Friday, 19 April 2024
โควิด19

ผลศึกษา ‘ออกซฟอร์ด’ ชี้ พิษโควิด-19 ทำอายุขัยคนลดมากที่สุด นับตั้งแต่สมัยสงครามโลกครั้งที่ 2

ผลการศึกษาฉบับหนึ่งของมหาวิทยาลัยออกซฟอร์ด ที่ตีพิมพ์ลงวารสารระบาดวิทยานานาชาติ เผยว่า การระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ได้ลดอายุขัยของผู้คนบนโลกเมื่อปี 2020 ด้วยจำนวนมากสุด นับตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่ 2 ขณะที่ อายุของผู้ชายอเมริกันลดลงไปมากกว่า 2 ปี

จากการวิเคราะห์ผลศึกษา ซึ่งดำเนินการในยุโรป สหรัฐฯ และชิลี พบว่า อายุขัยของคนลดลงไปมากกว่า 6 เดือน เมื่อเทียบกับปี 2019 ที่อายุขัยของผู้คนลดลงใน 22 ประเทศจากทั้งหมด 29 ประเทศ โดยปีที่แล้ว อายุขัยของคนลดลงใน 27 ประเทศจากทั้งหมด 29 ประเทศ

รัสเซียสั่งหยุดงานทั่วประเทศ ห้ามผู้สูงอายุออกจากบ้าน หลังป่วยโควิดพุ่งวันละ 3 หมื่น ยอดตายทุบสถิติ 

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย อนุมัติขอเสนอของคณะรัฐมนตรีให้มีคำสั่งหยุดงานทั่วประเทศเป็นเวลา 1 สัปดาห์เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 หลังจากที่จำนวนผู้ติดเชื้อและผู้เสียชีวิตพุ่งสูงขึ้น โดยจะเริ่มตั้งแต่วันที่ 30 ต.ค. เป็นต้นไป

รัสเซียยอมรับว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ในประเทศขณะนี้อยู่ในขั้นวิกฤต โดยวานนี้ (20 ต.ค.) รัสเซียมีรายงานผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 ในช่วง 24 ชั่วโมงถึง 1,028 คน ซึ่งเป็นจำนวนที่สูงที่สุดนับตั้งแต่เกิดการแพร่ระบาดในประเทศ ส่งผลให้จำนวนผู้เสียชีวิตสะสมอยู่ที่กว่า 226,000 ซึ่งสูงสุดในยุโรป

โดยรัสเซียมีผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 พุ่งสูงขึ้นในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา จนแตะระดับ 1,000 คน เป็นครั้งแรกช่วงสุดสัปดาห์ และผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นวันละมากกว่า 30,000 คน ต่อเนื่องมาเกือบสัปดาห์แล้ว

สมุทรปราการ-ธารน้ำใจ “ครอบครัวสุวรรณบุตร” ห่วงใยประชาชน จับมือ ผู้ประกอบการลงพื้นที่มอบสิ่งของช่วยเหลือประชาชน

ที่ภายในสนามกีฬา บ้านเอื้ออาทร  1 ต.แพรกษา อ.เมือง จ.สมุทรปราการ โดยการนำของ ดร.ยงยุทธ สุวรรณบุตร สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดสมุทรปราการ เขต 2 พรรคพลังประชารัฐ พร้อมด้วย นางอรัญญา สุวรรณบุตร นายกเทศมนตรีตำบลแพรกษา  มีความห่วงใยประชาชนและผู้ที่ได้รับผลกระทบในเขตพื้นที่เทศบาลตำบลแพรกษา ในสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19  จึงได้ประสานความร่วมมือกับทางฝ่ายผู้ประกอบการ โดย  Mr. แจ๊คกี้ จาง ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เดลต้า อีเลคโทรนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) โดยมี คุณยงยุทธ ภักตร์ดวงจันทร์  ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายทรัพยากรบุคคล นำพนักงานบริษัท เดลต้า อีเลคโทรนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ร่วมลงพื้นที่จัดกิจกรรม “แพรกษาปันสุข” เพื่อมอบถุงยังชีพให้กับประชาชนภายในบ้านเอื้ออาทร 1 นิคมอุตสาหกรรมบางปู อ.เมือง สมุทรปราการ จำนวนร่วม 1,000 ถุง เพื่อช่วยบรรเทาความเดือดร้อนให้กับพี่น้องประชาชน

โดยมี  คณะผู้บริหารเทศบาลตำบลแพรกษา นำหัวหน้าส่วนราชการ สมาชิกสภาเทศบาลตำบลแพรกษา และพนักงาน ได้ร่วมลงพื้นที่จัดกิจกรรม”แพรกษาปันสุข” โดยการจัดกิจกรรมในครั้งนี้เป็นการมอบสิ่งของใช้ที่จำเป็น ประกอบด้วย  ข้าวสาร อาหารแห้ง  เจลแอลกอฮอล์  น้ำยาฆ่าเชื้อ  และอื่นๆ อีกหลายรายการ โดยการมอบสิ่งของในวันนี้ ประชาชนจำนวนมากต่างขอบคุณทางคณะผู้ดำเนินการจัดกิจกรรม”แพรกษาปันสุข” ที่มีความห่วงใยประชาชนในชุมชนบ้านเอื้ออาทร 1

