‘โอมิครอน’ เริ่มลามไม่หยุด ติดเชื้อพุ่ง 514 คน สธ.สั่ง รพ.ทั่วประเทศ สำรองเตียง-ยา ประเมินสถานการณ์หลังปีใหม่ ถ้าการ์ดตกอาจป่วยวันละ 3-4 หมื่น คลัสเตอร์กาฬสินธุ์กระจายวงกว้าง ติดเชื้อรายวัน 2.4 พันเสียชีวิต 18 ศพ
ไทยติดโควิดรายวัน 2.4 พันราย ตาย 18 ศพ คลัสเตอร์ใหม่โผล่หลายจังหวัด ศบค. ห่วงร้านอาหาร-สถานบันเทิงลอบขายเหล้า โดยเฉพาะเชียงใหม่ ยกระดับคุมเข้มสกัดเชื้อลาม ตรวจเจอสายพันธุ์โอมิครอนในประเทศแล้ว 514 คน เป็นการติดเชื้อแบบก้าวกระโดด คลัสเตอร์กาฬสินธุ์พุ่ง 125 คน รอยืนยันผลอีก 97 คน ลามไปอีกหลายจังหวัด จี้เร่งฉีดเข็ม 3 ให้ครอบคลุมมากที่สุด แต่ไม่ห้ามจัดปีใหม่ ให้พื้นที่เคร่งครัดมาตรการ
ด้าน สธ. เตือนภัยโควิด-19 ระดับ 3 คาดการณ์สถานการณ์หลังปีใหม่ หากไร้มาตรการ-ไร้ความร่วมมือติดเชื้ออาจพุ่งวันละ 3 หมื่น ตาย 170 ถ้าตั้งการ์ดสูง ฉีดวัคซีนครบ อาจแตะหลักหมื่น ตาย 60-70 ราย
เมื่อวันที่ 27 ธันวาคม 2564 ที่ทำเนียบรัฐบาล พญ.อภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือศบค. แถลงภาพรวมสถานการณ์ผู้ติดเชื้อ รวมถึงความคืบหน้าการระบาดโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน
>> ไทยติดโควิด 2,437 ตาย 18 คน
ไทยพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 2,437 คน เป็นการติดเชื้อในประเทศ 2,327 ราย มาจากระบบเฝ้าระวังและระบบบริการ 2,307 ราย มาจากการค้นหาเชิงรุก 20 ราย มาจากเรือนจำ 18 ราย เป็นผู้เดินทางมาจากต่างประเทศ 92 ราย ทำให้มียอดผู้ติดเชื้อสะสมยืนยันตั้งแต่ปี 2563 จำนวน 2,212,407 ราย หายป่วยเพิ่มขึ้น 3,845 ราย ทำให้มียอดหายป่วยสะสมตั้งแต่ปี 2563 จำนวน 2,156,374 ราย อยู่ระหว่างรักษา 34,436 ราย อาการหนัก 752 ราย ใส่ท่อช่วยหายใจ 179 ราย ส่วนผู้เสียชีวิตเพิ่ม 18 ราย เป็นชาย 8 ราย หญิง 10 ราย เป็นผู้เสียชีวิตอายุ 60 ปีขึ้นไป 14 ราย มีโรคเรื้อรัง 3 ราย พบผู้เสียชีวิตมากสุดอยู่ที่จ.เชียงใหม่ 3 ราย ทำให้มียอดผู้เสียชีวิตสะสมตั้งแต่ปี 2563 จำนวน 21,598 ราย
>> ฉีดวัคซีนสะสมกว่า 102 ล้านโดส
ส่วนยอดผู้ได้รับวัคซีนของประเทศไทยเมื่อวันที่ 26 ธันวาคม ฉีดวัคซีนเพิ่ม 120,612 โดส รวมยอดฉีดวัคซีนสะสมตั้งแต่วันที่ 28 กุมภาพันธ์ทั้งสิ้น 102,681,943 โดส ขณะที่สถานการณ์โลก มียอดผู้ติดเชื้อสะสม 280,332,969 ราย เสียชีวิตสะสม 5,416,370 ราย
>> ชลบุรีมาแรง ติดเชื้อแซงขึ้นที่ 2 ของประเทศ
พญ.อภิสมัย กล่าวต่อว่า สำหรับ 10 จังหวัดที่มีผู้ติดเชื้อสูงสุดวันที่ 27 ธันวาคม ได้แก่ กรุงเทพมหานคร (กทม.) 427 ราย นครศรีธรรมราช 450 ราย ชลบุรี 138 ราย ขอนแก่น 96 ราย สมุทรปราการ 88 ราย เชียงใหม่ 57 ราย ตรัง 56 ราย ฉะเชิงเทรา 54 ราย สงขลา 53 ราย และสุราษฎร์ธานี 52 ราย สำหรับประเทศไทยยังพบคลัสเตอร์ในหลายพื้นที่ ทั้งคลัสเตอร์โรงงาน ตลาด พิธีกรรมทางศาสนา เช่น มีผู้เดินทางจาก จ.ขอนแก่น ไปร่วมงานศพที่ จ.เลย คลัสเตอร์สถานศึกษา โรงเรียน ที่ จ.แม่ฮ่องสอน ศรีสะเกษ นนทบุรี ลำปาง
