Saturday, 10 May 2025
INFO

🔎ส่อง 10 รัฐมนตรี ‘ครม.อุ๊งอิ๊ง 1’ คนรุ่นใหม่ (ไม่เกิน 55 ปี)

📝เช็กรายชื่อ ครม. อุ๊งอิ๊ง 1 และรมต.คนรุ่นใหม่✨

‘ราชกิจจานุเบกษา’ เผยแพร่ ‘พระบรมราชโองการ’ โปรดเกล้าฯ แต่งตั้งรัฐมนตรี ในรัฐบาลนางสาวแพทองธาร ชินวัตร

>>โปรดเกล้าฯ แต่งตั้งรัฐมนตรี ดังต่อไปนี้
1. นายภูมิธรรม เวชยชัย เป็นรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม
2. นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ เป็นรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม
3. นายอนุทิน ชาญวีรกูล เป็นรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย
4. นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค เป็นรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน

5. นายพิชัย ชุณหวชิร เป็นรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง
6. นายประเสริฐ จันทรรวงทอง เป็นรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม
7. นายชูศักดิ์ ศิรินิล เป็นรัฐมนตรีประจําสํานักนายกรัฐมนตรี
✨8. นางสาวจิราพร สินธุไพร เป็นรัฐมนตรีประจําสํานักนายกรัฐมนตรี 

9. พลเอก ณัฐพล นาคพาณิชย์ เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม
10.นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง
✨11. นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง
12. นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ

✨13. นายสรวงศ์ เทียนทอง เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา
14. นายวราวุธ ศิลปอาชา เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์
15. นางสาวศุภมาส อิศรภักดี เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม
16. นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์

17. นายอิทธิ ศิริลัทธยากร เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
✨18. นายอัครา พรหมเผ่า เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
19. นางมนพร เจริญศรี เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม
20. นายสุรพงษ์ ปิยะโชติ เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม

21. นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
22. นายพิชัย นริพทะพันธุ์ เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์
23. นายนภินทร ศรีสรรพางค์ เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์
24. นายสุชาติ ชมกลิ่น เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์

25. นายทรงศักดิ์ ทองศรี เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย
✨26. นางสาวซาบีดา ไทยเศรษฐ์ เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย
✨27. นางสาวธีรรัตน์ สําเร็จวาณิชย์ เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย
28. พันตํารวจเอก ทวี สอดส่อง เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม

29. นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน
✨30. นางสาวสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม
31. พลตํารวจเอก เพิ่มพูน ชิดชอบ เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ
✨32. นายสุรศักดิ์ พันธ์เจริญวรกุล เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ

33. นายสมศักดิ์ เทพสุทิน เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข
34. นายเดชอิศม์ ขาวทอง เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข
✨35. นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม

ทั้งนี้ผู้สื่อข่าวรายงานว่า น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี จะนำคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ที่ได้รับโปรดเกล้าฯ เข้าเฝ้าถวายสัตย์ฯ คาดการณ์ว่าเป็นวันที่ 6 กันยายน 2567 เวลา 17.00 น.

🔎ส่อง 10 อันดับประเทศที่มี ‘ความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยี’ มากที่สุดในโลก

THE STATES TIMES ชวนดู!! ประเทศที่มี ‘ความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยี’ มากที่สุดในโลก ในส่วน ‘ประเทศไทย’ ของเรา อยู่ในอันที่ 32 ของโลก และเป็นอันดับที่ 2 ของกลุ่มประเทศอาเซียน รองจากสิงคโปร์ ตามมาด้วย มาเลเซีย อันดับ 33, เวียดนาม อันดับ 35 และฟิลิปปินส์ อันดับ 40

สำรวจ 10 ประเทศที่ปริมาณทองคำเปลี่ยนแปลงมากที่สุดในโลก (ตั้งเเต่ปี 2013-2024)

(3 ก.ย. 67) คงไม่มีใครปฏิเสธว่าสินทรัพย์ที่มีมูลค่าในตัวเองเเละมูลค่านั้นไม่มีวันลดน้อยลง แถมยังถือเป็น Safe Haven หรือหลุมหลบภัยเวลาสถานการณ์โลกไม่ปลอดภัย คงหนีไม่พ้นสินทรัพย์อย่าง ‘ทองคำ’

