Friday, 6 June 2025
โดรน

นักศึกษารัสเซีย ผุดไอเดียขอรับบริจาคบุหรี่ไฟฟ้า เพื่อนำชิ้นส่วนภายในไปผลิตเป็นโดรนรบกับยูเครน

โดยทั่วไปแล้ว หลายประเทศมักมีแคมเปญรณรงค์ให้นักศึกษาเลิกสูบบุหรี่ไฟฟ้า ด้วยการยกเหตุผลด้านสุขภาพ ซึ่งหาก ‘ลด-ละ-เลิก’ ได้ ก็จะส่งผลดีต่อร่างกายในระยะยาว 

แต่ทว่า ที่ ‘รัสเซีย’ กลับมีแคมเปญที่แปลกกว่านั้น คือ ขอบริจาคบุหรี่ไฟฟ้า...เพื่อชาติ!!

แคมเปญดังกล่าวนี้ ถูกจัดขึ้นโดยนักศึกษาจากชมรม Falcon Patriotic Military Club ของ University of Samara ซึ่งอยู่ทางภาคตะวันตกเฉียงใต้ของรัสเซีย ที่ผุดแคมเปญสุดพิสดาร ด้วยการผสมผสานไอเดียที่ใช้รณรงค์ลดการสูบบุหรี่ไฟฟ้า เข้ากับแนวคิดชาตินิยม 

โดยจะมีการจัดกลุ่มอาสาสมัคร ถือกล่องตระเวนรับบริจาคบุหรี่ไฟฟ้าจากเพื่อนๆ นักศึกษาในสถาบัน ด้วยเหตุผลจูงใจอย่างการสนับสนุนปฏิบัติการทางทหารของรัสเซียในยูเครน

นอกจากนี้ ยังมีการออกใบปลิว และ โปสเตอร์ประกอบแคมเปญด้วยการดัดแปลงภาพสไตล์ย้อนยุคสมัยสหภาพโซเวียต ที่เคยใช้จริงตอนที่รัฐบาลกำลังรณรงค์ให้ชาวรัสเซียลดการดื่มเหล้าวอดก้า เพียงแต่คราวนี้ เปลี่ยนจากวอดก้า เป็นบุหรี่ไฟฟ้าแทน  พร้อมสโลแกนเท่ๆ ว่า…

“1 e-cigarette = 1 drone attack on the enemy!” หรือ “บุหรี่ไฟฟ้า 1 มวน = โดรนพิฆาต 1 ลำ สำหรับโจมตีข้าศึกของเรา”

หลายท่านอาจจะงงว่า เป้าหมายสำคัญของการขอรับบริจาคบุหรี่ไฟฟ้าของนักศึกษากลุ่มนี้ จะมีส่วนให้กองทัพรัสเซีย นำไปใช้ผลิตโดรนพิฆาตในการสู้รบในสงครามรัสเซีย-ยูเครน จริงๆ ได้อย่างไร? ซึ่งเรื่องนี้ทางกลุ่มนักศึกษาเจ้าของแคมเปญ ก็อธิบายว่า... 

“อันที่จริงแล้ว ตัวบุหรี่ไฟฟ้าไม่สามารถนำมาใช้เป็นอาวุธได้ แต่ชิ้นส่วนภายใน เช่น แผงวงจรไมโครและแบตเตอรี สามารถนำไปดัดแปลงใช้ใหม่ในระบบปล่อยกระสุนของโดรนพิฆาตได้”

สำหรับชมรม Falcon Patriotic Military Club ก่อตั้งในปี 2008 มีวัตถุประสงค์ในการปลุกจิตสำนึกรักชาติแก่เยาวชน และ นักศึกษาของรัสเซีย  ซึ่งที่ผ่านมามีการจัดกิจกรรมอย่างต่อเนื่อง ทั้งให้ความรู้เกี่ยวกับหน้าที่ของทหารในโรงเรียน หรือ รับบริจาคสิ่งของ และจัดส่งของจำเป็นให้กับทหารแนวหน้าในสงครามยูเครน อาทิ โทรศัพท์มือถือ, เตาภาคสนาม, เสื้อผ้า อาหาร ฯลฯ และล่าสุดทำแคมเปญบริจาคบุหรี่ไฟฟ้าเพื่อนำไปผลิตโดรนพิฆาตให้กับกองทัพรัสเซีย 

