Saturday, 20 April 2024
EDUCATION NEWS

นักวิจัยจากสหรัฐฯ เผยความคืบหน้าผลวิจัยวัคซีนโควิดชนิดใหม่ในรูปแบบ "แผ่นแปะ" ใช้งานง่ายโดยแปะลงที่ผิวหนังโดยตรง สร้างภูมิเพิ่มถึง 50 เท่า และไม่ต้องขนส่งในที่อุณหภูมิต่ำทำให้ส่งไปทั่วโลกได้สะดวกขึ้น

นักวิจัยจากสหรัฐฯ เผยความคืบหน้าผลวิจัยวัคซีนโควิดชนิดใหม่ในรูปแบบ "แผ่นแปะ" ใช้งานง่ายโดยแปะลงที่ผิวหนังโดยตรง สร้างภูมิเพิ่มถึง 50 เท่า และไม่ต้องขนส่งในที่อุณหภูมิต่ำทำให้ส่งไปทั่วโลกได้สะดวกขึ้น

ทีมวิจัยจากมหาวิทยาลัย นอร์ธ แคโรไลน่า และมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด ได้คิดค้น “แผ่นแปะวัคซีน 3 มิติ” ที่สามารถซึมเข้าผิวหนังได้โดยตรง ซึ่งฝ่ายทีมวิจัยได้เผยว่าพวกเขาได้ทำการทดลองกับสัตว์เรียบร้อยแล้ว ผลปรากฏว่าสามารถตอบสนองด้านภูมิคุ้มกันกว่าการฉีดถึง 10 เท่า

วัคซีนแบบแปะ ประกอบด้วยโพลีเมอร์ที่มีไมโครนีดส์ ที่ทำหน้าที่เป็น วัคซีนกึ่งแข็งที่จะละลายตามอุณหภูมิของร่างกายและซึมเข้าสู่ผิวหนังผ่านเข็มขนาดเล็ก หรือ ไมโครนีดเดิล เป็นการวิจัยร่วมกับบริษัท Pfizer และ Moderna เพื่อทดลองฉีดวัคซีนโควิดชนิด mRNA ไว้ใช้ในอนาคต

สถาบันการจัดอันดับมหาวิทยาลัยสากล ประเทศอังกฤษ เผยแพร่ผลการจัดอันดับมหาวิทยาลัยทั่วโลก ประจำปี 2022 โดย มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ถูกจัดลำดับให้เป็นสถาบันการศึกษาอันดับที่ 3 ของอาเซียน และเป็นที่ 1 ของประเทศไทย ในการผลิตบัณฑิตที่มีคุณภาพสู่สังคม

สถาบันการจัดอันดับมหาวิทยาลัยสากล (Quacquarelli Symonds (QS) ) ที่ประเทศอังกฤษ ได้ประกาศอันดับมหาวิทยาลัยทั่วโลก ประจำปี 2022 (QS Graduated Employability Rankings 2022) อย่างเป็นทางการ โดยพิจารณาจากคุณภาพของบัณฑิตและการจ้างงาน 

ซึ่งพบว่า มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (มธ.) ถูกจัดลำดับให้เป็นสถาบันการศึกษาอันดับที่ 3 ของอาเซียน และที่ 1 ของประเทศไทย ควบคู่กับจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ส่วนในระดับโลก มธ. ถูกจัดให้อยู่ในกลุ่มอันดับที่ 141-150 เลื่อนขึ้นมาสูงกว่าปีก่อนที่อยู่ในกลุ่มอันดับ 171-180

รศ.เกศินี วิฑูรชาติ อธิการบดี มธ. เปิดเผยว่า ในปี 2022 สถาบัน QS ได้จัดลำดับมหาวิทยาลัยจากทั่วโลก รวม 786 แห่ง โดย มธ. ได้รับการเลื่อนลำดับในตำแหน่งที่สูงขึ้น อันเป็นผลมาจากการบรรลุตัวชี้วัดทั้ง 5 ด้าน ได้แก่

