Sunday, 11 May 2025
โรคฮีทสโตรก

‘บิ๊กตู่’ ห่วงสุขภาพประชาชน อากาศร้อนหวั่นเป็นฮีทสโตรก แนะ ให้ดูแลสุขภาพ-ไม่ประมาท-หลีกเลี่ยงกิจกรรมกลางแจ้ง

(28 มี.ค.66) นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมมีความห่วงใยสุขภาพประชาชน เนื่องจากขณะนี้ประเทศไทยเข้าสู่ฤดูร้อน โดยเฉพาะอย่างยิ่งปีนี้หลายพื้นที่มีอากาศร้อนมากกว่าปีที่ผ่านมา อุณหภูมิอาจจะสูงถึง 40-43 องศาเซลเซียส สภาพอากาศที่ร้อนจัดในช่วงกลางวัน อาจทำให้ประชาชนเจ็บป่วยจากโรคลมแดด หรือโรคฮีทสโตรก (Heat stroke) ซึ่งเป็นภาวะที่ร่างกายไม่สามารถปรับตัว หรือควบคุมระดับความร้อนในร่างกายได้ ทำให้ร่างกายมีอุณหภูมิสูงขึ้นเรื่อย ๆ จนเกิน 40 องศาเซลเซียส ทำให้ตัวร้อน หน้ามืด เพ้อ กระสับกระส่าย หายใจเร็ว มึนงง หัวใจเต้นผิดจังหวะ ชักเกร็ง ช็อก จนถึงขั้นหมดสติ หากไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงทีอาจทำให้เสียชีวิตได้ โดยรัฐบาลห่วงใยประชาชนที่ทำงานกลางแจ้ง แดดแรงจัด อาจช็อกฮีทสโตรก ขอให้ดูแลสุขภาพตนเอง และไม่ประมาทจากการทำงานกลางแจ้ง หลีกเลี่ยงทำกิจกรรมกลางแดดร้อนจัด

นายอนุชา กล่าวว่า จากสภาพอากาศที่ร้อนจัด อาจทำให้ประชาชนป่วยเป็นโรคลมแดด หรือ โรคฮีทสโตรก โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยง ได้แก่ เด็กอายุต่ำกว่า 5 ปี ผู้สูงอายุ ผู้ที่มีโรคประจำตัว เช่น โรคหัวใจ โรคหลอดเลือดสมอง โรคความดันโลหิตสูง ผู้ที่มีภาวะอ้วน ผู้ที่พักผ่อนไม่เพียงพอ ผู้ทำกิจกรรมกลางแดด เช่น เล่นกีฬา ผู้ที่ทำงานกลางแจ้ง เช่น ตำรวจจราจร พนักงานรักษาความปลอดภัย คนสวน กรรมกรก่อสร้าง เกษตรกร ประมง พนักงานงานส่งของ ไรเดอร์ และพนักงานที่ต้องอยู่กลางแดดเป็นเวลานาน และการอยู่กลางแดดเป็นเวลานาน อาจส่งผลให้เกิดผื่น ตะคริวจากความร้อน และหากมีโรคประจำตัว พักผ่อนไม่เพียงพอ จะทำให้เพลีย อาจทำให้เกิดการวูบและพลัดตกจากที่สูงได้ 

นายอนุชา กล่าวว่า ผู้ที่ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ปริมาณมาก ก็เป็นกลุ่มเสี่ยงเจ็บป่วยจากโรคลมแดด โดยฤทธิ์ของแอลกอฮอล์จะทำให้เส้นเลือดฝอยใต้ผิวหนังขยายตัวได้มากขึ้น ทำให้ร่างกายสูญเสียน้ำและเกลือแร่สูงกว่าคนที่ไม่ได้ดื่ม ซึ่งในสภาพอากาศที่ร้อนจัด แอลกอฮอล์จะถูกดูดซึมเข้ากระแสเลือดได้รวดเร็ว และออกฤทธิ์กระตุ้นหัวใจให้สูบฉีดเลือดเร็วและแรงขึ้น มีผลทำให้ความดันโลหิตสูงขึ้น หัวใจต้องทำงานหนักเพื่อสูบฉีดเลือดไปเลี้ยงร่างกาย อาจทำให้ช็อกและเสียชีวิตได้

