Thursday, 2 May 2024
โควิด19

'บิ๊กป้อม' เผยศบค. เคาะยกเลิกพ.ร.ก.ฉุกเฉินแล้วย้ำ!! กฎหมายปกติใช้ดูแลสถานการณ์ต่อได้

เมื่อเวลา 12.15 น. วันที่ 23 ก.ย. ที่ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการบริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ครั้งที่ 12/2565 โดยยอมรับว่าที่ประชุมได้มีมติยกเลิกการประกาศใช้ พ.ร.ก. บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 ซึ่งการดูแลสถานการณ์ทั่วไปมีกฎหมายปกติอยู่แล้วไม่ต้องห่วง รายละเอียดรอให้ทางโฆษก ศบค. เป็นผู้ชี้แจง

นอกจากนี้ ผู้สื่อข่าวถามถึงวันที่ 30 ก.ย.นี้ ต้องเตรียมรับมือสถานการณ์วุ่นวายหรือไม่ กรณีศาลรัฐธรรมนูญลงมติวินิจฉัยวาระ 8 ปีการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา โดยพล.อ.ประวิตรได้ยิ้ม และกล่าวว่า "พุทโธ่ ไม่มีหรอก ไม่มีอะไรหรอกครับ ส่วนทางการข่าวก็ไม่มีการแจ้งอะไรเข้ามา"

ศูนย์ฉีดวัคซีนกลางบางซื่อ เปิดให้บริการถึง 30 ก.ย.นี้ สามารถเข้ารับวัคซีนได้ทั้งการจองคิวและ Walk-in

เมื่อวันที่ 26 กันยายน 2565 เพจ 'ไทยรู้สู้โควิด' ได้โพสต์ถึงการให้บริการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ณ ศูนย์ฉีดวัคซีนกลางบางซื่อ เป็นเดือนสุดท้ายว่า...

#เดือนสุดท้ายByeCovid19

ศูนย์ฉีดวัคซีนกลางบางซื่อ ขอแจ้งเปิดให้บริการฉีดวัคซีนป้องกันโควิดเต็มรูปแบบเป็นเดือนสุดท้าย โดยจะให้บริการถึงวันที่ 30 กันยายน 2565 นี้เท่านั้น

เข็มที่ 1 และเข็มที่ 2 walk-in ได้เลย ส่วนเข็มกระตุ้น (booster doses ตั้งแต่เข็มที่ 3 เป็นต้นไป) มีให้บริการทั้งแบบ walk-in และจองคิวล่วงหน้าผ่านค่ายมือถือทั้ง 4 ค่าย 

เข้ารับบริการได้ที่ ประตู 2 เวลา 9.00-16.00 น. ทุกวัน (ไม่เว้นวันหยุดราชการ) #เปิดตลอดทั้งเดือนกันยา

'อนุทิน' จ่อชงครม. 27 ก.ย.นี้ จ่ายค่าตอบแทนอสม. - อสส. คนละ 2,000 บาท

เมื่อวันที่ (26 ก.ย. 65) น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ในวันที่ 27 ก.ย. 65 นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุข จะเสนอที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อพิจารณาอนุมัติงบประมาณรายจ่ายปี 2565 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น จำนวน 2,100.61 ล้านบาท เพื่อเป็นค่าตอบแทนให้แก่อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) จำนวน 1,039,729 คน และอาสาสมัครสาธารณสุขกรุงเทพมหานคร (อสส.) จำนวน 10,577 คน รวม 1,050,306 คน ช่วงเดือนมิ.ย. - ก.ย. 65 รวม 4 เดือน ในอัตรา 500 บาทต่อคนต่อเดือน รวมเป็น 2,000 บาทต่อคน  

ทั้งนี้ เงินดังกล่าวเป็นค่าตอบแทน เยียวยา ชดเชย และเสี่ยงภัย และสนับสนุนการปฏิบัติภารกิจของ อสม. และอสส. ในการเฝ้าระวัง ป้องกัน และควบคุมโรคโควิด-19 ในชุมชนในช่วงระยะเวลาที่โควิด-19 ยังคงเป็นโรคติดต่ออันตราย