1.) ชื่อเสียงของมหาวิทยาลัยจากผู้จ้างงาน (Employer Reputation)
2.) ความสำเร็จของศิษย์เก่า (Alumni Outcomes)
3.) บทบาทและความร่วมมือกับภาคธุรกิจ (Employers-student Connections)
4.) ความร่วมมือของมหาวิทยาลัยกับนายจ้าง (Partnerships with Employers)
5.) อัตราการจ้างงานของบัณฑิตที่สำเร็จการศึกษา (Graduate Employment Rate)

คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยกรุงเทพธนบุรี ได้ผ่านการรับหลักสูตรแพทยศาสตรบัณฑิต จากแพทยสภาอย่างเป็นทางการ พร้อมเปิดรับสมัครนักศึกษาแล้ว ตั้งแต่วันนี้ – 10 ต.ค. 64

เริ่มรับสมัครตั้งแต่วันนี้ – 10 ต.ค. 2564
สอบข้อเขียน 14 – 15 ต.ค. 2564
ตรวจสุขภาพร่างกาย จิตใจ 20 ต.ค. 2564
สอบสัมภาษณ์ 21 ต.ค. 2564
รายงานตัว และลงทะเบียน 28 ต.ค. 2564
เปิดภาคการศึกษาที่ 1 ปีการศึกษา 2564 วันที่ 1 พ.ย. 2564

คุณสมบัติของผู้สมัคร
1. ผู้สำเร็จการศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย (ม.6) หรือเทียบเท่า
2. ผู้สำเร็จการศึกษาตอนปลายจากต่างประเทศหรือโรงเรียนนานาชาติ
3. ผู้สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีหรือสูงกว่า
ในสายวิทยาศาสตร์สุขภาพหรือสายวิทยาศาสตร์ที่เกี่ยวข้อง

ยอดจ่ายเงินเยียวยานักเรียนคนละ 2,000 บาท ใกล้ครบตามเป้า 11 ล้านคน ส่วนของการฉีดวัคซีนก็คืบหน้าไปอย่างมาก ล่าสุด พบผู้สมัครใจฉีดวัคซีนจำนวน 3.61 ล้านคน เตรียมพร้อมกลับสู่การเรียนรูปแบบปกติ

นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กระทรวงกลาโหม รับทราบรายงานความคืบหน้า การเยียวยานักเรียนทุกคน ทุกสังกัด คนละ 2,000 บาท โดยให้ผู้ปกครองรับเงินเต็มจำนวนโดยไม่หักค่าใช้จ่ายใด ๆ เพื่อช่วยบรรเทาภาระค่าใช้จ่ายด้านการศึกษา 

ล่าสุดได้จ่ายเงินเยียวยาครอบคลุมเด็กนักเรียนทั้งในและนอกสังกัดกระทรวงศึกษาธิการไปแล้วทั้งสิ้น 10,952,000 ล้านคน จากเป้าหมาย 11 ล้านคน คิดเป็น 87.80% โดยโรงเรียนในสังกัดกระทรวงศึกษาธิการได้รับทั้งหมด 97.75% ที่เหลือได้ทยอยดำเนินการส่งมอบต่อเนื่อง 
 

กระทรวงศึกษาธิการได้ออกหลักเกณฑ์สำหรับการเปิดโรงเรียนหรือสถาบันการศึกษา ที่มีความพร้อมและผ่านเกณฑ์การประเมิน ในสถานการณ์โรคระบาดโควิด-19 โดยดำเนินการตามโครงการ Sandbox : Safety zone in School

 

นายสุภัทร จำปาทอง ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ ลงนามประกาศกระทรวงศึกษาธิการ ลงวันที่ 20 กันยายน 2564 เรื่อง หลักเกณฑ์การเปิดโรงเรียนหรือสถาบันการศึกษา ตามข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 (ฉบับที่ 32) เพื่อให้ทุกหน่วยงานในสังกัดกระทรวงศึกษาธิการ ใช้ประกอบในการพิจารณาการขออนุญาตใช้อาคารหรือสถานที่ของโรงเรียน และสถาบันการศึกษาในการจัดการเรียนการสอน การสอน การฝึกอบรม หรือทำกิจกรรมใด ๆ ที่มีผู้เข้าร่วมกิจกรรมเป็นจำนวนมาก

โดยกำหนดให้มีระยะเวลาดำเนินงาน 2 ระยะ คือ ระยะแรก สำหรับโรงเรียนพักนอน ซึ่งดำเนินการตามโครงการ Sandbox: Safety zone in School มาตั้งแต่ช่วงเดือนสิงหาคม 2564 และระยะที่สอง สำหรับโรงเรียนประเภทไป-กลับ ที่มีความพร้อมและผ่านเกณฑ์การประเมิน ตั้งแต่เดือนกันยายน 2564 

ซึ่งการจะเปิดโรงเรียนได้ ต้องผ่านเกณฑ์การประเมินหลายด้าน เช่น ด้านกายภาพ ด้านการมีส่วนร่วม ด้านการประเมินความพร้อมสู่การปฏิบัติ สำหรับสถานศึกษา ครู-บุคลากรต้องฉีดวัคซีนครบโดสไม่น้อยกว่า 85% ในขณะที่นักเรียน-ผู้ปกครอง ควรได้รับวัคซีนตามมาตรการที่กระทรวงศึกษาธิการและกระทรวงสาธารณสุขกำหนด

โดยระหว่างการเปิดภาคเรียน ต้องปฏิบัติตามมาตรการต่าง ๆ อย่างเคร่งครัด และสามารถจัดการเรียนการสอนแบบ Onsite หรือ Online หรือแบบผสมผสานได้ ในห้องเรียนแต่ละห้องต้องมีนักเรียนไม่เกิน 25 คน และต้องเว้นระยะห่างไม่น้อยกว่า 1.5 เมตร ส่วนมาตรการอื่น ๆ มีตามประกาศดังต่อไปนี้

‘สภาเตือนภัยพิบัติแห่งชาติ’ เผยถึงบทวิเคราะห์ เห็นตรงโอกาสน้ำท่วมใหญ่เป็นได้น้อยมาก พื้นที่กรุงเทพและใกล้เคียง ยังไม่น่าห่วงว่าน้ำจะท่วมจากฝนที่ตกในรอบนี้ แต่อาจจะมีจากฝนที่ตกหนักเฉพาะจุดในพื้นที่ตัวเอง

เมื่อวันที่ 28 ก.ย. 64 มูลนิธิสภาเตือนภัยพิบัติแห่งชาติ โพสต์ข้อความผ่านทางเฟซบุ๊ก เผยถึงบทวิเคราะห์ว่าน้ำจะท่วมกรุงเทพ ซ้ำรอยปี 54 หรือไม่ ความว่า เหตุการณ์น้ำท่วม ที่เกิดขึ้นในขณะนี้ ทำให้เกิดกระแสว่า จะเกิดน้ำท่วมใหญ่ ซ้ำรอยปี 54 เกิดความวิตกกังวลในวงกว้าง !!!

มูลนิธิสภาเตือนภัยพิบัติแห่งชาติ ในฐานะองค์เผยแพร่ข้อมูลความคิดเห็น เพื่อประโยชน์ในการรับรู้ข้อมูลล่วงเพื่อนำไปเป็นแนวทางการเตรียมการและบริหารความเสี่ยงล่วงหน้าในฐานะ “สภาเตือนภัย” !!!

นายปราโมทย์ ไม้กลัด รองปธ.กก.มูลนิธิ “สภาเตือนภัย” พิบัติแห่งชาติ อดีดอธิบดีกรมชลประทาน เห็นว่า ทั้งข้อมูลปริมาณฝน ปริมาณน้ำกักเก็บ 4 เขื่อนหลักลุ่มเจ้าพระยา ในขณะนี้มีน้อยหากเปรียบเทียบกับในห้วงเวลาเดียวกันเมื่อปี 54 จึงมีความเป็นไปได้น้อยมากที่จะเกิดน้ำท่วมในกทม.ครั้งใหญ่เช่นปี 54 !!!

ด้าน รศ.ดร.เสรี ศุภราทิตย์ รองปธ.กก.มูลนิธิ “สภาเตือนภัย” ให้ความเห็นว่า แม้ว่าขณะนี้แม้จะมีกรณีน้ำท่วมเกิดขึ้นในหลายจังหวัด แต่โอกาสน้ำท่วมกทม.เหมือนปี 54 มีโอกาสเป็นไปได้น้อย เว้นแต่จะมีน้ำระบายไม่ทันทำให้เกิดน้ำท่วมขังเป็นเวลานาน !!!

