Thursday, 16 May 2024
NEWSFEED

ประเพณี ‘คุกเข่า’ ขอสาวแต่งงาน สัญญามั่น ‘รัก-ภักดี’ ชั่วนิจนิรันดร์

ช่วงนี้ซีนคุกเข่าขอแต่งงานปรากฏขึ้นบ่อยตามหน้าสื่อ แต่เคยสงสัยกันไหมว่า ทำไมถึงต้อง ‘คุกเข่า’ แล้วการคุกเข่าขอแต่งงาน มีจุดเริ่มมาจากอะไร?

สำหรับคุณสาว ๆ (อาจจะรวมถึงคุณหนุ่มๆ) แล้ว ช่วงเวลาสุดพิเศษที่มีใครสักคนมาคุกเข่า เพื่อแต่งงานนั้น คงเป็นอีกหนึ่งความฝันที่เฝ้าใฝ่หากันไม่มากก็น้อย เพียงแค่เขาคนนั้นค่อย ๆ หย่อนเข่าข้างหนึ่งลง หัวใจของคุณสาว ๆ ก็คงเต้นไม่เป็นจังหวะ ยิ่งอยู่ในสภาวะที่คนรอบข้างรายล้อมด้วยแล้ว คนโดน คือ ยิ้มแรง ส่วนคนรอบข้างแม้จะยินดี แต่ก็น่าจะแอบมองแรงด้วยแรงอิจพร้อม ๆ กัน 

ว่าแต่การคุกเข่าขอแต่งงาน มีความหมายอะไรงั้นหรือ?

หากมองอย่างผิวเผินแล้ว อาจจะเป็นประเพณีหนึ่งที่ทั่วโลกทำกัน ขณะที่อีกมุมหนึ่ง ก็ถูกมองว่าเป็นท่าที่มุมเหมาะสมสำหรับการสวมแหวนให้กับอีกฝ่ายได้อย่างพอดีและสวยงาม

แต่จากข้อมูลของ Engagement Ring Bible ได้อธิบายถึงที่มาของการคุกเข่าขอแต่งงานไว้ โดยระบุว่าจุดเริ่มต้นดังกล่าวต้องย้อนไปในยุคของอัศวินอันทรงเกียรติ ตั้งแต่ช่วงยุคกลาง (Medieval) ซึ่งผู้คนจะพบเห็นภาพปกติที่ผู้ชายนั้นมักจะคุกเข่า ‘หนึ่งข้าง’ ให้แก่ฝ่ายหญิงที่หมายตาไว้ ประหนึ่งอัศวินที่คุกเข่าต่อเจ้านาย ขุนขาง หรือผู้สูงศักดิ์ทั้งหลาย เพื่อเป็นการแสดงความเคารพ ความภักดี และยังมีความเกี่ยวเนื่องการศาสนาในสมัยนั้นอีกด้วย

‘ตั๊กแตน ชลดา’ น้ำตาแตก กราบแทบเท้า หลัง ‘พี่เอ’ เหมาซื้อลิขสิทธิ์เพลง GMM ให้

ต้องยอมความรักพี่รักน้องของ ‘พี่เอ’ จริง ๆ หลังเหมาซื้อลิขสิทธิ์เพลงของ ‘ตั๊กแตน ชลดา’ ทั้งหมดจาก GMM ให้ตั๊กแตนได้นำมาร้องเต็มปากเต็มคำ 

หลังจากนักร้องสาว ‘ตั๊กแตน ชลดา’ ได้มาไลฟ์กับผู้จัดการดาราคนดัง ‘เอ ศุภชัย’ ในเพจ ‘เอพาแหล’ และเจ้าตัวก็ได้รับข่าวดีที่ทำเอาต้องช็อก พร้อมปล่อยโฮหนัก เมื่อเอ ศุภชัย โชว์ป๋าควักสัญญาซื้อลิขสิทธ์เพลงที่ตั๊กแตนเคยร้องไว้เมื่อครั้งอยู่ค่ายแกรมมี่มาให้นักร้องสาวได้ร้องให้แฟนเพลงฟังแบบเต็ม ๆ อีกครั้ง

โดยเรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อทั้งคู่ได้มาร่วมพูดคุยกับแฟน ๆ ก่อนที่ ตั๊กแตน จะสอน พี่เอ ร้องเพลง แต่ร้องได้แค่เพลงละ 7 คำ ซึ่งตั๊กแตนก็ว่าร้องได้แค่นี้เพราะเดี๋ยวโดนสิทธิ์ นอกจากจะเป็นเพลงใหม่ที่ทำเอง ก่อนที่เอจะพานั่งคุยและบอกว่า...

