Wednesday, 22 May 2024
โหนกระแส

ญาติเคราะห์ร้ายร่ำไห้กลาง ‘โหนกระแส’ หลังตำรวจจับใส่กุญแจมือ แต่ไม่นำส่งโรงพยาบาลจนดับ

"ตำรวจ" งานเข้าอีกแล้ว หลังจากจับหนุ่มที่เกิดอุบัติเหตุรถมอเตอร์ไซค์ชนกัน ใส่กุญแจมือไปโรงพักทั้งที่ไม่ผิด โดยที่ไม่พาไปโรงพยาบาลก่อน จนกระทั่งเสียชีวิต ทำเอาครอบครัวต้องเรียกร้องความยุติธรรม พร้อมร่ำไห้กลางรายการ

"ตำรวจ" สภ.บางละมุง ตกเป็นกระแสบนโซเชียล หลังจากชายคนหนึ่งขับรถมอเตอร์ไซค์ทางตรงปกติ แต่จู่ ๆ ก็ถูกคู่กรณีซึ่งเป็นรถมอเตอร์ไซค์กลับรถตัดหน้าระยะกระชั้นชิด จนทำให้ชนเข้าอย่างจัง จนผู้เสียหายสลบกับพื้น แต่ตำรวจกลับใส่กุญแจมือผู้เสียหายขึ้นรถกระบะไปโรงพัก สุดท้ายผู้เสียหายเสียชีวิต

ล่าสุด หนุ่ม กรรชัย ได้เชิญญาติผู้เสียชีวิตมาร่วมรายการ โหนกระแส โดยทางญาติได้เล่าเหตุการณ์ให้ฟังว่า ผู้เสียชีวิตได้ออกไปซื้อกับข้าวมาให้ครอบครัว หลังจากนั้นก็ถูกคู่กรณีขับรถชน โดยคู่กรณีได้วิ่งเข้ามาดูอาการผู้ที่ถูกชน แต่กู้ภัยกลับนำคู่กรณีไปโรงพยาบาลคนเดียว ในขณะที่ผู้เสียชีวิตเดินเซ คุมร่างกายไม่ค่อยอยู่ กลับถูกคุมตัวไปโรงพัก เพราะ "ตำรวจ" คิดว่าเมา ถูกส่งไปตรวจสารเสพติด ที่สภ.บางละมุง

'หนุ่ม' โดนขู่ หลังเปิดปมทหารหญิงรับใช้ ถูกสาวอ้างเป็นเมีย ส.ว.ดังทำร้าย

(18 ส.ค. 65) จากกรณี นายกัณฐัศว์ พงศ์ไพบูลย์เวชย์ หรือ กัน จอมพลัง ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ระบุข้อความว่า...เวลา 15.00 น. ผมจะพา ทหารหญิงรับใช้ ถูกเมีย ส.ว.ดัง ซึ่งเป็นเจ้านายทำร้ายทารุณ เข้าแจ้งความพร้อมกับสอบปากคำที่ สภ.เมืองราชบุรี 

ล่าสุด กัน จอมพลัง พาทหารหญิงคนดังกล่าว มาพูดคุยกันในรายการโหนกระแส เล่าเหตุการณ์ถูกทำร้ายทรมาน โดยเธอเล่าว่า รู้จักกับผู้หญิงรายนี้มาก่อน เพราะตัวเองไปเป็นลูกจ้างร้านกาแฟของเขา เขาอ้างว่าตัวเองเป็นตำรวจยศ ส.ต.อ. เป็นภรรยาของ ส.ว. อ้างว่าสามารถฝากให้ตนเข้ารับราชการทหารได้ แต่ต้องสัญญาว่าจะอยู่ดูแลรับใช้เขาไปตลอด ซึ่งเขาก็ฝากให้เข้ารับราชการทหารได้จริง ๆ โดยอ้างว่าจ่ายเงินไปเป็นจำนวนมากในการฝากเข้า