ขณะที่ ดร.สุทัศ วีสกุล ผอ.สถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำ หรือสสน. เห็นว่า ณ เวลานี้เมื่อ 54 เขื่อนภูมิพล เขื่อนสิริกิต์ มีน้ำเต็มความจุ 22,000 ล้าน.ลบ.ม. แต่ขณะมีปริมาณน้ำอยู่ประมาณครึ่งเดียว หากมีพายุเข้ามาทั้ง 2 เขื่อนยังดักน้ำได้อีกมาก แม่น้ำเจ้าพระยาก็ยังอยู่ในระดับต่ำ และมีการสร้างคันกั้นน้ำให้สูงขึ้น คิดว่าปีนี้ จะไม่เกิดน้ำท่วมกทม.เหมือนปี 54 แน่นอน !!!

ดร.ณัฐ มาแจ้ง ม.เกษตรศาสตร์ ให้ความเห็นว่า น้ำจะท่วมเหมือนปี 2554 ไหม ปี 54 กราฟน้ำท่วมมีฐานกว้างมากจึงทำให้มีน้ำเติมเข้าทุ่งเจ้าพระยาอย่างต่อเนื่องเป็นจำนวนมากและนาน จึงทำให้เกิดน้ำท่วมขนาดใหญ่

ในขณะที่ปีนี้อีกไม่นาน (คาดว่า 1-3 สัปดาห์) อัตราการไหลที่นครสวรรค์จะคงที่และเริ่มลดลงเนื่องจากฝนจะลดลงในช่วงอาทิตย์ข้างหน้าทำให้มีน้ำเติมลงมาน้อยกว่าเดิมนั่นเอง

เพจ “AMD Redteam Thailand” ได้โพสต์ภาพพุทธศาสนิกชนถวายสังฆทานยุคใหม่แก่พระมหาสมปอง อุปกรณ์ไอทีราคาสูงหลักหมื่น ย้ำเจตนาดีไม่ใช่การกลั่นแกล้ง แต่เพื่อเพิ่มการไลฟ์ธรรมะให้มีประสิทธิภาพดียิ่งขึ้น

เมื่อวันที่ 27 กันยายน พ.ศ.2564 เพจ “AMD Redteam Thailand” ได้โพสต์ภาพพุทธศาสนิกชนได้นำสังฆทานยุคไอที โดยมี CPU ราคาประมาณ 30,000 บาท การ์ดจอคอมพิวเตอร์ ราคาประมาณ 17,000 บาท แก่ พระมหาสมปอง ตาลปุตฺโต
พระลูกวัดสร้อยทอง เขตบางซื่อ กรุงเทพฯ โดยมีเจตนาในการเพิ่มประสิทธิภาพในการไลฟ์ธรรมะให้มีความเสถียรมากยิ่งขึ้น 

“การศึกษา” นับได้ว่าเป็นสิ่งหนึ่งที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 จำเป็นต้องปรับหลักสูตรและรูปแบบการสอนเป็นการเรียนออนไลน์ แต่ก็ใช่ว่านักเรียนทุกคนจะมีความพร้อม

แต่การเรียนออนไลน์บนหลักสูตรการศึกษาของไทยนั้น นักเรียนจะสามารถเข้าใจในสิ่งที่คุณครูสอนหรือไม่ หลักสูตรของไทยจริง ๆ แล้วมีการวางลักษณะ เนื้อหาการสอน ในรูปแบบการสอนต่อหน้า คุณครูพบปะกับนักเรียน (Onsite) ไม่ได้วางหลักสูตรมาในรูปแบบการเรียนออนไลน์ คุณครูต้องเปลี่ยนจากการสอนมาเป็น “การบรรยาย” ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องย้อนกลับมาคิดว่าจริง ๆ แล้วหลักสูตรการศึกษาในแต่ละวิชานั้นเหมาะสมกับการเรียนในรูปแบบออนไลน์หรือเปล่า ? เราจะต้องปรับเปลี่ยนหลักสูตรหรือไม่ 

ผศ.ดร.สุทัศน์ จันบัวลา อาจารย์ประจำคณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยสวนดุสิต ได้กล่าวถึงประเด็นนี้ว่า “หลักสูตรที่ใช้ในการสอนนั้น แท้จริงแล้วเป็นหลักสูตรที่ใช้สำหรับการเรียนต่อหน้า คุณครูสอนต่อหน้านักเรียน (Onsite) พอมีปัญหาในช่วงสถานการณ์โควิด-19 แล้วนั้น การที่เราเอาหลักสูตรที่ใช้ในห้องเรียนมาปรับใช้เป็นออนไลน์ ก็จะเกิดปัญหาทันที”

“ต้องมีกระบวนการปรับหลักสูตร นั่นคือต้องเปลี่ยน ต้องดีไซน์ ออกแบบการเรียนการสอนในแต่ละรายวิชาใหม่เลย จากโดยทั่วไปเป็นการเรียนการสอนในห้องเรียน มีการวัดผล คือ การสอบกลางภาคและปลายภาค แต่พอมาเป็นการสอนออนไลน์ เราก็ต้องมาปรับหมด อย่างการวัดผล การสอบจะมาใช้รูปแบบการวัดผลแบบที่ทำในห้องเรียนไม่ได้ การศึกษาไทยส่วนใหญ่มันแค่ปรับเปลี่ยนวิธีการสอน โดยที่หลักสูตรเป็นหลักสูตรที่ใช้ในห้องเรียน แต่ผลลัพธ์ไม่ต้องพูดถึงเพราะมันแตกต่างกันอยู่แล้ว เพราะหลักสูตรมันออกแบบให้เรียนในห้อง” 

'YG Entertainment' ค่ายศิลปิน K-pop ชั้นนำจากเกาหลีใต้ร่วมมือกับ 'GMM Grammy' ค่ายดนตรียักษ์ใหญ่ของประเทศไทย เปิด YG”MM รับสมัครเด็กเทรนนิ่งเพื่อฝึกฝน พร้อมก้าวสู่การเป็นศิลปินระดับโลก

YG Entertainment ค่ายศิลปิน K-pop จากประเทศเกาหลีใต้ ที่ผลิตไอดอลระดับโลก อย่าง Bigbang , Blackpink , IKON ได้จับมือกับ GMM Grammy บริษัทดนตรีชั้นนำของประเทศไทย เปิดบริษัท YG”MM (วายจีเอ็มเอ็ม) โดยทั้งบริษัทมีความมุ่งมั่นที่จะพัฒนาศิลปินไอดอลที่ครบวงจรที่สุดตั้งแต่การคัดเลือก, ฝึกซ้อม, สร้างสรรค์และโปรโมทผลงาน เพื่อผลักดันสู่การเป็นศิลปินมืออาชีพระดับโลก

โดยเมื่อวานนี้ (วันที่ 27 กันยายน 2564) YG”MM ได้เปิดรับสมัครเด็กฝึกหัดเพื่อพัฒนาเป็นศิลปินระดับโลก โดยมีคุณสมบัติและขั้นตอนการสมัครดังต่อไปนี้

คุณสมบัติ 
- เพศชาย / หญิง อายุระหว่าง 10-20 ปี (เกิดระหว่างปี พ.ศ. 2544 - พ.ศ.2554) ผู้สมัครอายุต่ำกว่า 20 ปี บริบูรณ์ ต้องได้รับความยินยอมจาก พ่อแม่ หรือผู้ปกครอง 
- ไม่จำกัดสัญชาติ (แต่หากผ่านการคัดเลือก จะต้องเข้ารับการฝึกในประเทศไทย) 
- ไม่มีติดสัญญาผูกพันกับค่ายเพลง, สังกัด หรือบุคคลใด ๆ 
- สามารถสมัครได้ 1 คนต่อ 1 หมายเลขบัตรประชาชน และ/หรือ หมายเลข Passport (หากพบว่ามีการทุจริตจะถูกพิจารณาตัดสิทธิ์ในภายหลัง) 

ประเภทการสมัคร 
1.) Vocal, Rap - 1 ท่อน หรือ ไม่เกิน 1.30 นาที ไม่จำกัดแนวเพลง และต้องไม่มีดนตรีประกอบ
2.) Dance - ความยาว ไม่เกิน 1.30 นาที ไม่จำกัดแนวเพลง

