แต่งประโยคจากคำศัพท์ภาษาจีน กับ 4 สาวเพื่อนซี้ | เพื่อนซี้หนี่ห่าว EP.8
4 สาวเพื่อนซี้ เล่นเกมแต่งประโยคจากคำศัพท์ภาษาจีน ภายในเวลา 10 วินาที งานนี้ใครจะแพ้ ใครจะชนะ ไปเอาใจช่วยกัน!! พร้อมจัดเต็มคำศัพท์ภาษาจีนที่สาว ๆ ยกมาฝาก
.
.
4 สาวเพื่อนซี้ เล่นเกมแต่งประโยคจากคำศัพท์ภาษาจีน ภายในเวลา 10 วินาที งานนี้ใครจะแพ้ ใครจะชนะ ไปเอาใจช่วยกัน!! พร้อมจัดเต็มคำศัพท์ภาษาจีนที่สาว ๆ ยกมาฝาก
.
.
กระทรวงศึกษาธิการของจีน เปิดเผยข้อกำหนดชั่วโมงการนอนหลับขั้นต่ำ สำหรับเด็กและวัยรุ่น เพื่อแก้ปัญหาภาวะการอดนอน ซึ่งอาจส่งผลเสียต่อการเติบโตและพัฒนาการของพวกเขา
เจ้าหน้าที่จากกระทรวงฯ หลิ่วอวี้กัง ระบุว่า นักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาควรนอนหลับอย่างน้อย 10 ชั่วโมงต่อวัน ขณะที่นักเรียนระดับชั้นมัธยมต้นและมัธยมปลายควรนอนหลับไม่ต่ำกว่า 9 และ 8 ชั่วโมงต่อวัน ตามลำดับ
หลิ่ว กล่าวสรุปในหนังสือเวียน เกี่ยวกับความพยายามล่าสุดของจีนในการปรับปรุงคุณภาพการนอนหลับของนักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาและมัธยมศึกษา โดยแนะนำให้นักเรียนชั้นประถมศึกษานอนหลับก่อนเวลา 21.20 น. นักเรียนชั้นมัธยมต้นก่อนเวลา 22.00 น. และนักเรียนชั้นมัธยมปลายก่อนเวลา 23.00 น.
หลิ่ว เผยว่า ผลสำรวจที่ดำเนินการใน 10 ภูมิภาคระดับมณฑลของจีน แสดงให้เห็นว่านักเรียนชั้นประถมศึกษา นอนหลับ เฉลี่ย 9.5 ชั่วโมงต่อวัน ขณะที่นักเรียนชั้นมัธยมต้นอยู่ที่ 8.4 ชั่วโมงต่อวัน พร้อมชี้ให้เห็นว่าการเรียนการสอนที่มากเกินจำเป็นส่งผลกระทบบางส่วนต่อการนอนหลับของนักเรียน
“การบ้าน การเรียนพิเศษนอกสถานศึกษา และวิดีโอเกม ต้องไม่กระทบการนอน” หลิ่ว กล่าว
ทั้งนี้ หนังสือเวียน ระบุว่า หน่วยงานการศึกษาหลายแห่งจะปรับใช้วิธีการต่างๆ เพื่อรับประกันว่าจะไม่มีร้านวิดีโอเกมเปิดให้บริการเยาวชนตั้งแต่เวลา 22.00 น. ถึง 08.00 น.
4 สาวเพื่อนซี้ ก่อนเดินทางไปเรียนต่อประเทศจีน จะตื่นเต้นกันแค่ไหน วันนี้เลยมาแชร์ประสบการณ์ และการเตรียมตัวล่วงหน้า เผยช่วงแรกที่ไปถึงต้องเจอกับอะไรบ้าง? พร้อมคำศัพท์ภาษาจีนที่สาว ๆ เอามาฝาก
.
.
สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (depa) โดยกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ส่งเสริมและเปิดโอกาสให้เยาวชนไทย รวมถึงคนไทยที่มีความรู้ความสามารถและกล้าแสดงออก ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของงาน World Expo 2020 Dubai ณ เมืองดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เพื่อคว้าประสบการณ์ระดับโลก พร้อมเป็นตัวแทนแห่งความภาคภูมิใจของคนไทยในฐานะ Thailand Pavilion Ambassador
งาน World Expo ถือเป็น 1 ใน 3 ของงานยิ่งใหญ่ระดับโลก ที่ประเทศต่าง ๆ จากทั่วทุกมุมโลก ร่วมนำเสนอเอกลักษณ์และความภาคภูมิใจของชาติ ซึ่งในครั้งนี้ World Expo 2020 Dubai จัดขึ้นภายใต้แนวคิดหลัก “Connecting Minds, Creating the Future—เชื่อมความคิด สร้างอนาคต”
โดยประเทศไทยจัดแสดงนิทรรศการในหัวข้อ “Mobility for the Future—การขับเคลื่อนสู่อนาคต” แสดงให้เห็นถึงความพร้อมของไทยในการพัฒนาเป็นศูนย์กลางของเทคโนโลยีดิจิทัลในภูมิภาค ภายใต้พื้นฐานทางวัฒนธรรมและการต้อนรับอย่างอบอุ่นของคนไทย ที่ผู้เข้าชมทุกคนจะได้สัมผัสตลอดการเข้าชมอาคารแสดงประเทศไทยในครั้งนี้
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม และสมัครได้เลยที่ https://www.expo2020dubaithailand.com/th/news/thailand-pavilion-ambassador/?fbclid=IwAR2TxPZTkXgsCihDEi98vYqk0-i8sSnIE6ElV7jug4bDfgXDdgwbP62iXVw
ระยะเวลาเปิดรับสมัคร: วันนี้ - 20 พฤษภาคม 2564
เป็นอาสาสมัครในโครงการ Thailand Pavilion Ambassadors แล้วได้อะไร? ตามมาดูกัน!
"ได้" ประสบการณ์สุดล้ำค่า
งาน World Expo เป็นงานมหกรรมระดับโลกที่ทุกๆ 5 ปี โดยแต่ละปีจะมีการหมุนเวียนประเทศเจ้าภาพผู้จัดงาน ในปีนี้ World Expo 2020 Dubai ถือเป็นหนึ่งใน World Expo ครั้งประวัติศาสตร์ที่จัดขึ้นครั้งแรกใน MENA (กลุ่มประเทศตะวันออกกลางและแอฟริกาเหนือ) แน่นอนว่าอาสาสมัครที่ได้รับคัดเลือกไปทำงานกับอาคารแสดงประเทศไทยในครั้งนี้ จะได้รับทั้งประสบการณ์การทำงานบนเวทีระดับโลก ประสบการณ์ชีวิตในการทำงานต่างประเทศ และได้สร้างมิตรภาพกับเพื่อนต่างชาติจากกว่า 194 ประเทศ!!
"ได้" บินฟรี! พร้อมวีซ่า!
อาสาสมัครที่ได้รับคัดเลือกจะได้รับทั้งวีซ่า และตั๋วเครื่องบินไป-กลับ ฟรี เพื่อเดินทางไปปฏิบัติงาน ณ เมืองดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ตลอดระยะเวลา 6 เดือนที่จัดงาน
"ได้" ที่พักฟรี
อาสาสมัครจะได้รับที่พักฟรีตลอดการทำงาน เพื่อความสะดวกในการเดินทางไปปฏิบัติงานที่อาคารแสดงประเทศไทย
"ได้" ค่าตอบแทน!
อาสาสมัครอาคารแสดงประเทศไทยจะได้รับค่าต่อแทนรายเดือนที่เพียงพอต่อการดำรงชีพ และการการใช้ชีวิตในเมืองดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ตลอดระยะเวลาการทำงาน แถมถ้าใช้เงินดีๆ ยังได้มีเงินเก็บหลังจบงานอีกด้วย!
