Sunday, 20 April 2025
โครงการเยาวชนรู้เท่าทันป้องกันตนเอง

'รัดเกล้า' เผย!! รัฐเปิดเกมดุ ขจัดปัญหายาเสพติดตั้งแต่ต้นน้ำยันปลายน้ำ ควบคู่!! เดินหน้าสร้างภูมิคุ้มกันแก่เยาวชน 'เท่าทัน-เข้าใจ-ห่างไกล'

(4 ส.ค. 67) นางรัดเกล้า อินทวงศ์ สุวรรณคีรี รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ได้ร่วมเป็นองค์เสวนา ชื่อหัวข้อ 'เยาวชนความรู้เท่าทันเรื่องอะไรบ้างจึงป้องกันตัวเองได้' ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของกิจกรรม 'โครงการเยาวชนรู้เท่าทัน ป้องกันตนเอง' ที่จัดขึ้น ณ ชุมชนบ้านปูนใต้สะพานพระราม 8 เขตบางพลัด กรุงเทพมหานครฯ ระหว่างเวลา 08:30 – 14:00 น. โดย นายกีรติ กีรติยุติ รองอธิบดีผู้พิพากษาศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง และนางอิง ภาสกรนที ประธานผู้พิพากษาสมทบ ศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง ร่วมเป็นประธานในการเปิดงาน

ทั้งนี้ รองโฆษกรัฐบาล รัดเกล้า ได้กล่าวว่า นโยบายและแนวทางของรัฐบาลในการจัดการกับปัญหายาเสพติด ว่า ปัญหายาเสพติดเป็นปัญหาที่รัฐบาลให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก เนื่องจากจะนำมาสู่ปัญหาอื่น ๆ อีกมากมายเช่น ปัญหาอาชญากรรมอื่น ปัญหาสังคม ปัญหาเศรษฐกิจ เป็นต้น ทางรัฐบาลได้ให้ทิศทางนโยบายโดยเน้นตัดต้นตอกระบวนการค้ายาเสพติด ด้วยการเน้นทำลายโครงสร้างการค้าและการเงินของกลุ่มผู้ค้ายาเสพติด ความน่ากังวลใจคือสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ได้รายงานว่าปัจจุบันมีการจับการค้ายาเสพติดได้จำนวนเพิ่มขึ้นถึง 4-5 เท่า ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่ามีแพร่ระบาดของยาเป็นจำนวนมาก 

"ในสภาวะเช่นนี้หน่วยปฏิบัติต้องทำงานหนักมาก และต้องพบความเสี่ยงในการทำงานมากขึ้น ความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่สำคัญที่สุด เมื่อ 18 กรกฎาคม พ.ศ. 2567 ที่ผ่านมา นายกรัฐมนตรีได้มอบอุปกรณ์เพื่อใช้ในการป้องกัน และตอบโต้กลุ่มผู้ค้ายาเสพติด อาทิ กล้อง Night Vision โดรนตรวจการณ์ ระบบต่อต้านอากาศยานไร้คนขับ ANTI-DRONE และรถโฟร์วีล เป็นต้น" รองโฆษกฯ รัดเกล้า กล่าว

รองโฆษกฯ รัดเกล้า กล่าวอีกว่า "นอกจากนี้ การแก้ไขปัญหายาเสพติดที่ดีที่สุด คือ การป้องกันไม่ให้เด็กและเยาวชนเข้าสู่วงโคจรของยาเสพติด ที่เริ่มต้นจากผู้เสพ ซึ่งมีผลกระทบมากมาย อาทิ ปัญหาสุขภาพทั้งกายและใจ ปัญหาครอบครัว ปัญหาด้านเศรษฐกิจ จึงอยากแนะนำไปยังเด็กและเยาวชนว่า เรื่องของยาเสพติดต้องหลีกเลี่ยงตั้งแต่ต้น และยังได้แสดงความห่วงใยจากการที่เด็กและเยาวชนจะถูกหลอกลวงจากผู้ไม่หวังดีให้ขนย้ายยาเสพติด"

