถวายแด่พระสงฆ์ จำนวน 9 รูป โอกาสนี้ พระสงฆ์สวดมนต์ถวายพระพรชัยสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง โดยมีนายธีรุตม์ ศุภวิบูลย์ผล รองผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา หัวหน้าส่วนราชการ นักเรียนนักศึกษา ประชาชน เข้าร่วม
วัดพุทธาธิวาส สร้างขึ้นเมื่อปีพ.ศ.2460 เดิมชื่อ “วัดเบตง” ตั้งเด่นเป็นสง่าอยู่บนเนินเขา มีพระธาตุเจดีย์พระพุทธธรรมประกาศ ซึ่งมีความหมายว่า พระพุทธเจ้าทรงประกาศธรรม ตั้งโดดเด่นมองเห็นศิลปกรรมแบบศรีวิชัยประยุกต์สวยงามมาก โดยในองค์มหาธาตุเจดีย์บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ มหาธาตุเจดีย์องค์นี้สร้างขึ้นจากความคิดและการดำเนินการของอดีตประธานศาลฎีกา นายสวัสดิ์ โชติพานิช เพื่อเฉลิมฉลองและถวายแด่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ในวโรกาสทรงเจริญพระชนมายุครบ 60 พรรษา โดยสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ได้พระราชทานนาม และเสด็จทรงบรรจุพระบรมสารีริกธาตุบนยอดฉัตรเมื่อวันที่ 14 ตุลาคม พ.ศ.2536
นอกจากนั้นยังมีพระพุทธธรรมกายมงคลประยุรเกศานนท์สุพพิธาน พระพุทธรูปทองสัมฤทธิ์องค์ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย วิหารหลวงปู่ทวดเหยียบน้ำทะเลจืด และวิหารพระครูพิศิษฐ์อรรถการ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯให้ยกวัดพุทธาธิวาสเป็นอารามหลวงชั้นตรีชนิดสามัญตั้งแต่วันที่ 2 เดือน ธันวาคม พ.ศ.2546
จากนั้น องคมนตรีและคณะเดินทางไปยังบ้านปิยะมิตร 1 ต.ตาเนาะแมเราะ อ.เบตง จ.ยะลา เพื่อเชิญถุงพระราชทาน จำนวน 60 ถุง ไปมอบแก่ราษฎรกลุ่มบ้านปิยะมิตร 1 เพื่อเป็นขวัญกำลังใจให้กับพี่น้องประชาชน สร้างความปลื้มปิติและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณหาที่สุดมิได้ ในความห่วงใยของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่มีต่อพสกนิกรปวงชนชาวไทยเสมอมา
บ้านปิยะมิตร 1 ได้จัดตั้งขึ้นเป็นหมู่บ้านยุทธศาสตร์แนวชายแดนไทย-มาเลเซีย โดยได้รับอนุมัติจากกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เมื่อวันที่ 31 มีนาคม 2531 ด้วยความร่วมมือของกองทัพภาคที่ 4 และกรมป่าไม้ ให้เข้าใช้ประโยชน์ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าเบตง ตำบลตาเนาะแมเราะ อำเบตง จังหวัดยะลา มีพื้นที่ 3,250 ไร่ โดยจัดสรรที่อยู่อาศัยให้ราษฎรครอบครัวละ 1 ไร่ ที่ทำกินครอบครัวละ 15 ไร่ ส่วนที่เหลือไว้เป็นที่ป่าชุมชุนส่วนรวมของหมู่บ้าน มีระยะเวลาสัญญา 30 ปี และตั้งชื่อว่า หมู่บ้านปิยะมิตร 1 ปัจจุบันมีจำนวนประชากรรวม 305 คน ชาวบ้านได้ร่วมกันจัดตั้งกลุ่มอาชีพ อาทิ กลุ่มสมุนไพรปิยะมิตร 1 จัดตั้งขึ้นเมื่อปี 2531
ส่วนใหญ่สมาชิกไม่รู้หนังสือและพูดไทยไม่ได้ อาศัยอยู่ในป่าทำให้มีความรู้เรื่องสมุนไพรเป็นอย่างดี จึงรวมกลุ่มกันเพื่อเป็นศูนย์รวมการรับซื้อสมุนไพรของสมาชิก และทำสมุนไพรขายเพื่อสร้างรายได้ให้กับครอบครัว ปัจจุบันมีสมาชิก 210 ครัวเรือนและมีการถ่ายทอดจากรุ่นสู่รุ่น นอกจากนี้ยังจัดตั้งกลุ่มท่องเที่ยวอุโมงค์ปิยะมิตร 1 เนื่องจากพื้นที่แห่งนี้ มีอุโมงค์ ที่ผู้ร่วมพัฒนาชาติไทย สร้างขึ้นเป็นฐานปฏิบัติการ ประกอบกับชาวบ้านมีการเข้าไปใช้ประโยชน์จากป่า จึงระดมทุนจากสมาชิกในชุมชนมาพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยวแทน
นอกจากนี้ยังมีกลุ่มปลูกผักน้ำ เนื่องจากชุมชน ตั้งอยู่ในพื้นที่ต้นน้ำและมีอากาศเย็น มีแหล่งน้ำสะอาดเหมาะกับการปลูกผักน้ำ ชาวบ้านจึงได้ทดลองปลูกซึ่งได้ผลดี ต่อมาในปี 2548 สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ได้พระราชทานทุนทรัพย์ จำนวน 450,000 บาท เพื่อดำเนินการสร้างบ่อปลูกผักน้ำในพื้นที่ใหม่และให้เป็นศูนย์เรียนรู้ในชุมชน ซึ่งเป็นการสร้างอาชีพ สร้างรายได้ ทำให้ราษฎรในชุมชนอยู่ดีกินดี มีความมั่นคงในการประกอบอาชีพอย่างยั่งยืนจวบจนถึงปัจจุบัน
จากนั้น องคมนตรี ได้พบพี่น้องประชาชนและเยี่ยมชมกิจกรรมของกลุ่มบ้านปิยะมิตร 1 อาทิ การปลูกผักน้ำ การบริหารจัดการด้านการค้าขาย และการดูแลรักษาป่าในพื้นที่ รวมถึงเยี่ยมชมและศึกษาประวัติศาสตร์ของอุโมงค์ปิยะมิตร
ภาพ/ข่าว : ธานินทร์ โพธิทัพพะ ปื๊ดเบตง