สุดท้าย ถ้าอยาก "ได้" ให้ครบทุกข้อ ต้องรีบสมัครเข้ามาเลย ตามลิ้งก์นี้
ขอบคุณที่มา:
https://www.facebook.com/1819156718355063/posts/2899648833639174/?d=n
4 สาวเพื่อนซี้ไปอยู่เมืองจีนกันมา จะมีอาหารที่ชอบและสถานที่เที่ยวสุดโปรดที่ไหนบ้าง ? มาฟังสาวๆ เม้าท์กัน พร้อมกับสาระความรู้คำศัพท์ภาษาจีนที่สาว ๆ เอามาฝาก
.
.
.
ใครจะรู้ว่าเจ้าของฉายา ‘นางฟ้าเกาหลี’ คิมแตฮี มี IQ สูงถึง 140 ตอนที่เรียนระดับชั้นมัธยมฯ สอบได้ 100 คะแนนเต็มทุกวิชา และสอบเข้าเรียนต่อมหาวิทยาลัยด้วยคะแนนท็อป 1 ใน 1.5 เปอร์เซ็นต์แรกของผู้เข้าสอบทั้งหมด (คะแนนสอบของเธออยู่ในช่วง 385 - 390 คะแนน จาก 400 คะแนนเต็ม) ซึ่งเธอได้เลือกเรียนต่อที่มหาวิทยาลัยโซล ด้านการออกแบบแฟชั่น
นอกจากนี้ตอนเรียน คิมแตฮียังเป็นทั้งดาวมหาวิทยาลัย และประธานของชมรมสกีของมหาลัย
สภาวัฒนธรรมแห่งอินเดียเปิดให้ทุนการศึกษาสำหรับปีการศึกษา 2564 - 2565 สำหรับนักเรียนไทยที่ประสงค์จะเรียนต่อในระดับปริญญาตรีถึงปริญญาเอก ในสาขาวิชาต่าง ๆ ที่เป็นประเทศอินเดีย ยกเว้น สาขาแพทยศาสตร์ หลักสูตรเจ้าหน้าที่ผู้ช่วยแพทย์ (อาทิ พยาบาล กายภาพบำบัด ฯลฯ) และแฟชั่น
คุณสมบัติผู้สมัคร
ความสามารถในการใช้ภาษาอังกฤษ: ผู้สมัครต้องมีทักษะภาษาอังกฤษในระดับที่ สามารถสื่อสารภาษาอังกฤษได้อย่างดีเยี่ยม และสามารถเข้าใจบทเรียนต่าง ๆ ที่เป็นภาษาอังกฤษ
อายุ: ต้องมีอายุระหว่าง 18 - 30 ปี ณ วันที่มหาวิทยาลัย/ สถาบันของอินเดียตอบรับเข้าศึกษา
ท่านที่สนใจควรเข้าไปศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมที่เว็บไซต์ของมหาวิทยาลัย / สถาบัน และทำความเข้าใจเกี่ยวกับหลักสูตรที่เปิดสอนอย่างละเอียด รวมทั้งคุณสมบัติของผู้สมัคร และข้อมูลทั่วไปเกี่ยวกับมหาวิทยาลัย / สถาบัน ก่อนทำการสมัคร
นอกจากนี้ ผู้สมัครต้องตรวจสอบให้แน่ใจว่าเป็นผู้มีคุณสมบัติครบถ้วนตามที่หลักสูตรกำหนดและให้ดำเนินการขึ้นเอกสารที่เกี่ยวข้องตามที่มหาวิทยาลัยกำหนด (นอกเหนือจากเอกสารที่ระบุในใบสมัครขอรับทุน)
ท่านที่สนใจสามารถทำการยื่นใบสมัครออนไลน์ได้ทางเว็บไซต์ทุน “A2A” (Admissions to Alumni) ที่ http://a2ascholarships.iccr.gov.in/
ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับคำแนะนำในการสมัคร โครงการทุนต่างๆ ข้อมูลโดยย่อของเมืองต่าง ๆ ของอินเดีย รายชื่อและข้อมูลของมหาวิทยาลัย ระเบียบและเงื่อนไขค่าใช้จ่าย คำถามที่พบบ่อยสามารถดูได้จากเว็บไซต์ ผู้สมัครควรอ่านและปฏิบัติตามกรอบเวลาของขั้นตอนการรับสมัครตามเอกสารแนบ
