Monday, 7 July 2025
WEEKEND NEWS

'อภิสิทธิ์' กล่าวเตือน 'อุ๊งอิ๊ง' ระวังเจอรัฐประหาร หากนิรโทษกรรม พา 'ทักษิณ' กลับเมืองไทย

วันนี้ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ช่องยูทูปสภาที่ 3 กรณีท่าทีของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ชู นางสาวแพทองธาร ชินวัตร บุตรสาว ขึ้นมาแล้วหวังว่าจะเกิดแลนด์สไลด์ และนางสาวแพทองธารจะเอานายทักษิณกลับบ้าน ทำให้มีการวิเคราะห์ว่าอาจจะมีการรัฐประหารเกิดใหม่อีกรอบว่า...

ต้องยอมรับว่าความกังวลตรงนี้มีแน่นอน เพราะเกิดความรู้สึกว่าในที่สุดพรรคเพื่อไทย ก็ยังก้าวไม่พ้นครอบครัวชินวัตร ทั้งนี้สมมติว่าพรรคเพื่อไทยชนะการเลือกตั้ง คนในครอบครัวมาดำรงตำแหน่งอีก ลำพังตรงนั้นก็ไม่เป็นไร ถ้าประชาชนเลือก เพียงแต่ว่าอย่าย้อนกลับไปสู่ พฤติกรรมหรือการกระทำที่เป็นลักษณะของการเอื้อประโยชน์ ให้ครอบครัว ให้พวกพ้องหรือไปทำอะไรที่ฝืนกับหลักธรรมาภิบาล หลักกฎหมาย

ซึ่งอาจจะรวมไปถึงแนวคิดเรื่องการนิรโทษกรรม ฉะนั้นไม่ได้อยู่ที่ตัวบุคคล ถ้าตัวบุคคลนั้นผ่านการเลือกตั้ง ซึ่งตนพูดเสมอว่าการได้รับชัยชนะจากการเลือกตั้งมา เป็นความยินยอมพร้อมใจของประชาชนให้เข้ามาผลักดันนโยบายหรือทำงานให้กับประเทศชาติ แต่ไม่ใช่ใบอนุญาตให้เข้ามาทำอะไรก็ได้ โดยเฉพาะถ้าเป็นเรื่องที่ขัดต่อหลักของกฎหมาย

นายอภิสิทธิ์ ยังตอบคำถามในประเด็นการรัฐประหาร ซึ่งตนเองไม่เห็นด้วย และไม่เอาระบอบประยุทธ์ แต่ท้ายที่สุดคนใต้กลับไม่เอา และสนับสนุนให้นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ ไปร่วมรัฐบาลว่า ตนก็พยายามนำเสนอว่า ถ้าความเห็นต่างตรงนี้ ยังถูกมองเป็นแค่เรื่องว่า เราเป็นศัตรูกันเราอยู่คนละข้างกัน สุดท้ายการเมืองก็จะเป็นแพ้แค่เรื่องเอาชนะอีกฝ่าย โดยวิธีการอะไรก็ได้ ซึ่งอาจจะเป็นการใช้เงิน ใช้อำนาจรัฐ

'แองเจลิน่า โจลี' เยือนชาวเมือง Lviv ในยูเครน ด้านชาวเน็ตเสียงแตก ถกถาม "เธอสมควรไปหรือ?!"

รอยเตอร์รายงานว่า นักแสดงฮอลลีวูด แองเจลินา โจลี เยือนเมืองลวีฟทางตะวันตกยูเครนเมื่อวันเสาร์ โดยไปที่สถานีเพื่อพบปะผู้คนที่พลัดถิ่นจากสงครามกับรัสเซีย ก่อนออกเดินทางในภายหลังหลังจากเสียงไซเรนโจมตีทางอากาศดังขึ้น

โจลี วัย 46 ปี เป็นทูตพิเศษของหน่วยงานผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ ซึ่งระบุว่า มีผู้อพยพมากกว่า 12.7 ล้านคนในช่วงสองเดือนที่ผ่านมา ซึ่งคิดเป็นประมาณ 30% ของประชากรก่อนสงครามในยูเครน

ในระหว่างการเยี่ยมชมสถานี โจลีได้พบกับอาสาสมัครที่ทำงานกับผู้พลัดถิ่น ซึ่งบอกกับเธอว่าจิตแพทย์ที่ปฏิบัติหน้าที่แต่ละคนได้พูดคุยกับคนประมาณ 15 คนต่อวัน อาสาสมัครหลายคนในสถานีเป็นเด็กอายุตั้งแต่ 2 ถึง 10 ปี

