Saturday, 7 June 2025
ไอโฟน

‘โฆษกพรรคกล้า’ ซัดรัฐใช้ภาษีปชช. ฟุ่มเฟือย ชี้! เงินเดือนสูงทั้งนั้น ทำไมไม่ซื้อมือถือเอง

'โฆษกพรรคกล้า' เปิดเงินเดือน ข้าราชการการเมือง - รัฐมนตรี เงินเดือนสูง ๆ ทั้งนั้น ทำไมไม่ซื้อมือถือเอง ท้าประกาศไม่รับไอโฟนตามนายกฯ ชี้เป็นบทเรียนจัดซื้อเกินจำเป็น 

นายแสนยากรณ์ สิงห์วีรธรรม โฆษกพรรคกล้า กล่าวถึงกรณีสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี จัดซื้อโทรศัพท์มือถือ iPhone 12 จำนวน 111 เครื่อง วงเงิน 2.68 ล้านบาท ว่าที่ปรึกษานายกฯ ออกมาชี้แจง ทั้งเรื่องความจำเป็นในภารกิจและ iPhone 7 ที่ใช้งานมากกว่า 6 ปี เริ่มชำรุด เป็นเหตุผลที่เข้าใจได้ แต่บุคคลที่จะได้โทรศัพท์ส่วนใหญ่กลับเป็นระดับผู้อำนวยการ อธิบดี ข้าราชการการเมือง ไปจนถึงรัฐมนตรี มีเงินเดือนสูง มีโทรศัพท์มือถือใช้กันอยู่แล้วทุกคน รัฐมนตรีและข้าราชการการเมืองทุกคน ก็ควรจะประกาศไม่รับโทรศัพท์เช่นเดียวกับนายกรัฐมนตรี และหาทางลดจำนวนการจัดซื้อให้เหลือเท่าที่จำเป็น 

‘แอปเปิล’ ส่งข้อความเตือน "การโจมตีที่รัฐสนับสนุน" พุ่งเป้าแฮกไอโฟน นักเคลื่อนไหว - นักวิชาการไทย

แอปเปิลส่งข้อความแจ้งเตือนผู้ใช้โทรศัพท์มือถือไอโฟนหลายรายว่า พวกเขาอาจตกเป็นเป้าหมายการโจมตีที่ได้รับการสนับสนุนโดยรัฐ สำหรับในไทย ผู้ที่ได้รับข้อความเตือนดังกล่าวส่วนหนึ่งเป็นนักเคลื่อนไหวทางการเมืองและนักวิชาการ ที่ออกมาวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาล

รศ.ดร. ประจักษ์ ก้องกีรติ รองคณบดี คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์, สฤณี อาชวานันทกุล นักเศรษฐศาสตร์อิสระ, รศ. ดร. ปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า, เอเลียร์ ฟอฟิ นักสร้างภาพยนตร์ที่ร่วมเรียกร้องประชาธิปไตย, เดชาธร "ฮ็อกกี้" บำรุงเมือง ศิลปินกลุ่มแร็ปต้านเผด็จการ, ชยพล ดโนทัย แนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม และนักศึกษาที่ร่วมเคลื่อนไหวต่อต้านรัฐบาลอีก 2-3 ราย ต่างก็ได้รับอีเมลจากแอปเปิลแจ้งเตือนว่ากำลังตกเป็นเป้าหมายของ "หน่วยโจมตีไซเบอร์ที่สนับสนุนโดยรัฐ" (state-sponsored attackers) โดยได้รับอีเมลช่วงเวลาต่าง ๆ กันตั้งแต่เมื่อคืนที่ถึงเช้าวันนี้ (24 พ.ย.)

อีเมลแจ้งเตือนที่แต่ละคนได้รับ มีข้อความตรงกันว่า "คำเตือน : ไอโฟนของคุณอาจกำลังตกเป็นเป้าโจมตีของหน่วยโจมตีไซเบอร์ที่สนับสนุนโดยรัฐ"

แอปเปิลระบุว่าส่งอีเมลฉบับนี้ถึงผู้ใช้งานเพราะเชื่อว่าเจ้าของแอปเปิลไอดีดังกล่าว "กำลังตกเป็นเป้าหมายของนักโจมตีทางไซเบอร์ที่มีรัฐสนับสนุนซึ่งพยายามเข้าถึงไอโฟนของคุณ"

