‘ยูเครน’ หาญกล้า เตรียมบุกยึด ‘ไครเมีย’ จากรัสเซีย ด้านหมีขาวไม่หวั่น แอบซุ่มสร้างปราการแน่นหนา
เมื่อเร็วๆ นี้ มีการเปิดเผยภาพถ่ายดาวเทียมบริเวณคาบสมุทรไครเมีย ซึ่งปัจจุบันถูกผนวกดินแดนเป็นส่วนหนึ่งของรัสเซีย พบว่ามีการขุดร่อง และก่อสร้างป้อมปราการในบริเวณยุทธศาสตร์ของเมือง เชื่อว่าเร่งสร้างเพื่อป้องกันเมืองจากการโจมตีทางทหารของกองทัพยูเครน
โดยผู้เชี่ยวชาญมองว่า ป้อมปราการที่สร้างไว้ จะทำให้ฝ่ายยูเครนตีเมืองไครเมียยากขึ้นกว่าเดิมมาก และหากต้องมีการสู้รบกันจริงๆ ก็จะนองเลือดอย่างแน่นอน เช่นเดียวกับสมรภูมิเมืองบัคมุต
รัสเซียได้ผนวกดินแดนในคาบสมุทรไครเมียจากผลประชามติเมื่อปี 2014 ก่อนที่จะใช้ปฏิบัติการทางทหารอย่างเต็มรูปแบบในยูเครนในปี 2022 ซึ่งจนถึงปัจจุบันสถานการณ์ยังไม่คลี่คลาย
แต่เมื่อช่วงปลายปี 2022 ทั้งโวโลดิมีร์ เซเลนสกี้ ผู้นำยูเครน และ วาลารี ซาลาซนี ผู้บังคับบัญชาเหล่าทัพ ได้ออกมาประกาศผ่านสื่อว่า ไครเมียเปรียบเสมือนเขี้ยวเล็บหลักของกองทัพรัสเซียทางตอนใต้ เป็นที่ส่งอาวุธ และ เสบียงต่อไปยังกองทัพรัสเซียที่กระจายพื้นที่อยู่ในยูเครน ดังนั้น ยูเครนจำเป็นต้องบุกยึดคาบสมุทรไครเมียคืนมาให้ได้ และมั่นใจว่าจะสามารถเริ่มแผนปฏิบัติการทวงคืนไครเมียได้ในปี 2023
และเมื่อสำนักข่าว Aljazeera ได้วิเคราะห์ภาพถ่ายดาวเทียมเหนือคาบสมุทรยูเครน ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ - มีนาคม ของปีนี้ ก็พบว่ามีการปรับผังเมืองในไครเมีย วางแนว กั้นเขต สร้างป้อมปราการรอบชายแดนยูเครน คาดว่าใช้เพื่อตั้งรับการบุกของกองทัพยูเครนอย่างเต็มที่
และล่าสุด จากภาพถ่ายดาวเทียมเมื่อวันที่ 1 เมษายน ก็พบว่ามีการเพิ่มแนวกั้นทางทะเลตลอดชายฝั่งด้านทะเลดำ ซึ่งเป็นที่ตั้งของอู่ต่อเรือของกองทัพรัสเซีย และท่าเรือเซวาสโตโพ ที่มีความสำคัญทั้งในแง่ยุทธศาสตร์ และ เศรษฐกิจ
อีกทั้ง ยังพบว่ามีการรับสมัครแรงงานในการก่อสร้างป้อมปราการต่างในไครเมียอย่างเร่งด่วนในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา แต่ด้วยปัญหาการขาดแคลนแรงงาน ก็เลยทำให้แนวก่อสร้างที่เห็นในภาพถ่ายยังไม่มีจุดใดเลยที่แล้วเสร็จสมบูรณ์ 100%
เซ็ด เฟนทราช นักวิเคราะห์ด้านกลยุทธ์และความมั่นคง ได้แสดงความเห็นว่า กองทัพรัสเซียพยายามหาข้อได้เปรียบจากภูมิประเทศ และ ชุมชนที่มีอยู่แล้ว เพื่อสร้างแนวป้องกันตลอดถนนสายหลักที่มุ่งหน้าสู่ศูนย์กลางของไครเมีย และเมื่อใดก็ตามที่รัสเซียขอเป็นฝ่ายตั้งรับ จะเหนียวแน่นมาก ยากที่จะหักยึดได้โดยง่าย ดั่งเช่นที่กองทัพยูเครนเคยลิ้มรสมาแล้วในพื้นที่ บัคมุท โดเนสก์ และ ลูฮันส์ค
หากแนวกั้น และป้อมปราการในจุดสำคัญสามารถสร้างได้อย่างแล้วเสร็จ การบุกของกองทัพยูเครนยิ่งจะทำได้ยากขึ้น และจะต้องเป็นการสู้รบที่เดือดพล่าน ที่มีการสูญเสียมหาศาลอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
