Saturday, 27 April 2024
VIDEO

THE STUDY TIMES STORY สัปดาห์ที่สิบเอ็ด พบกับเรื่องราวชีวิตและการเรียน ที่จะสร้างแรงบันดาลใจให้กับคุณ

????THE STUDY TIMES STORY สัปดาห์นี้

????วันจันทร์ที่ 28 มิถุนายน - วันศุกร์ที่ 2 กรกฎาคม

⏰ทุกวัน เวลา 2 ทุ่มตรง

พบกับเรื่องราวชีวิตและการเรียน ที่จะสร้างแรงบันดาลใจให้กับคุณ

????EP.51 วันจันทร์ที่ 28 มิถุนายน

คุณแนน ทิวาภรณ์ กาญจนมยูร ปริญญาโท คณะเศรษฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, เจ้าหน้าที่องค์กรระหว่างประเทศ

????EP.52 วันอังคารที่ 29 มิถุนายน

คุณไอซ์ ปราชญ์ เทวานฤมิตรกุล นักเรียนโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา, ได้รับทุนธนาคารแห่งประเทศไทย ศึกษาต่อสาขาเศรษฐศาสตร์ ประเทศสหรัฐอเมริกา

????EP.53 วันพุธที่ 30 มิถุนายน

คุณนาดา นาดา ไชยจิตต์ ปริญญาโท ด้านกฎหมายสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศ LL.M International Human Rights Law, School of Law, University of Essex, ประเทศอังกฤษ

????EP.54 วันพฤหัสบดีที่ 1 กรกฎาคม

คุณฟ้า ฟ้าฤดี ทรงลักษณ์ Undergraduate Intelligence Scholarship Program (UiS), Georgetown University Law Center, สหรัฐอเมริกา, นิติกรชำนาญการ

????EP.55 วันศุกร์ที่ 2 กรกฎาคม

คุณป้อง จิรพัชร พูลสุวรรณ ปริญญาโท Public Policy, University of Bristol, สหราชอาณาจักร

✅ดำเนินรายการโดย เจ THE STATES TIMES

????ช่องทางรับชม

Facebook และ YouTube: THE STUDY TIMES / THE STATES TIMES

Click on Clear THE TOPIC EP.3/1 จับประเด็น เน้นความรู้ ตอน เริ่มทำกิจกรรมอาสาสมัครตั้งแต่สมัยเป็นนักเรียน เพราะต้องการรับและส่งต่อพลังแห่งการให้

Click on Clear THE TOPIC EP.3/1 จับประเด็น เน้นความรู้ ตอน เริ่มทำกิจกรรมอาสาสมัครตั้งแต่สมัยเป็นนักเรียน เพราะต้องการรับและส่งต่อพลังแห่งการให้

จุดเริ่มต้นจากการเป็นลูกคนเดียว ต้องการหาเพื่อนจากการทำกิจกรรมอาสาสมัคร จนค้นพบคุณค่าของการตัวเอง จนถึงวันนี้อุทิศตัวเองเพื่องานอาสาสมัครมามากกว่า 20 ปีแล้ว 

พบกับ ผศ.ดร เอราวัณ ทับพลี ผู้อำนวยการและเหรัญญิกพรรคกล้า 

ดำเนินรายการโดย ปริม กุญชนิตา กุญชร ณ อยุธยา PROGRAM DIRECTOR THE STATES TIMES

.

.


โปรเด็ด! เทหมดตัว มาสด้า 2 และ นิสสันอัลเมร่า ทักเลย! ตอบไว! แอดเลย @TheShopsTimes 
คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

Click on Clear เที่ยงตรง ประจำวันที่ 25 มิถุนายน 2564

Click on Clear เที่ยงตรง ประจำวันที่ 25 มิถุนายน 2564 ประเด็น ร่างแก้ไข รัฐธรรมนูญฉบับประชาธิปัตย์ ผ่านวาระแรก บัตรเลือกตั้ง 2 ใบ

และคุยฟุ้งเรื่องฟุตบอลยูโร 2020 กับ กบร่อน

.