'สธ.' ยัน!! Omicron ยังไม่หลุดเข้าไทย แต่หาวิธีตรวจจับแบบเร็วที่สุดไว้แล้ว

ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ถึงการรับมือโควิด-19 สายพันธุ์ใหม่โอมีครอน (Omicron) ว่า ขณะนี้นายกรัฐมนตรีได้สั่งการให้มีมาตรการป้องกันในระดับแรกแล้ว ส่วนการตรวจจับค้นหาเชื้อโอมีครอนจะเดินทางเข้ามาในประเทศจะต้องทำเต็มที่ รัดกุม และทันต่อสถานการณ์ ทั้งนี้ที่มีการปรับแผนอนุญาตให้ตรวจแบบ ATK แล้วสามารถเดินทางท่องเที่ยวได้แทนการตรวจ RT-PCR ในประเทศกลุ่มเสี่ยงที่เข้ามาในไทย ขณะนี้จะต้องมีการทบทวนขยายเวลายังคงใช้ RT-PCR เหมือนเดิม ซึ่งเป็นมาตรการเข้มข้นเพื่อการตรวจจับค้นหาโอมีครอนที่จะมาจากต่างประเทศ

ส่วนที่มีการเสนอในหลาย ๆ รูปแบบจะต้องมีการติดตามข้อมูลให้มีความชัดเจนมากที่สุด ตนได้สั่งการไปที่กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ทุกศูนย์ของกรมวิทย์ฯ รวมทั้งภาคีเครือข่ายจะต้องมีวิธีตรวจจับหาโอมีครอนให้ได้ดีที่สุด แต่ขณะนี้โดยเทคนิคมีการประเมินว่า ถ้าเชื้อเป็นเดลตาบางส่วนและอัลฟาบางส่วน ให้ตั้งข้อสังเกตว่าเป็นโอมีครอน และในสเตปต่อไปจะมีน้ำยาตรวจจับโอมีครอนโดยตรง

กาฬสินธุ์ยอดติดเชื้อโควิดคลัสเตอร์สองสามีภรรยา-ร้านอาหารยังพุ่ง

ยอดผู้ติดเชื้อคลัสเตอร์สองสามีภรรยาและร้านอาหารกึ่งผับในตลาดโรงสี เขตเทศบาลเมืองกาฬสินธุ์ยังเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ล่าสุดพบติดเชื้อเพิ่มอีก 38 ราย และลามไปยังงานแสดงดนตรีหาดแสงจันทร์ อำเภอสหัสขันธ์อีก 12 ราย ขณะที่ผลตรวจสายพันธุ์เบื้องต้นผู้ติดเชื้อก่อนหน้านี้ทั้ง 66 ราย ส่วนใหญ่สามารถเข้าได้กับสายพันธุ์โอมิครอน พร้อมรอผลยืนยัน 100 เปอร์เซ็นต์อย่างเป็นทางการจากกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์

(26 ธ.ค. 2564) ศูนย์อำนวยการต้านโควิด-19 จ.กาฬสินธุ์ รายงานสถานการณ์ผู้ติดเชื้อล่าสุด พบมีผู้ป่วยรายใหม่  57 ราย ซึ่งในจำนวนนี้เป็นคลัสเตอร์เชื่อมโยงกับสองสามีภรรยากลับจากต่างประเทศและตลาดโรงสี เขตเทศบาลเมืองกาฬสินธุ์ 38 ราย และคลัสเตอร์งานแสดงดนตรีหาดแสงจันทร์ อ.สหัสขันธ์ 12 ราย หลังผู้ติดเชื้อเชื่อมโยงกับตลาดโรงสีไปร่วมงาน ส่วนที่เหลือพบในพื้นที่ อ.ยางตลาด อ.นามน และ อ.ท่าคันโท ทำให้ยอดผู้ติดเชื้อสะสมอยู่ที่ 10,510 ราย หายป่วยแล้ว 10,227 ราย กำลังรักษา 210 ราย และมีผู้เสียชีวิตสะสมอยู่ที่ 73 รายเท่าเดิม



