‘ไพบูลย์’ ขู่พรรคร่วมฝ่ายค้าน หากอภิปรายเนื้อหาพาดพิงสถาบัน ถึงขั้นยุบพรรค ยกกรณี ยุบพรรคไทยรักษาชาติ เป็นอุทาหรณ์
นายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.)ให้สัมภาษณ์ถึงการยื่นญัตติให้สภาผู้แทนราษฎรพิจารณาว่าสภาปัญหาเรื่องอำนาจหน้าที่ในการพิจารณาญัตติที่พรรคฝ่ายค้านและพรรคร่วมฝ่ายค้านเสนอข้อความที่นำสถาบันพระมหากษัตริย์มาเกี่ยวข้องกับการเมืองว่าจะทำได้หรือไม่
ว่า สัปดาห์มีการพิจารณาเพียงญัตติเดียวคือการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ต้องยอมให้มีการพิจารณาเรื่องนี้ไปก่อน แต่หากนายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ ผู้นำฝ่ายค้าน อ่านข้อความที่มีเนื้อหาต้องห้ามตามคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญที่ยุบพรรคไทยรักษาชาติ ตนจะลุกขึ้นทักท้วงแต่ถ้านำเสนอและข้ามข้อความไปได้ก็จะไม่มีประเด็น ถ้าพูดถึงก็จะมีส.ส.ทักท้วงจำนวนมาก ทำให้ใช้เวลานานพอสมควร เรื่องนี้จะเป็นประวัติศาสตร์ เพราะที่ผ่านมาไม่เคยมีการเสนอญัตติลักษณะแบบนี้ จึงหวังว่าพรรคร่วมฝ่ายค้านจะหลีกเลี่ยง
เมื่อถามว่ายังเป็นแค่การประท้วงยังไม่นำไปสู่ยุบพรรคใช่หรือไม่ นายไพบูลย์ กล่าวว่า การประท้วงเป็นจุดแรก หากยังยังดำเนินการจะถือว่าเป็นการกระทำอันต้องห้ามตามคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งตนเป็นห่วง เพราะนายสมพงษ์ ก็เป็นหัวหน้าพรรค และเรื่องนี้เป็นมติของพรรคร่วมฝ่ายค้านทุกพรรค ดังนั้นการยุบพรรคไทยรักษาชาติก็เป็นอุทาหรณ์ที่ดี
"ผมเป็นผู้ยื่นคำร้องพรรคไทยรักษาชาติไปที่กกต. เรื่องเสนอชื่อนายกรัฐมนตรี ขัดต่อระเบียบการหาเสียงของกกต.เท่านั้น ยังเป็นเรื่องเลยมาถึงขนาดนี้ แต่กรณีนี้ผมท้วงว่าขัดต่อคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ ที่ 3/2562 กรณี กกต. ยื่นยุบพรรคไทยรักษาชาติ ซึ่งคำวินิจฉัยมีผลผูกพันทุกองค์กร ดังนั้นผู้นำฝ่ายค้านและหัวหน้าพรรคร่วมฝ่ายค้านรวมทั้งผู้อภิปราย หากนำประเด็นต้องห้ามมาอภิปราย ผมว่าเป็นผลที่ทำให้เรื่องไปศาล ซึ่งเรื่องไปได้หลายทาง ไม่จำเป็นต้องไปด้วยญัตติของตน หากมีการอภิปรายด้วยข้อความต้องห้าม มั่นใจว่าไปแน่ “