หลังตนฝึกเป็นทหารแล้ว ปัจจุบันยศสิบโท เขาก็ทำเรื่องย้ายตนมารับใช้ที่บ้าน อยู่ปีแรก ๆ ก็ดีไม่มีปัญหาอะไร แต่อยู่ไปสักพัก เขาเริ่มใช้ความรุนแรง ผู้หญิงรายนี้ยึดเอาเงินเดือนทหารไปทั้งหมด บางเดือนไม่พอก็ต้องขอเงินครอบครัวมาให้  เวลาตนทำอะไรผิด พูดจาไม่มีหางเสียง เขาจะลงโทษสารพัด ตบตี ปรับเงิน 

ที่เคยโดนทำร้ายหนัก ๆ เคยถูกเอาเครื่องหนีบผมไฟฟ้าร้อน ๆ มาหนีบจนมือไหม้ แผลเหวอะ เคยถูกเอาเครื่องช็อตไฟฟ้า มาช็อตตามร่างกาย ตามในร่มผ้า ช็อตศีรษะ ช็อตปาก เขาอ้างว่าตนชอบโกหก ชอบแถ เขายังเคยเอาสเปรย์แอลกอฮอล์มาฉีดผมตน แล้วเอาไฟจุด

ตนทนอยู่แบบนี้มาเกือบ 2 ปี ช่วงหลัง ๆ โดนแทบทุกวัน เจ็บปวดทนไม่ไหวจนคิดจะจบชีวิตตัวเอง ไม่อยากให้คนที่บ้านต้องเดือดร้อน แต่คนที่บ้านเห็นความผิดสังเกต เพราะตนทักไปบอกรักเหมือนร่ำลา แม่จึงมาหาที่บ้านโดยไม่บอกก่อน จึงเห็นสภาพของตนถูกทรมานสารพัด แล้วให้ตำรวจช่วยตนออกมาจากบ้าน

'แม็ค อนุสาวรีย์' ติดต่อรายการโหนกระแสขอมอบตัว หลังปล้นบ่อนย่านดินแดง ผวา!! กลัวถูกฆ่า

(25 ส.ค. 65) เพจ โหนกระแส ได้รายงานความคืบหน้าจากกรณีเหตุอุกอาจในบ่อนย่านดินแดง หลังชายชื่อ แม็ค อนุสาวรีย์ ก่อเหตุใช้อาวุธปืนจี้ชิงทรัพย์ในบ่อน ได้เงินไปเกือบ 3 แสนบาท จนกลายเป็นประเด็นใหญ่โตเมื่อมีการปล่อยคลิปวงจรปิดออกมาตามล่าแม็ค ทั้งที่ไม่มีใครไปแจ้งความ จนเจ้าตัวร้อนรนกลัวถูกตามเก็บ ติดต่อมาขอออกรายการโหนกระแส อยากจะเข้าไปมอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ

แม็ค อนุสาวรีย์ เล่าว่า บ่อนแห่งนี้อยู่ย่านดินแดง ประชาสงเคราะห์ 8 ซึ่งเมื่อทีมงานรายการเปิดดูในแผนที่ ก็พบว่าห่างจาก สน.ดินแดงแค่ 650 เมตร เปิดเป็นบ่อนกำถั่ว ซึ่งตนไปเล่นมาตลอด 2-3 ปี แต่ช่วงที่ผ่านมาบ่อนปิดไปนาน เพิ่งกลับมาเปิด

วันเกิดเหตุ ตนมีปัญหากับการ์ดของบ่อน เรื่องกุญแจรถที่ตนเคยเอาไปจำนอง กุญแจนี้เคยตกแตกมาแล้ว ต้องเอายางรัดไว้ ตนเคยบอกหลายครั้งแล้วว่ากลัวพัง ให้เอาไปเก็บไว้ดีๆ แต่เขาเอามาห้อยเอวไว้ตลอด วันเกิดเหตุตนบอกว่าพรุ่งนี้ตนจะมาไถ่คืน ทำไมไม่เอาไปเก็บไว้ดีๆ เขาก็ทำหน้าไม่พอใจ ตนจึงจะตบการ์ด แต่เขาหลบทัน เขาจึงจะเอาพวกมาช่วย ตนเห็นท่าไม่ดีเลยชักปืนบีบีกันออกมาขู่ ทำให้การ์ดถอยไป จังหวะนั้นสบโอกาส จึงไปกวาดเอาเงินในบ่อนไป รวม 270,000 บาท มีคนพยายามจะเข้ามาชาร์จตัวตน ตนก็ชักปืนขู่ เสียงเหมือนปืนจริง คนกลัวแตกฮือไปอีกรอบ ตนก็หลบหนีออกมาจากบ่อนทันที

