‘บิ๊กตู่’ รับวัคซีนโควิดล็อตแรกเรียบร้อย ขอบคุณรัฐบาลจีน ช่วยไทยได้วัคซีนตามกำหนดเวลา วอนสังคมอย่านำวัคซีนมาเป็นปัญหาความขัดแย้ง ด้านรมว.ท่องเที่ยว เล็งใช้ 1 แสนโดส กระจาย 5 จังหวัดท่องเที่ยว ฟื้นความเชื่อมั่น

เมื่อวันที่ 24 ก.พ.พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวขอบคุณรัฐบาลจีน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ที่ทำให้ไทยได้รับวัคซีนเป็นล็อตแรก ถือเป็นวันประวัติศาสตร์ของพวกเรา หลังจากนี้จะดำเนินการตามแผนกระจายฉีดวัคซีน

โดยจะเริ่มสามารถฉีดได้ในเดือนมีนาคม พร้อมกันนี้ ยังขอบคุณหน่วยงานส่วนราชการที่ช่วยแก้ปัญหาให้ไปเป็นจามขั้นตอนของไทย โดยไม่มีอะไรที่แก้ไขไม่ได้ แน่นนอนการทำงานเพื่อคนส่วนใหญ่ทั้งประเทศหลายล้านคน ย่อมมีปัญหา ต้องช่วยกันแก้ไขเพื่อความเข้าใจ พร้อมขอบคุณประเทศจีน ที่มาส่งวัคซีนล็อตแรกให้กับไทยในเดือนนี้ และจะได้ล็อตต่อไปตามแผนงาน

สำหรับการฉีดจะเป็นไปตามแผนงาน โดยจะเน้นพื้นที่และกลุ่มคนที่มีความเสี่ยงสูง ยืนยัน วัคซีนได้มีการทดสอบคุณภาพมาแล้ว แต่จะต้องมีการดูแลเรื่องการขนย้ายด้วย

นายกรัฐมนตรี เปิดเผยด้วยว่า เป็นข่าวดี ที่วันนี้ไทยได้รับวัคซีน แอตตร้าเซเนก้า จึงไม่อยาก ให้นำปัญหาวัคซีน มาเป็นปัญหาความขัดแย้งกัน แต่อยากให้ มีความเป็นหนึ่งเดียวในการแก้ปัญหา

นายกรัฐมนตรี กล่าวย้ำขอบคุณรัฐบาลจีนที่ให้ความสำคัญ ในการเอาใจใส่ กับสิ่งที่รัฐบาลไทยได้ประสานไว้

ส่วนเรื่องที่ภาคเอกชนจะนำวัคซีนเข้ามาเอง นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ถือเป็นอีกเรื่องหนึ่ง แต่เรื่องความสัมพันธ์ระหว่างประเทศถือว่าเป็นสิ่งสำคัญ ซึ่งอยากให้ทุกฝ่ายร่วมสร้างรอยยิ้ม รวมกันแก้ปัญหา ร่วมไทยสร้างชาติ และร่วมมือกันทำให้อาเซียนปลอดภัยจากโควิด และถึงแม้จะได้รับวัคซีน อย่าลืมที่จะป้องกันตนเอง ด้วยการสวมใส่หน้ากาก ตามมาตรการป้องกันของกระทรวงสาธารณสุข

ด้านอุปทูตรักษาการแทนเอกอัครราชทูตจีน ประจำประเทศไทย กล่าวว่า นับเป็นความภาคภูมิใจ ในความร่วมมือระหว่างจีนและไทย ที่ทำให้สามารถขนส่งวัคซีนล็อตแรกจากจีนมาถึงไทยได้สำเร็จ ซึ่งเป็นประเทศแรกในอาเซียน ขณะที่ล็อตต่อๆ ไปจะทยอยส่งมาตามกำหนด

ทั้งนี้ สะท้อนให้เห็นถึงความสัมพันธ์ไทย - จีน ที่มีมาช้านาน และสร้างอนาคตร่วมกัน โดยเชื่อมั่นว่าวัคซีนจะช่วยให้ประชาชนปลอดภัยจากโควิด-19 พร้อมขอบคุณหน่วยงานภาครัฐ - เอกชน ทั้งของไทยและจีน ที่ทำให้การขนส่งครั้งนี้ประสบความสำเร็จด้วยดี ซึ่งจากความร่วมมือนี้จะทำให้สามารถเอาชนะโควิด-19 และฟื้นฟูเศรษฐกิจ รวมถึงสร้างรอยยิ้มให้คืนสู่ชาวไทยได้

ด้านนายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา ให้สัมภาษณ์ถึงการฉีดวัคซีนให้กับกลุ่มท่องเที่ยว ว่า วัคซีนล็อตแรกที่มาถึงประเทศไทยวันนี้ ส่วนหนึ่งจะจัดสรรให้กับโรงแรมที่เสนอตัวเป็นพื้นที่กักตัว เพื่อฉีดวัคซีนให้กับพนักงานต้อนรับทั้งหมดทุกคนในโรงแรม โดยจะกระจายไปให้กับ 5 จังหวัดท่องเที่ยว คือ เชียงใหม่ ชลบุรี ภูเก็ต กระบี่ และเกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี ในล็อตแรกและล็อตที่ 2 จังหวัดละหมื่นคน เท่ากับ 2 หมื่นโดส รวมทั้งหมด 1 แสนโดส เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้นักท่องเที่ยว

สำหรับนักท่องเที่ยวที่จะเดินทางมาท่องเที่ยวจะต้องกักตัวในโรงแรมที่ใช้เป็นสถานที่กักตัว ตามที่เราเสนอ ศบค.และกระทรวงสาธารณสุขไปนั้น เมื่อนักท่องเที่ยวมาแล้วจะให้กักตัวในห้องพักเป็นเวลา 3 วัน หลังจากนั้นจะอนุญาตให้ออกมาอยู่ภายในบริเวณโรงแรมได้ แต่นักท่องเที่ยวต้องปฏิบัติตามข้อกำหนดของ ศบค.และ กระทรวงสาธารณสุขกำหนด

ผู้สื่อข่าวถามกรณีที่นายกรัฐมนตรี ระบุว่า จะให้นักท่องเที่ยวที่ได้รับวัคซีนเข้าประเทศโดยไม่ต้องกักตัว นายพิพัฒน์ กล่าวว่า "ต้องดูความเหมาะสม และต้องดูว่าภายในสิ้นปีนี้คนไทยจะได้วัคซีนเท่าไหร่ และต้องดูว่ากรมอนามัยได้ออกวัคซีนพาสปอร์ต ออกมาหรือยัง ถ้าออกมาและมีการรับรองแล้วก็ต้องนำเรื่องเสนอเข้าศบค. เพื่อพิจารณาว่ามีข้อขัดข้องหรือไม่ ซึ่งคาดว่าเรื่องนี้จะดำเนินได้ในช่วงไตรมาส 3"