คุณเป็นผู้นำที่ควรเดินตามหรือเปล่า?
การเป็น ‘ผู้นำ’ ไม่ได้ขึ้นอยู่กับชื่อ ตำแหน่ง ที่อาจมีประดับไว้บนนามบัตร เพราะสิ่งเหล่านั้นอาจยังไม่ได้สะท้อนถึง ความเป็นผู้นำที่ครบถ้วนทั้งหมด
วันนี้ The States Times ขอยกตัวอย่าง 5 สุดยอดผู้นำ ที่ประกอบร่างคุณสมบัติของความเป็นผู้นำเข้าด้วยกัน จากคนธรรมดา กลายเป็นคนที่ประสบความสำเร็จบนทางเดินของตนเอง จนเราเองก็อยากเดินตามหลังพวกเขาเหล่านี้ !!
1.) โกโก ชาแนล (Coco Chanel) ผู้นำความสำเร็จ กุญแจที่เป็นหัวใจสำคัญของ ‘นักสู้’
ในอดีต โกโก ชาแนล เคยเป็นเด็กที่ถูกครอบครัวทอดทิ้งให้อยู่ในบ้านเด็กกำพร้า ถูกเลี้ยงโดยแม่ชี ซึ่งหวังจะให้เธอเป็นช่างตัดเย็บ แต่ด้วยความใฝ่ฝันของเธอ จึงมุ่งหน้าสู่การเป็นนักร้องคาบาเร่ต์ แต่ใครจะรู้ว่านั่นแหละ ที่เป็นจุดเริ่มต้นของแบรนด์ที่ประสบความสำเร็จระดับโลกอย่าง ‘Chanel’
มาดูกันว่าเธอมีแนวคิดอย่างไร ที่ทำให้กลายเป็นเจ้าของแบรนด์แฟชั่นสุดหรูที่ถือกำเนิดมาแล้วมากกว่า 100 ปี
- กล้าที่จะเดินตามความฝัน เธอเดินทางจากบ้านเด็กกำพร้าสู่เมืองมูแล็ง ออกไล่ตามความฝันของตัวเอง เพื่อเป็นนักร้องคาบาเร่ต์ แม้ว่าเธอจะไม่ประสบความสำเร็จในการเป็นนักร้อง แต่การล้มเหลวครั้งนี้ ก็ทำให้เธอได้พบกับนายทุนคนหนึ่ง ที่สนับสนุนให้เธอเปิดร้านขายเสื้อผ้าของตัวเองในปารีส จนนำมาซึ่งโอกาสที่ทำให้ได้เปิดร้านขายเสื้อผ้า อันเป็นจุดเริ่มต้นของแบรนด์ Chanel
- เชื่อมั่นในตัวเอง เธอเป็นคนที่มีความเชื่อมั่นในตัวเองสูง กลายเป็นข้อดีที่ทำให้คนอื่นเชื่อในสิ่งที่เธอทำ เมื่อเธอนำเสนอชุดสูทที่ทำจากผ้ายืด มีแต่คนวิจารณ์งานของเธอในแง่ลบ แต่เธอเชื่อว่าเสื้อผ้าจะต้องใส่สบาย และรับกับสรีระของคนได้ดีมาตัดเย็บ ซึ่งเธอเคยพูดไว้ว่า “ความหรูหราสง่างาม จะต้องมาพร้อมกับการสวมใส่ที่สบาย” เสื้อผ้าของเธอได้รับการตอบรับอย่างดีในภายหลัง แสดงให้เห็นถึงการยึดมั่นในความคิด ถึงแม้จะต้องเสี่ยงหรือแหกกฎเกณฑ์ของสังคมบ้างก็ตาม
