Tuesday, 22 April 2025
ไชยามพวาน_มั่นเพียรจิตต์

'ก้าวไกล' มีมติฟัน 'วุฒิพงศ์-สส.ปราจีนบุรี' พ้นพรรค  ส่วน 'ไชยามพวาน' รอด!! เพราะเสียงมติไล่ไม่ถึง 3 ใน 4

'ก้าวไกล' ประชุมเครียดกว่า 6 ชม. มีมติ ฟัน 'สส.ปราจีนบุรี' พ้นพรรค ส่วน 'สส.ปูอัด' ยังรอด ตัดสิทธิ พร้อมให้รับผิด ขอโทษ และเยียวยาผู้เสียหาย เผยทั้ง 2 กรณี คุกคามทางเพศจริง

เมื่อวานนี้ (1 พ.ย.66) ที่รัฐสภา สส.พรรคก้าวไกล ยังคงประชุมเครียดตั้งแต่ช่วงเวลาประมาณ 17.00 น. ที่ผ่านมาโดยเป็นการประชุมของคณะกรรมการบริหารพรรคและ สส.ของพรรค เพื่อหาข้อยุติกรณีเรื่องร้องเรียนกล่าวหา สส.มีพฤติกรรมคุกคามทางเพศ ได้แก่ นายวุฒิพงศ์ ทองเหลา สส.ปราจีนบุรี และนายไชยามพวาน มั่นเพียรจิตต์ สส.กทม. พรรคก้าวไกล

ทันทีที่เริ่มการประชุมเจ้าหน้าที่พรรคก้าวไกลได้มีการนำโต๊ะมากั้นให้ผู้สื่อข่าวออกจากบริเวณใกล้ห้องประชุม เพราะกลัวเสียงจากด้านในจะดังออกมาข้างนอก และมีการขอเก็บโทรศัพท์มือถือรวมถึงอุปกรณ์สื่อสารอื่นๆ วางไว้นอกห้องด้วย ทำให้เมื่อเวลายิ่งดึกก็มีเสียงโทรศัพท์ดังขึ้นมาเรื่อยๆ 

ซึ่งพรรคก้าวไกลยืนยันว่าภายในวันนี้จะมีคำตอบว่าจะมีบทลงโทษ ต่อ สส. ทั้ง 2 คนที่ถูกกล่าวหา จึงทำให้ต้องใช้เวลาการพิจารณานานกว่า 6 ชั่วโมง 

ต่อมาใน เวลา 23.10 น. ภายหลังการประชุมเสร็จสิ้น นายชัยธวัช ตุลาธน สส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าวถึงมติการประชุมร่วมของคณะกรรมการบริหารพรรคและสส.ของพรรคก้าวไกล ว่า คณะกรรมการบริหารพรรคเห็นว่าทั้ง 2 กรณีมีความผิดจริง และมีมติให้ขับออกจากพรรคก้าวไกล ซึ่งตามรัฐธรรมนูญ การที่จะขับสมาชิกพรรคให้พ้นจากพรรคจะต้องอาศัยเสียง 3 ใน 4 ของ สส.และกรรมการบริหารพรรคก้าวไกล ซึ่ง ในวันนี้มีกรรมการบริหารและสส. มาประชุมร่วมกันทั้งหมด 128 คน ซึ่งผลจากการพิจารณาในที่ประชุมร่วมกับสส.เห็นตรงกันว่าทั้ง 2 กรณีมีพฤติกรรมคุกคามทางเพศจริง และขัดต่อวินัยของพรรคอย่างร้ายแรง โดยโทษสูงสุดสำหรับกรณีนี้คือขับให้พ้นจากสมาชิกพรรคและโทษรองลงมาคือ ตัดสิทธิ์ทั้งหมด รวมถึงคาดโทษตามแต่กรณี 

