Wednesday, 15 May 2024
โดนัลด์_ทรัมป์

'ทรัมป์' ปั้น 'Truth Social'​ โซเชียลมีเดียของตัวเอง หลังโดนปิดกั้นหนัก เอาใจเหล่าสาวกเดนตาย

หลังจากที่อดีตประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ต้องเสียบัญชีทวิตเตอร์ส่วนตัว ที่มียอดผู้ติดตามสูงถึง 88.7 ล้านคน และยังถูกปิดกั้นการเข้าถึงช่องทางโซเชียลมีเดียอื่นๆ ทั้ง Facebook รวมถึง YouTube ที่เคยใช้ ซึ่งล้วนมียอดผู้ติดตามมหาศาล อันเนื่องมาจากเหตุการณ์ การบุกรุกอาคาร 'เดอะ แคปปิตอล'​ ของกลุ่มผู้สนับสนุน ที่ต้องการขัดขวางกระบวนการรับรองคะแนนเลือกตั้งเมื่อวันที่ 7 มกราคม 2021 ที่เชื่อว่าเกิดจากข้อความปลุกระดมในโซเชียลมีเดียของทรัมป์

ทั้งนี้​ การปิดกั้นช่องทางสื่อสารทางโซเชียล มีผลกับอดีตประธานาธิบดี ที่ได้ชื่อว่าเป็นนักสร้างกระแสคนดังที่สุดแห่งยุคอย่างมาก เพราะทรัมป์ชื่นชอบ การสื่อสารผ่านทางทวิตเตอร์มาก ที่มักจะโพสต์ข้อความถึงกลุ่มฐานเสียงทุกวันอย่างสม่ำเสมอ 

อย่างไรก็ตาม​ เมื่อปิดกั้นกันนัก ท่านเสี่ยทรัมป์ก็เลยควักกระเป๋า เปิดช่องโซเชียลมีเดียเป็นของตัวเองซะเลย โดยใช้ชื่อว่า Truth Social ที่เตรียมจะเปิดตัวในขั้นทดสอบและรับสมาชิกในเดือนพฤศจิกายนปีนี้

'ทรัมป์' เตือน!! อาวุธที่สหรัฐฯ มอบให้ยูเครน อาจบานปลายสู่ 'สงครามโลกครั้งที่ 3'

ความช่วยเหลือด้านการทหารอันมากมายเกินขอบเขตที่ทางสหรัฐฯ มอบแก่เคียฟ อาจก่อผลลัพธ์ลากความขัดแย้งในยูเครนลุกลามบานปลายกลายเป็นสงครามโลกครั้งที่ 3 จากคำเตือนของ โดนัลด์ ทรัมป์ อดีตประธานาธิบดีอเมริกา

"เรามีสงครามในยูเครน และบางทีมันอาจกำลังมุ่งหน้าสู่สงครามโลกครั้งที่ 3 สืบเนื่องจากแนวทางที่เรากำลังบริหารจัดการมัน" ทรัมป์พูดเตือนระหว่างกล่าวปราศรัยกับที่ประชุมหนึ่งในเมืองแนชวิลล์ รัฐเทนเนสซี เมื่อวันศุกร์ (17 มิ.ย.)

"เราเพิ่งมอบเงิน 40,000 ล้านดอลลาร์ เพิ่มเติมจาก 16,000 ล้านดอลลาร์ ดังนั้นเราทุ่มเงินไปทั้งหมด 56,000 ล้านดอลลาร์" ทรัมป์กล่าวพาดพิงถึงแพกเกจช่วยเหลือของรัฐบาลไบเดน ที่อนุมัติมอบแก่ยูเครน ท่ามกลางความขัดแย้งกับรัสเซีย

"แต่หากคุณมองไปที่ยุโรป เยอรมนี ฝรั่งเศสและประเทศอื่นๆ เหล่านั้นทั้งหมด พวกเขามอบเงินแค่เศษเล็กๆ เล็กน้อยมากเมื่อเทียบกับสิ่งที่เรากำลังมอบให้ เรากำลังมอบความช่วยเหลือ 56,000 ล้านดอลลาร์ พวกเขาให้เงินช่วยเหลือแค่ไม่กี่พันล้านดอลลาร์ และพวกเขาก็เป็นหนึ่งที่ได้รับผลกระทบอย่างหนักเช่นกัน"

6 มกราคม พ.ศ. 2567 ครบรอบ 3 ปีที่ ‘โดนัลด์ ทรัมป์’ ใช้เวลา 187 นาที นั่งดูผู้ชุมนุม ‘ก่อจลาจล-โจมตี’ รัฐสภาสหรัฐฯ

ย้อนกลับไปเมื่อ 6 มกราคม พ.ศ. 2564 หรือ ค.ศ. 2021 ประชาชนนับพันผู้สนับสนุนอดีตประธานาธิบดีทรัมป์ ซึ่งเป็นผู้ชิงตำแหน่งสมัยที่ 2 ได้บุกเข้าไปยังอาคารรัฐสภาสหรัฐฯ ขัดขวางการนับคะแนนเพื่อยืนยันชัยชนะอย่างเป็นทางการของ ‘โจ ไบเดน’ ผู้สมัครจากพรรคเดโมแครต

เหตุการณ์ในครั้งนั้นนับเป็นเหตุจู่โจมสภาคองเกรสที่ร้ายแรงที่สุดนับตั้งแต่สงครามในปี ค.ศ. 1812 และถูกโหมโดย ‘ทรัมป์’ ซึ่งกล่าวอ้างอย่างผิด ๆ ว่า ความพ่ายแพ้ของเขาในเดือนพฤศจิกายนปี ค.ศ. 2020 นั้นเกิดจาก ‘การโกง’