'CEO ไฟเซอร์' ติดเชื้อโควิด-19 รอบที่ 2 หลังฉีดวัคซีน Pfizer-BioNtech แล้ว 4 เข็ม

นายอัลเบิร์ต บัวร์ลา ประธานคณะเจ้าหน้าที่บริหาร (ซีอีโอ) ของบริษัทไฟเซอร์ บริษัทยายักษ์ใหญ่ในสหรัฐฯ ออกแถลงการณ์ว่า เขาติดเชื้อโคโรนาไวรัสสายพันธุ์ใหม่ 2019 หรือโควิด-19 เป็นครั้งที่ 2 หลังจากเคยติดเชื้อโควิด-19 ครั้งแรกไปเมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ในขณะที่นายบัวร์ลา ได้รับการฉีดวัคซีนต้านโควิด-19 ของ Pfizer-BioNtech มาแล้ว 4 เข็ม 

"ผมรู้สึกสบายดี และไม่มีอาการป่วย" นายบัวร์ลา ซีอีโอของไฟเซอร์ ระบุในแถลงการณ์เมื่อวันเสาร์ที่ (24 ก.ย. 65) ถึงอาการป่วยของเขาเองที่ติดเชื้อโควิด-19 เป็นครั้งที่ 2 

นายบัวร์ลา แจ้งด้วยว่า เขายังไม่ได้ฉีดวัคซีนโควิด-19 รุ่นใหม่ ซึ่งเป็นวัคซีนโควิด-19 ชนิดไบวาเลนต์ ที่พัฒนาขึ้นมาใหม่เพื่อหวังสู้กับเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์ย่อยโอมิครอน BA.5 และ BA.4 ซึ่งขณะนี้เป็นสายพันธุ์หลักที่แพร่ระบาดในสหรัฐฯ โดยครองสัดส่วนอยู่ที่ 84.8% และ 1.8%

ฝ่าวิกฤตสำเร็จ!! สธ.ปิดศูนย์ฉีดวัคซีนกลางบางซื่อ ในที่สุดโควิดก็กลายเป็นโรคประจำถิ่นในเมืองไทย 

(1 ต.ค. 65) โบว์ ณัฏฐา มหัทธนา นักกิจกรรมอิสระ และนักเคลื่อนไหวทางการเมืองของไทย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ว่า...

ในที่สุดโควิดก็กลายเป็นโรคประจำถิ่นในเมืองไทย 

ที่ผ่านมาไทยประสบความสูญเสียน้อยเกือบที่สุดในโลก ด้านอัตราส่วนผู้เสียชีวิตต่อประชากร ส่วนหนึ่งก็เพราะวัคซีนไปทั่วถึงได้เร็วกว่าหลายประเทศ ด้วยการตัดสินใจจัดหาวัคซีนที่หาได้มาก่อน ก่อนจะมีวัคซีนหลากหลายและเพียงพอถึงขั้นบริจาคได้ การฉีดสูตรไขว้ก่อนที่หลายประเทศจะทำตาม การคิดนอกกรอบ หาพื้นที่เปิดโรงพยาบาลสนามขนาดใหญ่เริ่มจากศูนย์บุศราคัม และการเปิดศูนย์ฉีดวัคซีนแบบ walk in ท่ามกลางการสกัดขัดขวาง เริ่มจากบางซื่อที่เกิดจากความร่วมมือข้ามกระทรวง ผลักดันโดยรัฐมนตรีสาธารณสุข 

'นพ.เฉลิมชัย' ย้อนไทม์ไลน์ 1,000 วันโควิด-19 ประวัติศาสตร์สำคัญที่ควรรู้ ตั้งแต่เริ่มถึงปัจจุบัน

(4 ต.ค. 65) นพ.เฉลิมชัย บุญยะลีพรรณ รองประธานกรรมาธิการการสาธารณสุข วุฒิสภา โพสต์ข้อความผ่าน Blockdit ร้อยแปดพันเก้ากับหมอเฉลิมชัย ระบุว่า...