- มีความคิดสร้างสรรค์ รู้จักเอาปัญหาหรือสิ่งต่าง ๆ รอบตัวมาประยุกต์ใช้ แฟชั่นหลายอย่างที่สร้างขึ้นนั้นมาจากการหยิบเอาสิ่งที่เห็นรอบตัวมาปรับ เช่น เสื้อผ้าของชายคนรัก นำมาประยุกต์เป็นชุดของผู้หญิงที่ทะมัดทะแมง และในสมัยนั้นกระเป๋าผู้หญิงยังไม่มีสายสะพาย ต้องถือไว้ตลอดเวลา ทำให้เกิดแรงบันดาลใจที่จะออกแบบ เพื่อเพิ่มความสะดวก ซึ่งกลายเป็นจุดเริ่มต้นของกระเป๋าผู้หญิงที่มีสายสะพายมาจนถึงปัจจุบัน
2.) ผู้พันแซนเดอส์ / ฮาร์แลนด์ ดี แซนเดอร์ส (Colonel Harland David Sanders) ผู้นำที่ไม่ยอมแพ้ต่ออุปสรรค แม้ล้มเหลวมาเกือบทั้งชีวิต
ช่วงเวลากว่า 75 ปีที่ KFC เป็นหนึ่งในแบรนด์อาหารจานด่วนที่โด่งดัง และเติบโตเร็วที่สุดในโลก ถือกำเนิดโดย ‘ฮาร์แลนด์ แซนเดอร์ส’ หรือที่ทุกคนรู้จักกันในนาม ‘ผู้พันแซนเดอร์ส’ ชายผู้มีหนวดเครา/ผมสีขาว ท่าทางใจดี มาพร้อมเอกลักษณ์สวมสูทสีขาว ซึ่งเบื้องหลังความสำเร็จและกว่าจะมาเป็น KFC นั้น เขาต้องฝ่าฝันอุปสรรค และล้มเหลวมานับครั้งไม่ถ้วน แต่ก็สะสมความล้มเหลวมาผสมผสานกับแนวคิดและมุมมองการตลาดที่ลับจนแหลมคมขึ้นเรื่อย ๆ
- ความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ ผู้พันแซนเดอร์สนั้นให้ความสำคัญกับการช่วยเหลือผู้อื่นเสมอ และไม่ได้มองว่า ‘เงินคือสิ่งที่สำคัญที่สุด’ ในการดำเนินธุรกิจ แต่เขามองว่าการช่วยเหลือผู้คนต่างหากที่เป็นสิ่งสำคัญ
- ความเท่าเทียม ผู้พันแซนเดอร์สปฏิบัติกับทุกคนเสมือนคนในครอบครัวไม่ว่าจะเป็นพนักงานหรือลูกค้า โดยผู้พันเคยกล่าวไว้ว่า “สำหรับผมไม่ว่าจะเป็นเศรษฐีพันล้าน หรือคนขับรถบรรทุก แต่เมื่อพวกเขานั่งลงบนโต๊ะเดียวกันแล้ว พวกเขาก็คือคนที่อยากกินอาหารดี ๆ สักมื้อ” และไม่ว่าใครที่ต้องการจะรับประทานไก่ทอดของเขา นั่นก็คือ คนที่ต้องการรับประทานอะไรดี ๆ เหมือนกัน
- การควบคุมคุณภาพเป็นสิ่งสำคัญ ผู้พันแซนเดอร์สเชื่อมั่นในรสชาติ และคุณภาพของไก่ทอดของตัวเองว่า ดีที่สุด และอยากจะแบ่งปันสิ่งที่ดีที่สุดให้กับคนรอบข้างอยู่เสมอ ดังนั้นการควบคุมคุณภาพจึงถือเป็นหลักในการทำธุรกิจที่เขายึดถือมาตลอด