>> ห่วงร้านแอบขายเหล้า - เชียงใหม่สั่งคุมเข้ม
นอกจากนี้ ยังมีคลัสเตอร์ร้านอาหารและสถานบันเทิง มีหลายพื้นที่ยังพบลักลอบขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ โดยเฉพาะที่จ.เชียงใหม่ จึงมีการเข้มงวดกวดขันที่ไม่ใช่การขอความร่วมมือ แต่จะกำหนดบทลงโทษผู้ที่ไม่ปฏิบัติตาม โดยผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่เน้นย้ำว่า หากสถานประกอบการไม่ปฏิบัติตามมาตรการแล้วเกิดพบการติดเชื้อ จะเสนอให้ปิดล็อกได้บางจุด บางถนน หากบางร้านมีความเข้มงวดแต่ร้านอื่นไม่ทำตาม อาจเกิดผลกระทบเป็นวงกว้าง จึงให้สมาคมผู้ประกอบการเหล่านี้ติดตามเฝ้าระวังกันเอง
>> ‘โอมิครอน’ ก้าวกระโดด ติดพุ่ง 514 คน
พญ.อภิสมัย ยังแถลงความคืบหน้าการรายงานผู้ติดเชื้อสายพันธุ์โอมิครอน จากตัวเลขเมื่อวันศุกร์ที่ 17 ธันวาคมที่ผ่านมาอยู่ที่ 205 ราย ล่าสุดวันนี้ตัวเลขเพิ่มเป็น 514 ราย ถือว่าสัปดาห์นี้ตัวเลขก้าวกระโดด ต้องเน้นย้ำว่าการพบสายพันธุ์โอมิครอนของประเทศยังเป็น 2 ใน 3 คือ ผู้ที่เดินทางเข้าประเทศและมี 1 ใน 3 ที่เป็นการสัมผัสติดเชื้อจากผู้เดินทางเข้ามาในประเทศ
>> คลัสเตอร์กาฬสินธุ์ ลามไม่หยุด!!
สำหรับคลัสเตอร์ที่มีรายงานจากกรมควบคุมโรค กลุ่มใหญ่จะเป็นคลัสเตอร์กาฬสินธุ์ สามี-ภรรยา เดินทางจากเบลเยียมถึงไทยเมื่อวันที่ 10 ธันวาคม และจากประวัติไปรับประทานอาหารในผับ ตลาดโรงสี เขตเทศบาลเมือง จ.กาฬสินธุ์ นอกจากผู้ติดเชื้อ 2 รายแรกที่เป็นสามี-ภรรยาแล้ว ยังพบนักดนตรี พนักงานร้าน และพนักงานเสิร์ฟ ลูกค้าผู้ใช้บริการร้านเดียวกันอีก 21 ราย และจากการตรวจสอบผู้สัมผัสเสี่ยงสูง มีการติดเชื้อผลยืนยันผลเป็นสายพันธุ์โอมิครอนสำหรับคลัสเตอร์กาฬสินธุ์ ขณะนี้เพิ่มเป็น 125 ราย ส่วนอีก 97 ราย รอผลยืนยันว่าเป็นสายพันธุ์โอมิครอนหรือไม่ ขณะเดียวกัน คลัสเตอร์กาฬสินธุ์ยังเกี่ยวโยงการติดเชื้อที่ จ.อุดรธานี เพราะจากรายแรกที่เป็นครอบครัวของคลัสเตอร์กาฬสินธุ์ที่มีบ้านอยู่ จ.อุดรธานี และตอนนี้ผู้ติดเชื้อ 1 รายของจ.อุดรธานี ทำให้เกิดติดเชื้อไปยังผู้สัมผัสใกล้ชิดของเคสแรก โดยมีรายงานผู้ติดเชื้อ 6 ราย และจ.ลำพูน อีก 4 ราย เป็นการสัมผัสเคสยืนยันจากคลัสเตอร์กาฬสินธุ์
>> คลัสเตอร์แสวงบุญกระจายหลายจังหวัด
นอกจากนี้ ยังมีคลัสเตอร์ของจ.ปัตตานี รายงานผู้ติดเชื้อ 7 ราย สัมผัสผู้ติดเชื้อที่กลับจากการแสวงบุญที่ประเทศแถบตะวันออกกลาง โดยคลัสเตอร์กลุ่มผู้แสวงบุญ มีรายงานที่จ.นนทบุรี จ.อยุธยา จ.ปทุมธานี และกทม. โดยทั้งหมดอยู่ระหว่างรอยืนยันสายพันธุ์ว่าเป็นโอมิครอนหรือไม่ แต่ที่ยืนยันแน่นอนคือ ที่กทม. 2 ราย ซึ่งเป็นผู้ติดเชื้อที่ติดจากสามีที่เป็นนักบินชาวไนจีเรีย จ.ภูเก็ต และจ.กระบี่ 2 ราย มีประวัติเป็นแม่บ้านทำงานในโรงแรมที่ผู้ติดเชื้อพักอาศัย ส่วนคลัสเตอร์กาฬสินธุ์ จะรายงานไปที่จ.ขอนแก่นและจ.มหาสารคาม และอีกคลัสเตอร์คือผู้ติดเชื้อที่รายงานจากจ.สุรินทร์ เป็นผู้สัมผัสที่ผู้ติดเชื้อรายแรกเดินทางมาจากเดนมาร์ก