ครบ 1000 วันของโควิด-19 แล้ว สรุปเรื่องสำคัญที่ควรทราบ ตั้งแต่ต้นจนถึงปัจจุบัน

นับตั้งแต่ที่ประเทศไทยพบโควิดเคสแรกเมื่อวันที่ 8 มกราคม 2563  จนถึงปัจจุบัน (3 ตุลาคม 2565) นับได้เป็นเวลา 1000 วันเต็มแล้ว เราจะลองมาทบทวนดูเรื่องราวตั้งแต่ต้นจนถึงปัจจุบันว่าเป็นอย่างไรบ้าง

1) ชื่อโรคและชื่อเชื้อโรค ชื่อโรคคือ COVID-19 (Corona Virus Disease 2019)
ชื่อเชื้อโรคคือ SARS-CoV-2 (Severe Acute Respiratory Syndrome-Corona Virus) เป็นไวรัสโคโรนาลำดับที่ 7

2) จุดกำเนิดของผู้ติดเชื้อ
31 ธันวาคม 2562 พบเคสแรกของโลกที่เมืองอู่ฮั่น มณฑลหูเป่ย ประเทศจีน 
8 มกราคม 2563 พบเคสแรกของประเทศไทย เป็นนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาจากจีน

3) ช่วงสองเดือนแรกของการระบาด พบว่า ณ สิ้นเดือนกุมภาพันธ์ 2563 หรือเมื่อโควิดระบาดได้ครบสองเดือน พบว่าประเทศจีนซึ่งเป็นแหล่งกำเนิด มีผู้ติดเชื้อสูงสุด 79,251 ราย เสียชีวิต 3.58% ส่วนประเทศในอีกสี่ลำดับถัดมา ได้แก่ เกาหลีใต้ อิตาลี อิหร่าน และญี่ปุ่น

4) มาตรการรับมือแบบต่าง ๆ ของโควิด-19 ในปี 2563 มี 3 มาตรการด้วยกัน ได้แก่

4.1 ไม่ทำอะไร (Unmitigation) ปล่อยให้มีการติดเชื้อตามธรรมชาติ โดยหวังว่าจะเกิดภูมิคุ้มกันหมู่ (Herd Immunity) แล้วโรคจะสงบลงเอง

4.2 ชะลอผู้ติดเชื้อ (Mitigation) โดยปล่อยให้มีผู้ติดเชื้อในระดับที่สาธารณสุขสามารถรับมือไหว แต่ยังคงมีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น

4.3 เข้มข้นสูงสุด (Suppression) ต้องเมีมาตรการล็อกดาวน์ (Lockdown) หรือปิดเมืองปิดประเทศ ซึ่งจะคุมจำนวนได้ดี แต่ผลกระทบโดยเฉพาะทางสังคมและเศรษฐกิจรุนแรง

5) คลื่นระลอกต่าง ๆ ของโควิดในไทย

5.1 ระลอกแรก เกิดขึ้นในช่วงมีนาคมถึงพฤษภาคม 2563 เป็นไวรัสอู่ฮั่น(Clade S) เริ่มจากสนามมวยลุมพินีและผับบาร์ทองหล่อเป็นคลัสเคเตอร์ใหญ่ มีผู้ติดเชื้อ 4000 ราย เสียชีวิต 60 ราย ควบคุมโรคโดยใช้มาตรการล็อกดาวน์

5.2 ระลอกที่สอง เกิดขึ้นในช่วงธันวาคม 2563 ถึงมีนาคม 2564 ยังคงเป็นไวรัสสายพันธุ์อู่ฮั่น (Clade GH) เริ่มที่ตลาดกลางค้ากุ้งมหาชัย จังหวัดสมุทรสาคร มีผู้ติดเชื้อ 24,863 ราย เสียชีวิต 34 ราย

5.3 ระลอกที่สาม เกิดขึ้นในช่วงเมษายนถึงธันวาคม 2564 เริ่มต้นด้วยไวรัสสายพันธุ์อัลฟ่า (Clade GK) แล้วตามด้วยไวรัสสายพันธุ์เดลต้า (Clade GRY) โดยจุดเริ่มต้นจากแคมป์คนงานหลักสี่ มีผู้ติดเชื้อมากถึง 2,194,572 ราย เสียชีวิต 21,604 ราย

