รัสเซียสั่งหยุดงานทั่วประเทศ ห้ามผู้สูงอายุออกจากบ้าน หลังป่วยโควิดพุ่งวันละ 3 หมื่น ยอดตายทุบสถิติ 

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย อนุมัติขอเสนอของคณะรัฐมนตรีให้มีคำสั่งหยุดงานทั่วประเทศเป็นเวลา 1 สัปดาห์เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 หลังจากที่จำนวนผู้ติดเชื้อและผู้เสียชีวิตพุ่งสูงขึ้น โดยจะเริ่มตั้งแต่วันที่ 30 ต.ค. เป็นต้นไป

รัสเซียยอมรับว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ในประเทศขณะนี้อยู่ในขั้นวิกฤต โดยวานนี้ (20 ต.ค.) รัสเซียมีรายงานผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 ในช่วง 24 ชั่วโมงถึง 1,028 คน ซึ่งเป็นจำนวนที่สูงที่สุดนับตั้งแต่เกิดการแพร่ระบาดในประเทศ ส่งผลให้จำนวนผู้เสียชีวิตสะสมอยู่ที่กว่า 226,000 ซึ่งสูงสุดในยุโรป

โดยรัสเซียมีผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 พุ่งสูงขึ้นในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา จนแตะระดับ 1,000 คน เป็นครั้งแรกช่วงสุดสัปดาห์ และผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นวันละมากกว่า 30,000 คน ต่อเนื่องมาเกือบสัปดาห์แล้ว

ขณะที่อัตราการฉีดวัคซีนค่อนข้างต่ำ โดยมีประชาชนที่ได้รับวัคซีนครบโดสแล้วราว 45 ล้านคน หรือคิดเป็น 32% ของประชากรทั้งหมดประมาณ 146 ล้านคน

ทั้งนี้ ช่วงวันหยุดจะเริ่มขึ้นตั้งแต่วันที่ 30 ต.ค. ไปจนถึง 7 พ.ย. เนื่องจากในสัปดาห์ดังกล่าวมีวันหยุดราชการอยู่แล้ว 4 วัน โดยประธานาธิบดีปูตินเสริมว่า บางพื้นที่ที่มีการแพร่ระบาดรุนแรงอาจมีการออกคำสั่งหยุดงานเร็วกว่านั้น พร้อมเรียกร้องให้ประชาชนเข้ารับการฉีดวัคซีนโควิด-19 เพื่อความปลอดภัยของตนเองและคนรอบข้าง ขณะที่ยังมีประชาชนจำนวนหนึ่งเกิดความลังเลใจในการฉีดวัคซีน

ปูตินยังกล่าวว่า “มีเพียง 2 ทางที่จะผ่านพ้นช่วงเวลานี้ไปได้ คือ เข้ารับการฉีดวัคซีนหรือติดเชื้อ”

นอกจากนี้ เมื่อวันที่ 19 ต.ค. ที่ผ่านมา ผู้ว่ากรุงมอสโก เมืองหลวงของรัสเซีย ยังมีคำสั่งให้ประชาชนที่อายุ 60 ปีขึ้นไปที่ยังไม่ได้เข้ารับการฉีดวัคซีน กักตัวอยู่ที่บ้านเป็นเวลา 4 เดือนจนถึงปลายเดือน ก.พ. เพื่อป้องกันการติดเชื้อในช่วงที่ประเทศกำลังเผชิญกับการแพร่ระบาดขั้นวิกฤต

ที่มา: https://www.posttoday.com/world/666078