"นักโจมตีเหล่านี้อาจมุ่งเป้าที่คุณโดยตรงเพราะตัวตนของคุณหรือเพราะสิ่งที่คุณทำ หากนักโจมตีเข้าถึงไอโฟนของคุณได้ เขาก็อาจเข้าถึงข้อมูลที่อ่อนไหว การสื่อสาร รวมทั้งกล้องและไมโครโฟนได้" แอปเปิลระบุ พร้อมกับให้คำแนะนำในการเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยของอุปกรณ์

อย่างไรก็ตาม ยังไม่แน่ชัดว่าแอปเปิลใช้หลักเกณฑ์ใดในการระบุการโจมตีดังกล่าวว่ามีความเชื่อมโยงกับรัฐ หรือมีการโจมตีเกิดขึ้นจริงหรือไม่ เนื่องจากแอปเปิลยังคงแบ่งรับแบ่งสู้ว่าการแจ้งเตือนดังกล่าวอาจเป็นข้อผิดพลาดได้ หรือการโจมตีบางอย่างระบบของแอปเปิลก็อาจจะตรวจจับไม่ได้เช่นกัน และแอปเปิลไม่สามารถให้รายละเอียดได้มากกว่านี้ เนื่องจากอาจกลายเป็นการให้ข้อมูลแฮกเกอร์เพื่อใช้ปรับพฤติกรรมการโจมตีเพื่อหลบเลี่ยงการตรวจจับในอนาคต

วันเดียวกัน แอปเปิลแถลงด้วยว่าได้ยื่นฟ้องที่ศาลแคลิฟอร์เนียต่อเอ็นเอสโอ (NSO) บริษัทผู้ผลิตสปายแวร์สัญชาติอิสราเอล และบริษัทแม่ กล่าวหาเอ็นเอสโอว่าใช้เครื่องมือแฮกระบบของผู้ใช้ไอโฟน

‘เจ้าหน้าที่’ ฝ่ากระแสน้ำเจ้าพระยา ดำลึก 8 เมตร ค้นหา ‘ไอโฟน’ หลังได้รับเหตุขอความช่วยเหลือ งมหาจนเจอ!! ยังใช้งานได้ปกติ

เมื่อวานนี้ (21 ก.ค. 66) เวลาประมาณ 18.00 น. เจ้าหน้าที่ชุดประดาน้ำของมูลนิธิร่วมกตัญญู ได้รับแจ้งเหตุขอความช่วยเหลือจาก น.ส.น้ำ อายุ 38 ปี หลังทำโทรศัพท์มือถือยี่ห้อไอโฟน รุ่น 12 โปรแม็กซ์ ตกลงไปในแม่น้ำเจ้าพระยา บริเวณโป๊ะท่าน้ำของอุทยานเฉลิมกาญจนาภิเษก ต.บางศรีเมือง อ.เมือง จ.นนทบุรี

ในที่เกิดเหตุพบ น.ส.น้ำ ชี้จุดที่ทำโทรศัพท์ตกลงไปบริเวณข้างโป๊ะพอดี ชุดประดาน้ำลงน้ำค้นหาโดยใช้เวลาเพียง 20 นาที ก็พบกับโทรศัพท์จมอยู่ในแม่น้ำ โดยที่เครื่องยังมีแสงไฟและสามารถใช้งานได้ตามปกติ ก่อนจะส่งมอบคืนให้กับ น.ส.น้ำ

น.ส.น้ำ กล่าวว่า ขณะที่ตนกำลังนั่งให้อาหารปลาอยู่ โดยถือโทรศัพท์มือถือไว้ด้วย ก่อนทำโทรศัพท์หลุดมือตกลงไปในแม่น้ำ รู้สึกตกใจมากจนคิดว่าอาจจะไม่ได้โทรศัพท์เครื่องนี้กลับคืน เนื่องจากกระแสน้ำค่อนข้างแรง แต่เจ้าหน้าที่มาช่วยดำน้ำค้นหาจนเจอ ตนดีใจมากเพราะซื้อโทรศัพท์เครื่องนี้มาในราคาเกือบ 50,000 บาท ตั้งแต่เริ่มเปิดวางจำหน่าย