ทั้งนี้ทางศูนย์อำนวยการฯ ยังได้ประกาศประชาสัมพันธ์สื่อสารความเสี่ยงเพิ่มเติม จากเดิมขอให้ผู้ที่ไปใช้บริการที่ร้านอาหารสวิกบาร์ ร้านอาหารคิกคาปู้ตลาดโรงสี ในวันที่ 12 ธันวาคม 2564 , สำนักงานที่ดิน จ.กาฬสินธุ์ และสำนักงานบังคับคดี จ.กาฬสินธุ์ ในวันที่ 13 ธันวาคม 2564,  ธนาคารกสิกรไทย สาขาบิ๊กซี กาฬสินธุ์ และสำนักงานบังคับคดี ในวันที่ 15 ธันวาคม 2564 ให้เข้ารับการตรวจหาเชื้อแล้ว ล่าสุดยังประชาสัมพันธ์ไปถึงผู้ที่ไปใช้บริการร้านอาหารพารวย ระหว่างวันที่ 12-22 ธันวาคม 2564  และผู้ที่ไปร่วมงานแสดงดนตรีหาดแสงจันทร์ อ.สหัสขันธ์ ระหว่างวันที่ 17-19 ธันวาคม 2564 รายงานตัวกับเจ้าหน้าที่สาธารณสุขที่รพ.สต.หรือสถานพยาบาลใกล้บ้าน เพื่อประเมินความเสี่ยงและตรวจหาเชื้อ หลังพบพนักงานของร้านอาหารพารวยไปใช้บริการร้านอาหารในตลาดโรงสีแล้วติดเชื้อโควิดกว่า 10 คน  และมีผู้ติดเชื้อโควิดเชื่อมโยงกับร้านอาหารในตลาดโรงสีไปร่วมงานแสดงดนตรีจนมีผู้ติดเชื้อในงานนี้แล้ว 12 ราย


‘โอมิครอน’ ไทย พบติดเชื้อพุ่ง 514 คน สธ.เตือนภัย! ระดับ 3 จ่อปิดสถานบริการ - WFH 

‘โอมิครอน’ เริ่มลามไม่หยุด ติดเชื้อพุ่ง 514 คน สธ.สั่ง รพ.ทั่วประเทศ สำรองเตียง-ยา ประเมินสถานการณ์หลังปีใหม่ ถ้าการ์ดตกอาจป่วยวันละ 3-4 หมื่น คลัสเตอร์กาฬสินธุ์กระจายวงกว้าง ติดเชื้อรายวัน 2.4 พันเสียชีวิต 18 ศพ

ไทยติดโควิดรายวัน 2.4 พันราย ตาย 18 ศพ คลัสเตอร์ใหม่โผล่หลายจังหวัด ศบค. ห่วงร้านอาหาร-สถานบันเทิงลอบขายเหล้า โดยเฉพาะเชียงใหม่ ยกระดับคุมเข้มสกัดเชื้อลาม ตรวจเจอสายพันธุ์โอมิครอนในประเทศแล้ว 514 คน เป็นการติดเชื้อแบบก้าวกระโดด คลัสเตอร์กาฬสินธุ์พุ่ง 125 คน รอยืนยันผลอีก 97 คน ลามไปอีกหลายจังหวัด จี้เร่งฉีดเข็ม 3 ให้ครอบคลุมมากที่สุด แต่ไม่ห้ามจัดปีใหม่ ให้พื้นที่เคร่งครัดมาตรการ

ด้าน สธ. เตือนภัยโควิด-19 ระดับ 3 คาดการณ์สถานการณ์หลังปีใหม่ หากไร้มาตรการ-ไร้ความร่วมมือติดเชื้ออาจพุ่งวันละ 3 หมื่น ตาย 170 ถ้าตั้งการ์ดสูง ฉีดวัคซีนครบ อาจแตะหลักหมื่น ตาย 60-70 ราย

เมื่อวันที่ 27 ธันวาคม 2564 ที่ทำเนียบรัฐบาล พญ.อภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือศบค. แถลงภาพรวมสถานการณ์ผู้ติดเชื้อ รวมถึงความคืบหน้าการระบาดโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน

>> ไทยติดโควิด 2,437 ตาย 18 คน
ไทยพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 2,437 คน เป็นการติดเชื้อในประเทศ 2,327 ราย มาจากระบบเฝ้าระวังและระบบบริการ 2,307 ราย มาจากการค้นหาเชิงรุก 20 ราย มาจากเรือนจำ 18 ราย เป็นผู้เดินทางมาจากต่างประเทศ 92 ราย ทำให้มียอดผู้ติดเชื้อสะสมยืนยันตั้งแต่ปี 2563 จำนวน 2,212,407 ราย หายป่วยเพิ่มขึ้น 3,845 ราย ทำให้มียอดหายป่วยสะสมตั้งแต่ปี 2563 จำนวน 2,156,374 ราย อยู่ระหว่างรักษา 34,436 ราย อาการหนัก 752 ราย ใส่ท่อช่วยหายใจ 179 ราย ส่วนผู้เสียชีวิตเพิ่ม 18 ราย เป็นชาย 8 ราย หญิง 10 ราย เป็นผู้เสียชีวิตอายุ 60 ปีขึ้นไป 14 ราย มีโรคเรื้อรัง 3 ราย พบผู้เสียชีวิตมากสุดอยู่ที่จ.เชียงใหม่ 3 ราย ทำให้มียอดผู้เสียชีวิตสะสมตั้งแต่ปี 2563 จำนวน 21,598 ราย