- จิตวิญญาณนักสู้ ไม่ว่าจะเจอปัญหาและอุปสรรคสักเท่าไหร่ แต่ผู้พันแซนเดอร์สไม่คอยยอมแพ้ และยังพยายามสู้ต่อเพื่อความสำเร็จอยู่เสมอ เช่นเดียวกับธุรกิจของเขาที่ไม่ว่าจะต้องเจอปฏิเสธกี่ครั้ง สุดท้ายก็พยายามจนประสบความสำเร็จในที่สุด
3.) อีลอน มัสก์ ผู้นำอัจฉริยะ ด้านนวัตกรรมของโลก
มหาเศรษฐีอันดับหนึ่งของโลก ผู้ก่อตั้ง Tesla และ SpaceX ที่เปลี่ยนโลกด้วยเทคโนโลยียุคใหม่ ผลักดันจนโลกต้องเอนเอียงมาใส่ใจรถยนต์ไฟฟ้า และจุดประกายความหวังของการเดินทางสู่ห้วงอวกาศของมนุษย์ จนมักถูกเรียกเทียบว่าเป็นไอร่อนแมนแห่งโลกความจริง ว่าแต่ภายใต้รอยหยักในสมองเขา มีแนวคิดใดที่ผลักให้เขากลายเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมในยุคนี้ แถมยังเป็นมหาเศรษฐีได้ตั้งแต่วัย 23 ปี
ความสำเร็จสร้างขึ้นเองได้ เขามักจะบอกว่า “ความสำเร็จไม่มีวันมาได้มาง่าย ๆ หากไม่ลงมือทำ” ทุกอย่างต้องสำเร็จหากมีการลงมือทำ
- กล้าที่จะเสี่ยง เพราะหากสำเร็จแล้วมันต้องคุ้มค่า เขาจะมีมุมมองความคิดที่กว้างไกล และกล้าที่จะกำหนดเป้าหมายที่คาดว่าจะสำเร็จในอนาคต แม้หลายคนจะบอกว่ามันคงไม่มีทางเกิดขึ้นได้ แต่มัสก์กล้าที่จะเสี่ยงในสิ่งที่เขาคิดว่าหากมันสำเร็จแล้วต้องคุ้มค่า
- ต้องไม่ยอมแพ้ต่ออุปสรรค เขามีความมุ่งมั่นต่อแนวคิด และโครงการที่จะทำทุกครั้ง ทำให้เขาไม่ยอมแพ้ต่ออุปสรรคต่าง ๆ แม้ในอดีตที่ผ่านมา การทดสอบจรวดไปสู่อวกาศของเขาประสบความล้มเหลวหลายครั้ง แต่เขาไม่ยอมแพ้และยังคงทำสิ่งที่ผิดพลาดให้กลับมาสำเร็จอีกครั้ง
- ต้องรักในสิ่งที่ตัวเองทำ เพราะหากไม่รัก ก็คงจะไม่มีความสุขและไม่มีใจที่อยากจะทำ แต่ถ้ารักในสิ่งที่ตัวเองทำ ไม่ว่าจะทำอะไรก็ต้องคอยคิดถึงสิ่งนั้นอยู่ตลอดเวลา และต้องไม่รู้สึกว่าเป็นภาระ ให้คิดว่าเหมือนกับเป็นงานอดิเรกที่ทำเท่าไรก็ไม่มีทางเบื่อ
- ความล้มเหลวเป็นเหมือนตัวเลือก “ความล้มเหลวถือเป็นหนึ่งในตัวเลือก หากคุณยังไม่เคยพลาด นั้นอาจแปลว่าคุณยังไม่เคยที่จะริเริ่มสร้างสิ่งใหม่ ๆ” เขาจึงมักพยายามหาสิ่งใหม่ๆ เพื่อต่อยอดให้สำเร็จ