ด้านนายฉัตรชัย แหวนทองคำ ทีมเจ้าหน้าที่ชุดประดาน้ำของมูลนิธิร่วมกตัญญู รหัสบางรัก 28 กล่าวว่า การค้นหาโทรศัพท์มือถือที่ตกลงไปในแม่น้ำตรงจุดนี้มีอุปสรรคนิดหน่อย คือจุดที่ตกซึ่งเป็นหน้าโป๊ะมีความลึกประมาณ 8-9 เมตร และมีกระแสน้ำที่ค่อนข้างแรง เกรงว่ากระแสน้ำจะพัดโทรศัพท์ออกไปไกลจากจุดที่ตก แต่สุดท้ายก็สามารถดำน้ำงมจนเจอห่างจากจุดที่ตกออกไปประมาณ 3 เมตร

นายฉัตรชัย กล่าวต่อว่า ขอแจ้งไปยังประชาชนที่เดือดร้อนและต้องการขอความช่วยเหลือกับมูลนิธิร่วมกตัญญูในการช่วยค้นหาสิ่งของมีค่าต่างๆ ทางมูลนิธิยินดีช่วยเหลือให้ฟรี ไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น สามารถติดต่อได้ที่ทางมูลนิธิร่วมกตัญญู โทร.02-751-0951-3 หรือทางเพจเฟซบุ๊ก นทีคลับ ชุดกู้ภัยทางน้ำ มูลนิธิร่วมกตัญญู

'จีน' สั่ง!! ห้ามเจ้าหน้าที่รัฐใช้ iPhone  หวั่น!! เป็นภัยต่อความมั่นคงของชาติ

ไม่นานมานี้ จีนได้ออกคำสั่ง 'ห้ามเจ้าหน้าที่รัฐใช้โทรศัพท์ IPhone' เพราะกังวลว่าการใช้โทรศัพท์ที่ผลิตโดยบริษัทในสหรัฐฯ อาจเป็นภัยต่อความมั่นคงของชาติได้

โดยคำสั่งนี้เริ่มออกมาตั้งแต่ช่วงเดือนสิงหาคม โดยมุ่งเป้าไปที่หน่วยงานรัฐของจีนที่ทำงานเกี่ยวข้องกับการค้า การลงทุน และกิจการระหว่างประเทศโดยเฉพาะ ซึ่งเจ้าหน้าที่ในหน่วยงานดังกล่าวจะมีเวลาถึงสิ้นเดือนกันยายนนี้ ในการเปลี่ยนไปใช้สมาร์ตโฟนแบรนด์อื่นแทน

เหตุการณ์ดังกล่าวนี้ เกิดขึ้นภายหลังความตึงเครียดระหว่างจีนกับสหรัฐฯ เพิ่มสูงขึ้น คำสั่งดังกล่าวจึงชี้ชัดว่า จีนต้องการแสดงออกถึงการแบนสหรัฐอเมริกา เนื่องจากคำสั่งห้ามเฉพาะเจาะจงไปที่ IPhone เพียงแบรนด์เดียวเท่านั้น แต่สมาร์ตโฟนแบรนด์อื่น ๆ ที่ไม่ได้มาจากสหรัฐฯ ยังคงใช้ได้ในประเทศจีน

ในทำนองเดียวกัน โจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐฯ คนปัจจุบันก็เคยมีคำสั่งห้ามใช้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์จากบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ของจีนอย่าง Huawei และ ZTE มาตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2021 แล้วเช่นเดียวกัน โดยให้เหตุผลว่าต้องการปกป้องชาวอเมริกันจากปัญหาด้านความปลอดภัยที่อาจเกิดขึ้นจากอุปกรณ์โทรคมนาคมเหล่านี้

คำสั่งเหล่านี้ยิ่งตอกย้ำถึงปัญหาความตึงเครียดของจีนกับสหรัฐฯ ที่เพิ่มสูงขึ้น ตลอดจนความไม่ไว้วางใจที่เพิ่มขึ้นระหว่างจีนและโลกตะวันตก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านการค้า เทคโนโลยี และการสอดแนม

'กระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ' ยื่นฟ้อง Apple ปม 'ไอโฟน' ผูกขาดตลาดมือถือ ราคาแพง!! แถมสร้างความยุ่งยาก หากใครคิดเปลี่ยนไปใช้มือถือรายอื่น

(22 มี.ค. 67) เอเอฟพี รายงานว่า กระทรวงยุติธรรมสหรัฐอเมริกายื่นฟ้องร้อง แอปเปิล บริษัทคอมพิวเตอร์และโทรศัพท์มือถือยักษ์ใหญ่ระดับโลกสัญชาติอเมริกัน เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 21 มี.ค. ในข้อกล่าวหาว่าไอโฟน ผูกขาดตลาดโทรศัพท์มือถืออย่างผิดกฎหมายด้วยการยับยั้งการแข่งขันและตั้งราคาสูงเกินไป