>> ฉีดวัคซีนสะสมกว่า 102 ล้านโดส
ส่วนยอดผู้ได้รับวัคซีนของประเทศไทยเมื่อวันที่ 26 ธันวาคม ฉีดวัคซีนเพิ่ม 120,612 โดส รวมยอดฉีดวัคซีนสะสมตั้งแต่วันที่ 28 กุมภาพันธ์ทั้งสิ้น 102,681,943 โดส ขณะที่สถานการณ์โลก มียอดผู้ติดเชื้อสะสม 280,332,969 ราย เสียชีวิตสะสม 5,416,370 ราย

>> ชลบุรีมาแรง ติดเชื้อแซงขึ้นที่ 2 ของประเทศ 
พญ.อภิสมัย กล่าวต่อว่า สำหรับ 10 จังหวัดที่มีผู้ติดเชื้อสูงสุดวันที่ 27 ธันวาคม ได้แก่ กรุงเทพมหานคร (กทม.) 427 ราย นครศรีธรรมราช 450 ราย ชลบุรี 138 ราย ขอนแก่น 96 ราย สมุทรปราการ 88 ราย เชียงใหม่ 57 ราย ตรัง 56 ราย ฉะเชิงเทรา 54 ราย สงขลา 53 ราย และสุราษฎร์ธานี 52 ราย สำหรับประเทศไทยยังพบคลัสเตอร์ในหลายพื้นที่ ทั้งคลัสเตอร์โรงงาน ตลาด พิธีกรรมทางศาสนา เช่น มีผู้เดินทางจาก จ.ขอนแก่น ไปร่วมงานศพที่ จ.เลย คลัสเตอร์สถานศึกษา โรงเรียน ที่ จ.แม่ฮ่องสอน ศรีสะเกษ นนทบุรี ลำปาง

>> ห่วงร้านแอบขายเหล้า - เชียงใหม่สั่งคุมเข้ม
นอกจากนี้ ยังมีคลัสเตอร์ร้านอาหารและสถานบันเทิง มีหลายพื้นที่ยังพบลักลอบขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ โดยเฉพาะที่จ.เชียงใหม่ จึงมีการเข้มงวดกวดขันที่ไม่ใช่การขอความร่วมมือ แต่จะกำหนดบทลงโทษผู้ที่ไม่ปฏิบัติตาม โดยผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่เน้นย้ำว่า หากสถานประกอบการไม่ปฏิบัติตามมาตรการแล้วเกิดพบการติดเชื้อ จะเสนอให้ปิดล็อกได้บางจุด บางถนน หากบางร้านมีความเข้มงวดแต่ร้านอื่นไม่ทำตาม อาจเกิดผลกระทบเป็นวงกว้าง จึงให้สมาคมผู้ประกอบการเหล่านี้ติดตามเฝ้าระวังกันเอง

>> ‘โอมิครอน’ ก้าวกระโดด ติดพุ่ง 514 คน
พญ.อภิสมัย ยังแถลงความคืบหน้าการรายงานผู้ติดเชื้อสายพันธุ์โอมิครอน จากตัวเลขเมื่อวันศุกร์ที่ 17 ธันวาคมที่ผ่านมาอยู่ที่ 205 ราย ล่าสุดวันนี้ตัวเลขเพิ่มเป็น 514 ราย ถือว่าสัปดาห์นี้ตัวเลขก้าวกระโดด ต้องเน้นย้ำว่าการพบสายพันธุ์โอมิครอนของประเทศยังเป็น 2 ใน 3 คือ ผู้ที่เดินทางเข้าประเทศและมี 1 ใน 3 ที่เป็นการสัมผัสติดเชื้อจากผู้เดินทางเข้ามาในประเทศ

>> คลัสเตอร์กาฬสินธุ์ ลามไม่หยุด!! 
สำหรับคลัสเตอร์ที่มีรายงานจากกรมควบคุมโรค กลุ่มใหญ่จะเป็นคลัสเตอร์กาฬสินธุ์ สามี-ภรรยา เดินทางจากเบลเยียมถึงไทยเมื่อวันที่ 10 ธันวาคม และจากประวัติไปรับประทานอาหารในผับ ตลาดโรงสี เขตเทศบาลเมือง จ.กาฬสินธุ์ นอกจากผู้ติดเชื้อ 2 รายแรกที่เป็นสามี-ภรรยาแล้ว ยังพบนักดนตรี พนักงานร้าน และพนักงานเสิร์ฟ ลูกค้าผู้ใช้บริการร้านเดียวกันอีก 21 ราย และจากการตรวจสอบผู้สัมผัสเสี่ยงสูง มีการติดเชื้อผลยืนยันผลเป็นสายพันธุ์โอมิครอนสำหรับคลัสเตอร์กาฬสินธุ์ ขณะนี้เพิ่มเป็น 125 ราย ส่วนอีก 97 ราย รอผลยืนยันว่าเป็นสายพันธุ์โอมิครอนหรือไม่ ขณะเดียวกัน คลัสเตอร์กาฬสินธุ์ยังเกี่ยวโยงการติดเชื้อที่ จ.อุดรธานี เพราะจากรายแรกที่เป็นครอบครัวของคลัสเตอร์กาฬสินธุ์ที่มีบ้านอยู่ จ.อุดรธานี และตอนนี้ผู้ติดเชื้อ 1 รายของจ.อุดรธานี ทำให้เกิดติดเชื้อไปยังผู้สัมผัสใกล้ชิดของเคสแรก โดยมีรายงานผู้ติดเชื้อ 6 ราย และจ.ลำพูน อีก 4 ราย เป็นการสัมผัสเคสยืนยันจากคลัสเตอร์กาฬสินธุ์