- ทุกวินาทีมีค่าเสมอ มัสก์เองก็ถือว่าเป็นหนอนหนังสือตัวยง เขาอ่านหนังสือมากพอ ๆ กับที่คนอื่น ๆ ชอบดูทีวี ในหนึ่งวันทุกคนต่างก็มี 24 ชั่วโมงเท่ากัน ซึ่งคุณไม่สามารถขอเวลาเพิ่มได้แม้แต่วินาทีเดียว ตัวเขาต้องการใช้เวลาทุกวินาทีให้เกิดประโยชน์เพื่อเรียนรู้ ซึ่งจะนำไปสู่การต่อยอดสิ่งใหม่ ๆ เสมอ
4.) โดราเอม่อน (Doraemon) ผู้นำมุมมอง ความเข้าใจ และยอมรับจุดอ่อนของผู้ตาม
เชื่อได้ว่าในช่วงหนึ่งของวัยหลาย ๆ คน น่าจะเคยได้ดูการ์ตูนยอดนิยมและเป็นอมตะ อย่าง “โดราเอม่อน” ซึ่งนอกจากความมหัศจรรย์ของกระเป๋าสารพัดไอเทมวิเศษแล้ว อีกมุมหนึ่ง โดราเอม่อน ถือเป็นตัวละครที่สะท้อนให้เห็นถึงแบบอย่างของ “ผู้นำ” ในสถานการณ์ต่าง ๆ ได้อย่างมาก โดยมีตาแว่นโนบิตะเป็นผู้เดินตามประจำ มาลองดูกันว่าวิถีของการเป็นผู้นำในแบบโดราเอม่อนเป็นอย่างไร
- ความมุ่งมั่นในการทำงาน ก่อนที่โดราเอม่อนจะถูกส่งมาช่วยโนบิตะนั้น โดราเอม่อนรู้แล้วว่าความไม่เอาไหนของโนบิตะเป็นอย่างไร แต่ว่าโดราเอม่อนเองแสดงความมุ่งมั่น ในการที่จะทำงานนี้ให้สำเร็จ ซึ่งถ้าเราดูจากแต่ละตอน โนบิตะจะนำปัญหาไม่ว่าจะเป็นเรื่องเล็กเรื่องใหญ่มาปรึกษาโดราเอม่อนเสมอ แม้บางครั้งโดราเอม่อนจะท้อแท้บ้าง แต่ก็ไม่มีตอนไหนเลยที่แสดงให้เห็นความละเลยต่อการทำงานของตน และนั่นก็ทำให้โดราเอม่อนกลายเป็นส่วนสำคัญต่อความฝันของผู้ตามอย่างโนบิตะ ที่ต้องการจะเปลี่ยนแปลงอนาคตของตัวเองจากคนไม่เอาไหนให้ได้สำเร็จตามที่ฝันไว้
- เข้าใจและยอมรับจุดอ่อนของผู้ตาม โนบิตะเปรียบเสมือนคนที่ขี้แพ้ทำอะไรก็ไม่ได้เรื่อง แต่โดราเอม่อนก็มักจะทำความเข้าใจถึงความสามารถของโนบิตะที่น้อยนิด และพร้อมรับในจุดอ่อนต่าง ๆ ของโนบิตะด้วยความเต็มใจ จากนั้นก็คอยช่วยวางแผนเพื่อแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ให้ล่วงหน้า แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นเพราะโดราเอม่อนเองก็เชื่อว่าบนความไม่เอาไหนของโนบิตะ ก็ซ่อนมุมมองของความตั้งใจอยู่ เช่น การมีจิตใจมุ่งมั่นที่จะทำสิ่งต่าง ๆ และหาทางแก้ไขปัญหา แม้ว่าบางครั้งวิธีการแก้ไขปัญหาอาจดูไม่เหมาะสมก็ตาม ทำให้โดราเอม่อนเต็มใจช่วยเหลือโนบิตะเป็นอย่างดี
5.) เราทุกคน คือ ผู้นำ!!