คดีดังกล่าวเป็นการฟ้องโดย 17 รัฐและพุ่งเป้าโจมตีไอโฟนซึ่งทำรายได้หลายแสนล้านดอลลาร์สหรัฐจากการผูกขาดตลาด และทำให้ผู้ใช้งานต้องเผชิญกับความยุ่งยากเมื่อเปลี่ยนการใช้งานจากไอโฟนเป็นโทรศัพท์มือถือยี่ห้ออื่น ๆ ที่มีราคาถูกกว่า

ข้อมูลจากเอกสารฟ้องร้องบางส่วนระบุว่า ผู้ใช้งานอุปกรณ์ของบริษัทแอปเปิลถูกบีบบังคับให้อยู่ในระบบนิเวศของแอปเปิลและต้องซื้ออุปกรณ์ของแอปเปิลซึ่งมีราคาแพง

นายเมอร์ริก การ์แลนด์ อัยการสูงสุดกล่าวว่า “ผู้บริโภคไม่ควรต้องจ่ายราคาที่สูงขึ้นเนื่องจากบริษัทฝ่าฝืนกฎหมายต่อต้านการผูกขาด หากปล่อยไว้โดยไม่มีใครทักท้วงแอปเปิลจะยังคงเดินหน้าการผูกขาดตลาดสมาร์ตโฟนต่อไป”

สาวกไอโฟน ฮึ่ม!! นาฬิกาปลุกไม่ดัง ทำคนตื่นสาย-ผิดนัดกันทั่วโลก

ดูเหมือน iPhone กำลังประสบปัญหานาฬิกาปลุกไม่ส่งเสียงในสัปดาห์ที่ผ่านมา หลังจากมีรายงานบนโซเชียลจากคนใช้ iPhone จำนวนหนึ่งในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา พบปัญหาแปลกนั่นคือนาฬิกาปลุกไม่ส่งเสียงดัง ล่าสุดตัวแทนของแอปเปิลยืนยันกับนักข่าวของ The Wall Street Journal ว่ารับทราบปัญหานี้แล้ว และกำลังแก้ไขอยู่

ด้านแอปเปิลบอกว่า ปัญหาที่พบคือในการตั้งนาฬิกาปลุกบน iPhone บางกรณี จะไม่ส่งเสียงเมื่อถึงเวลาปลุก เรื่องนี้ทำให้ผู้ใช้หลายคนรายงานปัญหาชีวิต ตื่นสาย ผิดนัด และอะไรต่างๆ ที่ตามมานั่นเอง

อย่างไรก็ตามก่อนที่แอปเปิลจะแก้ไขปัญหานี้ ผู้ใช้งานบางคนคาดเดาว่า ปัญหานาฬิกาปลุกนี้อาจเกี่ยวข้องกับฟีเจอร์ชื่อ Attention Aware หรือ ตั้งใจมอง ซึ่งจะลดระดับเสียงการเตือนลง หากผู้ใช้มองอุปกรณ์ ซึ่ง iPhone ตรวจจับจากกล้องหน้า TrueDepth หากใครพบปัญหาดังกล่าวจึงอาจแก้ไขเบื้องต้นได้โดยไปที่ Settings > Face ID & Passcode และปิด Attention Aware

‘คุณพ่อชาวจีน’ คุกเข่ากลางถนน ขอโทษ ‘ลูกสาว’ หลังไม่มีเงินมากพอ เพื่อซื้อโทรศัพท์ iPhone ให้

เมื่อไม่นานมานี้ ในโลกโซเชียลของจีน ได้แชร์คลิปวิดีโอหนึ่งซึ่งเป็นภาพคุณพ่อชาวจีน กำลังนั่งคุกเข่าก้มศีรษะขอโทษลูกสาววัยรุ่น เนื่องจากเขาไม่มีเงินซื้อสมาร์ตโฟน ยี่ห้อไอโฟนให้ลูกสาว จากเหตุการณ์นี้กลายเป็นประเด็นถกเถียงอันเผ็ดร้อนเกี่ยวกับการดูแลบุตรหลานในสังคมจีนปัจจุบัน