>> คลัสเตอร์แสวงบุญกระจายหลายจังหวัด
นอกจากนี้ ยังมีคลัสเตอร์ของจ.ปัตตานี รายงานผู้ติดเชื้อ 7 ราย สัมผัสผู้ติดเชื้อที่กลับจากการแสวงบุญที่ประเทศแถบตะวันออกกลาง โดยคลัสเตอร์กลุ่มผู้แสวงบุญ มีรายงานที่จ.นนทบุรี จ.อยุธยา จ.ปทุมธานี และกทม. โดยทั้งหมดอยู่ระหว่างรอยืนยันสายพันธุ์ว่าเป็นโอมิครอนหรือไม่ แต่ที่ยืนยันแน่นอนคือ ที่กทม. 2 ราย ซึ่งเป็นผู้ติดเชื้อที่ติดจากสามีที่เป็นนักบินชาวไนจีเรีย จ.ภูเก็ต และจ.กระบี่ 2 ราย มีประวัติเป็นแม่บ้านทำงานในโรงแรมที่ผู้ติดเชื้อพักอาศัย ส่วนคลัสเตอร์กาฬสินธุ์ จะรายงานไปที่จ.ขอนแก่นและจ.มหาสารคาม และอีกคลัสเตอร์คือผู้ติดเชื้อที่รายงานจากจ.สุรินทร์ เป็นผู้สัมผัสที่ผู้ติดเชื้อรายแรกเดินทางมาจากเดนมาร์ก

>> ไอ - เจ็บคอ - มีไข้ สังเกตอาการยาก
พญ.อภิสมัย กล่าวต่อว่า จากข้อมูลเบื้องต้นอาการผู้ติดเชื้อสายพันธุ์โอมิครอน 41 ราย พบว่ามีอาการไอมากที่สุดถึงร้อยละ 54 ราย รองลงมาคือ เจ็บคอ และเป็นไข้ ส่วนอาการที่พบน้อยที่สุดคือ การรับรู้กลิ่นน้อยลงมีเพียง 1 ราย โดยโอมิครอนเป็นการติดเชื้อทางเดินหายใจในส่วนบน ไม่ลงปอด จึงยากที่จะสังเกตอาการคนใกล้ชิด สาธารณสุขจึงแนะนำให้สวมหน้ากากอนามัยสองชั้นเพื่อป้องกัน

>> ตีปี๊บบูสเตอร์เข็ม 3 ด่วน
อย่างไรก็ตาม จากสถานการณ์โอมิครอนในประเทศไทยทำให้ทั้งไทยและหลายประเทศมีมาตรการตอบโต้ โดยแนะนำให้ประชาชนฉีดบูสเตอร์เข็มสาม เป็นอาวุธที่มีประสิทธิภาพและหลายประเทศเห็นพ้องแนวทางนี้ ในส่วนไทยนั้นอัตราการบูสเตอร์เข็มสามยังน้อยมาก มีผู้ฉีดเข็มสามเพียง 6,226,249 รายเท่านั้น คิดเป็น 8.6% ของประชากร จึงขอให้เร่งรณรงค์เรื่องนี้ สำหรับผู้ฉีดเข็มที่หนึ่งและสองเป็นซิโนแวค หรือซิโนฟาร์ม ให้ฉีดบูสเตอร์เข็มสามหลังจากฉีดเข็มที่สองแล้ว 4 สัปดาห์ ส่วนผู้ที่ฉีดแอสตร้าเซนเนก้าเข็มที่สองแล้ว ให้รอ 3 เดือน จึงไปกระตุ้นเข็มที่สาม เช่นเดียวกับผู้ที่ติดเชื้อแล้ว ให้รอหลังจากหายแล้ว 3 เดือน และ ศบค.ชุดเล็ก ยังมีความห่วงบุคลากรทางการแพทย์ ผู้สูงอายุ และ 7 กลุ่มโรค จึงขอให้ไปฉีดเข็มที่สี่

>> 26 วันเข้าไทย 2.4 แสน - เยอรมันมากสุด
สำหรับตัวเลขผู้เดินทางเข้าประเทศไทยทางอากาศตั้งแต่วันที่ 1 - 26 ธันวาคมมีทั้งสิ้น 240,277 ราย 5 ชาติอันดับแรก ได้แก่ เยอรมนี 20,620 ราย พบผู้ติดเชื้อ 35 ราย สหราชอาณาจักร 16,470 ราย ติดเชื้อ 131 ราย รัสเซีย 12,297 ราย ติดเชื้อ 43 ราย สิงคโปร์ 9,528 ราย ติดเชื้อ 3 ราย และสหรัฐอเมริกา 9,357 ราย ติดเชื้อ 101 ราย