สิ่งที่สำคัญที่สุด คือ ความเป็นผู้นำของตัวเราเอง เราทุกคนสามารถที่จะเป็นผู้นำได้ดี เพราะเชื่อว่าภาวะผู้นำมีอยู่ภายในตัวเราทุกคน หากมีการเรียนรู้ ฝึกหัด และอบรมอย่างสม่ำเสมอ ก็ไม่ยากที่จะกระตุ้นภาวะผู้นำในตัวบุคคลออกมาได้ มาดูกันว่าคุณลักษณะใดบ้างที่เราควรหันมาพัฒนาเพื่อก้าวสู่การเป็น “ผู้นำ” บ้าง
- มีความเชื่อมั่นในตัวเอง หากไม่เชื่อมั่นว่าจะทำได้ เราไม่มีวันที่จะทำได้ ดังนั้นความเชื่อมั่นในตัวเอง ต้องมาเป็นอันดับ 1 ก่อนการลงมือทำ ถ้าเราไม่เชื่อมั่นในตัวเองใครจะมาเชื่อมั่นในตัวเรา!! เพราะฉะนั้น...ทัศนคติเชิงบวกจะช่วยให้เราเชื่อมั่นในศักยภาพของเรามากขึ้น โดยเราต้องบอกตัวเองอยู่เสมอว่า “เราทำได้!” แล้วเราก็จะทำสำเร็จได้
- รับฟังผู้อื่นอย่างจริงใจ การรับฟังเป็นเรื่องที่สำคัญมากสำหรับผู้นำ เพราะการรับฟังทำให้เข้าใจผู้อื่น เมื่อหากเราต้องการนำใครแล้ว เราควรเข้าใจในความต้องการของเขา เมื่อผู้นำรับฟังผู้อื่นมากขึ้น ผู้อื่นก็จะรับฟังผู้นำอย่างเต็มใจ เมื่อเราพูด เราจะรู้เท่าที่เราพูด แต่เมื่อเราฟัง เราจะรู้ในสิ่งที่เราไม่รู้
- เผชิญหน้าท้าอุปสรรคแบบปิดทองหลังพระ บทพิสูจน์ผู้นำที่แท้จริง คือ การเผชิญกับปัญหาแล้วสามารถแก้ไขได้อย่างสร้างสรรค์ ไม่ถอยหนีแม้ว่าจะเจออุปสรรคแค่ไหนก็ตาม ผู้นำมักจะอยู่ด้านหลัง เวลางานนั้นได้ผลสำเร็จตามเป้าหมาย แต่ผู้นำจะออกมายืนแถวหน้าทันที เมื่องานนั้นพบกับปัญหา และแก้ไขปัญหานั้นจนสำเร็จได้
- ความเป็นผู้รับผิดชอบอย่างแท้จริง ผู้นำจะรับทั้ง ผิด และ ชอบ ไม่ว่าผลลัพธ์จะเป็นเช่นไรก็ตาม คนที่มีความรับผิดชอบ จะทำให้การปฏิบัติงานไปสู่เป้าหมายที่วางไว้ และช่วยให้การทำงานสามารถบรรลุเป้าหมายได้อย่างดี
จริง ๆ แล้วการเป็นผู้นำที่ดี คงต้องบอกว่าไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ถ้าลองวิเคราะห์จากบรรดาผู้นำที่ยกตัวอย่างมาข้างต้น รวมถึงถ้าคุณได้เจอคนที่คุณกล้าเรียกเขาว่าผู้นำด้วยแล้ว จะพบสิ่งหนึ่งที่คล้ายคลึงกัน คือ ‘พลังด้านบวก’ ที่ปล่อยออกมากระแทกกายและสัมผัสไปถึงข้างในใจ
พลังที่พร้อมจะผลักให้เรากล้าเผชิญหน้ากับทุกความท้าทาย โดยมีเขาประคองอยู่ข้างหลัง และกระซิบเบา ๆ ให้เราเคลื่อนตัวได้แบบท้อถอย
พลังแห่งความคิดสร้างสรรค์ ที่ไม่ถูกปิดกั้น เมื่อเราอยากออกความคิดเห็น แต่ถ้าฟุ้งเตลิด เขาจะช่วยตบให้มันเข้ากรอบ และปล่อยให้เราบันเทิงกับมันต่อ
พลังแห่งการโอบอุ้ม เมื่อเรารู้สึกท้อแท้และหมดกำลังใจ ทำไมแค่คำพูดไม่กี่คำ ที่อาจจะมีทั้งหวานฉ่ำ หรือเข้มปนดุ กลับสร้างแรงกระตุ้นและฮึดกับอุปสรรคตรงไหนได้แบบไม่รู้ตัว
นั่นแหละ ‘ผู้นำ’ ที่มีตัวตน
ข้อมูลอ้างอิง : https://www.tpa.or.th/publisher/pdfFileDownloadS/FQ146_p45-47.pdf
https://blog.jobthai.com/inspiration
https://www.marketingoops.com/exclusive/business-case/kentucky-fried-chicken/
https://www.maruey.com/article/contentinjournal/689