.


โปรเด็ด! เทหมดตัว มาสด้า 2 และ นิสสันอัลเมร่า ทักเลย! ตอบไว! แอดเลย @TheShopsTimes 
คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

คุณโอ๊ต วินิจพรรษ กันยะพงศ์ | THE STUDY TIMES STORY EP.45

บทสัมภาษณ์ คุณโอ๊ต วินิจพรรษ กันยะพงศ์ ปริญญาตรี-โท นิติศาสตร์, อาจารย์ (พิเศษ) คณะนิเทศศาสตร์ (วิชาการออกแบบและสร้างสรรค์รายการ)
การปรับตัว คือสิ่งสำคัญที่จะนำไปสู่ความสำเร็จ

ด้านการศึกษา คุณโอ๊ตเรียนจบปริญญาตรี คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และเรียนจบปริญญาตรีอีก 1 ใบจากคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง ก่อนจะเรียนต่อปริญญาโท คณะนิติศาสตร์ ที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย 

จุดเริ่มต้นในการเรียนคณะนิติศาสตร์ ในช่วงปี 2549 – 2550 ในช่วงนั้นยังไม่ค่อยรู้จักคณะอื่นๆ มากนัก ตอนช่วงมัธยมปลาย คุณโอ๊ตได้เรียนสายวิทย์-คณิต แต่กลับรู้สึกไม่ค่อยชอบในสิ่งที่เรียน จึงเบนมาทางสายศิลป์ เกิดความลังเลระหว่าง นิติศาสตร์และนิเทศศาสตร์ แต่ทุกคนรอบตัวคัดค้านนิเทศ เพราะกลัวจบมาจะไม่มีงานทำ ไม่มั่นคง จนท้ายที่สุดก็ตัดสินใจเลือกเรียนในคณะนิติศาสตร์ 

คุณโอ๊ตเล่าว่า ด้วยความที่เป็นคนเรียนไม่เก่ง ไม่ได้เรียนดี แต่เป็นคนที่เรียนได้และชอบทำกิจกรรมหลากหลาย และมีการดรอปในระหว่างเรียนด้วย คุณโอ๊ตมีเคล็ดลับในการเรียนคือ สนใจในสิ่งที่เราอยากเรียน รวมทั้งการเรียนในคณะรัฐศาสตร์ ซึ่งเป็นสิ่งที่รู้สึกชอบและสนใจ จะเน้นการอ่านหนังสือ ถึงเวลาสอบก็ไปสอบ พยายามเก็บหน่วยกิต   

ในช่วงที่เรียนปี 3 ในคณะนิติศาสตร์ คุณโอ๊ตรู้สึกว่าด้านกฎหมายยังไม่ใช่แนวทาง อยากที่จะทำงานในด้านสื่อ จึงได้ส่งอีเมลไปทางคุณวู้ดดี้ ใน วู้ดดี้ทีวี เพราะอยากได้ประสบการณ์ และอยากที่จะคว้าโอกาสในการทำงานด้านสื่อไว้ พอเรียนจบในคณะนิติศาสตร์ คุณโอ๊ตรู้สึกสนุกกับการทำงานในด้านสื่อมากกว่า จึงได้ลองไปสมัครงานในช่อง GMM TV ในสมัยนั้นก็ใช้วิชาและสิ่งที่ฝึกงานมาสมัครงาน ได้ทำรายการแรกคือ รถโรงเรียน คุณโอ๊ตรู้สึกชอบในบรรยากาศ การออกกอง 

เมื่อทำงานเก็บประสบการณ์ได้สักพัก คุณโอ๊ตก็ออกมาทำงานเป็นฟรีแลนซ์ในด้านสื่อ ทำให้มีเวลาได้ไปเรียนต่อปริญญาโทในคณะนิติศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ที่ไม่เลือกเรียนในสายนิเทศศาสตร์เพราะรู้สึกว่า ประสบการณ์อาจจะยังไม่เท่ากับคนที่เรียนและทำงานในด้านนี้อย่างจริงจัง