>> ไอ - เจ็บคอ - มีไข้ สังเกตอาการยาก
พญ.อภิสมัย กล่าวต่อว่า จากข้อมูลเบื้องต้นอาการผู้ติดเชื้อสายพันธุ์โอมิครอน 41 ราย พบว่ามีอาการไอมากที่สุดถึงร้อยละ 54 ราย รองลงมาคือ เจ็บคอ และเป็นไข้ ส่วนอาการที่พบน้อยที่สุดคือ การรับรู้กลิ่นน้อยลงมีเพียง 1 ราย โดยโอมิครอนเป็นการติดเชื้อทางเดินหายใจในส่วนบน ไม่ลงปอด จึงยากที่จะสังเกตอาการคนใกล้ชิด สาธารณสุขจึงแนะนำให้สวมหน้ากากอนามัยสองชั้นเพื่อป้องกัน
>> ตีปี๊บบูสเตอร์เข็ม 3 ด่วน
อย่างไรก็ตาม จากสถานการณ์โอมิครอนในประเทศไทยทำให้ทั้งไทยและหลายประเทศมีมาตรการตอบโต้ โดยแนะนำให้ประชาชนฉีดบูสเตอร์เข็มสาม เป็นอาวุธที่มีประสิทธิภาพและหลายประเทศเห็นพ้องแนวทางนี้ ในส่วนไทยนั้นอัตราการบูสเตอร์เข็มสามยังน้อยมาก มีผู้ฉีดเข็มสามเพียง 6,226,249 รายเท่านั้น คิดเป็น 8.6% ของประชากร จึงขอให้เร่งรณรงค์เรื่องนี้ สำหรับผู้ฉีดเข็มที่หนึ่งและสองเป็นซิโนแวค หรือซิโนฟาร์ม ให้ฉีดบูสเตอร์เข็มสามหลังจากฉีดเข็มที่สองแล้ว 4 สัปดาห์ ส่วนผู้ที่ฉีดแอสตร้าเซนเนก้าเข็มที่สองแล้ว ให้รอ 3 เดือน จึงไปกระตุ้นเข็มที่สาม เช่นเดียวกับผู้ที่ติดเชื้อแล้ว ให้รอหลังจากหายแล้ว 3 เดือน และ ศบค.ชุดเล็ก ยังมีความห่วงบุคลากรทางการแพทย์ ผู้สูงอายุ และ 7 กลุ่มโรค จึงขอให้ไปฉีดเข็มที่สี่
>> 26 วันเข้าไทย 2.4 แสน - เยอรมันมากสุด
สำหรับตัวเลขผู้เดินทางเข้าประเทศไทยทางอากาศตั้งแต่วันที่ 1 - 26 ธันวาคมมีทั้งสิ้น 240,277 ราย 5 ชาติอันดับแรก ได้แก่ เยอรมนี 20,620 ราย พบผู้ติดเชื้อ 35 ราย สหราชอาณาจักร 16,470 ราย ติดเชื้อ 131 ราย รัสเซีย 12,297 ราย ติดเชื้อ 43 ราย สิงคโปร์ 9,528 ราย ติดเชื้อ 3 ราย และสหรัฐอเมริกา 9,357 ราย ติดเชื้อ 101 ราย
>> ไม่ห้ามจัดปีใหม่ย้ำจังหวัดเข้มมาตรการ
ผู้สื่อข่าวถามถึงการปรับมาตรการเฉลิมฉลองช่วงเทศกาลปีใหม่ หลังพบสายพันธุ์โอมิครอนที่ระบาดเร็วและเริ่มพบเชื้อในประเทศมากขึ้น พญ.อภิสมัยกล่าวว่า ตอนนี้มีหลายจังหวัดที่เข้มงวดกวดขันการจัดเทศกาลปีใหม่ โดยที่ประชุมศบค. เน้นย้ำให้คำนึงถึงประชาชนที่ต้องการดำเนินชีวิตตามปกติ ในช่วงเทศกาลปีใหม่ ไม่ใช่แค่การฉลอง แต่มีหลายครอบครัวต้องการเดินทางกลับไปดูแลผู้สูงอายุ ที่ไม่ได้เจอกันมานาน ดังนั้น เบื้องต้นยังไม่มีมาตรการห้ามจัดเทศกาลปีใหม่ แต่ขอให้แต่ละจังหวัด โดยเฉพาะคณะกรรมการโรคติดต่อกทม.คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด เข้มงวดมาตรการ