“พวกเขาคงช็อค ... ฉันรู้ว่าการบาดเจ็บส่งผลกระทบต่อเด็กอย่างไร ฉันรู้ว่ามีคนแสดงให้เห็นว่าพวกเขามีความสำคัญมากเพียงใด เสียงของพวกเขามีความสำคัญเพียงใด ฉันรู้ว่าการรักษานั้นเป็นอย่างไรสำหรับพวกเขา” โจลี กล่าว

มีอยู่ช่วงหนึ่งระหว่างที่เธอไปที่สถานี เธอจั๊กจี้เด็กหญิงตัวเล็ก ๆ ในชุดแดง ซึ่งหัวเราะออกมาด้วยความยินดี เธอยังถ่ายรูปร่วมกับอาสาสมัครและเด็กบางคนอีกด้วย

ต่อมา ไซเรนโจมตีทางอากาศเริ่มส่งเสียง โจลีและผู้ช่วยของเธอเดินออกจากสถานีอย่างรวดเร็วและขึ้นรถที่รออยู่

เมื่อเดือนที่แล้ว ในบทบาทของเธอในฐานะทูตพิเศษ โจลีได้ไปเยือนเยเมน ซึ่งผู้คนนับล้านต้องพลัดถิ่นจากสงคราม

แม้ว่าโจลีจะเดินทางไปยังพื้นที่เสี่ยงหลายแห่งแล้วในฐานะทูตพิเศษของหน่วยงานผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ แต่การเดินทางไปยูเครนของเธอทำให้เกิดประเด็นถกเถียงในวงกว้าง โดยเฉพาะในสื่อของโลกตะวันตก

เช่น BBC News ที่ไม่น่ามีดรามาก็มีดรามาเกิดขึ้นเพราะกรณีนี้ เช่น ท็อปเมนต์บอกกับ BBC News ว่า "แองเจลินา โจลีเริ่มการโปรโมทของเธออีกครั้ง" นั่น... ผมแก้ไขพาดหัวข่าวให้คุณแล้ว" แต่อีกท็อปเมนต์โต้ว่า "ขอบคุณ แองเจลินา โจลีสำหรับงานด้านมนุษยธรรมของคุณ พวกที่แสดงความเกลียดชังทุกคนในโพสต์นี้ทำอะไรเมื่อเร็ว ๆ นี้เพื่อช่วยยูเครนกันล้างล่ะ?"

'สหรัฐฯ' วางแผนใช้วีซ่าดึงดูด 'หัวกะทิรัสเซีย' เชื่อ!! หากสำเร็จจะเป็นผลดีต่อเศรษฐกิจในระยะยาว

เอเจนซีส์ - รัฐบาลสหรัฐฯ วางแผนที่จะใช้วีซ่าเข้าอเมริกาเพื่อดึงดูดบรรดานักวิทยาศาสตร์รัสเซียเชี่ยวชาญสาขาอวกาศและสาขาไอที คณิตศาสตร์ เซมิคอนดักเตอร์เข้ามาทำงานในสหรัฐฯ ท่ามกลางสงครามยูเครนที่เห็นคนรุ่นใหม่รัสเซียอพยพออกนอกประเทศเป็นจำนวนมาก

บลูมเบิร์ก สื่อสหรัฐฯ รายงานเมื่อวานนี้ (30 เม.ย.) ว่า สหรัฐฯ กำลังวางแผนต้องการได้ผู้เชี่ยวชาญพิเศษทางด้านวิทยาศาสตร์การแพทย์ อวกาศ และทางไอทีจากรัสเซียเข้ามาทำงานในสหรัฐฯ มากขึ้น โดยทำให้ข้อกำหนดวีซ่าเข้าสหรัฐฯ สำหรับคนเหล่านี้ง่ายขึ้น

อ้างอิงบลูมเบิร์กที่ได้ข้อมูลจากแหล่งข่าวที่เกี่ยวข้องกับการวางแผนทางยุทธศาสตร์ของรัฐบาลสหรัฐฯ โจ ไบเดน เปิดเผยว่า รัฐบาลสหรัฐฯ วางแผนต้องการปล้นมันสมองของประธานาธิบดีรัสเซีย วลาดิมีร์ ปูติน ในสาขาวิทยาศาสตร์ที่สำคัญ ทั้งอวกาศ เซมิคอนดักเตอร์ คณิตศาสตร์ และไอที โดยต้องการได้รับผลประโยชน์สูงสุดจากการไหลออกของพลเมืองรัสเซียที่มีการศึกษาท่ามกลางเศรษฐกิจรัสเซียเกิดปัญหาจากการถูกโลกตะวันตก รวมสหรัฐฯ คว่ำบาตรเนื่องมาจากสงครามยูเครน