“แม่ก็คือแม่ สิ่งที่แม่ให้ลูกได้ในวันนี้ที่ลูกมาบ้านแม่ แม่มีสิ่งจะมอบให้ลูกนะ” ก่อนที่ตั๊กแตนจะถามว่า “อะไร” และบอกว่า “แม่ไม่ต้องให้อะไรหนูเลยแม่” ซึ่ง เอ ก็ยืนยันว่าจะให้ พร้อมกล่าวต่อว่า...

รู้จัก ‘วัดบวรสถานสุทธาวาส’ สถาปัตยกรรมอันงดงาม บนผืนแผ่นดินไทย

มาชมความงดงามแห่งพระอาราม ‘วัดบวรสถานสุทธาวาส’ หรือ ‘วัดพระแก้ววังหน้า’ ภาพจิตรกรรมอันวิจิตร มากด้วยประวัติศาสตร์แห่งกาลเวลา

หากใครเคยผ่านไปบริเวณวิทยาลัยนาฏศิลป์ เชิงสะพานปิ่นเกล้า ต้องเคยเห็นอาคาร ที่มีลักษณะคล้ายโบสถ์อย่างแน่นอน และต้องสักวาบความคิด สงสัยว่า อาคารหลังนี้คืออะไร แน่นอน สถานที่นี้ คือ โบสถ์ ส่วนที่เหลืออยู่ของวัดทั้งวัดในอดีต

‘วัดบวรสถานสุทธาวาส’ หรือ ที่เรียกกันตามภาษาปากว่า ‘วัดพระแก้ววังหน้า’ หากมีโอกาสได้เข้าไปภายในพระอุโบสถแห่งนี้ สิ่งที่น่าสนใจของสถานที่แห่งนี้ คือ ภาพจิตรกรรมฝาผนังที่มีทั้งเรื่องราวเทวดา เทพเจ้า ป่าหิมพานต์ เป็นต้น

รวมทั้งมีพระแท่นกลางพระอุโบสถ ที่มีตำนานเกี่ยวกับเรื่องราวความเชื่อทางไสยเวทวิทยาคม ของกรมพระราชวังบวรวิไชยชาญ ส่วนในประวัติศาสตร์จริงนั้น เป็นพระแท่นที่สร้างไว้เพื่อเตรียมการอัญเชิญพระพุทธสิหิงค์ พระที่นั่งพุทธไธสวรรย์ มาประดิษฐานยังพระอุโบสถ

สำหรับประวัติของวัดแห่งนี้ เริ่มต้นการเป็นวัดในครั้งแรก ในสมัยสมเด็จพระบวรราชเจ้ามหาสุรสิงหนาท ทรงสร้างขึ้นเป็นครั้งแรก ชื่อว่า ‘วัดหลวงชี’ เพื่อให้ นักนางแม้น ซึ่งเป็นมารดาของนักองค์อี ธิดาในสมเด็จพระอุไทยราชา พระเจ้ากรุงกัมพูชา พระสนมเอกในพระองค์ ใช้สำหรับจำศีล

ในสมัยของสมเด็จพระบวรราชเจ้ามหาเสนานุรักษ์ วัดหลวงชีทรุดโทรมลง พระองค์จึงโปรดให้รื้อกุฏิออก ทำเป็นสวนกระต่าย จนมาถึงสมัยสมเด็จพระบวรราชเจ้ามหาศักดิพลเสพ ทรงสร้างวัดขึ้นแทนสวนกระต่าย เรียกว่า ‘วัดพระแก้ววังหน้า’ แต่การสร้างไม่เสร็จสิ้นเพราะพระองค์เสด็จทิวงคตก่อน มาแล้วเสร็จในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว และพระราชทานนามว่า ‘วัดบวรสถานสุทธาวาส’