โดยผลการลงมติของที่ประชุมร่วมระหว่างกรรมการบริหารพรรคและสส. ของพรรค ให้ 'นายวุฒิพงศ์ทองเหลา สส. ปราจีนบุรี' ออกจากพรรคก้าวไกล ด้วยมติ 120 เสียง ส่วน 'นายไชยามพวาน มั่นเพียรจิตต์ สส.เขตจอมทอง' นั้น ทางเสียงส่วนใหญ่ เห็นควรให้ขับ ด้วยมติพรรค 106 เสียง แต่เนื่องจากว่าเสียงไม่ถึง 3 ใน 4 คือ 116 เสียง ของจำนวนคณะกรรมการบริหารพรรคและสส.ที่มีอยู่ ก็เท่ากับว่าไม่สามารถมีมติที่จะขับ นายไชยามพวานออกจากพรรคได้ แต่ที่ประชุมเห็นว่าควรจะตัดสิทธิ์พึงมีทั้งหมด และให้คาดโทษไปตลอดสมัยประชุม หากมีพฤติกรรมใดๆ ที่เข้าข่ายคุกคามทางเพศอีก จะต้องให้พ้นจากสมาชิกพรรค นอกจากนี้ที่ประชุมเห็นว่า นายไชยามพวานจะต้องออกมายอมรับผิดและขอโทษต่อสังคมและขอโทษต่อผู้เสียหายทั้งหมด รวมถึงจะต้องชดเชยเยียวยาตามที่ผู้เสียหายต้องการ

หากนายไชยามพวานยืนยันว่าตนเองไม่ได้กระทำผิด ไม่ยินดีที่จะขอโทษต่อผู้เสียหาย และไม่ยินดีที่จะชดใช้ความผิดของตนเอง ก็จะมีการประชุมคณะกรรมการบริหารพรรค และ สส.พรรคก้าวไกลร่วมกันอีกครั้งเพื่อมีมติต่อไป 

ส่วนที่อาจจะมีข้อสงสัยว่าอีกคนนึงขับออกจากพรรคแต่อีกคนนึงไม่ขับออกจากพรรคนั้น นายชัยธวัช กล่าวว่า เราประชุมกันนานมากคณะกรรมการวินัยคณะกรรมการบริหารพรรคและสส. ของพรรค เห็นตรงกันว่า สส.ทั้ง 2 คน มีพฤติกรรมคุกคามทางเพศจริง และผิดวินัยร้ายแรง แต่เมื่อกระทำความผิด ก็มีบทลงโทษหลายระดับ ซึ่งในกรณีนี้จะเห็นว่า นายไชยามพวานแม้จะเป็นสมาชิกพรรคอยู่ แต่เจ้าตัวจำเป็นจะต้องออกมายอมรับผิดและขอโทษรวมถึงเยียวยาผู้เสียหาย และมีข้อถกเถียงกันมากในที่ประชุม ซึ่งต่างจากกรณีนายวุฒิพงษ์ ที่เห็นตรงกันเกือบทั้งหมดว่ามีการใช้อำนาจในตำแหน่งหน้าที่บทบาทตั้งแต่เป็นว่าที่ผู้สมัคร สส.มาจนถึงการเป็นสส. และเป็นการใช้อำนาจโดยไม่ชอบในการคุกคามทางเพศ และพยายามที่จะใช้อำนาจของตนเองในการปกปิดความผิด จึงทำให้ สส.จำนวนหนึ่งเห็นว่ามาตรการในการลงโทษรุนแรงแตกต่างกัน ซึ่งในกรณีการขับออกจากพรรคของนายวุฒิพงษ์นั้น ไม่ใช่เป็นการตัดหางปล่อยวัด แต่ทำตามบทลงโทษของพรรคเท่าที่ทำได้ 

หลังจากนี้พรรคจะมีการตั้งคณะกรรมการชุดพิเศษขึ้นมาที่มี นางสาวเบญจาแสงจันทร์ รองหัวหน้าพรรคเป็นหัวหน้าคณะทำงาน ที่จะปรับปรุงกระบวนการทั้งหมด เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาเรื่องนี้ขึ้นอีก รวมถึงมีมาตรการและกระบวนการที่มีประสิทธิภาพกว่านี้ เมื่อมีปัญหาเกิดขึ้นในพรรค ซึ่งรวมถึงการอบรมด้วย 

