ยกย่อง!! ‘ครูกฤศ’ ครูผู้เป็นทุกอย่างแห่ง รร.บ้านหนองเหียง ปฏิบัติหน้าที่ด้วยใจแน่วแน่ ตั้งแต่สอนหนังสือยันงานภารโรง
(19 ก.ค. 66) เพจ ‘ฅนจริงใจไม่ท้อ’ ได้เผยแพร่ข้อความในหัวข้อ ‘ครู’ ผู้เป็นทุกอย่าง ระบุว่า…
‘ครู’ ผู้เป็นทุกอย่าง
“จะทิ้งเขาไปได้ไง ถ้าทิ้งไป เด็กก็ไม่มีครูสอน ผมอยากอยู่ช่วยเหลือเขาอย่างเต็มที่จนครบวาระของผม”
เสียงยืนยันอันหนักแน่นของ กฤศ จอมพระ หรือ ‘ครูกฤศ’ ครูหนุ่มผู้มีจิตวิญญาณของการเป็นครู ที่พร้อมจะอยู่และทำหน้าที่ทุกอย่างเพื่อเด็กนักเรียน แม้ในวันที่ทั้งโรงเรียนจะเหลือเขาเป็น ‘ครู’ เพียงคนเดียว
เป็นเวลากว่า 4 ปี แล้วที่ ‘ครูกฤศ’ ได้ตัดสินใจเลือกมาสอนหนังสือที่โรงเรียนบ้านหนองเหียง ต.เขาหินซ้อน อ.พนมสารคาม จ.ฉะเชิงเทรา (โรงเรียนที่เคยตกเป็นข่าวโด่งดัง จากกรณี ครูผู้เป็นทุกอย่าง ตั้งแต่รักษาการผู้อำนวยการ ไปจนถึง พ่อครัว นักการภารโรง) โรงเรียนขนาดเล็กที่เปิดสอนตั้งแต่ชั้นอนุบาลจนถึงชั้นป.6 มีจำนวนเด็กนักเรียนทั้งหมด 21 คน
“ผมมาสอนที่นี่เมื่อปี 62 ที่เลือกมาที่นี่เพราะว่า เมื่อ 6-7 ปีก่อนที่ผมจะมาสอนที่นี่ ผมเคยผึกสอนที่โรงเรียนขนาดเล็กมาก่อน เลยทำให้รู้ว่าเด็กที่มาเรียนโรงเรียนแบบนี้ ครอบครัวเขาจะมีฐานะยากจน บางคนไม่มีรองเท้า ไม่มีเสื้อผ้าใส่มาโรงเรียนเลย ก็มาย้อนนึกถึงตัวเองในสมัยเด็กที่บ้านก็มีฐานะยากจน และเคยได้รับการช่วยเหลือจากครูมาก่อน เลยทำให้มีแรงบันดาลใจมาเรียนจนจบได้มาเป็นครู…เลยเลือกมาที่นี่ อยากช่วยเหลือเด็กที่ด้อยโอกาสเหล่านี้ครับ”
‘ครูกฤศ’ เชื่อว่า ด้วยความรู้และประสบการณ์ที่เขามีสั่งสมในช่วงที่ผ่านมา จะช่วยสร้างประโยชน์ให้กับโรงเรียนเล็ก ๆ แห่งนี้ได้ แม้บนเส้นทางข้างหน้าจะต้องเผชิญกับอุปสรรคที่มากมายสักเพียงใดก็ตาม
“ผมมาวันแรก เห็นโรงเรียนแล้วตกใจ เพราะสภาพทรุดโทรม ทั้งอาคารเรียนก็เก่า หญ้าขึ้นเต็มไปหมด แต่ในใจตอนนั้นก็คิดว่า นี่เป็นโอกาสที่เราจะได้รับประสบการณ์ที่มีค่า เพราะถ้าเราไปอยู่ที่สบายคงไม่ได้ประสบการณ์ที่เข้มข้น”
‘ครูกฤศ’ ได้เริ่มต้นทำงานโรงเรียนบ้านหนองเหียงแห่งนี้ ด้วยตำแหน่งครูผู้ช่วย ซึ่งในขณะนั้นที่นี่ มีบุคลากรทั้งหมด 4 คน งานไหนที่ครูอื่นทำไม่ได้ ‘ครูกฤศ’ จะอาสาทำหมด
“โรงเรียนนี้มีแต่ครูผู้หญิง ผอ.ก็ผู้หญิง ครูธุรการก็ผู้หญิง ครูประจำการก็ผู้หญิง ผมมาตอนนั้นผมเป็นผู้ชายคนเดียวเลย ผมเข้ามาก็ได้รับหน้าที่สอนชั้น ป.3 และงานพัสดุ งานอื่น ๆ ที่ต้องใช้แรงผมก็จะขออาสาทำหมด”
