ตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในจีนกำลังต่อสู้กันอย่างดุเดือน เมื่อรถ EV สัญชาติจีนเริ่มตีตลาดไล่บี้ Tesla ด้วยราคาสุดพิเศษ ถูกใจคนวัย First Jobber ที่เพิ่งเริมชีวิตทำงานได้ไม่นาน แต่ต้องต้องการความคล่องตัว แถมวิ่งได้ในระยะทางไม่ต่างกันมาก

แม้ว่า Tesla Model-3 จะเป็นรถยนต์ไฟฟ้าที่ขายดีที่สุดในจีนในเวลานี้ถึงจะมีราคาสูงถึงคันละ 38,000 ดอลลาร์ (ประมาณ 1.17 ล้านบาท ต่อคัน) แต่หากมีกำลังซื้อเพียงพอ ชาวจีนก็เลือกที่จะซื้อ Tesla ที่เป็นเหมือนแบรนด์รถยนต์ไฟฟ้าอันดับ 1 ของโลก เหมือนกับถ้าพูดถึงสมาร์ทโฟน คนก็จะนึกถึง iPhone เป็นแบรนด์แรก ๆ

แต่ในจีนก็มีกลุ่มผู้ซื้อมากมาย ทั้งที่ไม่สนใจแบรนด์เลย ขอให้ใช้งานได้ ในราคาคุ้มค่า ซึ่งเข้าทางผู้ผลิตรถยนต์จีน พากันออกรถ EV รุ่นใหม่สู่ตลาดในราคาเพียงแค่ 1 ใน 3 ของ Tesla ด้วยสเปคที่ใกล้เคียงกัน เพื่อดึงตลาดระดับกลาง ที่พิจารณาเรื่องราคา และระยะทางที่วิ่งได้เป็นหลัก มากกว่าเอาชื่อเสียงของแบรนด์เป็นตัวตั้ง

ในช่วงปี 2020 ที่ผ่านมาจึงเป็นยุคเฟื่องฟูของตลาดรถ EV ในจีน ที่รถ Tesla มียอดขายโตขึ้นถึง 21% แต่ในขณะเดียวกันผู้ผลิตรถยนต์ EV ของจีนก็เติบโตอย่างแข็งแกร่งเช่นเดียวกัน

จีนนับเป็นผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ที่สุดของโลก และยังเป็นตลาดรถยนต์ EV ที่มีจำนวนผู้ซื้อมากที่สุดในโลกเช่นกัน การใช้รถยนต์ไฟฟ้าก็ไม่ใช่เรื่องใหม่สำหรับคนจีน ที่พัฒนารถมอเตอร์ไซด์ไฟฟ้าใช้เองในประเทศอย่างแพร่หลายตั้งแต่ปี 1990 แถมรัฐบาลจีนก็สนับสนุนด้วย โดยการบรรจุการพัฒนารถยนต์ไฟฟ้าให้เป็นที่แพร่หลายให้เป็นวาระแห่งชาติในแผนพัฒนาเศรษฐกิจแห่งชาติ 5 ปี ก่อนการมาถึงของรถยนต์ Tesla ในตลาดจีนเสียอีก

และการผลักดันของจีนก็เป็นผล ที่ผู้ผลิตรถยนต์ของจีนก็สามารถพัฒนารถยนต์ EV ที่มีศักยภาพพอที่จะแข่งขันในตลาดได้ แม้ไม่ใช่อันดับ 1 แต่ก็ไม่ได้ล้าหลังจนทิ้งห่าง

ซึ่งผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าจีนก็มีอยู่หลายค่าย หลายแบรนด์มาก นับสิบเจ้าที่ไล่ราคาตั้งแต่ไม่เกิน 5 แสนบาท จนถึงราคาแค่แสนต้นๆ ก็สามารถเป็นเจ้าของรถยนต์ไฟฟ้าที่คุณภาพดี ขับใช้ได้ไม่อายใคร ผู้เชี่ยวชาญด้านการตลาดของจีนมองว่า ราคารถ EV ของจีนจะลดลงมาในราคาที่จับต้องได้มากกว่านี้อีก ระดับที่เด็กมัธยมปลายก็สามารถเก็บเงินพอที่จะซื้อได้ ก่อนที่จะมีสิทธิ์ถือใบขับขี่เสียอีก