ในยุคของรัชกาลที่ 5 เมื่อพระองค์ทรงให้ยกเลิกตำแหน่งกรมพระราชวังบวรมงคล แล้วสถาปนารัชทายาทในตำแหน่งสยามมกุฏราชกุมารแทน วังหน้าที่ทรุดโทรมลง รวมถึงวัด พระองค์ให้โปรดรื้อแนวกำแพงวังหน้าและตัววัดออก เหลือเพียงพระอุโบสถ

‘ไบโอดีเซล’ เชื้อเพลิงพลังงานชีวภาพ จากพระอัจฉริยภาพของในหลวง รัชกาลที่ 9

พระมหากรุณาธิคุณอันยิ่งใหญ่หาที่สุดมิได้ของในหลวงรัชกาลที่ 9 ที่ได้ทรงศึกษาวิจัยค้นคว้าพลังงานชีวภาพ แก๊สโซฮอล์ และไบโอดีเซล จากผลิตผลทางเกษตรในประเทศ และช่วยให้ประชาชนสามารถใช้น้ำมันเชื้อเพลิงในราคาถูก กว่าน้ำมันเชื้อเพลิงจากปิโตรเลียม

การศึกษาวิจัยเกี่ยวกับเชื้อเพลิงชีวภาพของโครงการส่วนพระองค์จิตรลดา เริ่มต้นในปี 2528 ด้วยในหลวงรัชกาลที่ 9 โดยพ่อหลวงของปวงชนชาวไทย มีพระราชดำริว่า ในอนาคตอาจเกิดการขาดแคลนน้ำมัน จึงมีพระราชประสงค์ให้นำอ้อยมาผลิตแอลกอฮอล์เพื่อใช้เป็นเชื้อเพลิง ต่อมาโครงการได้ศึกษาวิจัยการผลิตและกลั่นแอลกอฮอล์ จากพืชผลทางเกษตรหลายอย่าง เช่น ข้าวโพด ข้าวฟ่าง มันสำปะหลัง อ้อย มีการปรับปรุงการกลั่นเรื่อยมา จนสามารถผลิตแอลกอฮอล์บริสุทธิ์ 95% หรือที่เรียกว่า เอทานอล ไปกลั่นแยกน้ำ และใช้เป็นวัตถุดิบผสมน้ำมันเบนซินผลิตแก๊สโซฮอล์ โดยศึกษาทดลองสูตรการผสม และผลิตน้ำมันแก๊สโซฮอล์ใช้กับรถยนต์ทุกคันของโครงการส่วนพระองค์ฯ

ต่อมา บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ได้นำผลการศึกษาของโครงการส่วนพระองค์จิตรลดามาต่อยอด ผลิตน้ำมันแก๊สโซฮอล์ เริ่มจำหน่ายในเชิงพาณิชย์ ตั้งแต่ปี 2545 ส่วน บริษัท บางจาก จำกัด (มหาชน) ร่วมกับสถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์แห่งประเทศไทย ศึกษาทดลองผลิตเอทานอลบริสุทธิ 99.5% จากมันสำปะหลัง แล้วนำมาผสมกับน้ำมันเบนซินในสัดส่วน 10% ทดแทนสาร เพิ่มออกเทน MTBE ที่ใช้แทนสารตะกั่ว ซึ่งต้องนำเข้าเป็นน้ำมันแก๊สโซฮอล์ 95 เริ่มจำหน่ายที่สถานีบริการน้ำมันบางจาก ถ.ติวานนท์

