รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ‘สุชาติ ชมกลิ่น’ สั่งหน่วยงานสังกัดในพื้นที่จังหวัดทางภาคใต้ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์น้ำท่วม เร่งระดมให้การช่วยเหลือดูแลผู้ใช้แรงงาน สถานประกอบการ และประชาชน

นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เปิดเผยถึงกรณีสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่หลายจังหวัดทางภาคใต้ จนทำให้มีผู้ได้รับความเดือดร้อนเป็นจำนวนมากว่า รัฐบาลภายใต้การนำของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และกระทรวงแรงงาน ภายใต้การกำกับดูแลโดย พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ได้มีความห่วงใย พี่น้องผู้ใช้แรงงานและประชาชนทั่วไปทุกคนที่ประสบปัญหาอุทกภัยได้รับความเดือดร้อน โดยได้สั่งการให้แต่ละหน่วยงานในพื้นที่ที่เกี่ยวข้อง บูรณาการให้ความช่วยเหลือประชาชนเป็นการเร่งด่วน

ทั้งการขนย้าย อพยพ เร่งระบายน้ำ การมอบสิ่งของเพื่อบรรเทาความเดือดร้อน รวมถึงจัดให้มีการประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนได้รับทราบสถานการณ์อุทกภัยอย่างต่อเนื่อง ในส่วนของกระทรวงแรงงาน ตนในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ได้ติดตามสถานการณ์มาอย่างต่อเนื่อง จึงได้กำชับให้หน่วยงานในสังกัดในแต่ละจังหวัดที่ได้รับผลกระทบ เร่งให้การช่วยเหลือดูแลพี่น้องผู้ใช้แรงงาน ลูกจ้าง และประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนเพื่อให้มีสิ่งของอุปโภคบริโภคที่จำเป็นในการดำรงชีพในเบื้องต้น

นายสุชาติ ยังกล่าวต่อว่า กระทรวงแรงงาน ยังได้ให้หน่วยงานในสังกัดเข้าไปตรวจสอบติดตาม กรณีมีผู้เสียชีวิตจากอุทกภัย จะได้ให้การช่วยเหลือสิทธิประโยชน์ทดแทนตามกฎหมายประกันสังคม การเข้าไปฟื้นฟูเยียวยาด้านการประกอบอาชีพและการมีงานทำ รวมถึงบริการซ่อมแซมบ้านเรือน อุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน และเครื่องยนต์เล็กทางการเกษตร การฝึกอาชีพ การดูแลสิทธิประโยชน์ให้แก่ผู้ประสบภัย ทั้งในเรื่องสิทธิประกันสังคม สิทธิตามกฎหมายคุ้มครองแรงงานภายหลังน้ำลด เป็นต้น

ทั้งนี้ ในเบื้องต้นข้าราชการและเจ้าหน้าที่สำนักงานแรงงานจังหวัดยะลา ได้ร่วมสมทบทุน ร่วมด้วยช่วยกันในการจัดทำข้าวเหนียวไก่ทอด เพื่อนำไปแจกจ่ายแก่ผู้ประสบภัยร่วมกับส่วนราชการ สื่อมวลชนและผู้มีจิตศรัทธาภายในจังหวัดยะลาในครั้งนี้ด้วย รวมทั้งได้มอบหมายให้อาสาสมัครแรงงานประจำตำบลเฝ้าระวังและรายงานสถานการณ์ให้ทราบเป็นระยะ ทั้งนี้ หากพี่น้องผู้ใช้แรงงาน นายจ้าง ลูกจ้าง และประชาชนทั่วไปที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ดังกล่าว สามารถติดต่อขอรับความช่วยเหลือได้ที่หน่วยงานในสังกัดกระทรวงแรงงานในพื้นที่ หรือติดต่อได้ที่สายด่วนกระทรวงแรงงาน 1506