ในบรรดาค่ายรถยนต์ของจีน มีบริษัทผู้ผลิตรายใหญ่ที่กำลังเป็นที่น่าจับตา เช่น BYD Hozon Wuling Nio Xpeng ที่ยังครองยอดขายในตลาดจีนมากกว่าครึ่ง

และทางค่ายรถยนต์จีนก็ไม่ได้มองแค่ตลาดจีน แต่มีเป้าหมายที่จะขยายตลาดผู้ใช้ในต่างประเทศ โดยเฉพาะในยุโรป และอเมริกา ที่รถยนต์ไฟฟ้ากำลังเป็นที่ต้องการอย่างมากตามกระแสลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนเพื่อลดปัญหาโลกร้อน

แต่ก็ต้องยอมรับว่าแบรนด์รถยนต์จากจีนอาจจะไม่ใช่แบรนด์แรกๆ ที่ผู้ใช้รถในต่างประเทศจะเลือก ถึงกระนั้นก็เป็นธุรกิจที่น่าสนใจมากพอที่จะดึงดูด พ่อมดการเงินอย่าง วอเรน บัฟเฟต ให้เข้ามาร่วมลงทุนถือหุ้น BYD ค่ายรถยนต์ยักษ์ใหญ่ของจีนถึง 8.2% มากกว่าหุ้น GM ที่เขาถือถึงเกือบ 3 เท่า

และ รถ EV แบรนด์ Nio ค่ายรถยนต์น้องใหม่ของจีนก็สร้างความตื่นเต้นในตลาดสหรัฐไม่น้อย ที่นำเสนอบริการรถยนต์ที่เปลี่ยนแบตเตอรี่ได้ โดยที่ผู้ใช้ไม่ต้องเสียเวลารอที่แท่นชาร์ตแบตเตอรี่เป็นชั่วโมง แค่ขับไปที่สถานีเปลี่ยนแบตเก่าออก เอาแบตใหม่ใส่ใช้เวลาแค่ 5 นาที ขับรถออกได้เลย ซึ่งค่าย Nio บอกกว่าได้เตรียมแบตเตอรี่สำหรับเปลี่ยนให้ลูกค้าแล้วไม่น้อยกว่า 1 ล้านชุด

ซึ่งก็ถือเป็นธุรกิจตลาดรถยนต์ EV ที่กำลังมาแรง และมีมูลค่าสูงขึ้นเรื่อย ๆ เพราะรถยนต์ไฟฟ้ากำลังจะมาแทนที่รถยนต์ใช้น้ำมันทั้งหมดในอีกไม่กี่สิบปีข้างหน้า เราไม่อาจปฏิเสธกระแสนี้ไปได้เลย และประเทศที่สามารถพัฒนาเทคโนโลยี ผลิตเอง ใช้เอง จนสามารถแข่งขันในตลาดโลกได้ก็จะเป็นหนึ่งจุดแข็งที่สร้างความมั่นคงทางเทคโนโนยี และเศรษฐกิจที่สำคัญอย่างมากในโลกทุนนิยมในอนาคต


อ้างอิง:

https://www.straitstimes.com/business/companies-markets/chinas-5700-electric-cars-tap-huge-market-tesla-cant-reach

https://www.cnbc.com/2021/03/10/chinese-electric-carmakers-add-13point65-billion-in-value-as-tesla-surges.html

https://www.cnbc.com/2021/02/09/teslas-china-sales-more-than-doubled-in-2020.html

https://www.cnbc.com/2021/03/01/buffett-owns-more-of-chinese-electric-car-maker-byd-than-general-motors.html

https://cleantechnica.com/2020/12/27/record-electric-vehicle-sales-in-china/

https://www.caranddriver.com/news/a33670482/nio-swappable-batteries-lease/

https://en.wikipedia.org/wiki/Electric_vehicle_industry_in_China