‘เจ้าชายแฮร์รี’ และ ‘เมแกน มาร์เคิล’ ดยุคและดัชเชสแห่งซัสเซกซ์ เปิดใจเกี่ยวกับชีวิตในวังบักกิงแฮมของทั้งคู่ที่ไม่ได้สวยงามอย่างที่คิด เมแกนเผย เคยคิดฆ่าตัวตายเพราะถูกปฏิบัติไม่ดีหลังการเสกสมรส และเคยถูกถามเรื่องสีผิวของพระโอรสด้วย
ประเด็นดราม่าระหว่าง ‘ราชวงศ์อังกฤษ’ กับ ‘เมแกน มาร์เคิล’ ดัชเชสแห่งซัสเซกซ์ ชายาของ ‘เจ้าชายแฮร์รี’ ดูเหมือนจะยิ่งบานปลายมากขึ้น เมื่อบทสัมภาษณ์ล่าสุดของดัชเชสแห่งซัสเซกซ์ กลายเป็นการ ‘ทิ้งระเบิด’ ใส่พระราชวังบักกิงแฮมอย่างชัดเจน
เมแกน พระชันษา 39 ปี เปิดใจในการให้สัมภาษณ์ ‘โอปราห์ วินฟรีย์’ ที่สถานีโทรทัศน์ซีบีเอสออกอากาศเทปเมื่อค่ำวันอาทิตย์ (7 มี.ค.) ตามเวลาสหรัฐว่า เธอยอมรับว่าตัวเองไร้เดียงสา ก่อนเข้าเป็นสมาชิกราชวงศ์ในปี 2561
โดยหลังเข้าสู่รั้ววังบักกิงแฮมแล้ว เธอก็กลายเป็นคนคิด ‘อยากฆ่าตัวตาย’ และ ‘อยากทำร้ายตัวเอง’ เพราะไม่ได้รับความช่วยเหลือใดๆ แม้เธอร้องขอแล้วก็ตาม
“ตอนนั้น ฉันไม่อยากมีชีวิตอยู่อีกต่อไปแล้ว และมันเป็นความคิดชั่ววูบที่ชัดเจนและน่าตกใจมากทีเดียว" เมแกนเปิดใจกับวินฟรีย์ในรายการยาว 2 ชั่วโมงทางช่องซีบีเอส
เมแกนเผยว่า ตลอดช่วงเวลาหลายเดือนที่เธอตั้งครรภ์เจ้าชายอาร์ชี ราชวงศ์อังกฤษไม่ต้องการให้ทายาทของเธอมีพระยศ โดยไม่สนใจว่าจะเป็นเพศใดก็ตาม ซึ่งจะทำให้ไม่ได้รับการอารักขาตลอด 24 ชั่วโมง
เมแกน ซึ่งมีบิดาเป็นชาวอเมริกันยุโรปและมารดาเป็นชาวอเมริกันแอฟริกันเผยว่า ในวังมีการพูดเรื่อง ‘สีผิวของทายาท’ ที่จะเกิดมาด้วย แต่เธอไม่ยอมตอบว่าใครพูดเรื่องนี้
“มีความกังวลและบทสนทนาในวังด้วยว่า ผิวของเจ้าชายอาร์ชีจะสีเข้มขนาดไหนเมื่อเขาประสูติ”
นอกจากนี้ เมื่อวินฟรีย์ถามว่า เธอเป็นฝ่ายนิ่งเฉยเอง หรือถูกขอให้นิ่งหลังประสบกับเหตุการณ์นี้ เธอตอบว่า “เป็นอย่างหลัง” โดยดัชเชสแห่งซัสเซกซ์กล่าวถึงคนในวังว่า ไม่เพียงไม่ปกป้องเธอที่ถูกให้ร้าย แต่ยังโกหกเพื่อปกป้องสมาชิกราชวงศ์คนอื่น ในวังมีครอบครัวและมีคนที่บริหารสถาบัน เธอย้ำว่าเรื่องนี้ต้องแยกแยะให้ดี เพราะสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 ทรงมีพระกรุณาธิคุณกับเธออยู่เสมอ