5.4 ระลอกที่สี่ เกิดขึ้นในช่วงมกราคม 2565 จนถึงปัจจุบัน (3 ตุลาคม 2565) เป็นไวรัสสายพันธุ์โอมิครอน (Clade GRA) จนถึงขณะนี้ มีผู้ติดเชื้อ 2,458,697 ราย เสียชีวิต 11,073 ราย

6) ลักษณะของไวรัส

ปัจจุบันพบว่าในประเทศไทย ไวรัสสายพันธุ์หลักได้แก่ โอมิครอน ซึ่งมีการกลายพันธุ์ของสายพันธุ์ย่อย(Sub-variant) จาก BA.1 เรื่อยมาจนปัจจุบันเป็น BA.5 ซึ่งมีความสามารถในการแพร่ระบาดที่กว้างขวางรวดเร็วกว่าเดลต้านับเป็นเท่าตัว ขณะเดียวกันก็มีความรุนแรงก่อให้เกิดการเสียชีวิต น้อยกว่านับเป็นเท่าตัวด้วยเช่นกัน

7) สถานการณ์ปัจจุบัน

ในระดับโลก มีการระบาดครอบคลุมไปแล้ว 228 ประเทศและเขตการปกครอง พบผู้ติดเชื้อ 623 ล้านราย เสียชีวิต 6.5 ล้านราย คิดเป็น 1.05%

ในระดับประเทศไทย มีการระบาดจนครบ 76 จังหวัด และกรุงเทพมหานคร ด้วยจำนวนผู้ติดเชื้อ (เฉพาะพีซีอาร์) 4.68 ล้านราย เสียชีวิต 32,771 ราย คิดเป็น 0.7%

8) การตรวจหาไวรัส

8.1 วิธี RT-PCR เป็นวิธีการตรวจแบบมาตรฐาน มีความแม่นยำสูง แต่ก็มีค่าใช้จ่ายสูง รวมทั้งต้องใช้บุคลากรทางสาธารณสุขที่ได้รับการฝึกฝนในการเก็บตัวอย่างและดำเนินการทางห้องปฏิบัติการ

8.2 วิธี ATK เป็นการตรวจคัดกรองเบื้องต้น มีความแม่นยำค่อนข้างดี แต่ไม่เท่ากับวิธี RT-PCR แต่ค่าใช้จ่ายไม่สูงมากนัก และไม่ต้องใช้บุคลากรทางสาธารณสุข ประชาชนสามารถทำเองที่บ้านได้

8.3 วิธี Genomic Sequencing เป็นการตรวจสารพันธุกรรม เพื่อหาชนิดของไวรัส

สัมพันธ์ไมตรีระหว่างมิตรประเทศกับไทย สะท้อนความเป็นกลางสยามไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด

ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศเป็นเรื่องละเอียดอ่อน เพราะแต่ละประเทศต่างก็มีจุดยืน ภูมิหลังทางประวัติศาสตร์และผลประโยชน์ที่แตกต่างกัน แต่นั่นไม่ใช่ปัญหาสำหรับประเทศไทย เนื่องด้วยประเทศไทยดำเนินนโยบายเป็นกลาง ไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใดตลอดมา ด้วยความที่ประเทศไทย มีความเป็นมิตรประเทศกับทุกฝ่าย โดยไม่เลือกข้างเข้ากับฝ่ายใด ทำให้ประเทศไทยได้รับน้ำใจจากมิตรประเทศตลอดมา

ในช่วงเวลาแห่งความยากลำบากจากสถานการณ์การแพร่ระบาดจากโรคติดเชื้อโคโรนาไวรัส 2019 ก็เช่นกัน ที่ประเทศไทย ได้รับความช่วยเหลือด้านวัคซีนจากมิตรประเทศต่าง ๆ ดังต่อไปนี้...