อย่างไรก็ตาม เมื่อเรื่องนี้เล็ดลอดถึงหูสื่อยูเครน ก็ได้มีการรายงานบลัฟอย่างรวดเร็วว่า “ไอเดียการดัดแปลงบุหรี่ไฟฟ้ามาเป็นโดรนโจมตีนั้น ได้มาจากนักศึกษาของยูเครนต่างหาก โดยสถาบัน Chernivtsi Polytechnic College ทางตะวันตกเฉียงใต้ของยูเครนเคยทำมาก่อนแล้ว  นอกจากนี้ยังมีโปรเจกต์สนับสนุนกองทัพที่ล้ำหน้านั้นอีก ด้วยการพัฒนาโครนโจมตีขนาดจิ๋ว Powerbank สุดอึดที่สามารถชาร์ตโทรศัพท์มือถือได้นานถึง 10 วันอีกด้วย” 

ก็ไม่น่าเชื่อว่าจากแคมเปญเลิกบุหรี่ไฟฟ้า จะกลายมาเป็นไอเดียสร้างสรรค์สิ่งประดิษฐ์ที่เข้าไปช่วยเสริมศักยภาพในสงครามได้ ภายใต้แนวคิดปลุก ‘จิตสำนึกในความรักชาติ’ 

เพียงแต่มันก็ยังไม่รู้สึกถึงแง่มุมดีๆ ที่จะมีต่อโลกใบนี้ยังไงก็ไม่รู้!! 

เรื่อง: ยีนส์ อรุณรัตน์

‘นครเซินเจิ้น’ เจ๋ง!! เปิดบริการใช้ ‘โดรน’ ส่ง ‘อาหารทะเล’ สามารถทะยานสู่ฟ้ารับน้ำหนักบรรทุกสูงสุด 20 กิโลกรัม

เมื่อวานนี้ (7 ก.พ.67) สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า เส้นทางการจัดส่งอาหารทะเลด้วยอากาศยานไร้คนขับ หรือ ‘โดรน’ เปิดดำเนินงานแล้วโดยเชื่อมระหว่างท่าเรือหนานอ้าวซวงยง ทางตะวันออกของนครเซินเจิ้น มณฑลกว่างตง (กวางตุ้ง) ทางตอนใต้ของจีน และเขตหลงกั่งภายในเมือง

โดรนขนส่งซีฟู้ดสามารถทะยานขึ้นบินด้วยน้ำหนักบรรทุกสูงสุด 20 กิโลกรัม โดยอาหารทะเลจะถูกส่งไปยังบริษัทขนส่งในพื้นที่ ก่อนส่งต่อถึงมือลูกค้าในที่สุด

ผู้นำอิหร่าน ให้คำมั่นจะตอบโต้ อิสราเอล-สหรัฐ หากโจมตี!! รุกราน ‘เตหะราน-กลุ่มพันธมิตร’

(3 พ.ย. 67) อยาตอลเลาะห์ อาลี คาเมเนอี ผู้นำสูงสุดอิหร่าน ให้คำมั่นในระหว่างกล่าวกับกลุ่มนักศึกษาในกรุงเตหะรานของอิหร่าน เมื่อวันที่ 2 พฤศจิกายนว่า จะตอบโต้การโจมตีของอิสราเอลและสหรัฐอเมริกา ชาติพันธมิตร ที่มุ่งเป้าหมายต่ออิหร่านและกลุ่มพันธมิตรที่ให้การสนับสนุนอิหร่านในภูมิภาคนี้

คาเมเนอีกล่าวว่าศัตรู ทั้งสหรัฐและระบอบไซออนิสต์ (อิสราเอล) ควรรู้ว่าพวกเขาจะได้รับการตอบโต้ที่ทำลายล้างอย่างแน่นอนต่อสิ่งที่พวกเขากำลังทำกับอิหร่าน ชาติอิหร่านและแนวร่วมต่อต้าน ซึ่งคาเมเนอีหมายถึงกลุ่มติดอาวุธที่อิหร่านให้การสนับสนุนทั้งกลุ่มฮูตีในเยเมน กลุ่มฮามาส กลุ่มติดอาวุธในดินแดนปาเลสไตน์ และกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ในเลบานอน