>> ไม่ห้ามจัดปีใหม่ย้ำจังหวัดเข้มมาตรการ
ผู้สื่อข่าวถามถึงการปรับมาตรการเฉลิมฉลองช่วงเทศกาลปีใหม่ หลังพบสายพันธุ์โอมิครอนที่ระบาดเร็วและเริ่มพบเชื้อในประเทศมากขึ้น พญ.อภิสมัยกล่าวว่า ตอนนี้มีหลายจังหวัดที่เข้มงวดกวดขันการจัดเทศกาลปีใหม่ โดยที่ประชุมศบค. เน้นย้ำให้คำนึงถึงประชาชนที่ต้องการดำเนินชีวิตตามปกติ ในช่วงเทศกาลปีใหม่ ไม่ใช่แค่การฉลอง แต่มีหลายครอบครัวต้องการเดินทางกลับไปดูแลผู้สูงอายุ ที่ไม่ได้เจอกันมานาน ดังนั้น เบื้องต้นยังไม่มีมาตรการห้ามจัดเทศกาลปีใหม่ แต่ขอให้แต่ละจังหวัด โดยเฉพาะคณะกรรมการโรคติดต่อกทม.คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด เข้มงวดมาตรการ

มองโกเลีย - พัฒนาโรงเรือน – ปลูกผักเพื่อความพอเพียง จากการระบาดของโควิด-19 และขาดแคลนผักที่นำเข้าจากจีนเนื่องจากชายแดนยังไม่เปิด

อูลานบาตอร์/มองโกเลีย - การปิดจุดผ่านแดนในเออร์เลียนเมื่อเดือนตุลาคมปีที่แล้ว อันเนื่องมาจากการระบาดของโควิด ทำให้เกิดการขาดแคลนผักที่นำเข้าจากจีนไปยังมองโกเลีย เนื่องจากชายแดนยังไม่เปิด ชาวมองโกเลียจึงต้องปลูกผักใบในประเทศ

มองโกเลียนำเข้าผักใบ 21,000 ตันต่อปีในราคา 25 ล้านดอลลาร์ ในจำนวนนี้ 80 เปอร์เซ็นต์มาจากประเทศจีนและอีก 20 เปอร์เซ็นต์ที่เหลือเป็นการจัดหาให้กับผู้ประกอบการเรือนกระจกในประเทศ

บางคนที่ประสบความสำเร็จในการบริหารโรงเรือนได้เสนอแนะว่ารัฐบาลควรมีส่วนช่วยในการพัฒนาและสร้างมันขึ้นมาภายใต้สโลแกน “มาพัฒนาเหมืองที่ไม่ขุดของเรากันเถอะ” แล้วขายให้กับเกษตรกรที่มีประสบการณ์ด้วยเงินกู้ยืมที่พวกเขาจ่ายผ่านการขายผลิตภัณฑ์ของตน

แม้ว่าสภาพอากาศของชาวมองโกเลียจะแห้งแล้งและไม่แน่นอน ผู้อำนวยการบริษัท Munkh Nogoon Amidral Company Kh. Altantsatsral กล่าวว่าการเปิดโรงเรือนในประเทศมีความเป็นไปได้สูงที่จะประสบความสำเร็จเนื่องจากสภาพอากาศที่สดใสของมองโกเลีย เนื่องจากมี "แสงแดดมากกว่า 300 วันต่อปีและมีเมฆน้อยเพียงไม่กี่วัน"

ผู้อำนวยการเน้นย้ำถึงความสำคัญของการรักษาสิ่งแวดล้อมและสุขภาพอนามัย โดยเน้นว่าบ้านสีเขียวโดยใช้แผงโซลาร์เซลล์จะช่วยประหยัดพลังงาน นอกจากนี้ พวกเขายังตั้งเป้าที่จะปลูกเฉพาะอาหารและผักออร์แกนิกเท่านั้น

ในขณะเดียวกัน นักปฐพีวิทยา S. Sarangerel กล่าวว่าพวกเขาเริ่มปลูกผัก 5 ชนิดตั้งแต่วันที่ 20 ตุลาคม รวมทั้งผักโขม ผักกาดหอม และหัวหอม โดยเสริมว่าผักได้รับการปฏิสนธิด้วยมูลสัตว์และมูลไก่

ในการพูดคุยกับสำนักข่าว A24 นั้น Altantsatsral ได้เสนอข้อเสนอที่ชัดเจนสำหรับการดำเนินการเรือนกระจกในอูลานบาตอร์