ส่วนรายงานข่าวจากหนังสือพิมพ์แทบลอยด์ที่ว่าเธอทำให้ ‘เจ้าหญิงเคท’ ดัชเชสแห่งเคมบริดจ์และพระชายาในเจ้าชายวิลเลียม ดยุคแห่งเคมบริดจ์ พระเชษฐาของเจ้าชายแฮร์รี ร้องไห้ก่อนพิธีเสกสมรสของเธอในปี 2561 เมแกนปฏิเสธว่า ไม่เป็นความจริง
ดัชเชสแห่งซัสเซกซ์บอกอีกว่า ข่าวนี้เป็นจุดที่ทำให้ความสัมพันธ์ของเธอกับสื่อเปลี่ยนไป และว่าความจริงเป็นคนละเรื่อง ทุกคนในวังต่างรู้ดี
“เจ้าหญิงเคทเพียงไม่พอใจในเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ไม่กี่วันก่อนงาน และคนที่ร้องไห้คือฉัน เพราะถูกทำร้ายความรู้สึก แต่เจ้าหญิงเคทได้ขอโทษแล้ว”
ด้านเจ้าชายแฮร์รีเผยว่า พระทายาทในครรภ์พระชายาเป็นเพศหญิง พร้อมกับเผยเรื่องความสัมพันธ์กับเจ้าชายชาร์ลส์ มกุฎราชกุมารและพระบิดาว่า รู้สึกผิดหวังอย่างมาก เพราะพระบิดาทรงเคยผ่านประสบการณ์แบบเดียวกันมาก่อน ทรงรู้ถึงความเจ็บปวด
อย่างไรก็ตาม ดยุคแห่งซัสเซกซ์ ตรัสว่า พระองค์จะยังคงรักพระบิดาเสมอ แต่สิ่งที่เกิดขึ้นเป็นความเจ็บปวดมากมาย พระองค์คงไม่ถอยออกมาจากราชวงศ์หากพระชายาไม่ถูกกระทำ ทรงถูกตัดความช่วยเหลือทางการเงิน แต่ที่ยังอยู่ได้ทุกวันนี้เพราะสิ่งที่พระมารดา (เจ้าหญิงไดอานา) ทิ้งไว้ให้
บทสัมภาษณ์ของดยุคและดัชเชสแห่งซัสเซกซ์มีขึ้นหลังจากเมื่อต้นสัปดาห์นี้ หนังสือพิมพ์ เดอะไทม์ส (The Times) ของอังกฤษ เผยรายงาน Exclusive ที่อ้างข้อมูลจากอีเมลของข้าราชบริพารผู้หนึ่งซึ่งระบุว่า เมแกน เคยไล่ผู้ช่วย 2 คนออกจากพระราชวังเคนซิงตัน และยังข่มเหงรังแกทำลายความเชื่อมั่นของข้าราชบริพารอีกคนหนึ่ง
จนกระทั่งเมื่อวันที่ 3 มี.ค. สำนักพระราชวังบักกิงแฮม แถลงถึงรายงานของเดอะไทม์สว่า รู้สึก “กังวลอย่างยิ่ง” และจะดำเนินการสอบสวนข้อเท็จจริง
“เรามีความกังวลอย่างยิ่งต่อข้อครหาต่าง ๆ ที่อดีตข้าราชบริพารของดยุคและดัชเชสแห่งซัสเซกซ์ออกมาเปิดเผยผ่านเดอะไทม์ส ทีมงานด้านทรัพยากรบุคคลของเราจะตรวจสอบข้อเท็จจริงเรื่องนี้” แถลงการณ์จากสำนักพระราชวังอังกฤษ ระบุ
คงต้องจับตาดูกันต่อไปว่า พระราชวังบักกิงแฮมจะออกแถลงการณ์ตอบโต้ดยุคและดัชเชสแห่งซัสเซกซ์หรือไม่ แม้ตอนนี้บรรดาผู้สังเกตการณ์คาดว่าฝั่งราชวงศ์อังกฤษอาจเลือกที่จะนิ่งเฉยมากกว่า ขณะที่ความสัมพันธ์ระหว่างทั้งคู่กับราชวงศ์อังกฤษ ตกอยู่ในเครื่องหมายคำถามก็ตาม
ที่มา: