ยามลูกมีทุกข์ ‘พ่อ’ ทุกคน มีความรู้สึกอย่างไรกับลูก ฉันใด
‘พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว’ กับพสกนิกรของพระองค์ยามนี้ ก็ฉันนั้น
ทราบหรือไม่ว่าการที่ในหลวงรัชกาลที่ 10 ทรงย้าย ‘สนามม้านางเลิ้ง’ ออกไป มีความหมายเพียงใด?
ที่ดินผืนนี้มีเนื้อที่กว่า 200 ไร่ เป็น ‘ทรัพย์สินพระมหากษัตริย์’ ราชตฤณมัยสมาคมเช่าทำสนามม้า สนามกอล์ฟมายาวนาน เมื่อหมดสัญญา ไม่มีพระราชประสงค์ให้เช่าต่อ ทรงนำที่ดินกว่า 200 ไร่นั้น แปลงจากสนามม้าเพื่อคนเฉพาะกลุ่มเป็น ‘สวนสาธารณะ’ เพื่อพสกนิกรทั้งแผ่นดินได้ใช้เป็นรมณียสถานแห่งชีวิตคุณภาพ
พูดกันชัด ๆ ก็คือ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงนำที่ดินทรัพย์สินพระมหากษัตริย์ที่ราชตฤณมัยสมาคมเช่ากลับคืนมา รื้อทิ้งสนามม้า สนามกอล์ฟ อะไรมิต่ออะไร ออกไปทั้งหมด แล้วทำเป็น ‘สวนสาธารณะ’ ให้ประชาชนใช้ เพิ่มสีเขียวเป็นปอดให้คนกรุงเทพฯ
ที่สำคัญยิ่ง สวนสาธารณะร่วม 216 ไร่ นี้ ยังเป็นสถานที่ตั้ง พระบรมราชานุสาวรีย์ ‘พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร รัชกาลที่ ๙’ ซึ่งนับเป็นของขวัญล้ำค่าที่พระองค์ทรงมอบให้คนไทยได้สืบสาน-รักษา ‘รากรัก’ ของลูก ๆ ทั้งแผ่นดิน ที่หยั่งลึกพันผูกต่อพ่อบนฟ้าอันยากถอนพระบรมราชานุสาวรีย์นี้ อันจะเป็นสายใยสืบสานความจงรักและคิดถึง ‘พ่อบนฟ้า’ นั้น ทั้งรักษาความผูกพัน ‘พระภูมิพล’ พ่อของแผ่นดินกับลูก ๆ ทุกคนคือพสกนิกร ไปตราบชั่วฟ้าดินสลาย
คิดถึงพ่อ ก็มีที่ให้มากราบ ให้มาถวายราชสักการะ ให้มาคุกเข่าแหงนหน้ามองดูพ่อ ซึ่งเป็นพระมหากรุณาธิคุณในหลวงรัชกาลที่ 10 สุดหาสิ่งใดเปรียบแล้ว
กล่าวย่นย่อถึงการ ‘สืบสาน-รักษา’ แล้ว มิเพียงแค่นั้น ธ ยังทรงต่อยอดการสืบสานด้วยพระวิสัยทัศน์กอปรน้ำพระทัยเมตตาอีกหลายกรณี เช่น สร้างสวนสาธารณะแล้ว ยังทรงมีพระบรมราชวินิจฉัยต่อไป ถึงด้านความสะดวกของประชาชนที่จะมาพักผ่อนหย่อนใจ ออกกำลังกายในสวนแห่งนี้ จึงทรงให้สร้างที่จอดรถใต้ดิน 3 ชั้น รองรับรถยนต์ได้ประมาณ 700 คัน
มีอะไรบ้าง ที่เป็นความเดือดร้อนของประชาชนแล้วที่พระองค์จะไม่ทรงทราบ?
ทุกอย่างล้วนอยู่ในสายพระเนตร
กระทั่ง ‘โรงพยาบาลรามาธิบดี’ แต่ละวัน ผู้เจ็บป่วยและประชาชนเดินทางไปหาหมอทะลักล้น แต่สถานที่จอดรถ เป็นปัญหามาก จึงทรงให้สร้าง ‘อาคารจอดรถ’ โรงพยาบาลรามาธิบดีด้วย
เท่านี้ก็ว่าครอบคลุมด้าน ‘อำนวยสะดวก’ ในความเป็นสวนสาธารณะเกินพอแล้ว