ตามรายงานของเว็บไซต์ Jinyun Video ระบุว่า คลิปนี้ถูกบันทึกไว้ได้โดยผู้สัญจรผ่านไปมารายหนึ่งในเมืองไท่หยวน ทางตอนกลางของมณฑลซานซี เมื่อช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา โดยที่เขาบังเอิญพบเห็นพ่อลูกคู่นี้บนถนนพอดี

ผู้เห็นเหตุการณ์นี้รายที่มีชื่อว่า จง เล่าว่าพ่อลูกคู่นี้พูดกันเสียงดังมาก จนกระทั่งเขาได้ยินทุกอย่างอย่างชัดเจน เด็กหญิงตะโกนใส่ผู้เป็นพ่อ บอกว่า "พ่อแม่คนอื่น ๆ สามารถซื้อไอโฟนให้ลูก ๆ แต่ทำไมพ่อถึงไม่มีเงิน"

หลังจากถูกด่าอย่างรุนแรง ผู้เป็นพ่อได้คุกเข่าลงและก้มศีรษะแสดงอาการกล่าวโทษตนเองที่ไม่สามารถหาเงินได้มากพอ กระตุ้นให้ลูกสาวตวาดลั่นว่า "ลูกขึ้น! ลุกขึ้นเร็ว ๆ" ดูเหมือนเด็กหญิงจะอับอายสายตาคนอื่น ๆ ต่อการกระทำของผู้เป็นพ่อ

จง เล่าต่อว่า เขายืนดูอยู่ไม่ไกลนัก เฝ้าดูเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับคนทั้ง 2 เป็นเวลาราว 5 นาที และแสดงความเห็นใจผู้เป็นพ่อ พร้อมกับแสดงความขุ่นเคืองต่อพฤติกรรมลูกสาวของชายรายนี้ "ผมรู้สึกถึงขั้นอยากเดินไปตบหน้าเธอเลยทีเดียว" เขากล่าว

คลิปนี้เป็นที่พูดถึงอย่างกว้างขวางบนสื่อสังคมออนไลน์และทั่วประเทศ มีผู้เข้าชมบนเว่ยปั๋ว 91 ล้านคน และบนแพลตฟอร์มโต่วอินมากกว่า 6 ล้านครั้ง หลายคนประณามพฤติกรรมของลูกสาว แต่บางส่วนวิพากษ์วิจารณ์ผู้เป็นพ่อว่าไร้ความสามารถในการสอนลูกสาวอย่างที่ถูกที่ควร

"ลัทธิบริโภคนิยมนำมาซึ่งผลกระทบทางลบต่อเยาวชน พวกเขาหมกมุ่นอยู่กับความสะดวกสบายทางวัตถุ แต่เพิกเฉยต่อความยากลำบากของพ่อแม่ มันเรื่องน่าเศร้าของสังคม" ผู้ใช้รายหนึ่งเขียน

"ผมรู้สึกเศร้าใจกับทั้ง 2 คน ลูกสาวไร้สาระมากๆ แต่การคุกเข่าของผู้เป็นพ่อก็ไม่เหมาะสม" ความเห็นหนึ่งระบุ "แน่นอนว่า พ่อน่าสงสาร แต่การกระทำของเขาจะยิ่งทำให้ลูกสาวเป็นคนหัวดื้อมากยิ่งขึ้น เขาไม่ได้ชี้ถึงความผิดพลาดของลูก เขาทำหน้าที่พ่อได้แย่มาก ๆ"

‘สมาร์ตโฟนจีน’ เขี่ย ‘แอปเปิ้ล’ ร่วง Top 5 ในไตรมาส 2 ‘วีโว่’ ขึ้นแท่นผู้นำในจีน โกย!! ยอดขาย 13.1 ล้านเครื่อง

(29 ก.ค. 67)  สำนักข่าวซีเอ็นบีซี เผยว่า ส่วนแบ่งตลาดของแอปเปิ้ลในจีนร่วงลงสู่ระดับ 14% ในไตรมาสสองปี 2567 จากระดับ 15% ในไตรมาสหนึ่ง และจากระดับ 16% ในช่วงเวลาเดียวกันเมื่อปีก่อน

จากข้อมูลดังกล่าวทำให้ผู้ผลิตไอโฟน ที่ครองส่วนแบ่งตลาดในจีนมากเป็นอันดับที่ 3 ในไตรมาสสองของปีก่อน ร่วงลงไปครองตำแหน่งแบรนด์ที่มีส่วนแบ่งตลาดมากสุดอันดับที่ 6 ในจีน ซึ่งจากการคำนวณของซีเอ็นบีซี พบว่า แอปเปิ้ลมียอดจัดส่งสมาร์ตโฟนราว 9.7 ล้านเครื่อง