‘หมอนักวิ่ง’ เตือน ‘โรคฮีทสโตรก’ ภัยเงียบใกล้ตัว แนะเลี่ยงออกกำลังกายในที่อากาศร้อน-ดื่มน้ำให้เพียงพอ

(31 มี.ค.66) หลังจาก ‘เอ๋ ชนม์สวัสดิ์ อัศวเหม’ เสียชีวิตจากโรคฮีทสโตรก ในคืนที่ผ่านมา นพ.อกนิษฐ์ ศรีสุขวัฒนา หรือ หมอแอร์ อายุรแพทย์โรคหัวใจ โรงพยาบาลสมิติเวชศรีนครินทร์ ซึ่งเป็น ‘คุณหมอนักวิ่ง’ ได้แชร์บทความที่ตัวเองเคยลงไว้เมื่อวันที่ 15 มี.ค. 2565 ในเฟซบุ๊ก Akanis Srisukwattana ถึงเรื่องอันตรายจากโรคฮีทสโตรก โดยระบุว่า…

“Heat Stroke (ฮีทสโตก) สำหรับนักกีฬาและประชาชน

ออกกำลังร้อนไป อันตรายถึงชีวิตได้!

ผมเพิ่งได้รับทราบ ว่ามีนักกีฬา ต่างประเทศท่านนึง มาแข่งวิ่งเทรลเมืองไทย แล้วเกิด Heat Stroke จน Coma (เหตุการณ์เมื่อปีที่แล้ว) เลยคิดว่ามันไม่ใช่เรื่องไกลตัวและอันตรายมาก จึงอยากให้ ประชาชนทั่วไป และคนที่ออกกำลังกลางแจ้ง ทำความเข้าใจ Heat Stroke จะได้ ป้องกันไม่ให้เกิดครับ

1 Heat Stroke คืออะไร
คือ ภาวะที่ร่างกายไม่สามารถปรับตัว กับความร้อนที่สูงมากขึ้นได้ ทำให้อุณหภูมิทั่วร่างกายสูง เกิน 40.5 C จนระบบการทำงานต่างๆ เสียไป โดยเฉพาะที่สมอง ทำให้เกิดอาการคล้าย หลอดเลือดสมอง (stroke) คือ ซึม อ่อนแรง ชักเกร็ง แต่ไม่ได้มีความผิดปกติจากหลอดเลือดโดยตรง เป็นผลเกิดจากความร้อนที่มากเกินไป ทำให้สมองทำงานผิดปกติ เลยเรียกว่า Heat Stroke

นอกจากนี้ ความร้อน ยังไปทำลายระบบต่างๆ ได้มากมาย อาทิ กล้ามเนื้อ เกิดภาวะกล้ามเนื้อแตกสลาย จนไตวายได้

2 Heat Stroke เกิดจากอะไร
ความร้อนในร่างกายมาจาก ปัจจัยภายใน และ ภายนอก 
ภายใน ได้แก่ การออกกำลังที่หนัก ร่างกายจะร้อนขึ้น ส่วนภายนอกได้แก่ อากาศ แสงแดด Heat Wave ต่างๆ ปกติเมื่อร่างกายมีอุณหภูมิสูงขึ้น สมองส่วน Hypothalamus จะกระตุ้นระบบประสาทอัตโนมัติ ทำให้เราเหงื่อออก และ เลือดไปเลี้ยงผิวหนังมากขึ้น ทำให้เราระบายความร้อนผ่านทางการระเหยของเหงื่อที่ผิวหนัง ทำให้อุณหภูมิร่างกายลดลง

แต่เมื่อสมดุลย์ตรงนี้เสียไป เช่น อากาศร้อนมากๆ พร้อมออกกำลังหนักมาก เป็นเวลานาน หรือ การระบายความร้อนที่ทำได้ลดลง เช่น อากาศมีความชื้นสูง ทำให้การระบายเหงื่อพาความร้อนไปในอากาศเกิดลดลง