หลังจากได้เงินตนก็ขี่รถมอเตอร์ไซค์หนีไป โดยไม่มีใครติดตาม ยืนยันว่าตนไม่รู้จักว่าใครเป็นเจ้าของบ่อน ตนไปเล่นอย่างเดียว สาเหตุที่ต้องมาขอความช่วยเหลือในรายการวันนี้เพราะตนกลัวตาย ที่ทำให้คนเดือดร้อนกันไปหมด ผมอยากขอความเมตตาจากกระทรวงยุติธรรม อันไหนตนผิดขอให้ว่าไปตามผิด รู้ว่าตัวเองทำให้คนเดือดร้อนกันมาก ยืนยันว่าไม่ได้มีเจตนามาก่อน

‘เฟรนช์ บูลด็อก’ ฟรีเวอร์!! จากเรื่องราวดรามาสู่ความน่ารัก ปรากฏการณ์ดังข้ามคืน หลังไปออกรายการโหนกระแส

(27 พ.ค. 66) จากกระแสดรามากลายเป็นความน่ารัก กรณีที่รายการโหนกระแส ได้นำน้องสุนัขสายพันธุ์ ‘เฟรนช์ บูลด็อก’ ไปออกรายการทำให้ในโลกโซเชียลตอนนี้ต่างฮือฮา พากันตกหลุมรักถึงความน่ารักของน้องสุนัขเฟรนช์ บูลด็อกกันเป็นจำนวนมากจนถึงขั้น คุณสรยุทธ สุทัศนะจินดา ผู้ประกาศข่าวช่อง 3 และ คุณหนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย ผู้ดำเนินรายการโหนกระแส ถึงกับเอ่ยปากขอซื้อกลับไปเลี้ยงที่บ้านคนล่ะ 1 ตัว และ คุณ หนุ่ม กรรชัย ยังได้ตั้งชื่อลูกสุนัขตัวสีดำของตนกลางรายการอีกว่าให้ชื่อ ‘อีเจี๊ยบ’ จนกลายเป็นกระแสเรียกเสียงหัวเราะในโลกออนไลน์

วันนี้ทาง THE STATES TIMES ของเราจะพาไปส่องความน่ารัก และ ต้นกำเนิดของน้องสุนัขเฟรนช์ บูลด็อก ว่ามีแหล่งกำเนิดมาจากประเทศอะไร ทำไมถึงมีราคาแพงกว่าสุนัขสายพันธุ์อื่น ๆ

โดย ต้นกำเนิดของน้องสุนัขเฟรนช์บูลด็อกมาจาก ประเทศฝรั่งเศส เป็นสุนัขสายพันธุ์เล็ก ได้ปรากฏขึ้นในปารีสในช่วงกลางคริสต์ศตวรรษที่สิบเก้า ซึ่งเป็นผลมาจากการผสมข้ามพันธุ์ของบูลด็อกพันธุ์เล็กที่นำเข้าจากประเทศอังกฤษ กับสุนัขที่ชอบจับหนูปารีสในท้องถิ่น ทั่วไปจะเก็บไว้เป็นสัตว์เลี้ยง และเป็นหนึ่งในสุนัขที่ขึ้นทะเบียนบ่อยที่สุดในหลายประเทศ เช่น ออสเตรเลีย, สหราชอาณาจักร, สหรัฐอเมริกา และประเทศไทย 