เมื่อพูดถึงเรื่องของบุหรี่ไฟฟ้า รองโฆษกฯ รัดเกล้าแสดงความห่วงใยด้วยว่า “นอกจากปัญหายาเสพติดแล้ว ปัญหาของบุหรี่ไฟฟ้าเป็นปัญหาอีกปัญหาหนึ่งซึ่งแพร่ระบาดในเด็กและเยาวชนเป็นจำนวนมาก ซึ่งความอันตรายไม่ได้น้อยไปกว่าบุหรี่ มีผลิตภัณฑ์ที่ออกแบบมาเพื่อเข้าถึงเด็กโดยเฉพาะ และบุหรี่ไฟฟ้าเป็นสิ่งที่ผิดกฎหมายของประเทศไทยด้วย” 

สำหรับการเสวนาในครั้งนี้นอกจากนางรัดเกล้า สุวรรณคีรี รองโฆษกรัฐบาลแล้ว ยังมีนางสาวนิชญา ปราณีจิตต์ เลขานุการศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง นายอุดมชัย โลหณุต ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดกรุงเทพมหานคร นายแพทย์ธนัช พจน์พิศุทธิพงศ์ ผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันและบำบัดการติดยาเสพติด สำนักอนามัยกรุงเทพมหานคร และร้อยตำรวจโทพิมดาว พวงพิลา รองสารวัตรสอบสวน สถานีตำรวจบางยี่ขัน เข้าร่วมการเสวนาด้วย

ทั้งนี้ศาลเยาวชนและครอบครัวกลางในฐานะผู้จัดงานเปิดเผยว่า การจัดงานครั้งนี้เป็นเพียงแค่การคิ๊กออฟโครงการ เป็นต้นแบบที่ศาลเยาวชนและครอบครัวกลางมุ่งหวังจะเดินหน้าจัดในพื้นที่อื่นๆ ต่อไป เป้าหมายของศาลเยาวชนและครอบครัวกลางคือให้ความรู้ในเรื่องคดีต่างๆ ที่เด็กและเยาวชนควรมีความรู้ ความเข้าใจ โดยในเฟสแรกนี้จะมุ่งเป้าหาความร่วมมือกับคณะกรรมการชุมชนต่างๆ สำนักงานเขตต่างๆ ที่อยู่ในกรุงเทพมหานคร และมีความพร้อม โดยตั้งเป้าไว้ว่าจะครอบคลุมให้ได้มากถึง 4 ชุมชนต่อปี โดยงบประมาณหลักในการจัดงานนี้มาจากการระดมทุนของคนในศาลโดยมุ่งหวังสร้างภูมิคุ้มกันทางปัญญา ให้เยาวชนห่างไกลยาเสพติด และอยากเห็นเยาวชนไทยได้รับโอกาสที่ดีในชีวิต

ด้าน นายกีรติ ระบุว่า ศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง และได้รับความร่วมมือกับหลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการจับกุม ปราบปราม และเยียวยา เยาวชนที่กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด และเผชิญความเสี่ยงอื่นๆ เช่น ภัยจากการล่อลวง (เช่น การเปิดบัญชีม้า และการค้าประเวณี) ซึ่งท้ายสุดก็ทำให้กลุ่มเยาวชนเข้าไปอยู่ในวงจรสีเทาที่มีการค้าขายยาเสพติดสอดแทรกอยู่ในนั้น ซึ่งการจัดงานครั้งนี้เป็นเพียงแค่การคิกออฟโครงการ เป็นต้นแบบที่ศาลเยาวชนและครอบครัวกลางมุ่งหวังจะเดินหน้าจัดในพื้นที่อื่นๆ ต่อไป  

สำหรับกิจกรรมภายในงาน มีกิจกรรมการแสดงความสามารถของเยาวชนในชุมชนเพื่อนบ้าน การแสดงกระบี่กระบอง จากชุมชนวัดฉัตรแก้ว ที่เป็นแบบที่ดีของชุมชนที่สร้างกิจกรรมดังกล่าวให้เยาวชนในพื้นที่ใช้เวลาว่างมาทำในสิ่งที่มีประโยชน์ สร้างรายได้เสริม และเสริมความเข้มแข็งให้กับชุมชน มีการแสดงรำร่ายไหว้ครูมวยไทย ชุดผู้ใหญ่และชุดเด็ก และการแสดงคีตะมวยไทย จากชุมชนเขตคลองเตย นอกจากนั้นในบริเวณรอบข้างยังมีการออกร้านให้ชุมชนรอบข้างนำของดีในพื้นที่มาวางขาย เพื่อให้ผู้ร่วมงานได้เพลิดเพลินและร่วมอุดหนุนสร้างรายได้ให้กับคนในพื้นที่อีกด้วย