ปัจจุบันน้ำมันแก๊สโซฮอล์เป็นที่นิยมของประชาชนอย่างกว้างขวาง เพราะราคาถูกกว่าน้ำมันเบนซิน ซึ่งช่วยลดการนำเข้าน้ำมันได้ส่วนหนึ่ง และยังช่วยลดมลพิษในอากาศได้อีกด้วย เพราะแก๊สโซฮอล์ไม่ต้องเติมสารตะกั่ว และสารเพิ่มออกเทน MTBE

ไบโอดีเซลในประเทศไทย เริ่มพัฒนามาจากพระราชดำริของในหลวงรัชกาลที่ 9 เมื่อปี 2526 ให้มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ สร้างโรงงานสกัดน้ำมันปาล์มทดลองขนาดเล็กที่สหกรณ์นิคมอ่าวลึก จ.กระบี่ และอีกหลายแห่งในเวลาต่อมา ในปี 2543 โครงการส่วนพระองค์สวนจิตรลดา และกองงานส่วนพระองค์ วังไกลกังวล หัวหิน เริ่มการทดลองนำน้ำมันปาล์มมาใช้เป็นเชื้อเพลิงสำหรับเครื่องยนต์ดีเซล จากการทดลองพบว่า น้ำมันปาล์ม บริสุทธิ์ 100% สามารถใช้เป็นน้ำมันเชื้อเพลิงสำหรับเครื่องยนต์ดีเซลได้ โดยไม่ต้องผสมกับน้ำมันเชื้อเพลิงอื่นฯ หรืออาจใช้ผสมกับน้ำมันดีเซลได้ ตั้งแต่น้อยสุด 1 - 99% ทั้งนี้องคมนตรี (อำพล เสนาณรงค์) เป็นผู้แทนในหลวงรัชกาลที่ 9 ได้จดสิทธิบัตรการประดิษฐ์ ‘การใช้น้ำมันปาล์มกลั่นบริสุทธิ์เป็นน้ำมันเชื้อเพลิงสำหรับเครื่องยนต์ดีเซล’ แล้ว

จากโครงการพัฒนาและทดลองการผลิตการใช้น้ำมันไบโอดีเซลในโครงการส่วนพระองค์ ของในหลวงรัชกาลที่ 9 จนเทคโนโลยีการผลิตการใช้ไบโอดีเซลก้าวหน้า สามารถนำมาใช้ในเป็นน้ำมันเชื้อเพลิงในทางพาณิชย์ได้ ผลการวิจัยในการนำน้ำมันพืชมาใช้ผลิตไบโอดีเซลในประเทศไทย พบว่าน้ำมันพืชที่เหมาะสมและมีศักยภาพในการผลิตไบโอดีเซล คือ น้ำมันปาล์ม

>> ไบโอดีเซลในประเทศไทยแบ่งออกได้เป็นไบโอดีเซลชุมชน และไบโอเชิงพาณิชย์
ไบโอดีเซลชุมชน คือไบโอดีเซลที่กลั่นน้ำมันปาล์มออกมาเหมือนน้ำมันพืชที่ใช้ปรุงอาหาร เหมาะกับเครื่องยนต์ดีเซลสูบเดียว รอบเครื่องยนต์คงที่ เช่น รถไถนาเดินตาม รถอีแต๋น เครื่องสูบน้ำ แต่ไม่เหมาะกับการใช้กับเครื่องยนต์ดีเซลที่มีหลายสูบ เช่นเครื่องยนต์ที่ใช้กับรถยนต์ เพราะระยะยาวจากเกิดยางเหนียวในเครื่องติดที่ลูกสูบ

สำหรับไบโอดีเซลเชิงพาณิชย์ คือ ไบโอดีเซลที่ใช้น้ำมันปาล์มผ่านกระบวนการไปผสมกับน้ำมันดีเซล โดยผู้ผลิตรถยนต์ทดสอบและให้การรับรองว่าใช้กับรถยนต์รุ่นที่ทดสอบแล้วได้

>> ไบโอดีเซลช่วยเกษตรกรชาวสวนปาล์ม
นอกจากการส่งเสริมสนับสนุนให้ใช้ไบโอดีเซล เพื่อลดการการนำเข้าน้ำมันแล้ว ในยามที่ปาล์มมีราคาตกต่ำ รัฐบาลก็สนับสนุนส่งเสริมให้มีการผลิต การจำหน่าย การใช้ไบโอดีเซลที่ผสมน้ำมันปาล์มในรถยนต์ด้วย