คาเมเนอียังกล่าวยกย่องทหารอิหร่านที่ถูกสังหารเสียชีวิตจากการโจมตีอิหร่านของอิสราเอลเมื่อเร็วๆ นี้ว่า ความพยายามของนายทหารเหล่านั้นในการเผชิญหน้ากับอิสราเอลจะไม่มีวันถูกลืมเลือน และว่าอิหร่านกำลังทำทุกอย่างที่ควรทำเพื่อเตรียมพร้อมประเทศไม่ว่าจะในด้านการทหาร อาวุธหรือทางการเมืองในการตอบโต้โดยไม่ได้ให้รายละเอียดเพิ่มเติม

เป็นการแสดงท่าทีแข็งกร้าวอีกครั้งของผู้นำสูงสุดของอิหร่านอีกครั้งในการเผชิญหน้ากับชาติปรปักษ์สำคัญอย่างอิสราเอลท่ามกลางบรรยากาศที่ทวีความตึงเครียดหนัก หลังอิสราเอลเปิดการโจมตีทางอากาศถล่มเป้าหมายทางทหารในประเทศอิหร่านเมื่อวันที่ 26 ตุลาคม ซึ่งเป็นผลให้ทหารอิหร่านเสียชีวิต 4 นาย เป็นการตอบโต้ที่อิหร่านรัวยิงขีปนาวุธเกือบ 200 ลูกโจมตีอิสราเอลเมื่อวันที่ 1 ตุลาคมที่ผ่านมา

วันเดียวกันมีรายงานด้วยว่ากลุ่มติดอาวุธฮิซบอลเลาะห์ในเลบานอน ออกมากล่าวอ้างในเวลาต่อมาว่า ได้ยิงจรวดหลายลูกโจมตีฐานกลีล็อต ฐานที่มั่นของหน่วยข่าวกรองทหาร 8200 ของอิสราเอล ใกล้กับนครเทลอาวีฟ เมื่อเวลา 02.30 น.ของวันที่ 2 พฤศจิกายนตามเวลาท้องถิ่น นอกจากนี้กลุ่มฮิซบอลเลาะห์ยังระบุด้วยว่าได้ยิงจรวดโจมตีพื้นที่ทางตอนเหนือของอิสราเอลด้วย โดยเฉพาะที่เมืองซาเฟด ซึ่งเป็นอีกเป้าหมายที่ถูกถล่มซ้ำ โดยมีรายงานจากฝ่ายอิสราเอลว่าการโจมตีที่เกิดขึ้นในวันนี้ส่งผลให้มีผู้คนในอิสราเอลได้รับบาดเจ็บ 19 ราย

กองทัพอิสราเอลระบุด้วยว่าวันเดียวกันนี้ยังสามารถสกัดโดรน 3 ลำที่ถูกส่งมาโจมตีในอิสราเอลจากทางตะวันออกของทะเลแดง โดยไม่ได้ระบุเจาะจงว่ามาจากที่ใด อย่างไรก็ดีบริเวณดังกล่าวเป็นพื้นที่ที่กลุ่มฮูตีเคลื่อนไหวอยู่

‘ยูเครน’ เปิดปฏิบัติการโจมตีทางอากาศครั้งใหญ่ที่สุดต่อ ‘รัสเซีย’ ใช้โดรน 117 ลำ ซ่อนในห้องไม้ถล่ม 4 ฐานทัพ

(2 มิ.ย. 68) รัฐบาลยูเครนเผยเมื่อวันอาทิตย์ว่า ได้ดำเนินการโจมตีทางอากาศระยะไกลครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่เริ่มสงครามกับรัสเซีย โดยใช้โดรน 117 ลำ ลักลอบโจมตีเครื่องบินรบ 40 ลำใน 4 ฐานทัพของรัสเซียในปฏิบัติการชื่อ “ใยแมงมุม” ซึ่งประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกี กล่าวว่า ได้ทำลายเครื่องบินขีปนาวุธพิสัยไกลได้ถึง 34%

แหล่งข่าวจากหน่วยข่าวกรองยูเครน (SBU) ระบุว่าปฏิบัติการนี้วางแผนมานานกว่า 1 ปีครึ่ง โดยใช้โดรนซ่อนในห้องไม้เคลื่อนที่บนรถบรรทุก ก่อนจะเปิดหลังคาด้วยระบบควบคุมระยะไกลเพื่อปล่อยโดรนออกโจมตีเมื่อถึงเวลาเหมาะสม