ไบเดนต้องการใช้วีซ่าสหรัฐฯ เป็นตัวดึงดูดความสนใจคนเหล่านี้ด้วยการกำหนดให้เงื่อนไขการออกวีซ่าเข้าประเทศของคนกลุ่มนี้มีความยากลำบากลดลง สำหรับพลเมืองรัสเซียที่สำเร็จการศึกษาในระดับปริญญาโท ปริญญาเอก สาขาวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี อวกาศความมั่นคงทางไซเบอร์ คณิตศาสตร์ เซมิคอนดักเตอร์ และปัญญาประดิษฐ หรือ AI

แผนการให้วีซ่าแก่กลุ่มสมองไหลรัสเซียจะมีระยะเวลา 4 ปี โดยทีมยุทธศาสตร์ไบเดนเชื่อว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ จะได้รับอานิสงส์จากแผนนี้ในระยะยาว

ด้านนักเศรษฐศาสตร์ประจำมหาวิทยาลัยเพนซิลเวเนีย นิโคไล รุสซานอฟ (Nikolai Roussanov) แสดงความเห็นว่า “ในระยะยาวแล้วภาวะสมองไหลอาจกลายเป็นปัญหาใหญ่สำหรับรัสเซียเมื่อพิจารณาจากทางด้านเศรษฐกิจในอนาคต”

เกษตรฯ ทำไวทำจริง ตั้งองค์กรชุมชนประมงท้องถิ่นแล้ว 2,600 องค์กร ใน 50 จังหวัด

เกษตรฯ ทำไวทำจริง ตั้งองค์กรชุมชนประมงท้องถิ่นแล้ว 2,600 องค์กร ใน 50 จังหวัด พร้อมพัฒนาหมู่บ้านประมงท่องเที่ยวฟิชเชอร์แมนวิลเลจ รีสอร์ต 53 โครงการ ตั้งเป้าอนุรักษ์ทรัพยากรสัตว์น้ำและสร้างรายได้อย่างยั่งยืน 

นายอลงกรณ์ พลบุตร ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในฐานะประธานคณะกรรมการฟื้นฟูและพัฒนาศักยภาพการประมงไทย เปิดเผยวันนี้ (1 พ.ค) ภายหลังการประชุม

คณะกรรมการฯ ครั้งที่ 2/2565ว่า ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์มีนโยบายส่งเสริมการมีส่วนร่วมของชุมชนประมงให้เกิดการรวมกลุ่มกันอย่างเข้มแข็ง เพื่อให้เกิดการบริหารจัดการทรัพยากรประมงอย่างยั่งยืนและเป็นการส่งเสริมการพัฒนาอาชีพเพิ่มรายได้ให้ครอบครัว 

กระทรวงเกษตรและสหกรณ์โดยกรมประมงจึงได้ดำเนินการโครงการพัฒนาอาชีพและส่งเสริมความเข้มแข็งของชุมชนประมงระหว่างปี 2563-2565 โดยจัดตั้งองค์กรชุมชนประมงท้องถิ่นแล้ว จำนวน 2,600 องค์กร มีการบริหารจัดการร่วมกัน ส่งเสริมการอนุรักษ์ ฟื้นฟู การบริหารจัดการทรัพยากรสัตว์น้ำแบบมีส่วนร่วม เพิ่มผลผลิตสัตว์น้ำ เพื่อสร้างความมั่นคงทางด้านอาหารให้กับชุมชน การส่งเสริมการแปรรูปสัตว์น้ำ เพิ่มมูลค่าผลิตภัณฑ์สินค้าประมงและส่งเสริมด้านการตลาดเพื่อจำหน่ายสินค้า รวมถึงพัฒนาต่อยอดกิจกรรมจากอาชีพการประมงทำให้เกิดมั่นคงในการประกอบอาชีพประมง ชุมชนเข้มแข็งสามารถพึ่งพาตนเองได้  

โดยในปีงบประมาณ 2565 กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้อนุมัติโครงการพัฒนาอาชีพและเสริมสร้างความเข้มแข็งของชุมชนประมง ปีงบ 2565 (องค์กรชุมชนประมงท้องถิ่น) เพื่อสร้างรายได้ความมั่นคงในการประกอบอาชีพการทำประมง ให้กับองค์กรชุมชนประมงท้องถิ่นในพื้นที่ 50 จังหวัด (พื้นที่ 22 จังหวัดชายทะเล และในพื้นที่ 28 จังหวัดแหล่งน้ำจืด) รวม 200 ชุมชน ซึ่งผ่านการคัดเลือกจากคณะกรรมการขับเคลื่อนนโยบายกรมประมงตามเป้าหมายที่ได้รับจัดสรรครบเรียบร้อยแล้ว เป็นองค์กรชุมชนประมงท้องถิ่น ด้านชายฝั่ง 81 องค์กร ด้านประมงน้ำจืด 83 องค์กรและด้านแปรรูป 36 องค์กรๆ ละ 100,000 บาท เพื่อให้ชุมชนนำไปดำเนินการพัฒนาอาชีพด้านประมงตามความต้องการและสอดคล้องกับบริบทของแต่ละชุมชน กิจกรรมประกอบด้วย 

