นาทีนี้ ชื่อ 'สรยุทธ' ยังขายได้?
นาทีนี้ต้องเรียกว่าคนทำงานวงการสื่อสารมวลชน นั่งกันไม่ติด นอนคิดหลายตลบ นับคอยวันเวลาที่รุ่นใหญ่ ตำนานแห่งคนข่าวที่เปลี่ยนหน้าจอทีวี จากการนำเสนอข่าวแบบผู้ประกาศข่าวเป็นเหมือนเครื่องอ่านข่าว มาเป็นการเล่าข่าวแบบเข้าถึง จนกลายเป็นเพื่อนที่ต้องอยู่คู่กันทุกเช้า “สรยุทธ สุทัศนะจิดา” ที่มีกำหนดการพักโทษและจะออกจากเรือนจำในวันที่ 14 มีนาคมนี้ ในแวดวงคนสื่อเอง ต่างก็คาดเดากันว่า หลังจากก้าวออกจากเรือนจำ อาจจะได้เห็น สรยุทธ ในหน้าสื่อกระแสหลักทันที แว่วๆมาด้วยซ้ำว่า ต้นสังกัดเดิม พร้อมลงหน้าจอทันทีไม่รีรอ
“สรยุทธ” กลับมาแบบนี้ ! สะเทือนข่าวผังรายการข่าวทีวีทั่วฟ้าเมืองไทยไม่น้อย โดยเฉพาะ “ข่าวช่วงเช้า” ที่แต่ละช่องมีการปรับแผน ยกผัง เปลี่ยนกลยุทธ์กันมาตั้งแต่ต้นปี หลายช่องเตรียมพร้อมรับมือการกลับมาของ “สรยุทธ” แต่ก็สุดจะคาดเดาว่ากลับมาครั้งนี้ จะงัดไม้ไหนออกมาให้ตะลึงกันอีก
ที่แน่ ๆ “สรยุทธ” ที่หลายคนคิดถึง คงมีแฟน ๆ รอการกลับมาของเขามากล้นเลยทีเดียว แต่อย่างไรก็ตามก็ต้องยอมรับ ว่ายุคก่อน “สรยุทธ” เข้าเรือนจำ กับยุคปัจจุบัน ช่องทางสื่อเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว จาก Digital Disruption การพุ่งพรวดของเทคโนโลยี ทำให้สื่อทีวี ไม่ใช่สื่อหลักอีกต่อไป ถ้ายอมรับความจริงข้อนี้ได้ สื่อออนไลน์ได้เข้ามาแทนที และไปไกลกว่าสื่อทีวีไปมากแล้ว ซึ่งคนในแวดวงสื่อเองก็ได้รับผลกระทบจากเรื่องนี้กันถ้วนหน้า ทั้งการปลดพนักงานออก หรือการขยับตัวของรุ่นใหญ่ลงมาหน้าสื่อออนไลน์เต็มสูบ อย่าง “สุทธิชัย หยุ่น” ถึงขนาดพยากรณ์ไว้ใน Clubhouse แอพลิเคชั่นสังคมออนไลน์สุดฮิตว่า “ในอีกไม่เกิน 5 ปี ข้างหน้า สื่อทีวีสุดท้ายจะกลายเป็นเพียงของหายาก แต่จะไม่มีใครต้องการอีกต่อไป”
รุ่นใหญ่อย่าง “สุทธิชัย หยุ่น” ลงมานำเสนอข่าวผ่านสื่อออนไลน์แล้ว ตามมาติดๆด้วยลูกรักศิษย์เนชั่น อย่าง “จอมขวัญ หลาวเพ็ชร” ที่ฉีกสัญญาต้นสังกัดเดิม ลงมาเปิดหน้าในสำนักข่าวออนไลน์เต็มตัว ไม่เพียงเท่านั้น คนข่าวรุ่นใหม่หลายคนที่อายุงานยังไม่มาก บ้างก็ปรับตัวลงมาลุยสื่ออออนไลน์ควบสื่อทีวี บ้างก็ถอดใจย้ายเส้นทางชีวิต ไม่เดินเส้นทางสื่อทีวีต่อ ไปทำอย่างอื่นที่มีอนาคตกว่า
จึงน่าจับตาว่าคนที่เรียกตัวเองว่า “กรรมกรข่าว” อย่าง “สรยุทธ สุทัศนะจินดา” บุคคลผู้ทรงอิทธิพล ผู้เปลี่ยนหน้าวงการสื่อทีวี กรุยทางให้กับคนข่าวทีวีเดินตาม จนบางคนโด่งดังสุดๆจากสไตล์เดียวกับสรยุทธ สุดท้ายแล้วเมื่อกลับมาใหม่ในครั้งนี้ จะมีแนวทางในการนำเสนอข่าวอย่างไร จะยังคงได้รับการตอบรับจากแฟนข่าวเดิมอยู่หรือไม่ แล้วจะดึงแฟนข่าวที่ย้ายไปภักดีกับสองช่องยักษ์ในตอนนี้กลับมาอย่างไร ท้าทายมากกว่านั้นกับคนรุ่นใหม่และสื่อออนไลน์ “สรยุทธ” จะเข้าไปสร้างปรากฏการณ์อีกครั้งในสื่อเหล่านี้หรือไม่ การกลับมาครั้งนี้จะสร้างปรากฏการณ์รุ่งหรือร่วง อีกไม่นานคงได้รู้กัน
อย่างไรก็ตาม อย่าลืมว่า “จมูกไวต่อข่าว” ไม่ได้มีกันทุกคน แต่ “สรยุทธ” คือคนข่าวตัวจริงที่จมูกไวและประสบการณ์สูง ซึ่งสิ่งนี้เป็นข้อได้เปรียบสื่อออนไลน์ในปัจจุบัน ที่เน้นความไว แต่ไร้ซึ่งมิติและอ่อนประสบการณ์
“เนลสัน แมนเดลา” อดีตประธาธิบดีแอฟริกาใต้ ผู้นำการต่อต้านการแบ่งแยกสีผิว เคยให้สัมภาษณ์กับนักข่าวสำนักหนึ่งกับคำถามที่ว่า “ท่านรู้สึกอย่างไรที่ติดคุกไปตั้ง 27 ปี? “ แมนเดลา ตอบติดตลกว่า “ใครว่าผมติดคุก ผมเรียนหนังสืออยู่ต่างหาก” ระยะเวลาหลายปีที่สรยุทธหายไปจากหน้าจอทีวี ไปอยู่กับการต่อสู้คดีและเรือนจำ อาจเป็นช่วงเวลาที่ทำให้ “สรยุทธ” เกิดการตกผลึกบางสิ่งในชีวิตและการทำงานมากขึ้นก็เป็นได้ และเราจะได้เห็น “ผลึก” นั้นผ่านงาน “ข่าว” รูปแบบใดรูปแบบหนึ่งแน่นอน น่าติดตามและตั้งตารอ