‘ลูคัส จง’ นักวิจัยจากคานาลิส (Canalys) กล่าวว่า

“นี่ถือเป็นไตรมาสแรกของประวัติศาสตร์ที่แบรนด์ของจีนครองส่วนแบ่งตลาดทั้ง 5 อันดับแรก”

ทั้งนี้ ยอดจัดส่งสมาร์ตโฟนของแอปเปิ้ลลดลงต่อเนื่องตั้งแต่ไตรมาสแรก ซึ่งร่วงมากถึง 25% สู่ระดับ 10 ล้านเครื่อง เมื่อเทียบแบบปีต่อปี

‘แอปเปิ้ล’ กำลังเผชิญกับภาวะคอขวดในตลาดจีน ขณะที่บริษัทพยายามรักษาเสถียรภาพด้านราคาขายปลีก และปกป้องกำไรตามช่องทางการจำหน่ายของพาร์ตเนอร์

คานาลิส ระบุ อีก 12 เดือนข้างหน้าบริการ "แอปเปิ้ล อินเทลลิเจนซ์ " (Apple Intelligence) ท้องถิ่นในจีน จะเป็นความเคลื่อนไหวครั้งสำคัญ เพื่อแข่งขันกับแบรนด์สมาร์ตโฟนจีนที่กำลังพัฒนาการนำเอไอรู้สร้าง หรือเจนเอไอ (GenAI) ไปใช้ในผลิตภัณฑ์ของตน

ตั้งแต่เดือน เม.ย. ถึง มิ.ย. วีโว่ (Vivo) ขึ้นเป็นแบรนด์อันดับ 1 ที่ครองส่วนแบ่งตลาด 19% และมียอดขาย 13.1 ล้านเครื่อง อานิสงส์จากยอดขายแพลตฟอร์มออฟไลน์ และออนไลน์แข็งแกร่ง ในช่วงเทศกาลชอปปิงออนไลน์ 618

ขณะที่ออปโป้ (OPPO) ยังคงครองส่วนแบ่งตลาดอันดับที่ 2 เหมือนเดิม มียอดขาย 11.3 ล้านเครื่อง เนื่องจากได้รับแรงหนุนจากรุ่น Reno 12 ส่วนออเนอร์ (Honor) ครองอันดับที่ 3 มียอดขาย 10.7 ล้านเครื่อง เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 4 %

หัวเว่ย (Huawei) อยู่อันดับที่ 4 ครองส่วนแบ่งตลาด 15% โดยมียอดขาย 10.6 ล้านเครื่อง ขณะที่ปีก่อนหน้าหัวเว่ยยังไม่สามารถขึ้นเป็นแบรนด์ท็อป 5 ได้ แต่ขณะนี้ธุรกิจที่จำหน่ายสินค้าสู่ผู้บริโภคโดยตรง (consumer business) ของหัวเว่ยฟื้นตัวได้ดีในจีน หลังออกสมาร์ตโฟนรุ่น Mate 60

ด้านเสียวหมี่ (Xiaomi) ที่เพิ่งเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้าที่สร้างความฮือฮาอย่าง SU7 ครองส่วนแบ่งตลาดอันดับที่ 5 และยอดขายโทรศัพท์มือถือ K70 และรุ่นเรือธงอย่าง เสียวหมี่ 14 เติบโตแข็งแกร่ง

โดยรวมแล้วตลาดสมาร์ตโฟนจีนเติบโต 10% ในไตรมาสสองเมื่อเทียบแบบปีต่อปี และมียอดขายมากกว่า 70 ล้านเครื่อง

"iPhone ถือเป็นนวัตกรรมเปลี่ยนโลกครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์ แต่หลังจากนั้น Apple ดูเหมือนไม่มีนวัตกรรมใหม่ออกมาเลย สตีฟ จ็อบส์สร้าง iPhone ไว้ แล้ว 20 ปีผ่านไปก็ยังคงเหมือนเดิม"

(13 ม.ค. 68) มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก วิจารณ์แอปเปิล iPhone ขาดนวัตกรรม - ระบบปิดจำกัดการเติบโตของตลาด

มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก ซีอีโอของ Meta ได้ร่วมพูดคุยในรายการพอดคาสต์ Joe Rogan Experience โดยหัวข้อสนทนาครอบคลุมหลายประเด็น ไม่ว่าจะเป็นการจัดการเนื้อหาบนแพลตฟอร์ม การพบปะกับอดีตประธานาธิบดีทรัมป์ รวมถึงประเด็นร้อนที่เกี่ยวข้องกับบริษัทแอปเปิล  

ระหว่างการสนทนา โจ โรแกนเล่าว่าเขาเปลี่ยนจากการใช้ iPhone ไปเป็น Android เนื่องจากไม่อยากผูกติดกับแบรนด์ใดแบรนด์หนึ่ง และยังแสดงความไม่พอใจกับนโยบายการเก็บค่าธรรมเนียม App Store ของแอปเปิล  

ซักเคอร์เบิร์กได้เสริมมุมมองว่า แม้ iPhone จะเคยเป็นนวัตกรรมที่เปลี่ยนโลก แต่หลังจากนั้น แอปเปิลกลับไม่มีสิ่งใหม่ที่สร้างความเปลี่ยนแปลงอีกเลย เขาเปรียบว่า สตีฟ จ็อบส์ได้สร้าง iPhone ไว้แล้ว แต่หลังจากผ่านมา 20 ปี ทุกอย่างยังคงเดิม ทำให้เขาตั้งคำถามว่าแอปเปิลยังคงขาย iPhone ได้ดีขึ้นเรื่อย ๆ หรือไม่ เพราะโทรศัพท์มือถือมีการพัฒนาอยู่ตลอดเวลา แต่คนสร้างอัปเกรดอุปกรณ์ช้าลงเรื่อย ๆ ซักเคอร์เบิร์กยังมองว่าการเก็บค่าธรรมเนียม 30% เป็นวิธีที่แอปเปิลใช้รักษารายได้ให้เพิ่มขึ้นทุกปี  

นอกจากนี้ ซักเคอร์เบิร์กยังวิจารณ์แอปเปิลในเรื่องระบบปิด โดยยกตัวอย่าง AirPods ที่แม้จะเป็นสินค้าคุณภาพสูง แต่ถ้าหูฟังยี่ห้ออื่นสามารถใช้โปรโตคอลเชื่อมต่อกับ iPhone ได้แบบเดียวกัน ผู้บริโภคอาจมีทางเลือกที่หลากหลายและดียิ่งกว่าเดิม เขาเชื่อว่า ถ้าแว่นตา Ray-Ban Meta Glasses สามารถเชื่อมต่อในลักษณะเดียวกันได้ สินค้าจะมีความสะดวกและน่าสนใจสำหรับผู้ใช้งานมากขึ้น  

เขายังทำนายว่าแนวทางของแอปเปิลในปัจจุบันอาจทำให้บริษัทต้องเจอกับความท้าทายจากคู่แข่งในเร็ววัน เพราะขาดการพัฒนานวัตกรรมใหม่มาเป็นเวลานาน  

ซักเคอร์เบิร์กยังกล่าวถึงผลิตภัณฑ์ของแอปเปิลในหลายแง่มุม เช่น iMessage ที่มีการแบ่งแยกผู้ใช้ผ่านกล่องข้อความสีน้ำเงิน และวิจารณ์ว่า Apple Vision Pro ที่มีราคาสูงนั้นไม่ได้มอบประสบการณ์ที่คุ้มค่าเทียบเท่ากับ Quest ของ Meta  

ความขัดแย้งระหว่าง Meta และแอปเปิลไม่ใช่เรื่องใหม่ ก่อนหน้านี้ Facebook เคยได้รับผลกระทบอย่างหนักจากนโยบายใน iOS 14 ที่จำกัดการติดตามโฆษณา จนถึงขั้นซื้อโฆษณาประชดในหนังสือพิมพ์ และเมื่อปีที่ผ่านมา Meta ก็ได้ประกาศขึ้นราคาการบูสต์โพสต์บน iOS หลังจากที่แอปเปิลเริ่มคิดค่าธรรมเนียม 30% ในส่วนนี้

พนง.'Nokia' ผวา 'iPhone' เปิดตัวมือถือจอสัมผัส เตือนผู้บริหารรับมือยุคตกต่ำหากไม่รีบปรับตัว

(27 ม.ค. 68) เว็บไซต์ Fahad X ได้เผยแพร่ไฟล์เอกสารพาวเวอร์พอยต์ เมื่อปี 2007 ที่เป็นความลับของบริษัท Nokia โดยข้อมูลดังกล่าวถูกเปิดเผยจากเอกสารภายในของ Nokia ซึ่งจัดเก็บอยู่ในโครงการ Nokia Design Archive ภายใต้การดูแลของมหาวิทยาลัย Aalto ประเทศฟินแลนด์