1.) กิจกรรมพัฒนาอาชีพประมง อาทิ การปรับเปลี่ยนเครื่องมือที่เหมาะสมและถูกกฎหมาย การสนับสนุนอุปกรณ์ซ่อมแซมเครื่องมือทำการประมงและเรือประมง การส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ การผลิตอาหารสัตว์น้ำเพื่อจำหน่าย การเลี้ยงปลาในกระชังเพื่อจำหน่ายและแปรรูป 

2.) กิจกรรมเพิ่มผลผลิตสัตว์น้ำ อาทิ การพัฒนาแหล่งอาศัยสัตว์น้ำ การสร้างแปลงอาคารสัตว์น้ำธรรมชาติ การจัดตั้งและพัฒนาธนาคารสัตว์น้ำ (ธนาคารปูม้า) การปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำเพื่อเพิ่มผลผลิตสัตว์น้ำลงสู่แหล่งน้ำธรรมชาติ การจัดตั้งโรงเพาะฟักพันธุ์สัตว์น้ำเคลื่อนที่ (Mobile hatchery) จัดสร้างกระชังอนุบาลสัตว์น้ำก่อนปล่อยลงสู่แหล่งน้ำธรรมชาติ 

3.) เพิ่มมูลค่าสัตว์น้ำ อาทิ การพัฒนารูปแบบการแปรรูปสัตว์น้ำตามมาตรฐานและความปลอดภัยต่อผู้บริโภค การส่งเสริมการตลาดเพื่อจัดจำหน่ายสินค้า 

4.) การถ่ายทอดเทคโนโลยีและเพิ่มทักษะการทำการประมง อาทิ การอบรมให้ความรู้การทำการประมงถูกกฎหมายและศึกษาดูงานแลกเปลี่ยนองค์ความรู้จากพื้นที่ต้นแบบ 

และ 5.) กิจกรรมอื่นๆ เช่น ซ่อมแซมอาคารที่ทำการประมง ปรับปรุงแพชุมชน เป็นต้น ซึ่งเมื่อนับรวมการดำเนินงานตั้งแต่ปี 2563 - ปี 2565 ได้ดำเนินการจัดสรรงบประมาณในการส่งเสริมและพัฒนาอาชีพด้านประมงให้กับชุมชนประมงท้องถิ่น รวม 594 ชุมชน คิดเป็นสัดส่วนประมาณร้อยละ 22 จากองค์กรชุมชนประมงท้องถิ่นทั้งหมด เป็นเงินอุดหนุนทั้งสิ้น 59,400,000 บาท 

ซึ่งผลจากการดำเนินงานพัฒนาอาชีพด้านประมงและส่งเสริมด้านการอนุรักษ์ฟื้นฟูทรัพยากรสัตว์น้ำ โดยการบริหารจัดการร่วมกันของชุมชน เมื่อเปรียบเทียบก่อนและหลังดำเนินการ พบว่า ชาวประมงมีความพึงพอใจกับทรัพยากรสัตว์น้ำที่มีปริมาณเพิ่มขึ้น โดยในปี 2563 ชาวประมงท้องถิ่นสามารถจับสัตว์น้ำได้เพิ่มขึ้นร้อยละ 3.71 และปี 2564 สามารถจับสัตว์น้ำได้เพิ่มขึ้นร้อยละ 5.13 และจากการสนับสนุนการจัดซื้อวัสดุอุปกรณ์ ทำให้ต้นทุนในการประกอบอาชีพลดลง ศักยภาพในการทำประมงเพิ่มขึ้น และสามารถต่อยอดกิจกรรมในด้านอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับอาชีพประมงได้ ส่งผลให้องค์กรชุมชนประมงท้องถิ่น เกิดความเข้มแข็ง และมีรายได้จากการประกอบอาชีพการทำประมงได้มั่นคงยิ่งขึ้น 

นายอลงกรณ์กล่าวต่อไปว่า นอกจากนี้ ที่ประชุม คณะกรรมการฯ ยังได้รับทราบรายงานอื่นๆ ดังนี้ 