'รัดเกล้า' ชี้!! บุหรี่ไฟฟ้าอันตรายไม่น้อยกว่าบุหรี่ทั่วไป แนะ!! ต้องป้องกันเด็ก-เยาวชน ให้ห่างไกลวงโคจรยาเสพติด

เมื่อวานนี้ (4 ส.ค. 67) นางรัดเกล้า อินทวงศ์ สุวรรณคีรี รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ได้ร่วมเป็นองค์เสวนา ชื่อหัวข้อ 'เยาวชนความรู้เท่าทันเรื่องอะไรบ้างจึงป้องกันตัวเองได้' ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของกิจกรรม 'โครงการเยาวชนรู้เท่าทัน ป้องกันตนเอง' ที่จัดขึ้น ณ ชุมชนบ้านปูนใต้สะพานพระราม 8 เขตบางพลัด กรุงเทพมหานครฯ ระหว่างเวลา 08:30 – 14:00 น. โดย นายกีรติ กีรติยุติ รองอธิบดีผู้พิพากษาศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง และนางอิง ภาสกรนที ประธานผู้พิพากษาสมทบ ศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง ร่วมเป็นประธานในการเปิดงาน

ทั้งนี้ รองโฆษกรัฐบาล รัดเกล้า ได้กล่าวว่า นโยบายและแนวทางของรัฐบาลในการจัดการกับปัญหายาเสพติด ว่า ปัญหายาเสพติดเป็นปัญหาที่รัฐบาลให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก เนื่องจากจะนำมาสู่ปัญหาอื่น ๆ อีกมากมายเช่น ปัญหาอาชญากรรมอื่น ปัญหาสังคม ปัญหาเศรษฐกิจ เป็นต้น ทางรัฐบาลได้ให้ทิศทางนโยบายโดยเน้นตัดต้นตอกระบวนการค้ายาเสพติด ด้วยการเน้นทำลายโครงสร้างการค้าและการเงินของกลุ่มผู้ค้ายาเสพติด ความน่ากังวลใจคือสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ได้รายงานว่าปัจจุบันมีการจับการค้ายาเสพติดได้จำนวนเพิ่มขึ้นถึง 4-5 เท่า ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่ามีแพร่ระบาดของยาเป็นจำนวนมาก 

"ในสภาวะเช่นนี้หน่วยปฏิบัติต้องทำงานหนักมาก และต้องพบความเสี่ยงในการทำงานมากขึ้น ความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่สำคัญที่สุด เมื่อ 18 กรกฎาคม พ.ศ. 2567 ที่ผ่านมา นายกรัฐมนตรีได้มอบอุปกรณ์เพื่อใช้ในการป้องกัน และตอบโต้กลุ่มผู้ค้ายาเสพติด อาทิ กล้อง Night Vision โดรนตรวจการณ์ ระบบต่อต้านอากาศยานไร้คนขับ ANTI-DRONE และรถโฟร์วีล เป็นต้น" รองโฆษกฯ รัดเกล้า กล่าว

รองโฆษกฯ รัดเกล้า กล่าวอีกว่า "นอกจากนี้ การแก้ไขปัญหายาเสพติดที่ดีที่สุด คือ การป้องกันไม่ให้เด็กและเยาวชนเข้าสู่วงโคจรของยาเสพติด ที่เริ่มต้นจากผู้เสพ ซึ่งมีผลกระทบมากมาย อาทิ ปัญหาสุขภาพทั้งกายและใจ ปัญหาครอบครัว ปัญหาด้านเศรษฐกิจ จึงอยากแนะนำไปยังเด็กและเยาวชนว่า เรื่องของยาเสพติดต้องหลีกเลี่ยงตั้งแต่ต้น และยังได้แสดงความห่วงใยจากการที่เด็กและเยาวชนจะถูกหลอกลวงจากผู้ไม่หวังดีให้ขนย้ายยาเสพติด"

เมื่อพูดถึงเรื่องของบุหรี่ไฟฟ้า รองโฆษกฯ รัดเกล้าแสดงความห่วงใยด้วยว่า “นอกจากปัญหายาเสพติดแล้ว ปัญหาของบุหรี่ไฟฟ้าเป็นปัญหาอีกปัญหาหนึ่งซึ่งแพร่ระบาดในเด็กและเยาวชนเป็นจำนวนมาก ซึ่งความอันตรายไม่ได้น้อยไปกว่าบุหรี่ มีผลิตภัณฑ์ที่ออกแบบมาเพื่อเข้าถึงเด็กโดยเฉพาะ และบุหรี่ไฟฟ้าเป็นสิ่งที่ผิดกฎหมายของประเทศไทยด้วย” 