>> จีน
จีนมอบวัคซีน 50.85 ล้านโดส และเวชภัณฑ์เพื่อสนับสนุนมาตรการการป้องกันและรับมือกับโควิด-19 แก่ประเทศไทย มูลค่ากว่า 10 ล้านหยวน

ล่าสุด วันที่ 19 กันยายนที่ผ่านมา จีนยังบริจาค “ห้องปฏิบัติการเคลื่อนที่หัว-เหยี่ยน” ให้กับทางรัฐบาลไทย โดยห้องปฏิบัติการเคลื่อนที่ดังกล่าวเป็นห้องปฏิบัติการที่ถูกต้องตามมาตรฐาน เพื่อใช้ในการตรวจหาเชื้อไวรัสก่อโรค และเพียบพร้อมไปด้วยอุปกรณ์ทั้งด้านเทคนิค และการบริการภายในอย่างครบครัน

>> ญี่ปุ่น
ญี่ปุ่นส่งมอบวัคซีนแอสตร้าเซเนก้า  2,043,100 โดส อีกทั้งยังให้ความช่วยเหลือไทยในการจัดเตรียมอุปกรณ์ในระบบลูกโซ่ความเย็น (Cold Chain System) ซึ่งจำเป็นต่อการขนส่งและเก็บรักษาวัคซีน รวมถึงให้ความร่วมมือในการยกระดับความสามารถการตรวจหา และเฝ้าระวังเชื้อไวรัส การจัดหาอุปกรณ์และอาคารสถานที่ซึ่งจำเป็นต่อการพัฒนายารักษาโรค

>> อังกฤษ 
อังกฤษมอบแอสตร้าเซเนก้า 415,000 โดส อีกทั้งบริษัทแอสตร้าเซเนก้าของอังกฤษ ยังไว้วางใจให้บริษัทสยามไบโอไซเอนซ์ของประเทศไทย เป็นฐานการผลิตวัคซีนแอสตร้าเซเนก้าในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ 

>> สวิตเซอร์แลนด์
สวิตเซอร์แลนด์มอบชุดอุปกรณ์ตรวจ Rapid Antigent จำนวน 1,100,000 ล้านชุด และเครื่องช่วยหายใจ 102 เครื่อง

>> สหรัฐอเมริกา
สหรัฐอเมริกามอบวัคซีนไฟเซอร์ 1.5 ล้านโดส, วัคซีนโมเดอร์นา 1 ล้านโดส และตู้เย็นเก็บวัคซีนจำนวน 200 เครื่อง

'โซเชียล' สาธุ!! แห่แชร์คลิปหลวงพ่อแขวนอาหารให้หน้าบ้าน หลังโยมไม่ได้ออกมาใส่บาตร เหตุเพราะต้องกักตัว

กลายเป็นอีกเรื่องอิ่มอกอิ่มใจของสังคมไทย เมื่อไม่นานมานี้ ผู้ใช้ TikTok @dr.sarayuth_panmaroeng ได้โพสต์คลิปที่เห็นแล้วอิ่มใจ หลังพระภิกษุนำอาหารมาแขวนไว้ให้ที่หน้าประตู โดยระบุข้อความว่า 'พระมาโปรด'

พร้อมกันนี้ผู้โพสต์ยังได้ระบุข้อความในคลิปอีกด้วยว่า...“ไม่ได้ใส่บาตรท่านช่วงกักตัว พระท่านก็เมตตา นำอาหารมาแขวนหน้าประตู” ซึ่งหลวงพ่อเดินมาบิณฑบาตรแล้วเอาอาหารแขวนไว้ที่ประตูรั้วบ้าน ก่อนจะเดินกลับไป

หลังโพสต์ดังกล่าวเผยแพร่ไป ก็มีคนเข้ามาแสดงความคิดเห็นจำนวนมาก และรู้สึกดีที่หลวงพ่อช่วยเหลือชาวบ้าน สะท้อนให้เห็นว่าการแบ่งบันเป็นสิ่งดีงามต่อโลกใบนี้จริง ๆ


ที่มา: https://www.tiktok.com/@dr.sarayuth_panmaroeng/video/7149473545469365531

https://www.khaosod.co.th/special-stories/news_7298126

สรุปจำนวนวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ในประเทศไทย ที่ 'บิ๊กตู่' จัดให้!!