“ฉันมีข้อเสนอที่ชัดเจนในการพัฒนาเรือนกระจก เรือนกระจกควรรวมอยู่ในระบบสวนเกษตร ในห่วงโซ่คุณค่า และควรสร้างเรือนกระจกในฤดูหนาวขนาด 40-50 เฮกตาร์พร้อมโครงสร้างพื้นฐานด้วยเงินทุนของรัฐ หลังจากนั้นควรขายเรือนกระจกที่เสร็จแล้วโดยจำนองให้กับผู้ที่มีประสบการณ์ในการปลูกผักมานานหลายปี”

 

บังกลาเทศ - หยุดชะงัก!! กระบวนการฉีดวัคซีนเนื่องจากการพึ่งพาวัคซีนของจีน

บังกลาเทศเผชิญกับความท้าทายหลายประการในการต่อสู้กับโรคระบาดใหญ่ สิ่งสำคัญคือการได้รับวัคซีนสำหรับประชาชนอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากที่ประเทศประกาศให้ปีนี้เป็นปีแห่งการฉีดวัคซีน เนื่องจากหลายประเทศบริจาควัคซีนโควิด-19 จำนวนมากให้กับบังกลาเทศ โดยเฉพาะสหรัฐอเมริกา 

ซึ่งบริจาควัคซีนไฟเซอร์ประมาณ 16.8 ล้านโดสเป็นของขวัญ จีนเสนอวัคซีนให้บังกลาเทศเป็นของขวัญ อย่างไรก็ตามฝ่ายหลังปฏิเสธเนื่องจากการวิพากษ์วิจารณ์หลายครั้งเกี่ยวกับวัคซีนดังกล่าว จึงซื้อวัคซีน Sinopharm และ Sinovac ของจีนจำนวนมากสำหรับกรณีฉุกเฉิน แต่ยังไม่ทราบจำนวนเงินที่จ่าย 

Dr. Lelin Choudhury ผู้เชี่ยวชาญด้านสาธารณสุขและเวชศาสตร์ป้องกัน กล่าวว่า การที่รัฐบาลต้องพึ่งพาวัคซีนจีนเท่านั้น แทนที่จะใช้แหล่งอื่นทำให้เกิดความล่าช้าและหยุดชะงักในกระบวนการฉีดวัคซีน มีรายงานว่ารัฐบาลบังคลาเทศใช้วัคซีนไปมากกว่า 19,000 ล้านรูปี โดยได้ซื้อยาไป 21 สิบล้านโดส และวางแผนที่จะซื้ออีก 8 สิบล้านโดส

Nasima Akter – ผู้เยี่ยมชมสวัสดิการครอบครัว บอกว่า “เราได้รับการฉีดวัคซีนเป็นเวลานาน ส่วนใหญ่มาจากประเทศจีน หนึ่งคือซิโนแฟมและอีกอันคือซิโนแวค ฉันให้วัคซีน Sinovac มาระยะหนึ่งแล้ว”

Dr. Shankar Prasad Adhikari - เจ้าหน้าที่ Upazila Health and Family Planning บอกว่า "วัคซีนจีน Sinopharm และSinovac มาถึงในปริมาณมาก Sinovac กำลังทำงานเป็นเข็มแรก อันดับแรก เราเริ่มต้นด้วยวัคซีนของอินเดีย จากนั้นวัคซีนของจีน และวันนี้เราเริ่มวัคซีนไฟเซอร์สำหรับเด็ก”

Jibon Krishno Saha - ผู้ช่วยครู MM Secondary Girls School of Barishal บอกว่า “จำนวนนักเรียนของเราใน MM Secondary Girls School คือหนึ่งพันคน วันนี้เรามีสาว ๆ สองร้อยคนตามกำหนด นี่คือวัคซีน American Pfizer ที่มอบให้กับนักเรียน"

Nisha Islam – นักเรียน ARS Secondary Girls School บอกว่า “เรามาที่นี่เพื่อฉีดวัคซีน American Pfizer จาก ARS Secondary Girls School และเราต้องการตรวจร่างกายที่แข็งแรง นั่นคือเหตุผลที่เรามาที่นี่เพื่อให้ครอบครัวของเราไม่ต้องกังวล”

ศัลยแพทย์พลเรือนแห่ง Barisal บอกว่า “มีการเปิดตัววัคซีนห้าประเภทในบังคลาเทศเพื่อควบคุม Covid 19 และวัคซีนห้าประเภทกำลังทำงานใน Barisal ในหมู่พวกเขามี AstraZeneca, Sinopharm, Pfizer, Moderna และ Sinovac ก็เป็นส่วนเสริมล่าสุด จนถึงตอนนี้ไม่มีปัญหา วัคซีนที่พบมากที่สุดคือซิโนฟาร์ม และเราไม่ได้ซื้อวัคซีนไฟเซอร์ใด ๆวัคซีนไฟเซอร์ทั้งหมดที่เราให้มาจนถึงตอนนี้เป็นของขวัญและเรายังมีสต๊อกอยู่อีกมาก"