‘แอลลี่’ ศิลปินอายุน้อย มากความสามารถ ใครจะรู้ว่ากว่าจะมีวันนี้ เธอต้องฝ่าฟันสารพัดคำดูถูก และการถูกบูลลี่ แต่เธอก็ได้พิสูจน์ตัวเอง มองมุมบวก แปรเปลี่ยนสิ่งเหล่านั้นเป็นแรงผลักดัน จนก้าวขึ้นมาเป็นไอดอลวัยรุ่นที่น่าจบตามอง

“แอลลี่ - อชิรญา นิติพน” ศิลปินวัย 17 ปี จากค่าย 411 Music ลูกสาวศิลปินชื่อดัง “อ่ำ-อัมรินทร์ นิติพน” กับ “จอย-อัจฉริยา อังคสุวรรณศิริ” ที่ล่าสุด เจ้าตัวก้าวสู่การเป็นเฟรชชี่เต็มตัว ในสาขาวิชา “Online Bachelor of Professional Studies in Music Business” วิทยาลัยดนตรีเบิร์กลีย์ (Berklee College of Music) เมืองบอสตัน ประเทศสหรัฐอเมริกา

ย้อนกลับไปถึงเส้นทางกว่าจะก้าวเข้าสู่วงการเพลง เดินตามความฝันด้านนักร้อง ได้เป็นศิลปินคนแรกของค่าย ที่แจ้งเกิดในเพลง “How To Love” และทำงานร่วมกับ ศิลปินและโปรดิวเซอร์ชื่อดังชาวเกาหลี แอลลี่ต้องผ่านการฝึกเป็นศิลปินที่ใช้มาตรฐานเดียวกับ K-pop ส่งไปฝึกที่ประเทศเกาหลีใต้ ทั้งระบบการฝึกซ้อม การมีผู้จัดการดูแลใกล้ชิด ทีมโปรดิวเซอร์ระดับโลก เรียกได้ว่าได้เห็นการถูกขัดเกลาให้เติบโตทั้งความสามารถ และการมีวินัยในการฝึกอย่างทุ่มเท ผ่านคราบน้ำตามานับไม่ถ้วน

ด้วยความที่แอลลี่เป็นที่จับตามาตั้งแต่เด็ก ในฐานะทายาทศิลปินผู้เต็มไปด้วยความมั่นใจ กล้าแสดงออก แต่กว่าจะมีวันนี้เธอพบความเห็นมากมายที่พูดถึงเธอในโลกโซเชียลฯ และคำตัดสินนั้นทำให้เธอเปลี่ยนไป

แอลลี่เผยว่า คำแรงที่เคยเจอมา คือ “คิดว่าไม่ได้ผ่านอะไรมาเลย You ไม่ได้พยายามเลย”

ด้วยภาพลักษณ์และการถูกจับตามอง ทำให้แอลลี่ถูกมองว่า “เป็นศิลปินด้วยวิธีการที่ง่าย” “เติบโตมาในครอบครัวศิลปิน” แต่เธอยังคงมีมุมมองบวกๆ ซึ่งรับรู้ได้ผ่านบทสัมภาษณ์ ที่กล่าวว่า

“หนูก็คิดว่าถ้าเราไม่รู้จริงๆ ว่าอะไรเป็นอะไร เราสามารถถามได้ อย่างแอลลี่เทรนหนักขนาดไหน แอลลี่เทรนนานแค่ไหน เป็นเรื่องที่ถามกันได้เพราะสงสัยกันได้ค่ะ

หนูก็ตอบด้วยความยินดีอยู่แล้ว หนูชอบเล่าเรื่องมากๆ แต่ว่าในชีวิตประจำวัน ที่มีคำว่านี่ไม่ได้พยายามเลยใช่ไหม หรือว่าไม่ได้ใช้เวลากับการทำเลยใช่ไหม หนูคิดว่าคนที่พยายามจริงๆ แล้วเขากำลังเหนื่อย ได้ยินคำเหล่านั้นมันยิ่งเหนื่อยเข้าไปอีกค่ะ


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top