ที่ผ่านมาใช้น้ำมันดีเซลผสมกับน้ำมันปาล์มที่ผ่านกระบวนการในอัตรา 95 : 5 จะได้ไบโอดีเซล ที่เรียกว่า บี 5 ถ้าเป็นอัตรา 93 : 7 จะได้ไบโอดีเซลเรียกว่า บี 7 ซึ่งเป็นการเพิ่มความต้องการน้ำมันปาล์ม ที่สามารถยกระดับราคาปาล์ม ตามกลไกตลาดได้ระดับหนึ่ง

>> ปัจจุบันมีปัญหาราคาปาล์มตกต่ำอีก กระทรวงพลังงานจึงได้ร่วมกับหน่วยงานอื่นและเอกชนที่เกี่ยวข้อง ผลักดันไบโอดีเซล บี 10 เพื่อแก้วิกฤตราคาปาล์ม

บี 10 คือ น้ำมันไบโอดีเซล ที่มีอัตราผสมน้ำมันดีเซลอัตรา 90 ส่วน ต่อน้ำมันปาล์มผ่านกรรมวิธี 10 ส่วน ซึ่งจะสามารถเพิ่มความต้องการน้ำมันปาล์มได้ดีกว่า บี 5 และบี 7 นอกจากนี้ยังมีการผลิตน้ำมันไบโอดีเซล บี 20 ซึ่งมีส่วนผสมของน้ำมันปาล์มผ่านกรรมวิธี 20% ด้วย

ในการผลักดันการใช้น้ำมันไบโอดีเซล บี 10 ซึ่งมีราคาถูกกว่าน้ำมันดีเซล นอกจากช่วยผู้ใช้รถประหยัดค่าใช้จ่ายจากราคาน้ำมันแล้ว ยังเป็นการช่วยชาวสวนปาล์มด้วยทางหนึ่ง 

'ลิซ่า' ครองตำแหน่งอินฟลูเอ็นเซอร์ 'อันดับ 1' ผู้ทรงอิทธิพลในพื้นที่สื่อจากงานแฟชันวีก

ในงาน ปารีส-มิลาน แฟชันวีก ที่ผ่านมา ลิซ่า หรือ ลลิษา มโนบาล แห่งวง BLACKPINK ได้ปรากฏตัวในฐานะ แบรนด์แอมบาสเดอร์ ของซีลีน (CILINE) พร้อมสร้างปรากฏการณ์สะเทือนวงการแฟชันอีกครั้ง เมื่อผลจากการจัดอันดับ 'ค่า EMV Rankings' ของอินฟลูเอ็นเซอร์ ที่เข้าร่วมปรากฏตัวงานแฟชันโชว์ปีนี้ ทั้งจาก Milan Fashion Week และ Paris Fashion Week คอลเลกชัน เมนส์แวร์ แฟชันฤดูร้อนและฤดูใบไม้ผลิ หรือ สปริง ซัมเมอร์ สำหรับปี 2023

ผลปรากฏว่า ลิซ่า หรือ ลลิษา มโนบาล แห่งวง BLACKPINK ขึ้นมาครองอันดับ 1 ในฐานะที่สามารถสร้างปรากฏการณ์ ดึงดูดความสนใจจากสื่อมวลชนในทุกพื้นที่สื่อ ด้วยมูลค่าเงินที่ประเมินจากกระแสความนิยมสูงถึง 29 ล้านเหรียญ หรือประมาณ 1,045 ล้านบาท ให้กับแบรนด์ ซีลีน (CILINE) ซึ่งลิซ่า มียอด Engagement ใน IG สูงถึง 12 %