ซึ่งขนาดลำตัวที่โตสุดของสุนัขสายพันธุ์นี้ อยู่ที่ 11-12 นิ้ว และ มีน้ำหนัก 7-12 กิโลกรัม โดยมีอายุขัยทั่วไปอยู่ระหว่าง 10-12 ปี ขึ้นอยู่ที่การเลี้ยงดู และ สุขภาพของน้อง บางตัวอาจมีอายุได้ถึง 13-18 ปี 

นิสัยของน้องสุนัขสายพันธุ์นี้ เป็นสุนัขที่มีความอ่อนโยน ไม่ก้าวร้าว มีความเรียบร้อย และมีความเชื่อว่า เมื่อเลี้ยงสุนัขสายพันธุ์นี้ จะนำแต่ความโชคดีมาให้กับผู้เลี้ยงตลอดไป ซึ่งลักษณะนิสัยเหมือนกับสุนัขพันธุ์อื่นทั่วไป คือต้องการความดูแลเอาใจใส่ ใกล้ชิดกับเจ้าของ

สาเหตุที่ทำให้สุนัขสายพันธุ์นี้มีราคาแพง เนื่องจากเฟรนช์ บลูด็อก ไม่สามารถผสมพันธุ์กันเองตามธรรมชาติได้ จึงมีขั้นตอนในการเพาะพันธุ์ที่ค่อนข้างยาก มีการตรวจสุขภาพและการฉีดวัคซีนที่มีค่าใช้จ่ายสูง รวมถึงค่าอาหาร ค่ารักษา และค่าใช้จ่ายอื่นๆ ทาง THE STATES TIMES จึงขอแนะนำให้กับผู้ที่สนใจ ต้องการน้องสุนัขสายพันธุ์นี้ไปเลี้ยง ควรศึกษาให้ดีก่อนตัดสินใจซื้อ ว่ามีความพร้อมและเวลาแค่ไหนในการเลี้ยงดู เพราะสุนัขทุกสายพันธุ์ต้องการ ๆ เลี้ยงดูที่แตกต่างกัน และต้องการความเอาใจใส่จากผู้เลี้ยง 

'หนุ่ม กรรชัย' เจอชาวเน็ตแนะให้ ‘เปลี่ยนพิธีกร’ โหนกระแสบ้าง เจ้าตัวหยอกกลับทันที!! “นี่รายการผมครับ จะให้มาเปลี่ยนอะไร”

(16 ส.ค. 66) ขึ้นแท่นเป็นพิธีกรที่ได้รับความนิยมอย่างมาก สำหรับ ‘หนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย’ ที่ตั้งแต่ผันตัวมาเป็นพิธีกรแบบเต็มตัวก็ดูจะรุ่งแบบสุด ๆ จนโดนแซวว่าไม่มีใครจะกล้ามารายการที่เจ้าตัวจัดแล้ว คิวงานแน่นแทบทุกวัน และอีกหนึ่งรายการที่แฟน ๆ เฝ้ารอหน้าจอทุกวันก็คงจะหนีไม่พ้นรายการ โหนกระแส ที่มักจะนำประเด็นต่าง ๆ ที่ได้รับความสนใจจากประชาชน นำเคสต่าง ๆ มานั่งพูคคุยกันในรายการ ซึ่งแต่ละเทปนั้นก็มียอดผู้ชมแบบถล่มทลายมาเสมอ

ล่าสุด (14 ส.ค.) ระหว่างที่กำลังจัดรายการ โหนกระแส ทาง ‘กรรชัย’ ได้มีการอ่านคอมเมนต์จากแฟน ๆ ทางบ้านที่ส่งเข้ามาทางโซเชียล ที่งานนี้เจ้าตัวถึงกับตอบทันทีในรายการ