สิ่งที่ได้จากการเรียนนิติศาสตร์ คือ วิธีการคิด วิธีการมอง  และวิธีการให้เหตุผล สามารถนำมาปรับใช้กับการทำงานในด้านสื่อ  ตัวเราอาจจะเป็นส่วนผสมที่มีหลักการและเหตุผล ช่วยหาแนวทางเพื่อค้นพบกับทางออก 

ช่วงที่คุณโอ๊ตทำงานด้านสื่อในบริษัท GMM TV โดยช่วงนั้น ถือเป็นช่วงวัยเด็กที่สุด ทำให้ได้ประสบการณ์ และเรียนรู้การทำงานจากผู้ใหญ่ มีโอกาสได้เรียนรู้เร็วมาก เนื่องจากเป็นบริษัทใหญ่ ทำให้ได้ทดลอง เขียนแผนงาน จากตอนแรกที่ไม่เป็นเลย เพราะไม่ได้เรียนทางด้านนิเทศศาสตร์โดยตรง ซึ่งจุดนี้ถือว่าเป็นอุปสรรคที่จะต้องผ่านมันให้ได้ 

แต่หลังจากที่เรียนจบจากมหาวิยาลัย พบว่าความรู้เปลี่ยนไปตลอดเวลา สิ่งที่ได้จากการเรียนในมหาวิทยาลัยคือ การคิด วิเคราะห์ ต้องเรียนรู้ กระตือรือร้นตลอดเวลา ต้องพยายามฝึกฝน หาข้อมูล ในสมัยก่อน Social Media ไม่ได้มีมาก คุณโอ๊ตต้องหาข้อมูลในนิตยสารและอ่านหนังสือหาข้อมูลเพื่อให้ได้ข้อมูล ต้องศึกษาให้ทัน 

คุณโอ๊ตกล่าวว่า ปัญหาบางอย่างคือการเรียนรู้ที่จะแก้ไขปัญหา การแก้ปัญหาที่เกิดจากตัวเรา ไม่มีใครที่จะสอนเรา เราจะต้องเรียนรู้และยอมรับกับตัวเอง ถ้าเราเจอปัญหาหลายๆ ครั้งซ้ำๆ กันเราก็จะได้เรียนรู้ปัญหา หาวิธีแก้ไขได้ ทำให้เรามีสติได้อย่างรวดเร็วมากยิ่งขึ้น  

หลังจากนั้น คุณโอ๊ตได้รับคำเชิญชวนจากรุ่นพี่ให้เป็นอาจารย์พิเศษ สอนที่คณะนิเทศศาสตร์ ในด้านวิชาการออกแบบและสร้างสรรค์รายการ โดยที่คุณโอ๊ตได้ใช้ประสบการณ์จากการทำงานจริงมาสอนนักศึกษา เป็นการสอนในเชิง Creative ทั้งการเขียนบทรายการ บทนิตยสาร ฯลฯ คุณโอ๊ตกล่าวว่า ในปัจจุบันเราทุกคนจะต้องมีการปรับตัว รู้ให้ลึกและต้องรู้ทุกรอบด้าน ต้องปรับตัวให้รวดเร็วรับกับปัจจุบัน ความคิดจะต้องถูกปรับเปลี่ยน ปรับตัว จะต้องรู้ทั้งด้านลึกและด้านกว้าง   

คุณโอ๊ตฝากทิ้งท้ายไว้ว่า สิ่งที่เราต้องทำคือการฝึก การทำให้แตกต่าง เราคิดว่าเราอาจจะเก่ง แต่จริงๆ แล้วเราอาจจะไม่เก่งที่สุดก็ได้ ซึ่งคุณโอ๊ตได้ให้ข้อคิดเกี่ยวกับการทำงานคือ ในช่วงที่เราเรียนจบและก้าวเข้าสู่การทำงานจริง เราควรแบ่งเป็น 3 ปีเพื่อเป็นการฝึกฝน ในปีแรกเป็นปีแห่งการเรียนรู้ ปีที่สองคือปีแห่งการแก้ไข และปีที่สามคือปีที่ต้องรู้ว่าเราจะออกแบบชีวิต ออกแบบการทำงานอย่างไร

.