ปิดรับสมัครทางเว็บไซต์ในวันที่ 30 เมษายน 2564
ที่มา: https://www.facebook.com/156843177716078/posts/3863472347053124/
การศึกษานำร่องในรัฐมิสซูรีของสหรัฐชี้ว่า การแพร่กระจายของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) ในโรงเรียนเป็นเรื่องยาก แม้มีกลุ่มผู้มีประวัติสัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วย หากโรงเรียนให้ความสำคัญกับมาตรการเฝ้าระวังทางสาธารณสุข อาทิ การสวมหน้ากากอนามัย การเว้นระยะห่างทางสังคม และการล้างมือเป็นประจำ
การศึกษานำร่อง ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของความร่วมมือระหว่างศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งสหรัฐฯ (CDC) คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยวอชิงตัน เซนต์หลุยส์ (WUSTL) และหน่วยงานท้องถิ่นอื่นๆ ครอบคลุมโรงเรียน 57 แห่งในรัฐมิสซูรี โดยโรงเรียนทุกแห่งกำหนดให้นักเรียน ครูอาจารย์ เจ้าหน้าที่ และผู้มาเยือน สวมหน้ากากอนามัยขณะอยู่ในพื้นที่โรงเรียนหรือบนรถบัส
มาตรการด้านความปลอดภัยอื่นๆ ได้แก่ การให้ความสำคัญกับสุขอนามัยของมือ การทำความสะอาดสิ่งอำนวยความสะดวกแบบครบวงจร การรักษาระยะห่างในห้องเรียน การตรวจคัดกรองอาการโรคโควิด-19 ทุกวัน การติดตั้งสิ่งกีดขวางทางกายภาพระหว่างครูและนักเรียน การเสนอทางเลือกในการเรียนทางออนไลน์ และการระบายอากาศเพิ่มเติม
กลุ่มผู้เข้าร่วมการศึกษานำร่องครั้งนี้ครอบคลุมประชาชน 193 คนจาก 22 โรงเรียนของกลุ่มข้างต้น โดยส่วนหนึ่งเป็นผู้มีผลตรวจโรคโควิด-19 เป็นบวก 37 ราย แบ่งเป็นนักเรียน 24 ราย (ร้อยละ 65) และครูหรือเจ้าหน้าที่ 13 ราย (ร้อยละ 35) และเป็นผู้มีประวัติสัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วย 156 ราย แบ่งเป็นนักเรียน 137 ราย (ร้อยละ 88) และครูหรือเจ้าหน้าที่ 19 ราย (ร้อยละ 12)
บรรดาผู้มีประวัติสัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วย 102 ราย ที่ดำเนินการตรวจโรคโควิด-19 ด้วยวิธีทดสอบน้ำลาย มีเพียงสองรายเท่านั้นที่มีผลตรวจโรคเป็นบวก ซึ่งบ่งชี้ว่าการแพร่เชื้อขั้นทุติยภูมิในโรงเรียนมีโอกาสเกิดขึ้นได้ อย่างไรก็ดี ยังไม่ตรวจพบการแพร่ระบาดในโรงเรียนที่เข้าร่วม แม้อัตราการแพร่กระจายในชุมชนจะอยู่ในระดับสูงเมื่อเดือนธันวาคมปีก่อน แม้กระทั่งโรงเรียนในเมืองสปริงฟิลด์ที่อนุญาตให้ผู้มีประวัติสัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วยบางคนยังคงอยู่ในโรงเรียนได้