“มีคนหนึ่งส่งเข้ามาตอนนี้นะครับ คุณอ่า…ชื่ออะไรอ่านยากเหลือเกิน ชื่อแปลก ๆ นะ อยากให้เปลี่ยนพิธีกรบ้าง อยากให้คนอื่นได้ลองทำบ้าง...รายการผมครับ จะมาเปลี่ยนอะไรครับ อยู่ที่การตัดสินใจของผมนี่ครับ ตลกนะเราอะ หยอก ๆ ไม่ต้องเปลี่ยนครับ รายการผม (หัวเราะ) หยอก ๆ"

‘หนุ่ม กรรชัย’ ลั่น!! ให้พร้อมใจกันกินอาหารหมา หลังจบโหนกระแส ปมเจ้าบ่าวร่ำไห้ แต่งงานได้ 3 วัน ถูกบอกเลิก ล่าสุดคืนดีกันแล้ว 

(28 ส.ค. 66) จากกรณีเจ้าบ่าวสุดช้ำไปแจ้งตำรวจ หลังจากคบหาสาว 6 เดือนตั้งท้อง ก็รีบจัดหาสินสอดมาแต่งงาน แต่มีความสุขได้ 3 วัน สาวบอกเลิกอ้างหมดรัก แท้งลูก แถมทำเซอร์ไพรส์วันเกิดให้ที่บ้าน แต่สาวไม่มา แถมรูปโผล่ในโซเชียลไปฉลองกับคนอื่น

ล่าสุดวันนี้ รายการโหนกระแส ‘หนุ่ม กรรชัย’ เชิญเจ้าบ่าวสุดช้ำมาออกรายการ ชื่อตอนสุดเจ็บปวดเลยทีเดียวว่า “ปวดใจใครว่าดีมีแต่เปลืองน้ำตา…เจ้าบ่าวช็อก! แต่งงาน 3 วัน เจ้าสาวบอกเลิก”

โดยรายการยังเชิญฝ่ายหญิงมาออกรายการพร้อมกันด้วย ซึ่งฝ่ายชายร้องไห้ตั้งแต่ในรายการแล้ว และยืนยันไม่กลับไปคืนดีด้วย

แต่จากนั้น จบรายการ ‘หนุ่ม กรรชัย’ โพสต์คลิป เจ้าบ่าวช้ำหนัก โดยมีฝ่ายหญิงคอยกอดปลอบอยู่ข้างๆ พร้อมแคปชันสุดจี๊ดว่า

“ผัวร้องไห้เป็นลมส่วนเมียดูแล เขาดีกันแล้วครับ สำหรับแฟนๆ รายการโหนกระแสเมื่อสักครู่ พร้อมใจกันแดกอาหารหมานะครับ นำทีมแดกโดยครูใหญ่ #ไม่มีลิมิตชีวิตเกินร้อย” ท่ามกลางคอมเมนต์ถล่มทลายร้องลั่นกันเป็นแถว อิ่มอาหารหมา

'หนุ่ม กรรชัย' ลุยฟ้องอาจารย์ชื่อดัง อ้างถูกแซะ-แขวนประจาน ด้าน ‘อ.อ๊อด’ ออกโรงโต้ สงครามยังไม่จบอย่าเพิ่งนับศพทหาร

เมื่อวานนี้ 30 ส.ค. 66 หนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย พิธีกรชื่อดัง ได้โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก ‘หนุ่ม กรรชัย’ โดยระบุว่า…

สวัสดีครับ ผม กรรชัยเองครับ

ตั้งแต่ตุลาคมปีที่แล้วจนเกือบตุลาคมในปีนี้ เป็นเวลาเกือบหนึ่งปีเต็มที่ผมต้องทนให้บุคคลท่านหนึ่งซึ่งเป็นถึงอาจารย์ ด่าทอวิพากษ์วิจารณ์ แซะ แขวนประจานผมมาโดยตลอด และตลอดเวลาที่ผ่านมาผมไม่เคยพูด ไม่เคยตอบโต้อะไรเลย เพราะผมถือว่าเรื่องราวทั้งหมดเป็นเรื่องของวุฒิภาวะที่ควรจะมี สุดท้ายผมจึงต้องพึ่งกระบวนการทางกฎหมายในการพิสูจน์ว่าตัวผมไม่ได้เป็นอย่างที่เค้าพูด โดยการนำเรื่องฟ้องต่อศาลอาญากรุงเทพใต้ว่า ผมได้ถูกหมิ่นประมาทว่าเป็นมาเฟีย เป็นผู้ชักจูงสังคมไปในทางที่ผิด เป็นคนไม่ดีสร้างเรื่องในสังคมให้เละเทะ