1.) ความก้าวหน้าการดำเนินงานของคณะอนุกรรมการและคณะทำงาน6คณะ ได้แก่ คณะอนุกรรมการพัฒนาประมงพื้นบ้าน ประมงพาณิชย์ ประมงนอกน่านน้ำ และประมงเพาะเลี้ยงเช่น แนวทางช่วยเหลือโดยการอุดหนุนน้ำมันให้กับประมง, แนวทางการจัดสรรวันทำการประมง, การเตรียมความพร้อมระบบการขนส่งทางรถไฟของสินค้าสัตว์น้ำ เป็นต้น 

2.) การฟื้นฟูอุตสาหกรรมกุ้งไทยให้ได้ผลผลิต 4 แสนตัน ภายในปี 2566 การรับรองการปฏิบัติตามมาตรการเพื่อป้องกันการปนเปื้อนเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ในกระบวนการผลิตเพื่อส่งออก 

โดยประธานการประชุมฯ ได้มอบหมายให้ฝ่ายเลขานุการคณะอนุกรรมการฟื้นฟูและพัฒนาศักยภาพการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ นัดหมายหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ประกอบด้วย ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร สมาคมผู้เพาะเลี้ยง อุตสาหกรรมประมง และหน่วยงานของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เพื่อประชุมหารือในแนวทางการจัดระบบสินเชื่อและแหล่งทุน เพื่อฟื้นฟูอุตสาหกรรมกุ้งไทยให้ได้ผลผลิต 4 แสนตัน ภายในปี 2566 

3.) ความก้าวหน้าโครงการฟิชเชอร์แมนวิลเลจรีสอร์ต (Fisherman’s Village Resort) มีการส่งเสริมชุมชนประมงชายฝั่งที่มีศักยภาพ 22 จังหวัด สามารถสร้างแหล่งท่องเที่ยวได้ 53 แห่ง เป็นการพัฒนาอาชีพและส่งเสริมความเข้มแข็งชุมชนประมงด้วย โดยให้นำแนวทางการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ (wellness tourism) มาประยุกต์ใช้ และให้ส่งเสริมการตลาดแบบออนไลน์ (Online Market) เพื่อช่วยสนับสนุนการขายและการประชาสัมพันธ์ ซึ่งจะสร้างรายได้ให้กับหมู่บ้านประมงมากขึ้น 

4.) ความก้าวหน้าของคณะทำงานส่งเสริมและพัฒนาการกระจายสินค้าประมงจากผู้ผลิตถึงผู้บริโภค ในการขยายช่องทางการกระจายสินค้าประมงผ่านศูนย์กระจายสินค้าสหกรณ์ และการเพิ่มช่องทางการค้าออนไลน์บนแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซต่างๆ 

5.) ความก้าวหน้าโครงการนำเรือออกนอกระบบ 

6.) การสาธิตเรือฝึกปลาลัง ณ ท่าเทียบเรือศูนย์พัฒนาการประมงแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (South East Asia Fisheries Development Center : SEAFDEC) 

7.) ความก้าวหน้าการดำเนินการจัดทำร่างกฎหมายลำดับรองประกอบพระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติ พ.ศ. 2562 มาตรา 65 กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช 

‘พิธา’ นำทีม ‘แรงงานก้าวไกล’ ร่วมขบวนหน้าทำเนียบ ชี้!! 136 ปีมีเเต่ความล้าหลัง คุณภาพชีวิตเเรงงานไม่คืบ

‘พิธา’ นำทีม ส.ส.สัดส่วนแรงงาน พรรคก้าวไกล ร่วมเดินขบวนหน้าทำเนียบรัฐบาล เพื่อเรียกร้องสิทธิ ‘วันเเรงงานสากล’ ประกาศ ‘ก้าวไกล’ พร้อมต่อสู้เพื่อเรียกร้องสิทธิของผู้ใช้เเรงงานและผลักดันรัฐสวัสดิการ พร้อมเชิญชวนร่วมแสดงความเห็นร่างกฎหมายแรงงานสัมพันธ์ ฉบับก้าวไกล เพื่อสนับสนุนสิทธิการรวมตัว ยกระดับคุณภาพชีวิตผู้ใช้เเรงงานทุกระบบ  

พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล และ ชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรค พร้อมด้วย สุเทพ อู่อ้น, ทวีศักดิ์ ทักษิณ ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ และ จรัส คุ้มไข่น้ำ ส.ส.ชลบุรี เขต 6 ซึ่งทั้งหมดเป็น ส.ส.ที่ขับเคลื่อนเรื่องสิทธิเเรงงาน พรรคก้าวไกล ร่วมกันเดินขบวนไปพร้อมกับกลุ่มสหภาพแรงงานที่มารวมตัวกันหน้าทำเนียบรัฐบาล เพื่อเรียกร้องสิทธิ เนื่องในวันเเรงงานแห่งชาติ และวันเเรงงานสากล 1 พฤษภาคม 2565 

พิธา กล่าวว่า ถึงเวลาที่พวกเราต้องสู้ในเรื่องรัฐสวัสดิการ ซึ่งจะไปสู่จุดนั้นได้ต้องเริ่มจากการลดงบประมาณที่ไม่จำเป็นลง ไม่ว่างบประมาณด้านความมั่นคง หรืองบที่เกี่ยวกับสถาบันพระมหากษัตริย์ที่ตรวจสอบไม่ได้ เพื่อนำมาสร้างรัฐสวัสดิการให้กับประเทศไทย พรรคก้าวไกล เสนอให้มีเบี้ยบำนาญเพื่อคนหลังวัยเกษียณถ้วนหน้า 3,000 บาท เสนอให้มีการจ้างงานและระบบพัฒนาคนทำงานเพื่อไปดูเเลผู้สูงอายุ เพราะด้วยงบประมาณก้อนนี้ ทำให้คนอีกจำนวนมากที่ต้องยอมออกจากงานไปดูแลพ่อแม่หรือผู้สูงอายุที่บ้านได้รับศักยภาพของเขากลับคืนมาแล้วออกไปทำงานได้อีกครั้ง 

‘เอกเมธ’ ผู้สมัคร ส.ก.บางซื่อ ชู ‘สร้างแรงงานทักษะเฉพาะทาง’ ปรับถนนสายไม้เป็นแหล่งเรียนรู้งานฝีมือช่างไม้ ผ่านระบบออนไลน์

นายเอกเมธ กมลวรานนท์ ผู้สมัคร ส.ก. เขตบางซื่อ หมายเลข 1 พรรคพลังประชารัฐ ลงพื้นที่รับฟังความต้องการและเสนอแนวทางผลักดัน คอร์สเรียน “งานฝีมือช่างไม้” ผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ โดยความร่วมมือกับชุมชน ซอยประชานฤมิตร เนื่องในวันแรงงานแห่งชาติ

นายเอกเมธ กล่าวว่า ภูมิปัญญา งานฝีมือของช่างไม้ ในซอยประชานฤมิตร หรือ ถนนสายไม้บางโพ เขตบางซื่อ กำลังจะหายไปเนื่องด้วยเครื่องมือและเทคโนโลยีสมัยใหม่ เข้ามามีบทบาท ในอุตสาหกรรมงานไม้ ประกอบกับ ความต้องการของพี่น้องในชุมชนซอยประชานฤมิตร ที่อยากจะให้ ถนนสายไม้ เป็นเสมือนแหล่งรวมองค์ความรู้และผู้เชี่ยวชาญเรื่องไม้ของประเทศไทย จึงได้นำเสนอ คอร์สการสอนงานฝีมือช่างไม้ ของชาวประชานฤมิตร ผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ เพื่อเป็นการนำภูมิปัญญาความรู้เรื่องไม้สู่โลกออนไลน์ ให้แก่ผู้ที่มีความสนใจทั่วประเทศและนำมาซึ่งชื่อเสียงและเป็นที่รู้จักมากขึ้นในนามถนนสายไม้แห่งเดียวในประเทศไทย

106 - 200 - 202 'วินาที' ที่แม้แต่จะสวดมนต์ให้จบบท...ก็ยังยาก!!

106 วินาที ถึงเบอร์ลิน💥

200 วินาที ถึงปารีส💥

202 วินาที ถึงลอนดอน💥

นี่คือระยะเวลาที่ระเบิดนิวเคลียร์จากคาลินินกราด (รัสเซีย) จะเดินทางถึงเมืองหลวงของประเทศเป้าหมาย หากมันถูกยิงออกไปจริงๆ...