.

.

.

#23 ‘แอโร่ซอฟ’ ช่วยผู้ประกอบการรายย่อยคนไทย เปิดโอกาสให้โปรโมทฟรีช่วงบอลยูโร 2020

???? #เฟส20ช่วยต่อไม่รอแล้ว

‘แอโร่ซอฟ’ ช่วยผู้ประกอบการรายย่อยคนไทย เปิดโอกาสให้โปรโมทฟรีช่วงบอลยูโร 2020

.


.

#22 ‘แอโร่ซอฟ’ ช่วยผู้ประกอบการรายย่อยคนไทย เปิดโอกาสให้โปรโมทฟรีช่วงบอลยูโร 2020

???? #เฟส22ช่วยต่อไม่รอแล้ว

‘แอโร่ซอฟ’ ช่วยผู้ประกอบการรายย่อยคนไทย เปิดโอกาสให้โปรโมทฟรีช่วงบอลยูโร 2020

.


.

#21 ‘แอโร่ซอฟ’ ช่วยผู้ประกอบการรายย่อยคนไทย เปิดโอกาสให้โปรโมทฟรีช่วงบอลยูโร 2020

???? #เฟส21ช่วยต่อไม่รอแล้ว

‘แอโร่ซอฟ’ ช่วยผู้ประกอบการรายย่อยคนไทย เปิดโอกาสให้โปรโมทฟรีช่วงบอลยูโร 2020

.


.

#20 ‘แอโร่ซอฟ’ ช่วยผู้ประกอบการรายย่อยคนไทย เปิดโอกาสให้โปรโมทฟรีช่วงบอลยูโร 2020

???? #เฟส20ช่วยต่อไม่รอแล้ว

‘แอโร่ซอฟ’ ช่วยผู้ประกอบการรายย่อยคนไทย เปิดโอกาสให้โปรโมทฟรีช่วงบอลยูโร 2020

.


.

#18_19 ‘แอโร่ซอฟ’ ช่วยผู้ประกอบการรายย่อยคนไทย เปิดโอกาสให้โปรโมทฟรีช่วงบอลยูโร 2020

???? #เฟส18_19ช่วยต่อไม่รอแล้ว

‘แอโร่ซอฟ’ ช่วยผู้ประกอบการรายย่อยคนไทย เปิดโอกาสให้โปรโมทฟรีช่วงบอลยูโร 2020

.


.

#16_17 ‘แอโร่ซอฟ’ ช่วยผู้ประกอบการรายย่อยคนไทย เปิดโอกาสให้โปรโมทฟรีช่วงบอลยูโร 2020

???? #เฟส16_17ช่วยต่อไม่รอแล้ว

‘แอโร่ซอฟ’ ช่วยผู้ประกอบการรายย่อยคนไทย เปิดโอกาสให้โปรโมทฟรีช่วงบอลยูโร 2020

.

.

#14_15 ‘แอโร่ซอฟ’ ช่วยผู้ประกอบการรายย่อยคนไทย เปิดโอกาสให้โปรโมทฟรีช่วงบอลยูโร 2020

???? #เฟส14_15ช่วยต่อไม่รอแล้ว

‘แอโร่ซอฟ’ ช่วยผู้ประกอบการรายย่อยคนไทย เปิดโอกาสให้โปรโมทฟรีช่วงบอลยูโร 2020

.

.