การให้บริการฉีดวัคซีนป้องการโรคโควิด19 ถือเป็นหนึ่งในมาตรการสำคัญที่รัฐบาลภายใต้การนำของนายกรัฐมนตรี พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชาให้ความสำคัญ โดยมีวัตถุประสงค์ในการสร้าง 'ภูมิคุ้มกันหมู่' (Herd Immunity) ให้แก่สังคมไทย

ภูมิคุ้มกันหมู่ เป็นนิยามที่เกิดขึ้นโดย สพ. แดเนียล เอลเมอร์ แซลมอน สัตวแพทย์ชาวอเมริกันใน ค.ศ. 1894 และได้รับการศึกษาวิจัยต่อมาจนเป็นที่ยอมรับในช่วง ค.ศ. 1930 จากงานวิจัยด้านระบาดวิทยาของโรคหัดในบัลติมอร์ โดยเอ ดับบลิว เฮดริช และมีการศึกษาค้นคว้าเพิ่มเติมมาตลอดทั้งในแง่ของการคำนวนหาจำนวนที่เหมาะสม และรูปแบบการกระจายวัคซีนที่มีประสิทธิภาพ ตามหลักการทางวิทยาศาสตร์

นอกจากนี้ เทคโนโลยีในการสร้างวัคซีนป้องกันโรคโควิด ปัจจุบันมี 3 เทคโนโลยี ได้แก่วัคซีนชนิดเชื้อตาย (Inactivated Vaccine), ไวรัล เว็กเตอร์ (Viral Vector Vaccine) และ เอ็มอาร์เอ็นเอ (mRNA Vaccine) ซึ่งรัฐบาลภายใต้การนำของนายกรัฐมนตรี พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชาสามารถจัดหามาให้บริการแก่พี่น้องประชาชนได้ทั้ง 3 ชนิด มีจำนวนดังต่อไปนี้..

- Sinovac จำนวน 26,530,000 โดส 
- Sinopharm จำนวน 14,860,000 โดส
- AstraZeneca จำนวน 48,620,000 โดส
- Pfizer จำนวน 43,490,000 โดส
- Moderna จำนวน 6,590,000 โดส

‘อนุทิน’​ เตือนผู้ปกครองพาเด็กเล็กฉีดวัคซีนโควิด-19 หวั่นระบาดอีกครั้ง หลังอากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย

‘อนุทิน’​ เตือนผู้ปกครอง พาเด็กเล็กฉีดวัคซีนโควิด-19​ หวั่นอากาศเปลี่ยนแปลง โควิด-19 อาจหวนระบาดอีกครั้ง

(31 ต.ค. 65) เมื่อเวลา 08.40 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทิน​ ชาญวีรกูล​ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข​ กล่าวถึงการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19​ หลังจากที่สภาพอากาศเปลี่ยนแปลงและโควิด-19 อาจกลับมาระบาดอีกครั้งหนึ่ง​ ว่า​ จะต้องเพิ่มการระมัดระวังมากขึ้น​ โดยการฉีดวัคซีน​สามารถป้องกันความรุนแรงของโรคได้​ โดยเฉพาะการฉีดวัคซีนเข็มบูสเตอร์ และมีผลยืนยันแล้วว่าไม่มีอาการหนักถึงขั้นต้องใส่เครื่องช่วยหายใจหรือเสียชีวิต​ จึงเป็นสิ่งที่เป็นประโยชน์​มากหากร่วมกันฉีดวัคซีน​ 

ทั้งนี้วัคซีนให้บริการครอบคลุม ตั้งแต่เด็กอายุตั้งแต่ 6 เดือน​ -​ ​4 ขวบ​ เป็นวัคซีนไฟเซอร์ฝาแดง ซึ่งเตรียมไว้พร้อมแล้วและกระจายไว้ทั่วประเทศ จึงขอเชิญชวนให้ผู้ปกครอง พาเด็กไปรับวัคซีน เราต้องฉีดถึง 3 เข็ม ควรรีบไปฉีด ความปลอดภัยจะเกิดขึ้นกับทั้งครอบครัว ขอผู้ปกครองอย่าเป็นกังวลว่าเด็กจะนำเชื้อจากโรงเรียนมาติดยังผู้ปกครอง โดยเฉพาะผู้สูงอายุที่บ้าน


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top