และบอกว่าผมเป็นหนึ่งในกลุ่มตัวตึงในการตบทรัพย์ชาวบ้าน ซึ่งทั้งหมดไม่เป็นความจริงเลย และในช่วงเวลาที่ผ่านมาผมได้รับการติดต่อจากคนรอบข้างว่าอาจารย์ท่านนั้นอยากจะขอโทษผม และจะโทรหาผมเพื่อขอโทษด้วยตัวเอง แต่สุดท้ายก็ไม่โทรมา แถมไม่เกินสองวัน อาจารย์ท่านนั้นกลับลงด่าทอผมอีก และยังได้ส่งเรื่องไปร้องเรียนที่ช่องสามว่าผมเป็นคนไม่มีจรรยาบรรณ และ ได้มีการลงแซะ รวมถึงหมิ่นผมใน Facebook ของตนเองเกือบทุกวัน ซึ่งทำแบบนี้ซ้ำ ๆ อยู่ตลอดมา

....วันนี้ที่ผมมาโพสต์เรื่องนี้เพราะอยากจะแจ้งว่า ตามที่ผมได้พึ่งกระบวนการทางกฎหมายในการฟ้องต่อศาลเพื่อพิทักษ์สิทธิตัวเอง ซึ่งในวันนี้คดีที่ผมฟ้องมีมูลนะครับ และศาลท่านได้รับไว้ในชั้นพิจารณาเรียบร้อยครับ ซึ่งทางเค้าเองก็มีสิทธิ์ที่จะต่อสู้คดีต่อไปนะครับ และผมอยากฝากถึงเค้าด้วยว่า นับจากวินาทีนี้ไปอย่าได้แขวะ แซะ หรือแม้กระทั่งวิพากษ์วิจารณ์ผมโดยทางตรงหรือทางอ้อมอีกเด็ดขาด เพราะทั้งหมดจะมีผลทางคดีทันที รวมถึงผมและทีมกฎหมายอาจจะพิจารณาในการฟ้องเพิ่มครับ ขอบคุณครับ

ปล.อยากฝากอีกนิดครับ การวิพากษ์วิจารณ์โดยสุจริตใจในฐานะที่ผมเป็นคนสาธารณะ กับ การหมิ่นประมาท มันต่างกันนะครับ ควรใช้วุฒิภาวะ และ สามัญสำนึกทางด้านความคิด แยกแยะให้ถูกนะครับ

ต่อมาวันที่ 31 ส.ค. 66 อาจารย์อ๊อด หรือ รศ. ดร.วีรชัย พุทธวงศ์ อาจารย์ประจำภาควิชาเคมี คณะศิลปศาสตร์และวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ได้โพสต์เฟซบุ๊ก Weerachai Phutdhawong ระบุว่า..

สวัสดีครับผมอาจารย์อ๊อดนะครับ

ผมอยากให้ศาลประทับรับฟ้องเพื่อจะได้พิสูจน์กันในชั้นศาลและเวลานี้ก็มาถึงแล้ว เพื่อให้ทั้งสองฝ่ายเอาพยานหลักฐานมาพิสูจน์กันในชั้นพิจารณาคดี

ผมไม่เคยคิดจะฟ้องดาราหนุ่มคนนี้เลย ตั้งแต่ต้น ผมพยายามตั้งรับ ซึ่งเขาฟ้องมาสองคดี และแจ้งความอีกห้าคดี 

ผมจะพิสูจน์ให้ศาลรู้ว่าความจริงเป็นอย่างไรและเมื่อขั้นตอนของดาราหนุ่มคนนี้เสร็จสิ้น ก็จะเป็นตาของผม บ้าง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเบิกความเท็จ แกล้งให้คนอื่นได้รับโทษ ฟ้องเท็จก็ว่ากันไปนะครับ 