ใครกันนะ? ดาราดังสวมบทนักธุรกิจ แต่เป็นหนี้ 'พันล้าน' ไม่ชดใช้

เมื่อไม่นานมานี้ เพจ อีจัน ได้เปิดเผยว่า... มีดาราที่สวมบทบาทนักธุรกิจที่ใช้ชีวิตดี๊ดี โพสต์โซเชียลกินหรู อยู่ดี สร้างความอิจฉา และภาพฝันให้เหล่าแฟนคลับจนยกให้เป็นไอดอล ใบ้อักษรย่อว่า 'พ'

แต่เท่าที่รู้ดาราท่านนี้ไม่ยอมใช้หนี้ที่กู้มาจากธนาคาร จนเข้าขั้นสถานะหนี้เสีย หรือ NPL ที่ค้างชำระติดต่อกันเกิน 90 วัน

ส่วนหนี้สินที่ไม่จ่ายมีจำนวนทั้งสิ้น 1,350 ลบ. แบ่งเป็นหนี้ KBank รวม 520 ล้านบาท หนี้ KTB รวม 620 ล้านบาท และหนี้ EXIM รวม 210 ล้านบาท หนี้ทั้งหมดได้ขอสินเชื่อภายใต้บริษัทเดียว ซึ่งเป็นบริษัทเกี่ยวกับส่งออก โดยหนี้ทั้งหมดมีเงินประกัน 400 ล้านบาท

‘บิ๊กตู่’ ปลื้มระบบสาธารณสุขไทย มีชื่อเสียงได้รับการยอมรับจากนานาประเทศอย่างต่อเนื่อง พร้อมเดินหน้าเป้าหมายการเป็น Medical Hub ในภูมิภาค

นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีเปิดเผยว่า พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม รับทราบและยินดีที่ 3 จังหวัดในประเทศไทยติด 10 ประเทศแรกในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่มีระบบสาธารณสุข (healthcare) โดยรวมที่มีคุณภาพที่สุด ในช่วงกลางปี 2022 โดยเว็บไซต์ Numbeo ที่มีฐานข้อมูลด้านค่าครองชีพและระบบสาธารณสุขที่ใหญ่ที่สุดในโลก ได้จัดอันดับเมืองในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่มีระบบสาธารณสุขโดยรวมที่ดีที่สุดในช่วงกลางปี 2022 (South-Eastern Asia: Health Care Index by City 2022 Mid-Year) ปรากฏว่าจังหวัดเชียงใหม่ ได้อันดับ 1 มีระบบสาธารณสุขดีที่สุด ในขณะที่กรุงเทพฯ และ พัทยา ได้อันดับ 3 และ 4 ตามลำดับ ซึ่งดัชนีระบบสาธารณสุขนี้ เป็นการประมาณคุณภาพโดยรวมของระบบการดูแลสุขภาพ บุคลากรทางการแพทย์ อุปกรณ์ เจ้าหน้าที่ แพทย์ ค่าใช้จ่าย และอื่น ๆ อ้างอิงจากการสำรวจจากผู้เยี่ยมชมเว็บไซต์

๑๓ กรกฎาคม ๒๕๖๕ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ประทานพระคติธรรมวันอาสาฬหบูชา 2565

เจ้าพระคุณ สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ประทานพระคติธรรม เนื่องในวันอาสาฬหบูชา วันพุธ ที่ ๑๓ กรกฎาคม ๒๕๖๕ ความว่า...

ดิถีอาสาฬหบูชาได้เวียนมาบรรจบอีกคำรบหนึ่งแล้ว ควรที่สาธุชนจักได้น้อมรำลึกถึงเหตุการณ์ที่สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงแสดงปฐมเทศนาโปรดปัญจวัคคีย์ ณ อิสิปตนมฤคทายวัน อันเป็นการเริ่มประกาศพระศาสนา กระทั่งบังเกิดมีพระอริยสงฆ์ ครบถ้วนพร้อมเป็น “พระรัตนตรัย” ซึ่งเป็นสรณะนำทางชีวิตของพุทธบริษัท ให้มุ่งหน้าดำเนินไปสู่หนทางดับเพลิงกิเลสกองทุกข์ได้อย่างสิ้นเชิง  