ทั้งนี้ยืนยันว่าพรรคย้ำคุณค่าและให้ความสำคัญกับการไม่อดทนต่อการคุกคามทางเพศแต่ต้องยอมรับว่า ในหลักการคนจะรับรู้แต่ในทางปฏิบัติความเข้าใจในแต่ละคนไม่เท่ากัน ว่าอะไรคือการคุกคามทางเพศอะไรไม่ใช่คุกคามทางเพศ สำหรับเรื่องนี้เป็นบทเรียนของพรรค ถ้าหากใช้บทบาทหน้าที่และอำนาจของตนเอง ไปมีพฤติการณ์ในการคุกคามทางเพศ แม้ว่าหลายคนอาจจะมองว่าไม่ได้เกิดการบังคับขืนใจ ไม่เกิดการปฏิเสธและดูเหมือนจะเป็นการยินยอมพร้อมใจกันทั้งสองฝ่ายแต่กรณีนี้จะชี้ให้เห็นว่าการยินยอมพร้อมใจกันทั้งสองฝ่ายไม่ได้เป็นการยินยอมพร้อมใจอย่างแท้จริง แต่เกิดขึ้นภายใต้อำนาจที่ไม่เท่าเทียมกัน

หัวหน้าพรรคก้าวไกล พร้อมรับ และให้ความร่วมมือ หากมีการยื่นร้องคณะกรรมการจริยธรรมของสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งก่อนหน้านี้คณะกรรมการบริหารพรรคและกรรมการวินัยก็มีมติตรงกันว่าทั้งสองกรณีมีความผิดวินัยอย่างร้ายแรงตามข้อกล่าวหา 

และหากนายไชยามพวาน ไม่ยอมรับผิดและยืนยันว่าตนเองไม่ได้กระทำผิด ไม่ขอโทษและไม่พร้อมที่จะเยียวยาผู้เสียหาย พรรคพร้อมที่จะนัดประชุมใหม่อีกครั้ง ก่อนจะชี้ว่าเรื่องนี้เป็นตัวอย่างให้เห็นว่าแม้จะรู้แล้วการ แต่ก็ไม่ควรจะคุกคามหรือละเมิดทางเพศใคร แต่มีข้อเท็จจริงที่ผู้กล่าวหารู้สึกว่าสิ่งที่เกิดขึ้น เลยความยินยอมพร้อมใจ 

หลังจากนี้คณะกรรมการวินัยของพรรคจะแจ้งบทลงโทษให้กับ ผู้ถูกร้องและผู้เสียหายได้รับทราบครับ มติของกรรมการบริหารพรรคกลับมติของที่ประชุม โดยทางพรรคไม่ได้มีการเจรจาหรือเรียกร้องให้ 2 สส. ที่กระทำผิดวินัยอย่างร้ายแรงลาออกเพื่อแสดงความรับผิดชอบ เพราะขึ้นอยู่กับวิจารณญาณของผู้ถูกร้อง 

"บางครั้งการแสดงความรับผิดชอบทางการเมือง เป็นเรื่องที่พึงทำ ซึ่งคนทำผิดหากแสดงความรับผิดชอบทางการเมืองสังคมก็พร้อมที่จะให้โอกาส และการรับผิดชอบทางการเมืองไม่จำเป็นต้องรอให้ข้อเท็จจริงยุติ อย่าคิดว่าความรับผิดชอบทางการเมืองเป็นการยอมรับผิด และต้องรอให้กระบวนการยุติธรรมอย่างเป็นทางการ ให้สิ้นสุดก่อนเท่านั้น สนับสนุนหากผู้ที่ถูกกล่าวหา จะแสดงความรับผิดชอบทางการเมือง เป็นนิมิตหมายที่ดี และเป็นมาตรฐานทางการเมืองที่ดี" นายชัยธวัชกล่าว

