'บิ๊กตู่' เตือนม็อบมีพยานหลักฐาน - กล้องบันทึกภาพชัดเจนใครก่อเหตุรุนแรง ขออย่าฟังความข้างเดียวดราม่าตำรวจทำร้ายแพทย์อาสา ชี้เจ้าหน้าที่เองก็ถูกทำร้าย ลั่นเคลื่อนไหวปลุกระดมเวลานี้ไม่เกิดประโยชน์ประเทศชาติ
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม กล่าวภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) กล่าวถึงความกังวลต่อการชุมนุมมีการจุดกระแสเจ้าหน้าที่ทำร้ายและอาจจะมีการเคลื่อนไหวไปที่หน้ารัฐสภาในวันอภิปรายไม่ไว้วางใจ และการควบคุมสถานการณ์เพราะเริ่มมีการยกระดับความรุนแรงมีระเบิดในพื้นที่ชุมนุม ว่า ยืนยันว่าจะให้เจ้าหน้าที่ทำงานอย่างเต็มที่ในการทำหน้าที่ตามกฎหมายด้วยความละมุนละม่อม
ขณะเดียวกันขอฝากเตือนผู้ก่อเหตุด้วยว่าทุกอย่างเป็นไปตามพยานหลักฐานจำนวนมาก รวมถึงกล้องต่าง ๆ ก็ออกมาให้เห็นอย่างชัดเจน จึงขอให้เสนอข่าวสองทางว่ามีการปฏิบัติต่อเจ้าหน้าที่ด้วยและต้องเห็นใจเจ้าหน้าที่ที่ต้องทำงานด้วยความระมัดระวัง และมีชีวิตจิตใจเหมือนกัน ถ้าใช้ความรุนแรงตอบโต้ไปมาก็มีแต่ทำให้เกิดความรุนแรงเกิดขึ้นและไม่เป็นผลดีต่อประเทศชาติและประชาชนโดยรวม
เมื่อถามว่า ในฐานะกำกับดูแลตำรวจจะชี้แจงหรือแสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์ตำรวจทำร้ายร่างกายทีมแพทย์ อย่างไร และต้องกำชับให้ระมัดระวังอะไรเพิ่มเติมหรือไม่
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า "ก็บอกไปแล้วมีการทำร้ายเจ้าหน้าที่ด้วย ซึ่งต้องไปพิสูจน์ทราบเจ้าหน้าที่แพทย์จริงหรือไม่ ขณะนี้อยู่ในกระบวนการสอบสวนและฟังความข้างเดียว ทุกคนต้องเคารพกฎหมาย"
เมื่อถามถึงการนัดหมายชุมนุม 17 ก.พ.และ 20 ก.พ. ซึ่งเป็นช่วงการอภิปรายไม่ไว้วางใจ เป็นห่วงหรือไม่ว่าผลการอภิปรายและลงมติในสภาฯ จะมีผลต่อการเคลื่อนไหวชุมนุมนอกสภา พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า "ตนคิดว่า อย่ามีการเคลื่อนไหวในทางปลุกระดมปลุกปั่น ให้เกิดการชุมนุม ไม่เกิดประโยชน์อะไรต่อประเทศชาติในเวลานี้ เพราะประเทศชาติมีปัญหาอยู่ ทั้งโควิดและปัญหาต่างๆ มากมาย ถึงไม่ควรเพิ่มความขัดแย้งให้มากยิ่งขึ้น ขณะเดียวกันกระบวนการทำงานก็เป็นเรื่องของรัฐสภาและรัฐบาลที่ต้องชี้แจงในการอภิปรายไม่ไว้วางใจ จึงขอให้ประชาชนเฝ้ารอฝั่งที่บ้านดีกว่ามาประท้วงซึ่งไม่รู้เพื่อจุดมุ่งหมายอะไร ซึ่งหลายคนพอจะทราบอยู่แล้ว"
เมื่อถามว่ามีรายงานข่าวว่ากลุ่มเรียกร้องประชาธิปไตย ต่อต้านรัฐประหารเมียนมาในไทยแฝงตัวร่วมชุมนุมในพื้นที่ปทุมวันและสนามหลวงช่วงที่ผ่านมา ได้กำชับให้หน่วยความมั่นคงดูแลเรื่องนี้อย่างไร เพื่อป้องกันเหตุรุนแรงในอนาคต พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า "ผมขอเตือนว่าให้ใช้ความระมัดระวังให้มากที่สุดในฐานะมิตรประเทศและอาเซียน ต้องระมัดระวังทุกมิติและทุกประเด็นพร้อมรับฟังความคิดเห็นจากร้ายแรงว่าจะดำเนินการได้มากน้อยเพียงใด"
ส่วนประเด็นความพร้อมต่อการอภิปรายไม่ไว้วางใจในวันพรุ่งนี้ (16 ก.พ.) มีความกังวลกับข้อกล่าวหาที่เกี่ยวพันกับสถาบันอย่างไร ถ้าละเอียดอ่อนมากจะขอให้ประชุมลับหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ตนคงไม่ต้องตอบ เรื่องความเกี่ยวกังวลเกี่ยวข้องกับสถาบันฯ ในสภา ซึ่งมันควรหรือไม่ควรก็ไปว่ากันมา เป็นเรื่องของสมาชิกและเป็นเรื่องที่สภาต้องดำเนินการให้อยู่ภายใต้รัฐธรรมนูญและกฎหมายที่เกี่ยวข้องทุกประการ