เหตุการณ์จลาจลดังกล่าวส่งผลให้เจ้าหน้าที่ตำรวจหนึ่งนายเสียชีวิตหลังจากปะทะกับผู้ประท้วง ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจผู้เกี่ยวข้อง 4 นาย เสียชีวิตในเวลาต่อมาจากการฆ่าตัวตาย อีก 140 นายได้รับบาดเจ็บจากการต่อสู้ ฝั่งผู้ประท้วงเสียชีวิต 4 ศพ ประชาชนมากกว่า 700 คน ถูกจับกุมด้วยข้อหามีส่วนร่วมในเหตุการณ์ครั้งนี้

ทรัมป์ได้โพสต์วิดีโอเมื่อ 6 มกราคม ค.ศ. 2021 โดยเขาใช้เวลา 40 วินาทีให้ความเห็นอกเห็นใจผู้ประท้วง “ผมรับรู้ถึงความเจ็บปวด ผมรู้ว่าพวกคุณเจ็บปวด แต่ตอนนี้ผมอยากให้พวกคุณกลับบ้าน เราต้องมีสันติ เราต้องรักษากฎหมายและความสงบเรียบร้อย เราต้องเคารพกฎหมายและความสงบเรียบร้อยของประชาชน”

นอกจากนี้ยังโพสต์ข้อความเพื่อสร้างความชอบธรรมให้กับม็อบ ระบุว่า…“นี่คือสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อชัยชนะของการเลือกตั้งอย่างถล่มทลายอันศักดิ์สิทธิ์ถูกพรากไปจากผู้รักชาติที่ยิ่งใหญ่ ซึ่งได้รับการปฏิบัติอย่างไม่เป็นธรรมและไม่ยุติธรรมมาเป็นเวลานาน” 

เขาโพสต์ต่อว่า “กลับบ้านด้วยความรักและความสงบสุข จดจำวันนี้ไว้ตลอดไป!”

ความรุนแรงที่เกิดขึ้นทำให้ทรัมป์ถูกเสนอชื่อเข้าสู่กระบวนการถอดถอนจากตำแหน่งเป็นครั้งที่สอง และเข้ารับการสอบสวน โดยคณะกรรมการสภาสอบสวนเหตุการณ์ 6 มกราคม (Select Committee to Investigate the January 6th Attack on the United States Capitol) ที่จัดตั้งขึ้น เมื่อ 30 มิถุนายน ค.ศ. 2021

โดยเบนนี ธอมป์สัน (Bennie Thompson) ประธานคณะกรรมการ และผู้แทนจากมิสซิสซิปปี กล่าวว่าคณะกรรมการทั้ง 9 คน ต้องการทราบว่าทรัมป์ทำอะไรบ้างระหว่าง ‘187 นาที ของการไม่ทำอะไรเลย’ ขณะที่เขานั่งดูผู้ประท้วงในโทรทัศน์จากห้องรับประทานอาหารในทำเนียบขาว

ทางด้านลิซ เชนีย์ รองประธานคณะกรรมการ และผู้แทนจากไวโอมิง หนึ่งในผู้วิพากษ์ทรัมป์ ให้สัมภาษณ์รายการ ‘This Week’ ทางสถานี ABC ว่า “ทรัมป์ควรบอก (ผู้ประท้วง) ให้หยุดได้แล้ว แต่เขากลับไม่ได้ทำ”

'ทรัมป์' ลั่น!! แบน TikTok ไม่ง่ายและมีแต่จะช่วยให้ Facebook ได้อำนาจมากขึ้น เพราะเดิม Meta ก็มีปัญหาด้าน 'ความเป็นส่วนตัว-ความปลอดภัย' ไม่ต่างกัน

(12 มี.ค.67) CNBC รายงาน โดนัลด์ ทรัมป์ แคนดิเดตของพรรครีพลับลิกัน กล่าวว่า เขามีความกังวลว่าการแบนแอปฯ จากจีนอย่าง TikTok จะทำให้แอปฯ อย่าง Facebook ของ Meta ซึ่งเปรียบเสมือนศัตรูของประชาชนได้ผลประโยชน์ไป และมีอำนาจมากขึ้นเป็นสองเท่า

ทรัมป์ กล่าวว่า การแบน TikTok มีผลที่ดี แต่ก็มีผลเสียออกมาเช่นกัน ทรัมป์บอกว่า มีผู้คนมากมายโดยเฉพาะเด็กวัยรุ่นอเมริกันที่ชอบ TikTok มาก และคงจะเป็นจะตายหากไม่มีมัน พร้อมทั้งกล่าวโจมตีว่ามีแต่ Meta ที่ได้ผลประโยชน์นี้ และ Meta ก็มีปัญหาด้านความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยเหมือนกัน 

ปัจจุบัน แอปพลิเคชันวิดีโอสั้นจากจีนโดยบริษัท ByteDance ได้รับความนิยมในสหรัฐฯ อย่างมาก แต่กระนั้น ทางการสหรัฐฯ ก็มีความกังวลว่าจะเป็นภัยต่อความมั่นคงของชาติ เนื่องจากกังวลว่าแอปได้ส่งข้อมูลกลับไปที่จีนและอาจแบ่งข้อมูลให้ทางการของจีน จึงมีการลงความเห็นจะแบบ TikTok ในไม่กี่เดือนหากบริษัทจีนไม่ถอนทุนออกไป ซึ่งทางประธานาธิบดีอย่าง โจ ไบเดนก็มีความเห็นที่จะลงดาบแอปฯ นี้เช่นกัน


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top