สำหรับการเสวนาในครั้งนี้นอกจากนางรัดเกล้า สุวรรณคีรี รองโฆษกรัฐบาลแล้ว ยังมีนางสาวนิชญา ปราณีจิตต์ เลขานุการศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง นายอุดมชัย โลหณุต ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดกรุงเทพมหานคร นายแพทย์ธนัช พจน์พิศุทธิพงศ์ ผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันและบำบัดการติดยาเสพติด สำนักอนามัยกรุงเทพมหานคร และร้อยตำรวจโทพิมดาว พวงพิลา รองสารวัตรสอบสวน สถานีตำรวจบางยี่ขัน เข้าร่วมการเสวนาด้วย

ทั้งนี้ศาลเยาวชนและครอบครัวกลางในฐานะผู้จัดงานเปิดเผยว่า การจัดงานครั้งนี้เป็นเพียงแค่การคิ๊กออฟโครงการ เป็นต้นแบบที่ศาลเยาวชนและครอบครัวกลางมุ่งหวังจะเดินหน้าจัดในพื้นที่อื่นๆ ต่อไป เป้าหมายของศาลเยาวชนและครอบครัวกลางคือให้ความรู้ในเรื่องคดีต่างๆ ที่เด็กและเยาวชนควรมีความรู้ ความเข้าใจ โดยในเฟสแรกนี้จะมุ่งเป้าหาความร่วมมือกับคณะกรรมการชุมชนต่างๆ สำนักงานเขตต่างๆ ที่อยู่ในกรุงเทพมหานคร และมีความพร้อม โดยตั้งเป้าไว้ว่าจะครอบคลุมให้ได้มากถึง 4 ชุมชนต่อปี โดยงบประมาณหลักในการจัดงานนี้มาจากการระดมทุนของคนในศาลโดยมุ่งหวังสร้างภูมิคุ้มกันทางปัญญา ให้เยาวชนห่างไกลยาเสพติด และอยากเห็นเยาวชนไทยได้รับโอกาสที่ดีในชีวิต

ด้าน นายกีรติ ระบุว่า ศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง และได้รับความร่วมมือกับหลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการจับกุม ปราบปราม และเยียวยา เยาวชนที่กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด และเผชิญความเสี่ยงอื่นๆ เช่น ภัยจากการล่อลวง (เช่น การเปิดบัญชีม้า และการค้าประเวณี) ซึ่งท้ายสุดก็ทำให้กลุ่มเยาวชนเข้าไปอยู่ในวงจรสีเทาที่มีการค้าขายยาเสพติดสอดแทรกอยู่ในนั้น ซึ่งการจัดงานครั้งนี้เป็นเพียงแค่การคิกออฟโครงการ เป็นต้นแบบที่ศาลเยาวชนและครอบครัวกลางมุ่งหวังจะเดินหน้าจัดในพื้นที่อื่นๆ ต่อไป  

สำหรับกิจกรรมภายในงาน มีกิจกรรมการแสดงความสามารถของเยาวชนในชุมชนเพื่อนบ้าน การแสดงกระบี่กระบอง จากชุมชนวัดฉัตรแก้ว ที่เป็นแบบที่ดีของชุมชนที่สร้างกิจกรรมดังกล่าวให้เยาวชนในพื้นที่ใช้เวลาว่างมาทำในสิ่งที่มีประโยชน์ สร้างรายได้เสริม และเสริมความเข้มแข็งให้กับชุมชน มีการแสดงรำร่ายไหว้ครูมวยไทย ชุดผู้ใหญ่และชุดเด็ก และการแสดงคีตะมวยไทย จากชุมชนเขตคลองเตย นอกจากนั้นในบริเวณรอบข้างยังมีการออกร้านให้ชุมชนรอบข้างนำของดีในพื้นที่มาวางขาย เพื่อให้ผู้ร่วมงานได้เพลิดเพลินและร่วมอุดหนุนสร้างรายได้ให้กับคนในพื้นที่อีกด้วย


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top