#12_13 ‘แอโร่ซอฟ’ ช่วยผู้ประกอบการรายย่อยคนไทย เปิดโอกาสให้โปรโมทฟรีช่วงบอลยูโร 2020

???? #เฟส12_13ช่วยต่อไม่รอแล้ว

‘แอโร่ซอฟ’ ช่วยผู้ประกอบการรายย่อยคนไทย เปิดโอกาสให้โปรโมทฟรีช่วงบอลยูโร 2020

.

.

#10_11 ‘แอโร่ซอฟ’ ช่วยผู้ประกอบการรายย่อยคนไทย เปิดโอกาสให้โปรโมทฟรีช่วงบอลยูโร 2020

???? #เฟส10_11ช่วยต่อไม่รอแล้ว

‘แอโร่ซอฟ’ ช่วยผู้ประกอบการรายย่อยคนไทย เปิดโอกาสให้โปรโมทฟรีช่วงบอลยูโร 2020

.

.

Click on Clear เที่ยงตรง ประจำวันที่ 24 มิถุนายน 2564

Click on Clear เที่ยงตรง ประจำวันที่ 24 มิถุนายน 2564 ประเด็น ยกระดับ ICU สนาม ภาวะผู้ป่วยโควิด-19 ล้นเตียง

คุยฟุ้งเรื่องฟุตบอลยูโร 2020 กับ "หยก THE STATES TIMES"
.

.


โปรเด็ด! เทหมดตัว มาสด้า 2 และ นิสสันอัลเมร่า ทักเลย! ตอบไว! แอดเลย @TheShopsTimes 
คลิก????https://lin.ee/vfTXud9
 

คุณโอ๊ค คณิต คล้ายแจ้ง | THE STUDY TIMES STORY EP.43

บทสัมภาษณ์ คุณโอ๊ค คณิต คล้ายแจ้ง วิทยาศาสตร์บัณฑิต (กายภาพบำบัด) เกียรตินิยมอันดับ 2 คณะกายภาพบำบัด มหาวิทยาลัยมหิดล
อาการเจ็บป่วยที่ดีขึ้นของคนไข้ คือกำลังใจของนักกายภาพบำบัด

คุณโอ๊คจบการศึกษา วิทยาศาสตร์บัณฑิต (กายภาพบำบัด) เกียรตินิยมอันดับ 2 คณะกายภาพบำบัด มหาวิทยาลัยมหิดล

แรงบันดาลใจและจุดเริ่มต้นในการเลือกเรียน ‘กายภาพบำบัด’ นั้น คุณโอ๊คเล่าว่า ตนเองเกิดในครอบครัวของข้าราชการ พ่อแม่รับราชการครูทั้งคู่ เริ่มแรกยังไม่รู้ตัวว่าตัวเองชอบอะไร ด้วยความที่เรียนสายวิทย์มา ลองยื่นคะแนนเข้าคณะกายภาพบำบัด มหาวิทยาลัยมหิดล โดยที่ยังไม่รู้ข้อมูลมากเท่าไหร่ เมื่อติดเลยหาข้อมูลเพิ่มมากขึ้น ก่อนตัดสินใจเข้าไปลองเรียน

คณะกายภาพบำบัดเรียน 4 ปี ปีแรกต้องไปรวมกันอยู่ที่วิทยาเขตศาลายา คุณโอ๊คขอพ่อแม่ไปอยู่หอ เนื่องจากปี 1 มีกิจกรรมค่อนข้างเยอะ ได้พบเจอเพื่อนต่างคณะ มีการปรับตัวจากมัธยมเข้าสู่มหาวิทยาลัย