เมื่อวันศุกร์ที่ 29 เมษายนที่ผ่านมา ทีวีช่อง Russia 1 ได้แสดงภาพกราฟฟิกให้ผู้ชมเห็นว่า หากรัสเซียตัดสินใจยิงขีปนาวุธติดหัวรบนิวเคลียร์ไปยังประเทศที่ถูกระบุว่าให้การสนับสนุนอาวุธแก่ยูเครนอย่างชัดเจนได้แก่ อังกฤษ, เยอรมัน และฝรั่งเศส ขีปนาวุธต้องใช้เวลาเดินทางเท่าไรจึงจะถึงเป้าหมายทั้ง 3 ประเทศ

รายการดังกล่าวเป็นการสนทนาระหว่าง Olga Skabeeva พิธีกรหญิงชื่อดังชาวรัสเซียผู้ถูกระบุว่าเป็นกระบอกเสียงคนสำคัญของปูตินกับ Alexei Zhuravlev รองประธานสภาดูม่าของรัสเซีย และ Yevgeny Popov พิธีกรร่วมอีกคนของรายการ

ในบทสนทนามีช่วงหนึ่งที่พิธีกรสาวนำเอาภาพกราฟฟิกประกอบการสนทนาแสดงถึงระยะเวลาการเดินทางของขีปนาวุธติดหัวรบนิวเคลียร์จากฐานยิงในเมืองคาลินินกราด ดินแดนในปกครองของรัสเซียที่ตั้งอยู่ใจกลางทวีปยุโรป ไปยังเมืองใหญ่สามเมืองคือ เบอร์ลิน, ปารีส และลอนดอน

โดยในภาพประกอบมีตัวเลขระยะเวลาการเดินทางของขีปนาวุธไปยังเป้าหมายว่าต้องใช้เวลากี่วินาที

Skabeeva พูดว่า ..

ขีปนาวุธ Sarmat (ซาร์มัต) จะออกจากคาลินินกราดไปถึงเบอร์ลินใน 106 วินาที ไปถึงปารีสใน 200 วินาทีและไปถึงอังกฤษ (ลอนดอน) ใน 202 วินาที 

"ฉันอยากให้พวกเขานำภาพนี้ไปเผยแพร่ แล้วจดเอาไว้...คุณควรนับเวลาทุกวินาที แล้วก็กล่าวสวัสดี ทุกอย่างเดินทางมาถึงแล้ว..."

ส่วน Zhuravlev กล่าวว่า...

"ก่อนนี้เราทดสอบขีปนาวุธข้ามทวีป Rs-28 Sarmat ประสบความสำเร็จด้วยดี แต่สหรัฐกลับบอกว่านี่ไม่ใช่เรื่องที่น่ากลัว"

'กรณ์' เปิดความในใจถึง 'กอร์ปศักดิ์' ประธานยุทธศาสตร์พรรคกล้า อาสาร่วมมือแก้ปัญหาวิกฤตเศรษฐกิจประเทศไทยอีกครั้ง

เมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม 2565 นายกรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรคกล้า โพสต์ความในใจถึง นายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ อดีตรองนายกรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจ ที่เข้าร่วมพรรคกล้าและมีการเปิดตัวในงานประชุมใหญ่ของพรรคเมื่อวันที่ 30 เมษายน ที่ผ่านมา ว่า ยินดีต้อนรับมืออาชีพด้านเศรษฐกิจตัวจริง พรรคกล้ามองว่าความท้าทายสูงสุดตอนนี้หนีไม่พ้นเรื่องปากท้อง เรื่องเศรษฐกิจ ประเทศไทยต้องแก้ปัญหาของแพง-รายได้ฝืด-หนี้สูง เราอยู่ในช่วงดอกเบี้ยโลกขาขึ้น สงครามและโควิดบีบการค้าระหว่างประเทศ และวัตถุดิบสำคัญของแทบทุกอุตสาหกรรมขาดแคลนและราคาแพง 

หัวหน้าพรรคกล้า กล่าวว่า ในสถานการณ์ปัจจุบัน เราต้องมียุทธศาสตร์และนโยบายที่ชัดเจน ฐานะการคลังเรายังดี แต่เราต้องเปลี่ยนวิธีใช้เงินกู้และเงินงบประมาณของรัฐ ซึ่งพรรคกล้าเราเสนอว่าต้องเป็นรัฐบาลกู้แต่ต้องเพื่อเอกชนเป็นผู้ได้ใช้ เราต้องมียุทธศาสตร์ภาคอุตสาหกรรมใหม่ที่จะนำไปสู่การลงทุนครั้งใหญ่ในประเทศ เราต้องส่งเสริมการประยุกต์ใช้เทคโนโลยี และนวัตกรรม เราต้องลงทุนเพื่อสร้างอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ของไทยให้เป็นแนวหน้าของโลก เพื่อสร้างงานคุณภาพให้คนรุ่นใหม่ ทั้งหมดนี้ไม่สามารถแก้ทุกปัญหาเฉพาะหน้าให้กับประเทศและพี่น้องประชาชนได้ ระหว่างทางเราต้องตอบโจทย์ปัญหาของแพง ปุ๋ยแพง ภาระหนี้สิน และการเข้าถึงตลาดสินค้าเกษตรไทย