นอกจากทองคำจะเป็นสินทรัพย์ประเภทหนึ่งเเล้ว ในโลกการเงินทองคำยังถูกนำเอามาใช้เป็นตัวที่รับรองความน่าเชื่อถือของสกุลเงิน และรักษาเสถียรภาพทางการเงิน เพราะในการจะพิมพ์ธนบัตรออกมาใช้ ธนาคารกลางจำเป็นต้องเอาทองคำมาเป็นทุนสำรองของประเทศเพื่อสนับสนุนค่าเงิน รวมถึงยังสามารถใช้ทองคำในการชำระเงินระหว่างประเทศหรือชดเชยการขาดดุลทางการค้ากับประเทศอื่น ๆ อีกด้วย 

และตั้งเเต่ปี 2007-2008 ที่เกิดวิกฤติการเงินโลกก็ทำให้หลายประเทศหันมาเพิ่มสัดส่วนการถือครองทองคำกันเพิ่มมากขึ้นค่ะ โดยหลังจากวิกฤติทางการเงินกลุ่มประเทศเกิดใหม่เป็นกลุ่มที่มีการเข้ามาไปซื้อทองคำเพื่อนำมาใช้เป็นทุนสำรองระหว่างประเทศเพิ่มขึ้นสูงสุดค่ะ 

ทางธนาคารกลางของสหรัฐฯ สาขาเซนต์หลุยส์และธนาคารโลกจึงได้มีการรวบรวมข้อมูลการใช้ทองคำเป็นทุนสำรองของประเทศ และทางสภาทองคำโลกเองก็ได้รวบรวมเหล่าบรรดาประเทศที่มีการนำเข้าทองคำมาเป็นทุนสำรองระหว่างประเทศเยอะที่สุดตั้งแต่ปี 2013-2024 โดย ‘รัสเซีย’ มีการนำเข้าทองคำมาเป็นทุนสำรองระหว่างประเทศมากที่สุด รองลงมาคือ ‘จีน’

อย่างไรก็ตาม ประเทศที่ยังคงเป็นอันดับ 1 ในการถือครองทองคำมากที่สุดในโลกก็คือ ‘สหรัฐอเมริกา’ ถึงเเม้ว่าตั้งแต่ปี 2013-2024 สหรัฐฯ จะไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงปริมาณทองคำเยอะเท่ากับประเทศอื่น ๆ แต่สหรัฐฯ เองก็ยังคงเป็นประเทศที่ครองแชมป์อันดับ 1 มาอย่างยาวนาน โดยสหรัฐฯ เองมีทองคำเป็นทุนสำรองของประเทศ 8,133.5 ตัน และคิดเป็น 72.4% ของทุนสำรองของประเทศ ตามมาด้วยประเทศอย่าง ‘เยอรมนี’ ที่มีทองคำประมาณ 3,351.5 ตัน คิดเป็น 71.5% ของทุนสำรองระหว่างประเทศ และ ‘อิตาลี’ ที่มีทองคำประมาณ 2,451.8 ตัน คิดเป็น 68.3% ของทุนสำรองระหว่างประเทศ

🔎ส่องความมั่งคั่ง 11 รายชื่อ ‘เศรษฐีไทย’

นิตยสารฟอร์บส์ (Forbes) เผยแพร่อันดับมหาเศรษฐีไทย ประจำปี 2024 ระบุว่า ‘เฉลิม อยู่วิทยา’ ขยับขึ้นสู่อันดับ 1 หลังจากที่ธุรกิจเครื่องดื่มชูกำลังมียอดขายมากกว่า 12,000 ล้านกระป๋องทั่วโลก ทำให้มหาเศรษฐีกลุ่มเจริญโภคภัณฑ์ ที่รู้จักกันดีในนาม ‘เจ้าสัวซีพี’ ที่ครองอันดับ 1 มายาวนานเกือบทศวรรษ หล่นลงมาอยู่อันดับ 2

ส่วน 11 รายชื่อ ‘เศรษฐีไทย’ ประจำปี 2024 จะมีใครบ้าง ไปดูกัน!!