แต่เมื่อเวลาผ่านไป สิ่งต่าง ๆ ก็เปลี่ยนแปลงตาม ทำให้โรงเรียนแห่งนี้เหลือ ‘ครูกฤศ’ ที่เป็นผู้ทำหน้าที่ทุกอย่างในโรงเรียนนี้เพียงคนเดียว
“พอมาช่วงโควิด ครูธุรการเขาก็ขอลาออกไป ไปทำงานโรงงานเพราะใกล้บ้านและได้เงินดีกว่า แล้วตำแหน่งนี้ส่วนกลางเขาไม่มีนโยบายรับเพิ่ม ก็ทำให้เหลือกันแค่ 3 คน แต่พอถึง ตุลา 65 ผอ.ผู้หญิงท่านก็เกษียณไปอีกคน คราวนี้เลยเหลือผมกับครูผู้หญิงแค่ 2 คน ผมก็เอาอนุบาลมาสอน พร้อมกับดูแล ป.4-5-6 ส่วนครูผู้หญิงก็ดูแล ป.1 ถึง 3 แต่พอมาถึงมกรา 66 ครูผู้หญิงเขาก็มาบอกว่า เขาอยากย้ายไปสอนใกล้บ้านเพื่อจะได้อยู่ดูแลลูก และครอบครัว ก็เลยทำเรื่องย้ายออกไปอีก ผมก็เข้าใจว่าความจำเป็นก็ไม่ได้ว่าอะไร ซึ่งต่อมาเขาก็ได้ย้ายไปจริง ๆ ในช่วงกลางเดือนพฤษภา 66 ทำให้ช่วงนั้นผมต้องอยู่คนเดียว”
ด้วยข้อจำกัดทางด้านบุคลากรที่ขาดแคลน ทำให้ ‘ครูกฤศ’ ต้องรับบทบาทของ ‘ครู’ ผู้เป็นทุกอย่างเพียงคนเดียว ซึ่งนั่นคือ บทพิสูจน์หัวใจความเป็น ‘ครู’ ของ ‘ครูกฤศ’ ที่ไม่เคยคิดย่อท้อ
“พอเหลือผมอยู่คนเดียว ผมก็คิดว่าไม่เป็นไร เราก็ทำหน้าที่ของเราให้ดีที่สุด (ในแต่ละวันครูต้องอยู่คนเดียว วัน ๆ ครูทำอะไรบ้าง?) จริง ๆ งานดูเด็ก ๆ ที่ผมรับผิดชอบก็มีหลายอย่างครับ ทั้งดูแลการเรียนการสอนให้กับเด็กทั้ง 8 ชั้นเรียน ในแต่ละวันก็ต้องทำกับข้าวให้เด็กกินเอง ละก็ยังงานธุรการ งานเอกสาร ตัดหญ้า ทำความสะอาด จ่ายตลาดทำเองหมด พอเลิกเรียนก็ขับรถไปส่งเด็กกลับบ้านอีก กว่าจะกลับถึงบ้านที่บางคล้าก็ทุ่มกว่า ๆ ละครับ”
หลัง ‘ครูกฤศ’ ได้ทำหน้าที่เพียงลำพังอยู่ไม่นาน เรื่องราวของครูก็ได้ถูกเผยแพร่ออกไปยังสังคมวงกว้าง จากสื่อสารมวลชนและโชเชียล ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางที่ดีขึ้น
“หลังที่ออกข่าวไปก็มีแรงสนับสนุนในหลายด้าน ทั้งสิ่งของ น้ำดื่ม อาหาร เสื้อผ้า อุปกรณ์การเรียน เข้ามามากมายเลย และตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน ทางการก็ได้ส่งครูผู้ช่วย มาช่วยสอน 1 คน…เข้ามาก็ช่วยกันทำงาน ทำให้เบาไปเยอะเลยครับ (ถามจริงครูก็เป็นข้าราชการ เด็กที่นี่ก็ไม่เยอะ ไม่คิดจะย้ายไปสอนที่อื่นหรือใกล้บ้านครูเหรอ?) ผมจะทิ้งเขาไปได้ไง ถ้าทิ้งไปเด็กก็ไม่มีครูสอนผมอยากอยู่ช่วยเหลือเขาอย่างเต็มที่จนครบวาระของผม”
ต้องการช่วยเหลือหรือสนับสนุนโครงการพัฒนาโรงเรียนบ้านหนองเหียง
ติดต่อ ครูกฤศ ได้ที่ โทร 080-638-5719