'สามารถ' ฉะกลับ 'พิธา' ย้อนดูลูกพรรคตัวเอง ยัน!! 'ประวิตร' ประวัติใสสะอาด เหมาะสมเป็นนายกฯ

วานนี้ (30 เม.ย.) นายสามารถ เจนชัยจิตรวนิช อดีตผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวถึงกรณีที่ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล​ กล่าวพาดพิง พล.อ.ประวิตร วงษ์​สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ว่า ให้ชี้แจงเรื่องฉาวให้เสร็จก่อนจะมาเป็นผู้นำประเทศ ส่วนตัวรู้สึกผิดหวังกับ นายพิธา ซึ่งถือเป็นนักการเมืองรุ่นใหม่ การที่นายพิธาพูดแบบนั้นไม่ใช่เรื่องจริง และ พล.อ.ประวิตร ไม่ได้ถูกศาลตัดสินโทษอย่างที่นายพิธาพูดแม้แต่เรื่องเดียว ไม่ว่าจะเป็นเรื่องมูลนิธิป่าร้อยต่อ 5 จังหวัดนั้น ตนเคยชี้แจงไปแล้วว่า คนที่ก่อตั้งมูลนิธิเป็นคนที่ใหญ่กว่า พล.อ.ประวิตร มาก โดยส่วนตัวเชื่อว่า คนทั้งประเทศรู้ และมองว่า การที่ นายพิธา พยายามโจมตีนั้นหวังอะไรเชื่อว่าชาวบ้านรู้ดี อย่าลืมว่าประเทศไทยมีกฎหมายอาญา ซึ่งหน้าแปลกใจที่นายพิธา กลับเพิกเฉยต่อ ส.ส.ในพรรคของตัวเองที่กระทำผิด จึงเหมือนเป็นการให้ท้าย ส.ส. คนดังกล่าว

ส่วนเรื่องการค้ามนุษย์ พล.อ.ประวิตร ก็ไม่ได้เกี่ยวข้อง จึงไม่จำเป็นต้องชี้แจงใดๆ ที่ผ่านมา พล.อ.ประวิตร มีแต่ถูกใส่ร้ายป้ายสี และประเด็นที่นายพิธา บอกว่า นายกรัฐมนตรีต้องเป็น ส.ส. นั้นไม่ทราบว่านายพิธา ไปแก้รัฐธรรมนูญมาตรา​ 158 วรรค 3 แล้วหรืออย่างไร​ ถ้ายังไม่แก้ ขอเตือน นายพิธา ให้ทำตามกฎหมายบ้านเมือง อย่าทำตามใจตัวเองเพราะมันจะทำให้เกิดความแตกแยกในสังคม​

'ศักดิ์เจียม' ด้อยค่า 'คำผกา' รับจ้างหากินไปวันๆ หลังพิธีกรสาวแหกปากเชียร์แม้ว แต่ไม่แตะ 112

วานนี้ (30 เม.ย. 65) นายสมศักดิ์ เจียมธีรสกุล อดีตคณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ผู้ต้องหาคดีมาตรา 112 ปัจจุบันลี้ภัยที่ประเทศฝรั่งเศส โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก ว่า "ผมไม่อยากเล่นงานคุณคำผกา เพราะบอกตรงๆ ว่าคุณคำผกาก็เหมือนพวกรับจ้างหากินไปวันๆ น่ะครับ เป็นพวกไม่มีน้ำหนักเท่าไร เหมือนรับจ้างเขาก็ต้องพูดแบบที่เขาชอบ แต่คุณคำผกาก็เบาๆ ไว้หน่อยก็ดีครับ น่าเสียดายที่ลดคุณค่าตัวเองลงทุกวัน"

โพสต์ของนายสมศักดิ์ สืบเนื่องจาก นางสาวลักขณา ปันวิชัย หรือ แขก คำ ผกา พิธีกรในสถานีวอยซ์ทีวี ออกมาเคลื่อนไหวในโซเชียลฯ ปกป้องนายทักษิณ ชินวัตร และสนับสนุนพรรคเพื่อไทย หลังมีผู้วิจารรณ์นายทักษิณ และพรรคเพื่อไทย ว่า "ฐานเสียงเพื่อไทยที่แกล้งมองไม่เห็นปัญหาของ 112 และไม่เคยแตะหรือพูดถึงมันเลย ก็ไม่ต่างอะไรกับสลิ่มถ้ามีเลือกตั้งรอบนี้ก็เหมือนแอบเข้าคูหากาเพื่อไทยด้วยใจจำยอม"


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top