"โรงเรียนสามารถเปิดการเรียนการสอนได้อย่างปลอดภัยในช่วงของการแพร่ระบาด หากปฏิบัติตามมาตรการป้องกัน" เจสัน นิวแลนด์ ศาสตราจารย์ด้านกุมารเวชศาสตร์แห่งมหาวิทยาลัยวอชิงตัน หนึ่งในผู้นำวิจัย กล่าว "การศึกษานำร่องแสดงให้เห็นถึงอัตราการแพร่เชื้อในโรงเรียนในระดับต่ำและไม่มีการถ่ายทอดจากนักเรียนสู่ครู แม้การศึกษาครั้งนี้จะดำเนินในเดือนธันวาคม ซึ่งมีอัตราการแพร่กระจายในชุมชนระดับสูงก็ตาม"
นอกจากนี้ คณะนักวิจัยจะดำเนินการวัดระยะห่างระหว่างโต๊ะในห้องเรียนในอนาคต เพื่อประเมินว่าจะสามารถผ่อนปรนกฎระยะห่างทางสังคม 6 ฟุต (180 เซนติเมตร) ในโรงเรียนได้หรือไม่ ทั้งยังจะส่งแบบสำรวจไปยังผู้ปกครอง ครู อาจารย์ และเจ้าหน้าที่ เพื่อประเมินความเครียดและสุขภาพจิตระหว่างการกักตัวด้วย
ทั้งนี้ การศึกษานำร่องครั้งนี้ได้รับการเผยแพร่ในรายงานการเจ็บป่วยและเสียชีวิตรายสัปดาห์ (MMWR) ของ CDC เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา
ขอบคุณที่มา: https://www.ryt9.com/s/iq47/3209874
โควิด-19 คือวิกฤตการณ์ของชาวโลก รวมถึงประเทศจีนที่ต้องทุ่มเทสรรพกำลังรับมือ แก้ปัญหา จนสถานการณ์คลี่คลาย
และในเวลานี้ ได้รับการบอกกล่าวจากเพื่อนที่เมืองจีนอัพเดทว่า ทุกอย่างใกล้คืนสู่สภาวะปกติเมื่อมีผู้ได้รับวัคซีนมากขึ้น
สหายจากแดนมังกรบอกว่า ขอให้ไทยเร่งฉีดวัคซีนให้ประชาชนได้มาก ๆ จะได้มาเที่ยวเมืองจีน และคนจีนก็อยากมาเมืองไทยใจจะขาดแล้ว
มาว่ากันด้วยเรื่องของ "วิกฤต-โอกาส" ความกดดันในช่วงที่ผ่านมา เป็นจังหวะให้จีนต่อยอดเดินนโยบายสำคัญ
กุมภาพันธ์ปี 2020 คณะกรรมการด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของรัฐบาลเซี่ยงไฮ้ ขยายบริการการยื่นขอรับใบอนุญาตทำงานแบบออนไลน์แก่ชาวต่างชาติในกลุ่ม A เพื่อหลีกเลี่ยงการรวมกลุ่มของผู้คน และกระตุ้นให้คนเหล่านี้อยู่ทำงานในจีนต่อไป
จีนจัดแบ่งแรงงานต่างชาติออกเป็น 3 ระดับ ได้แก่ กลุ่ม A พรสวรรค์ชั้นยอด กลุ่ม B พรสวรรค์รายสาขาอาชีพ และกลุ่ม C แรงงานฝีมือต่ำ
ดร.ไพจิตร วิบูลย์ธนสาร รองประธานและเลขาธิการหอการค้าไทยในจีน ให้ข้อมูลว่า เวลานี้จีนกำลังมุ่งสนองตอบต่อนโยบาย Made in China 2025 การสร้างนวัตกรรม และการรับมือกับสังคมผู้สูงอายุ
พวกเขาจึงต้องการดึงดูดบรรดา "หัวกะทิ" ผู้มีความสามารถจากหลายแขนงให้เข้ามาพำนักทำงานในจีน (เหมือนที่เราคุ้นเคยในกรณีของมหาอำนาจตะวันตก)