รัสเซียยืนยันว่ามีการโจมตีใน 5 แคว้น พร้อมระบุว่าเป็น “การก่อการร้าย” แต่รัสเซียก็ได้ตอบโต้ด้วยการส่งโดรนและขีปนาวุธโจมตีหลายพื้นที่ของยูเครนในคืนวันเดียวกัน โดยยูเครนอ้างว่าสามารถสกัดเป้าหมายทางอากาศได้ถึง 385 รายการ

ปฏิบัติการของยูเครนมุ่งเป้าไปที่ฐานทัพในแคว้นอีร์คุตสค์, มูร์มันสค์, รียาซาน และอีวานอฟ ซึ่งตั้งอยู่ลึกในดินแดนรัสเซีย โดยมีเป้าหมายเป็นเครื่องบินทิ้งระเบิดพิสัยไกล Tu-95, Tu-22M3 และเครื่องบินเตือนภัยล่วงหน้า A-50 ซึ่งสร้างความเสียหายที่ SBU ประเมินว่ามีมูลค่ากว่า 7 พันล้านดอลลาร์ (ราว 2.55 แสนล้านบาท)

ในขณะเดียวกัน ผู้แทนจากทั้งสองฝ่ายกำลังมุ่งหน้าไปยังอิสตันบูล ประเทศตุรกี เพื่อเจรจาสันติภาพรอบใหม่ในวันจันทร์ แต่บรรยากาศคาดว่าจะไม่คืบหน้า เนื่องจากจุดยืนของทั้งสองฝ่ายยังคงห่างกันมาก รัสเซียยังครอบครองดินแดนยูเครนราว 20% รวมถึงไครเมียที่ถูกผนวกเมื่อปี 2014

ผู้ต้องสงสัยรายแรก ที่เกี่ยวข้องกับการโจมตีด้วยโดรน ที่สนามบินฐานทัพอากาศรัสเซียในภูมิภาคอีร์คุตสค์ ถูกประกาศตามหาตัว จากหน่วยงานความมั่นคงของอีร์คุตสค์

(3 มิ.ย. 68) อาร์เทม ติโมฟีเยฟ (Артём Тимофеев) วัย 37 ปี เป็นชาวยูเครน เกิดในภูมิภาคซิตโตเมียร์ (Zhitomir) ของยูเครน ต่อมาย้ายมาอาศัยอยู่ที่เคียฟ

ปี 2014 เขาย้ายมาอาศัยในรัสเซีย โดยเริ่มต้นอาศัยอยู่ในโดเนตสค์ (Donetsk) หลังจากนั้นย้ายมาอาศัยอยู่ในเชเลียบินสค์ (Chelyabinsk) ภูมิภาคอีร์คุตสค์

จากการสืบสวนของเจ้าหน้าที่พบว่า ติโมฟีเยฟ มีชื่อเป็นเจ้าของรถบรรทุกสี่คันที่ใช้ลักลอบขนส่งโดรน โดยเขาเป็นคนว่าจ้างให้คนมาขับรถอีกทอดหนึ่ง และเป็นคนกำหนดจุดเพื่อให้รถจอดตามเส้นทางขนส่ง ซึ่งเป็นเส้นทางที่ใช้ในการโจมตีสนามบินของฐานทัพอากาศเบลายาในเขตอีร์คุตสค์

ส่วนภรรยาและลูกชายของติโมฟีเยฟยังคงอาศัยอยู่ในยูเครน

แม้ว่าทั้งคู่จะได้รับสัญชาติรัสเซียแล้ว แต่ยังคงเรียกตัวเองว่า "ผู้รักชาติยูเครน" และมักจะวิจารณ์ปฏิบัติการพิเศษทางทหารของปูตินมาตลอด

นอกจากนี้ จากการสืบสวนในเชิงลึกของเจ้าหน้าที่ด้านความมั่นคง พบว่าติโมฟีเยฟ เป็นหนึ่งในนักเคลื่อนไหวที่สนับสนุนยูเครน และมีส่วนเกี่ยวข้องในการประท้วงอย่างรุนแรงช่วงปี 2013-2014 หรือที่เรียกว่าเหตุการณ์ไมดาน (Maidan) ซึ่งเป็นช่วงที่เขาแฝงตัวเข้ามาอยู่ในรัสเซีย


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top