🔍10 อันดับเมืองที่มี ‘คนไร้บ้าน’ มากที่สุดในโลก

‘คนไร้บ้าน’ หมายถึง คนที่ไร้ที่อยู่ หรือผู้ที่ไม่สามารถหาที่อยู่เป็นของตัวเองได้ ซึ่งสาเหตุอาจจะมาจากหลายปัจจัย เช่น การถูกทอดทิ้ง การหนีออกจากบ้าน การไร้ที่พึ่ง ความยากจน โดยส่วนใหญ่คนเหล่านี้จะอาศัยอยู่ตามท้องถนน หรือแหล่งเสื่อมโทรมในย่านอุตสาหกรรม และแน่นอนว่า ‘คนไร้บ้าน’ จะไม่มีอาชีพเป็นหลักแหล่งและไม่มีรายได้ที่แน่นอนนั่นเอง

ปัญหา ‘คนไร้บ้าน’ เกิดขึ้นทุกประเทศทั่วโลก แตกต่างกันที่จำนวนคนไร้บ้าน ซึ่งจากผลสำรวจ Annual Homelessness Assessment Report (AHAR) เมื่อปี 2023 ชี้ให้เห็นว่า กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส เมืองในฝันของใครหลาย ๆ คน มีจำนวนคนไร้บ้านมากถึง 333,000 คน มากเป็นอันดับ 1 ของโลก

🔎ส่องประเทศที่มี ‘นักท่องเที่ยว’ เดินทางไปเยอะที่สุด ในปี 2023

จากผลสำรวจของ The World Tourism rankings  by the United Nations World Tourism Organization ระบุว่าในปี 2023 ‘ประเทศไทย’ ทำรายได้จากการท่องเที่ยวของชาวต่างชาติรวม 1.2 ล้านล้านบาท มีรายได้รวมจากการท่องเที่ยว 2 ล้านล้านบาท โดยมีนักท่องเที่ยวลำดับ 1 มาจากมาเลเซีย 4.5 ล้านคน

ส่วนประเทศที่โกยนักท่องเที่ยวต่างชาติได้มากที่สุดในปี 2023 ได้แก่ ‘ฝรั่งเศส’ โดยมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางไปเที่ยวมากถึง 100 ล้านคน

🔎เปิด 10 อันดับ ‘เมืองอัจฉริยะ’ ในเอเชีย 2024

‘เมืองอัจฉริยะ’ หมายถึง เมืองที่ใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่ทันสมัยและชาญฉลาด เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของการให้บริการและการบริหารจัดการเมือง ภายใต้แนวคิดการพัฒนา ‘เมืองน่าอยู่ เมืองทันสมัย’ ให้ประชาชนในเมืองมีคุณภาพชีวิตที่ดี มีความสุข อย่างยั่งยืน 

THE STATES TIMES ได้รวบรวม 10 เมืองอัจฉริยะ ในเอเชีย ประจำปี 2024 มาไว้ให้แล้ว จะมีเมืองไหนบ้าง ไปดูกัน!!

ส่อง 10 ประเทศที่มีการเติบโตของ GDP มากที่สุดในปี 2024

ปี 2024 เป็นปีที่โลกกำลังเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจที่สำคัญ อัตราการเติบโตของ GDP ในบางประเทศสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว จากการเก็บรวบรวมข้อมูลของ IMF ได้ทำการจัดอันดับประเทศที่ GDP โตมากที่สุด โดยทั้ง 10 ประเทศนี้เป็นประเทศเกิดใหม่หรือ Emerging Market โดยทั้ง 10 ประเทศนี้ประกอบไปด้วย

1. อินเดีย
อินเดียเติบโตการขยายตัวของภาคบริการและเทคโนโลยี รวมถึงการลงทุนภายในประเทศที่มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง โดยคาดการณ์ว่า GDP จะโตได้ถึง 6.8%-7%

2. เวียดนาม
เวียดนามการเติบโตด้วยการเพิ่มขึ้นของอุตสาหกรรมการผลิตและการส่งออก โดยเฉพาะในกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์และสิ่งทอ โดยคาดการณ์ว่า GDP จะโตได้ถึง 6.2%-6.5%