หัวหน้าพรรคก้าวไกล ชี้แจงข้อวิพากษ์วิจารณ์เรื่องการใช้ระยะเวลาเนินนานในกระบวนการตรวจสอบและได้ข้อสรุป โดยระบุว่าบางกรณีอาจล่าช้าแต่เป็นความจำเป็น ที่กระบวนการสอบซับซ้อนและต้องฟังความอย่างรอบด้าน และต้องมีพยานและข้อเท็จจริงจากทุกฝ่าย ยกตัวอย่างกรณี สส. ปราจีนบุรี ว่าสัปดาห์ที่ผ่านมาได้ข้อมูลเพิ่มเติม เมื่อมีข้อเท็จจริงที่ยังไม่ได้ข้อยุติ พร้อมกับข้อมูลข้อเท็จจริงจากผู้เสียหายซึ่งถือเป็นประโยชน์ต่อกรรมการที่จะพิจารณา โดยเฉพาะมีผลต่อที่ประชุมที่จะลงมติในวันนี้ ดังนั้นจะรวบรัดกระบวนการมากเกินไปไม่ได้ต้องให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ก่อนจะยืนยันว่าพรรคก้าวไกลจะมีการปรับปรุงกระบวนการทั้งของคณะกรรมการวินัยและมาตรการต่างๆ ให้มีประสิทธิภาพและมีคุณภาพมากขึ้น 

ทั้งนี้ มีรายงานว่าบุคคลที่ใกล้ชิดกับผู้เสียหายได้มาร่วมสังเกตการอยู่บริเวณหน้าห้องประชุมด้วย ซึ่งถ้าหากมติของพรรคไม่เป็นไปตามที่น่าพอใจ คาดว่าจะมีการเดินเรื่องต่อ 

'สส.หญิงก้าวไกล' เดือด!! ขึ้นรูปโปรไฟล์ดำประท้วง หลังมติไม่ขับ 'ปูอัด' พ้นพรรค โพสต์สับ "หน้าด้าน"

(2 พ.ย.66) ภายหลังจากการประชุมพรรคก้าวไกล (ก.ก.) ซึ่งนายชัยธวัช ตุลาธน หัวหน้าพรรคก้าวไกล ออกมาแถลงมติพรรคก้าวไกล ให้ขับนายวุฒิพงศ์ ทองเหลา สส.ปราจีนบุรี ออกจากพรรค ขณะที่นายไชยามพวาน มั่นเพียรจิตต์ สส.กทม. เสียงส่วนใหญ่ 106 เสียง จาก 128 เสียงที่มาประชุม เห็นควรให้ขับออกจากพรรค แต่เสียงไม่ถึง 3 ใน 4 ของ สส.และกรรมการบริหารพรรคที่มีอยู่ 116 เสียง จึงยังไม่สามารถมีมติให้ขับพ้นออกจากสมาชิกพรรคได้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บัญชีโซเชียลมีเดียของกลุ่ม สส.หญิง พรรคก้าวไกล ได้เปลี่ยนภาพดิสเพลเป็นสีดำ อาทิ นางสาวศศินันท์ ธรรมนิธินันท์ หรือ ทนายแจม สส.กรุงเทพฯ, นางสาวภัสรินทร์ รามวงศ์ สส.กรุงเทพฯ รวมถึง นางสาวภัสราภรณ์ เก่งรุ่งเรืองชัย หรือ ‘สก.เนอส’ สก.กรุงเทพฯ ด้วย

นางสาวภัสราภรณ์ ยังโควททวีตกรณีดังกล่าว โดยมีข้อความว่า “หน้าด้าน ไม่มีความละอายแก่ใจ เป็นคนให้ได้ก่อนค่อยเป็นผู้แทนประชาชน” และแท็ก @chaiyamparwaan บัญชีทวิตเตอร์ของนายไชยามพวาน

นอกจากนี้ยังได้รีทวิตเตอร์ของผู้ใช้รายหนึ่ง ซึ่งมีข้อความว่า “ผิดหวังกรณีปูอัดมาก ดูจากคลิปออกมาไม่มีสำนึกเลย ปฏิเสธไม่ได้ทำตลอดทั้ง ๆ ที่พรรคสอบสวนแล้ว สงสารเหยื่อเหมือนถูกกระทำซ้ำอีกรอบ”

ขณะที่บัญชีเฟซบุ๊กของนายไชยามพวาน มีประชาชนจำนวนไม่น้อย เข้าไปคอมเมนต์ในโพสต์ล่าสุด โดยเรียกร้องให้รับผิดชอบต่อกรณีดังกล่าว


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top