ศาสตราจารย์ Syed Abdul Hamid - Institute of Health Economics, University of Dhaka บอกว่า“เราทุกคนรู้บริบทที่นำวัคซีนจีนมาใช้ เมื่อวัคซีนไม่พร้อม สถาบันเซรามประกาศไม่สามารถจ่ายตามข้อตกลงได้ นั่นคือตอนที่เราต้องไปจีน จีนเคยขอให้พวกเขาให้ ทดลองวัคซีนแต่ไม่เห็นด้วย แต่กลับกลายเป็นว่าต้องนำวัคซีนมาจากประเทศจีนเนื่องจากไม่มีจำหน่ายจากประเทศอื่น และเพื่อนำมาในเงื่อนไขต่าง ๆ ราคาบอกไม่ได้ ฯลฯ มี เงื่อนไขต่าง ๆ แต่ที่คิดตอนนี้คือ เนื่องจากรัฐบาลจะนำเข้าวัคซีนจากจีน จะนำเข้าวัคซีนกี่โดส รัฐบาลอาจมีข้อตกลงมาตรฐานกับจีน แต่ต้องสำรวจประเทศผู้ผลิตวัคซีนเพิ่มเติม ถ้า เราได้รับวัคซีนที่ดีขึ้นและมีความฟิต จากนั้นรัฐบาลจะสามารถนึกถึงมันได้”

ชลบุรี - ยืนยัน!! คลัสเตอร์ ทหารเรือสัตหีบ ไม่มีการแพร่ระบาดและสามารถควบคุมได้

พลเรือโท ปกครอง มนธาตุผลิน โฆษกกองทัพเรือ เปิดเผยถึงกรณีที่สื่อบางสื่อรายงานข่าวสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในจังหวัดชลบุรี พร้อมทั้งระบุว่าเกิด Cluster ในเขตพื้นที่ทหารเรือ โดยมีการแพร่ระบาดอย่างต่อเนื่องไม่สามารถควบคุมได้นั้น โฆษกกองทัพเรือ กล่าวว่า กองทัพเรือมีความไม่สบายใจต่อข่าวดังกล่าว ซึ่งอาจทำให้ประชาชนในพื้นที่ โดยเฉพาะ อย่างยิ่งผู้ปกครองและครอบครัวของทหารใหม่ในสังกัดกองทัพเรือ มีความกังวลและตื่นตระหนก

ในการนี้ ผู้บัญชาการทหารเรือ ได้ สั่งการให้กรมแพทย์ทหารเรือ ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงอย่างเร่งด่วน

ทั้งนี้ จากรายงานของกรมแพทย์ทหารเรือ ระบุว่า ระหว่างวันที่ 26 ธันวาคม 2564 ถึงวันที่ 2 มกราคม 2565 มีรายงานการพบกำลังพลในสังกัดกองทัพเรือที่ติดเชื้อโควิด-19 ดังนี้ วันที่ 26 ธันวาคม 2564 ไม่มีผู้ติดเชื้อ วันที่ 27 ธันวาคม 2564  มีผู้ติดเชื้อ 1 ราย วันที่ 28 ธันวาคม 2564 มีผู้ติดเชื้อ 2 ราย วันที่ 29 ธันวาคม 2564  มีผู้ติดเชื้อ 10 ราย  วันที่ 30 ธันวาคม 2564  มีผู้ติดเชื้อ 7 ราย วันที่ 31 ธันวาคม 2564 มีผู้ติดเชื้อ 2 ราย วันที่ 1 มกราคม 2565  มีผู้ติดเชื้อ 9 ราย และ วันที่ 2 มกราคม 2565 มีผู้ติดเชื้อ 6 ราย 

โฆษกกองทัพเรือ กล่าวต่อไปว่า กำลังพลของกองทัพเรือที่ติดเชื้อในพื้นที่สัตหีบ ตามรายงานข้างต้น ไม่ได้อยู่ในสังกัดหน่วยเดียวกัน ไม่มีความเชื่อมโยงสัมพันธ์กัน ไม่มีการระบาดเป็นกลุ่มก้อน (Cluster) และปัจจุบันสามารถควบคุมการแพร่ระบาดในพื้นที่ได้ ดังนั้น ข้อมูลข่าวสารที่ปรากฏที่ระบุว่า ไม่สามารถควบคุมได้ ถือว่าไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด ซึ่งที่ผ่านมากองทัพเรือได้ให้ความสำคัญในการป้องกันการติดเชื้อให้กับกำลังพลในทุกระดับ

 

ถอดสมการ Omicron​ ปลายทางจบแบบไหน? | Click on Clear THE TOPIC EP.120

📌จับตาคลื่น ‘Omicron’!! ไปกับ ‘ศ.นพ.นิธิ มหานนท์’ เลขาธิการราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ !!
📌ใน Topic​ : ถอดสมการ Omicron​ ปลายทางสุดท้าย 'ไทย-โลก' จบแบบไหน? 

จับประเด็น เน้นความรู้ในรายการ Click on Clear THE TOPIC

ดำเนินรายการโดย ปริม กุญชนิตา กุญชร ณ อยุธยา PROGRAM DIRECTOR THE STATES TIMES

.

.


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top