3. บังกลาเทศ
บังกลาเทศยังคงเติบโตในภาคการผลิตเสื้อผ้าและสิ่งทอ และการบริโภคภายในประเทศที่เพิ่มขึ้น โดยคาดการณ์ว่า GDP จะโตได้ถึง 6.3%

4. ฟิลิปปินส์
เศรษฐกิจของฟิลิปปินส์เติบโตอย่างรวดเร็วจากการบริโภคภายในประเทศและการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน ภาคบริการที่ขยายตัว โดยเฉพาะการให้บริการด้านกระบวนการทางธุรกิจ (BPO) และการท่องเที่ยว โดยคาดการณ์ว่า GDP จะโตได้ถึง 6.1%

5. เคนยา
เคนยาเป็นหนึ่งในประเทศในแอฟริกาที่มีการเติบโตด้วยการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและการลงทุนในภาคเทคโนโลยี โดยคาดการณ์ว่า GDP จะโตได้ถึง 5.8%

6. กานา Ghana
เศรษฐกิจกานามีการเติบโตอย่างรวดเร็วจากการส่งออกน้ำมันและก๊าซธรรมชาติ รวมถึงการพัฒนาภาคการเงินและบริการ โดยคาดการณ์ว่า GDP จะโตได้ถึง 5.7%

7. อินโดนีเซีย
อินโดนีเซียยังคงเติบโตจากการบริโภคภายในประเทศที่แข็งแกร่งและการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน โดยคาดการณ์ว่า GDP จะโตได้ถึง 5.3%-5.5%

8. จีน
จีนยังคงมีการเติบโตโดยได้รับแรงสนับสนุนจากการบริโภคภายในประเทศและนวัตกรรมในภาคเทคโนโลยี โดยคาดการณ์ว่า GDP จะโตได้ถึง 5.0%-5.5%

9. ไนจีเรีย
ปีนี้ไนจีเรียก็ยังคงมีการเติบโตในภาคพลังงานและการเกษตรอย่างต่อเนื่องส่งผลให้ GDP โตขึ้นอย่างเห็นได้ชัด โดยคาดการณ์ว่า GDP จะโตได้ถึง 5.2%

10. ซาอุดีอาระเบีย
ซาอุดีอาระเบียมีการปรับโครงสร้างเศรษฐกิจผ่านแผนวิสัยทัศน์ 2030 มุ่งเน้นการลดการพึ่งพาน้ำมันและการพัฒนาภาคเศรษฐกิจอื่น ๆ โดยคาดการณ์ว่า GDP จะโตได้ถึง 4.5%-5%

และถึงแม้ว่าประเทศไทยจะไม่อยู่ในกลุ่ม 10 ประเทศที่มีการเติบโตของ GDP สูงสุด แต่ประเทศไทยยังคงมีอัตราการเติบโตที่คาดการณ์ในระดับที่น่าพอใจ โดยในปี 2024 คาดว่า GDP ของประเทศไทยจะเติบโตประมาณ 2.3% ถึง 2.6% โดยถ้าโครงการดิจิทัลวอลเล็ตไม่สำเร็จก็อาจจะทำให้ GDP มาอยู่ที่ระดับกรอบล่างที่ 2.2% การเติบโต GDP นี้ได้รับแรงหนุนจากการฟื้นตัวของการท่องเที่ยว การลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน และการขยายตัวของภาคการส่งออก แม้จะเผชิญกับความท้าทาย เช่น ความไม่แน่นอนทางการเมืองและการแข่งขันจากประเทศเพื่อนบ้านในการดึงดูดการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ 

📌เจาะ!! เส้นทางกว่าจะถึงวัน ‘แก้รัฐธรรมนูญ’

📔ปัจจุบัน ‘การแก้รัฐธรรมนูญ’ ยังอยู่ในขั้นตอนที่ 0 หรือก็คือ ยังไม่มีการเสนอร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งฉบับ วันนี้ THE STATES TIMES ได้รวบรวมขั้นตอนการแก้ไขรัฐธรรมนูญ จะมีขั้นตอนใดบ้าง ไปดูกัน!!


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top