ปฐมเทศนาที่สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดงไว้นั้น คือ “ธัมมจักกัปปวัตตนสูตร” ทรงชี้บอกวิถีทางดับทุกข์ด้วยมรรคมีองค์ ๘ ที่เรียกอีกอย่างว่า ทุกขนิโรธคามินีปฏิปทา หรือการลงมือปฏิบัติเพื่อให้พ้นจากทุกข์ ทั้งนี้ ท่ามกลางภาวการณ์ปัจจุบัน อันเต็มไปด้วยภยันตรายอันน่าหวาดหวั่นที่หลายคนคิดว่าคงไม่อาจเกิดมีขึ้นแล้ว ก็กลับบังเกิดมีขึ้นอีกทั่วไปในโลก เช่น ภัยสงคราม ทุพภิกขภัย และภัยอาชญากรรมร้ายแรงต่างๆ เป็นต้น ก่อให้เกิดผลกระทบต่อสวัสดิภาพของผู้คนในวงกว้าง ท่านทั้งหลายพึงหันมาพิจารณาทบทวนอริยมรรค โดยใช้หนทางแก้ไขปัญหาที่ต้นเหตุสำคัญประการหนึ่ง ได้แก่ “สัมมาสังกัปปะ” ซึ่งหมายถึง “ความคิดที่ถูกต้อง” กล่าวคือ ความคิดที่จะลดละความอยากได้อยากมีจนเกินประมาณ ความคิดที่จะไม่พยาบาทจองเวรกัน และความคิดที่จะไม่เบียดเบียนกัน ขอจงช่วยกันระดมความคิดเห็นในทางสันติ ฉลาดในการปรึกษาหารือกันด้วยสัมมาวาจา เพื่อแก้ไขปัญหาของสังคมในทุกระดับ ให้คลี่คลายไปได้ด้วยความอดทนอดกลั้น รู้จักละวางทิฐิมานะ ให้อภัย และมุ่งแผ่เมตตาต่อกันด้วยใจจริง

'ซูบิน' ยูทูบเบอร์สายกินจากแดนกิมจิ อวดหุ่นเฟิร์ม หลังลดน้ำหนักได้มากถึง 80 กก.

หลายคนคงชื่นชอบการดูคลิปวิดีโอโชว์กิน หรือที่เรียกว่า 'ม็อกบัง' (Mukbang) และอาจมียูทูบเบอร์สายกินคนโปรดอยู่ในใจ 

แต่ยูทูบเบอร์สาวสายกินที่คนไทยน่าจะรู้จักและคุ้นเคยก็คือ Yang Soobin (ยางซูบิน) เพราะนอกจากเธอจะทำคลิปกินอาหารและมีคนไทยมากมายเป็นแฟนคลับช่องของเธอแล้ว เธอก็เคยมาทำงานที่ประเทศไทยหลายต่อหลายครั้งด้วย

'ซูบิน' นิยามตัวเองว่าเธอเป็นศิลปิน เพราะอันที่จริงแล้วเธอสามารถร้องเพลงได้ เป็นศิลปินตลกก็ได้ และเธอก็ยังแต่งหน้าเก่งระดับบิวตี้บล็อกเกอร์ ส่วนการทำคลิปม็อกบังนั้น เธอบอกว่ามันเป็นกิจกรรมที่เธอทำแก้เบื่อมากกว่า 

นอกจากนี้แล้ว เราก็จะเห็นว่ามีช่วงหนึ่งที่ซูบินตัดสินใจลดน้ำหนัก โดยในระยะเวลา 2 ปีที่ผ่านมานี้ เธอก็ทำสำเร็จ เพราะน้ำหนักเธอหายไปกว่า 80 กิโลกรัม 

ซึ่งจากรูปล่าสุดของเธอก็จะเห็นถึงความแตกต่างระหว่าง Before และ After อย่างชัดเจน ซูบินยังตั้งเป้าหมายที่จะรักษารูปร่างให้ฟิตแอนด์เฟิร์มต่อไปในทุกๆ ปีอีกด้วย


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top