ช่วงปี 2 แต่ละคณะจะแยกย้ายไปตามวิทยาเขตของตัวเอง ของคณะกายภาพเรียนที่ศิริราชสลับกับคณะกายภาพบำบัดตรงเชิงสะพานปิ่นเกล้า ได้เรียนกายวิภาค ผ่าอาจารย์ใหญ่เหมือนเรียนหมอ เพราะกายภาพบำบัดต้องรู้เรื่องกล้ามเนื้อ เส้นเอ็น กระดูก และมีวิชาด้านการแพทย์ต่างๆ ในช่วงปี 3-4 เริ่มได้ไปฝึกงาน ทั้งตามโรงพยาบาล คลินิก และชุมชน ซึ่งช่วงที่ได้ไปลงพื้นที่ช่วยเหลือคนตามชุมชน ทำให้คุณโอ๊ครู้สึกว่าอาชีพนี้มีคุณค่า ได้ช่วยเหลือคน ทำให้สุขภาพของพวกเขาดีขึ้น เพราะในบางพื้นที่ที่ไปการแพทย์สาธารณสุขยังเข้าไม่ถึง เกิดเป็นความรู้สึกปลื้มใจ

เทคนิคเรียนดีจนสามารถคว้าเกียรตินิยมของคุณโอ๊ค คือ พยายามตั้งใจขณะที่เรียนในคลาส ยกมือถามเมื่อสงสัย วิชาส่วนใหญ่เป็นปฏิบัติ เพราะฉะนั้นต้องเน้นการลงมือทำจริงๆ  ฝึกซ้อม และหมั่นทำบ่อยๆ นอกจากนี้ยังมีเพื่อนๆ ช่วยกันเรียน ช่วยกันติว 

นักกายภาพบำบัดเมื่อเรียนจบ 4 ปี ทุกคนต้องสอบใบประกอบโรคศิลป์ที่ถูกกำหนดมาของสภากายภาพบำบัด ใครที่สอบผ่านจึงจะสามารถออกไปสมัครงานตามที่ต่างๆ ได้ จะทำที่โรงพยาบาลของรัฐหรือเอกชนก็ได้ หรือหากเลือกเรียนต่อก็สามารถไปได้หลากหลายทาง ทั้งคณะกายภาพบำบัดในระดับปริญญาโท-เอก ในและต่างประเทศ หรือนำปริญญาวิทยาศาสตร์บัณฑิตไปต่อยอดเรียนคณะอื่น หรือเป็นผู้ประกอบการเปิดคลินิกเอง

ปัจจุบันคุณโอ๊คเป็นนักกายภาพบำบัด ภาควิชาเวชศาสตร์ฟื้นฟู ที่โรงพยาบาลศิริราช การทำงานต้องอาศัยประสบการณ์ และเรียนรู้จากรุ่นพี่ที่ทำงาน ต้องมีเทคนิคการสื่อสาร พูดเพื่อโน้มนาวใจคนไข้

คุณโอ๊คเล่าความประทับใจที่มีต่ออาชีพนักกายภาพบำบัดไว้ว่า อาชีพนักกายภาพบำบัดแตกต่างจากอาชีพอื่นๆ ตรงที่เหมือนได้ทำบุญตลอดเวลา เพราะผู้ที่มาโรงพยาบาลทุกคน ล้วนมาด้วยความทุกข์ ความเจ็บความปวด แต่นักกายภาพบำบัดมีส่วนช่วยให้บุคคลเหล่านั้นกลับบ้านไปด้วยความเจ็บปวดน้อยลง กลับไปใช้ชีวิตได้อย่างดีมากขึ้น การได้เห็นผู้ป่วยดีขึ้นทำให้รู้สึกปลื้มใจ 

คุณโอ๊คฝากทิ้งท้ายสำหรับใครที่มีความชื่นชอบในการได้ช่วยเหลือผู้ป่วย หรือการดูแลด้านสุขภาพ ชื่นชอบที่จะอยู่กับคน ชื่นชอบด้านการสื่อสาร ให้มองอาชีพนักกายภาพบำบัดเป็นอีกหนึ่งตัวเลือก นอกจากนี้ยังสามารถไปทำงานต่อยอดได้หลากหลาย ที่สำคัญคือได้บุญ
.

.

.

.


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top