รัฐบาลจีนมองว่าแรงงานคุณภาพสูงมีความสำคัญต่อความสำเร็จในการพัฒนาเศรษฐกิจจีน จึงกำหนดเกณฑ์ที่ "เอื้อ" ให้บุคคลเหล่านั้นเลือกมาทำงานที่จีน
"1 มีนาคม ที่ผ่านมา สำนักงานบริหารผู้เชี่ยวชาญต่างประเทศแห่งนครเซี่ยงไฮ้ ออกกฎระเบียบให้ผู้ประกอบการระดับโลก นักวิทยาศาสตร์ชั้นแนวหน้า นักวิจัยด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีต่างชาติ และผู้ที่จบการศึกษาระดับปริญญาเอกด้านวิทยาศาสตร์ วิศวกรรมศาสตร์ เกษตรศาสตร์ และยา อยู่ในข่ายได้รับสิทธิ์ในกลุ่ม A"
"คนกลุ่ม A สามารถยื่นขอวีซ่าประเภท R ซึ่งเป็นวีซ่าการจ้างแรงงานพรสวรรค์ต่างชาติระดับไฮเอนด์และเป็นที่ต้องการสูง สามารถเข้า-ออกได้หลายครั้งแต่พำนักในจีนได้คราวละไม่เกิน 180 วัน รวมทั้งยังได้รับสิทธิ์พิเศษ อาทิ ขั้นตอนการยื่นขอรับการพิจารณาที่สะดวก การยกเว้นการประกันสุขภาพแก่คนที่มีอายุมากกว่า 65 ปี และการยื่นขอวีซ่าแก่สมาชิกครอบครัว"
'ดร.ไพจิตร' ชี้ให้เห็นถึงความตั้งใจจริงของรัฐบาลจีนที่ต้องการช่วยอำนวยความสะดวก เปรียบเสมือนการออกโปรโมชั่นเชิญชวนให้ลูกค้าแฮปปี้เข้ามาจับจ่ายได้คล่องตัวขึ้น
นับแต่เริ่มมาตรการดังกล่าว รัฐบาลเซี่ยงไฮ้ได้ออกใบอนุญาตใหม่และต่อใบอนุญาตเดิมจำนวนเกือบ 10,000 รายแล้ว
ในส่วนของขั้นตอนราชการที่ยุ่งยากในหลายประเทศ ทางจีนแก้ไขปัญหาเหล่านี้จนเป็นรูปธรรม
"ขั้นตอนและกระบวนการพิจารณาใบอนุญาตทำงานของชาวต่างชาติก็กระชับขึ้น โดยลดเวลาจาก 10 วันทำการเหลือเพียง 3 วันทำการ"
"การดำเนินงานในลักษณะดังกล่าวสะท้อนว่า หากจีนได้รับประโยชน์จากสิ่งใด รัฐบาลจะพยายามปรับปรุงหลักเกณฑ์เงื่อนไขและขั้นตอนในเชิงรุกเพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้ที่เกี่ยวข้อง ไทยเราอาจนำแนวคิดมาปรับใช้กับการปรับปรุงเงื่อนไขและหลักเกณฑ์การอนุญาตและกำกับดูแลแรงงานต่างด้าวได้เช่นเดียวกัน"
ปัจจุบันมีชาวต่างชาติทำงานในเซี่ยงไฮ้อยู่ราว 215,000 คน คิดเป็น 23.7% ของจำนวนทั้งหมด อีกทั้งเซี่ยงไฮ้ยังครองแชมป์เมืองยอดนิยมของชาวต่างชาติเป็นปีที่ 8 ติดต่อกัน
"นโยบายดึงทรัพยากรมนุษย์จากต่างประเทศเพื่อป้อนภาคการผลิตแห่งโลกอนาคตในเชิงรุกของจีน ทำให้เซี่ยงไฮ้กลายเป็นเมืองแห่งนวัตกรรมในปัจจุบัน เพื่อเป็นแกนกลางส่งจีนทะยานสู่ความเป็นเบอร์หนึ่งของโลกในสิ้นทศวรรษนี้ตามเป้า"
ขอบคุณที่มา: https://www.facebook.com/thaichinesetalk/posts/464991111514690
เรื่องเล่าหลอนๆของชีวิตเด็กหอของสาวๆทั้ง 4 คน ในโรงเรียนประจำที่เมืองจีน จะหลอนขนาดไหน? ห้ามพลาด !!
.