ข้อมูลในไฟล์ดังกล่าวเป็นการหารือภายในของพนักงาน Nokia ที่มองการเปิดตัว iPhone 2G ที่เปิดตัวเมื่อปี 2007 โดยไฟล์ดังกล่าวเป็นการนำเสนอของพนักงาน Nokia เมื่อวันที่ 10 ตุลาคม ปี 2007 ในรูปแบบของสไลด์ โดยพนักงาน Nokia ทั้งหมด 9 คน นำเสนอผู้บริหารระดับสูงว่า “iPhone” คือภัยคุกคามของ Nokia

สไลด์ดังกล่าวมีทั้งหมด 22 หน้า โดยเนื้อหาในสไลด์ชี้ว่า “iPhone” ของ Apple ซึ่งเปิดตัวในปีเดียวกันนั้น เป็นภัยคุกคามที่อาจส่งผลกระทบต่อ Nokia  

หัวข้อสไลด์เริ่มต้นด้วยข้อความว่า “Apple เพิ่งเปิดตัว iPhone” โดยยืนยันว่า Apple สามารถใช้ชื่อ "iPhone" ได้หลังการเจรจากับ Cisco ซึ่งก่อนหน้านี้มีข้อพิพาทเรื่องสิทธิในชื่อดังกล่าว  

ในขณะนั้น Nokia ครองส่วนแบ่งตลาดมือถือโลกกว่า 50% และมีความมั่นใจในว่ายังคงสามารถรั้งตำแหน่งผู้นำตลาดได้ จนกระทั่ง 'สตีฟ จ็อบส์' ผู้ร่วมก่อตั้ง Apple ได้ประกาศเป้าหมายไว้ในงานเปิดตัว iPhone ว่า Apple ขอเพียง 1% ของตลาดมือถือ หรือยอดขาย 10 ล้านเครื่องในปี 2008 เท่านั้น แม้ผู้บริหาร Nokia จะยังไม่เห็นถึงความร้ายแรงของ iPhone ในทันที แต่ทีมงาน Nokia กลับมองเห็นจุดเด่นหลายประการที่อาจกลายเป็นปัญหาใหญ่  

จุดเด่นของ iPhone ที่พนักงาน Nokia ในเวลานั้น นำเสอนต่อผู้บริหารมีหลายประเด็น อาทิ UI แบบจอสัมผัส ที่ไม่มีคีย์บอร์ดหรือปุ่มกดตัวเลข ซึ่งเป็นจุดเด่นใหม่ที่แตกต่างจากผลิตภัณฑ์ของ Nokia  

การเจาะตลาดไฮเอนด์ ที่ได้รับความสนใจจากสื่อมวลชน ทำให้ iPhone กลายเป็นสินค้า "ที่ต้องมี" และอาจส่งผลกระทบโดยตรงต่อผลิตภัณฑ์ตระกูล N-Series ของ Nokia และภาพลักษณ์ที่น่าดึงดูด ซึ่งช่วยให้ iPhone สร้างความนิยมในกลุ่มผู้ใช้งานอย่างรวดเร็ว  

เอกสารนี้ยังพูดถึงฟีเจอร์เด่นของ iPhone เช่น การใช้งานเบราว์เซอร์ที่ง่ายขึ้น, ฟังก์ชันการสไลด์เพื่อปลดล็อกหน้าจอ, แอปพลิเคชันรูปภาพที่ออกแบบมาให้ใช้งานสะดวก และความสามารถในการเชื่อมต่อกับ iPod เพื่อฟังเพลงทุกที่ทุกเวลา  

แม้ Nokia จะมีมุมมองที่รอบคอบต่อความเปลี่ยนแปลงของตลาด แต่ท้ายที่สุด iPhone กลับกลายเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญในอุตสาหกรรมสมาร์ตโฟน ซึ่ง Nokia เองไม่สามารถปรับตัวได้ทัน  

เอกสารนี้จึงสะท้อนให้เห็นถึงบทเรียนสำคัญในประวัติศาสตร์เทคโนโลยี และเป็นตัวอย่างที่ชัดเจนของการมองเห็นโอกาสและความท้าทาย แต่ยังขาดการลงมือปรับตัวอย่างทันท่วงที


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top