ใครอยากรู้ว่าต้นตอของเรื่องนี้เกิดจากอะไรให้ไปดูข่าวเที่ยงช่องสามวันที่ 19 มกราคม 2566 และต้นเรื่อง 25 ต.ค. 2565

สงครามยังไม่จบอย่าพึ่งนับศพทหาร 

รัก
อ.อ๊อด

‘แฟนข่าวโหนกระแส’ ชม ‘ทนายปลาย’ น่ารัก-น้ำเสียงดี-พูดน่าฟัง ฟาก ‘หนุ่ม กรรชัย’ ถึงขั้นเอ่ยปากอยากเชิญมาร่วมรายการตลอด

หลังกลายเป็นดราม่าขึ้นมา เมื่อ ‘แม่ปูนา แม่ค้าปูดอง-อ่องมันปู’ ติดป้ายทวงหนี้ ‘จั๊กกะบุ๋ม เชิญยิ้ม’ ตลกดัง หลังทำของให้ตลกดังไปขาย แต่กลับไม่เคยได้เงิน ติดตามทวงเท่าไหร่ก็ไม่เคยได้ จนต้องไปติดป้ายทวงเงินกลางห้างดัง

ก่อนหน้านี้ ทั้งแม่ปูนา และจั๊กกะบุ๋ม มาออกรายการโหนกระแส ดำเนินรายการโดย หนุ่ม กรรชัย ระหว่างออกรายการจั๊กกะบุ๋มเล่าที่มาที่ไปของหนี้ พร้อมระบุตอนนี้ต้องใช้หนี้รายวัน ถึงวันละ 40,000 บาท แถมยังบอกว่าตอนนี้คำว่าไม่มีไม่หนีไม่จ่าย เหมือนเป็นแบรนด์โลโก้ของตัวเองไปแล้ว

ไม่จบแค่นั้น เมื่อรอบนี้ แม่ปูนา โดนขุดและกล่าวหา อ้างว่าแม่ปูนาก็เป็นหนี้จากการขายมันปูและปูเช่นกัน ทำให้รายการโหนกระแส ดำเนินรายการโดย หนุ่ม กรรชัย เชิญ แม่ปูนา มาชี้แจงปมร้อนนี้แบบเคลียร์ชัด ๆ ในรายการ

โดยการดำเนินรายการ ตอนแรกมีทนายเจมส์ มาร่วมแสดงความคิดเห็นทางข้อกฎหมายในกรณีนี้ แต่เนื่องจากทนายเจมส์ติดธุระ เลยต้องขอตัวจากรายการไปก่อน

ทำให้ทนายไพศาล ส่งทีมงานทนายความมาร่วมรายการ เป็นทนายสาวชื่อ ‘ทนายปลาย เอมมิกา สุดพันธ์’ เมื่อแฟนรายการได้เห็นทนายสวยหน้าใส เสียงหวาน ถึงขนาดหนุ่ม กรรชัย ยังบอกต่อไปจากนี้จะเชิญทนายปลายมาออกรายการตลอด

จากนั้นหนุ่ม กรรชัย ถามเคยออกทีวีหรือไม่ และเขินมั้ย ทนายปลายจึงตอบว่า ไม่เคยออกทีวี และเขินนิดนึง

เช่นเดียวกับแฟนรายการที่เข้ามาคอมเมนต์กันแบบรัว ๆ เพราะเพียงแค่ทนายปลายพูดแค่ว่า “สวัสดีค่ะ” คนก็แห่เข้ามาคอมเมนต์กันสนั่นว่า “พูดดีมากเลย”

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับ ทนายปลาย เอมมิกา ปัจจุบันเป็นหนึ่งในทีมทนายความของ ทนายไพศาล เรืองฤทธิ์ โดยเพิ่งจบจากสำนักวิชานิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง เพิ่งรับปริญญาไม่นานมานี้


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top