ภาพรวมทำให้ สมดุลย์ของการระบายความร้อนทำได้ไม่ดี จึงนำไปสู่อุณหภูมิร่างกายที่ค่อยๆสูงขึ้น จนสูงมากและเกิด Heat Stroke ในที่สุด กลุ่ม Heat Stroke ที่เกิดจากการออกกำลัง ออกแรง ฝึกทหาร และระบายความร้อนไม่ทัน เราเรียกกลุ่มนี้ว่า Exertional heat stroke

3 ปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เกิด Heat Stroke ง่ายขึ้น มาจาก
การออกกำลังที่หนักในที่อากาศร้อนนานๆ, อากาศที่ร้อนมาก โดยเฉพาะการเกิด Heat Wave, การไม่ชินสภาวะ อากาศร้อน หรือมีอากาศเปลี่ยนแปลงฉับพลัน, อากาศที่ชื้นมาก เกิน 75% จนทำให้การระบายเหงื่อยากขึ้น

ดื่มน้ำไม่พอ ร่างกายขาดน้ำดื่ม เครื่องดื่ม ที่มี คาเฟอีนและ Alcohol ทำให้ร่างกายเสียน้ำจากปัสสาวะมากกว่าปกติใส่เสื้อผ้าที่หนาและไม่ระบายอากาศ

4 อาการของ Heat Stroke ที่เราต้องสังเกต
ปวดศีรษะ ขณะออกกำลัง, HR (ฮาร์ตเรต-จังหวะการเต้นของหัวใจ) ไม่ลง แม้เบาการออกกำลังลง, คลื่นไส้ อาเจียน, ผิวหนังแดง ร้อน แห้ง บางรายอาจมีเหงื่อได้, เป็นตะคริวตามกล้ามเนื้อๆ หลายๆที่, หน้ามืด เป็นลม, ถ้าเป็นหนัก จะเริ่มมีอาการทางสมอง เบลอ พูดจาสับสน ชักเกร็ง หมดสติ

ดังนั้น ถ้าเริ่มมีอาการปวดหัว HR สูงแปลกๆกว่าที่เคย คลื่นไส้ อาเจียน ขณะออกกำลัง ให้สงสัยว่า เราอาจเริ่มมีอาการของ Heat Stroke ได้ ให้หยุดออกกำลังทันที และรีบทำให้ร่างกายเย็นลง แจ้งเพื่อนๆที่ไปด้วยกันทันที

5 เราสามารถป้องกัน และลดการเกิดได้อย่างไร
ตรงไปตรงมา หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายหนัก เวลาที่อากาศร้อนจัด เช่นเลือกเวลาออกกำลังกายตอน เช้า และเย็น ดูอุณหภูมิก่อนออกกำลังกาย ถ้าเกิน 38 องศาเซลเซียส ควรหลีกเลี่ยง หรือต้องเตรียมตัวให้พร้อม

ถ้าจำเป็นต้องฝึกซ้อม เพื่อให้ร่างกายทนความร้อน ต้องค่อยๆ เพิ่มระยะเวลาแบบค่อยเป็นค่อยไปเพื่อฝึกให้ร่างกายปรับตัว

ดื่มน้ำให้เพียงพอ พรมน้ำตามร่างกายเป็นระยะๆ เอาแค่พอประมาณ ไม่เปียกโชก สามารถลดอุณหภูมิได้ ไม่ควรฝึกอดน้ำ หรือกินน้ำน้อยๆ ระหว่างแข่งหรือซ้อม สวม เสื้อ กางเกง ที่ระบายอากาศ ระบายความร้อนได้ดี

6 ข้อแนะนำการดื่มน้ำในวันที่อากาศร้อนมาก
แนะนำให้ดื่มน้ำ 700 ml ก่อนออกกำลัง 2 ชั่วโมง ค่อยๆดื่มเรื่อยๆ และพิจารณาดื่ม Sports Drink ประมาณ 250 ml แทนน้ำเปล่าบางส่วน
ทุก 20 นาทีของการออกกำลังกาย ให้ดื่มน้ำอย่างน้อย ประมาณ 250 ml สลับกับเกลือแร่
สังเกตสีปัสสาวะคร่าวๆ ว่าเรากินน้ำพอไหม ถ้าเข้มมาก แสดงว่าร่างกายยังขาดน้ำ


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top