Saturday, 18 May 2024
โครงการอาสาตาจราจร

“โครงการอาสาตาจราจร มอบเงินเจ้าของคลิปอุบัติเหตุ หรือรถที่ฝ่าฝืนกฎหมาย รวม 100,000 บาท”

ตำรวจ จับมือ วิริยะประกันภัย มูลนิธิเมาไม่ขับ มอบเงินรางวัลรอบเดือน ม.ค.- ก.พ.65 หวังช่วยลดอุบัติเหตุ และเอาตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษ

วันนี้ (18 ม.ค. 65) เวลา 10.00 น. ที่ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบ.ตร. ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์บริหารงานจราจร (ศจร.ตร.) ,พล.ต.ท.ปรีชา เจริญสหายานนท์ ผู้ช่วย ผบ.ตร., พล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก รอง ผบช.น., พล.ต.ต.นิธิธร จินตกานนท์  รอง ผบช.น. พร้อมด้วย นพ.แท้จริง ศิริพานิช เลขาธิการมูลนิธิเมาไม่ขับ, คุณกานดา วัฒนายิ่งสมสุข ที่ปรึกษาฝ่ายการตลาด บริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด (มหาชน) ผู้แทนสถานีวิทยุพิทักษ์สันติราษฎร์  สวพ.91 และ สถานีวิทยุ จส.100  ร่วมแถลงผลการมอบรางวัลและเกียรติบัตร โครงการอาสาตาจราจร ประจำเดือน ม.ค. และ ก.พ. 65 ให้แก่เจ้าของคลิปวิดีโอที่ได้รับคัดเลือกจำนวน 20 คลิป  

โครงการมีวัตถุประสงค์ให้ประชาชนทุกคนร่วมเป็นอาสาตาจราจร สามารถส่งข้อมูลพยานหลักฐานเมื่อเกิดอุบัติเหตุ หรือ การกระทำความผิดบนท้องถนนต่างๆ ผ่านทางกล้องหน้ารถ หรือโทรศัพท์มือถือ โดยสามารถส่งคลิปวิดีโอผ่านช่องทางมูลนิธิเมาไม่ขับ, ศูนย์โซเชียลมีเดีย ศปก.ตร. , จส.100 และ สวพ.91 และแต่ละเดือนมูลนิธิเมาไม่ขับจะพิจารณาคัดเลือกคลิปที่เป็นการกระทำผิดกฎจราจรสำคัญหรือคดีอุบัติเหตุจราจร  และคลิปนั้นใช้เป็นหลักฐานดำเนินคดีกับผู้ทำกระทำผิดได้ตามกฎหมาย เดือนละ 10 รางวัล  รางวัลที่ 1  20,000 บาท , รางวัลที่ 2  10,000 บาท , รางวัลที่ 3  6,000 บาท และรางวัลชมเชย 7 รางวัลๆละ 2,000 บาท  รวม 50,000 บาทต่อเดือน  โดยได้รับการสนับสนุนเงินรางวัลจากบริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด  

สำหรับในเดือน ม.ค. และ ก.พ.65 มีคลิปการกระทำผิดที่สำคัญ โดยเฉพาะที่เกี่ยวกับการฝ่าฝืนเครื่องหมายทางข้าม (ทางม้าลาย) ดังนี้

1) คลิปรถเอสยูวี กลับรถตรงสี่แยกคู้บอน ชนคนเดินข้ามถนนตรงทางม้าลายได้รับบาดเจ็บ เมื่อวันที่ 31 ม.ค. 65 พื้นที่ สน.คันนายาว ซึ่งพนักงานสอบสวนได้ดำเนินคดีกับผู้ขับขี่รถเอสยูวี จำนวน 5 ข้อหา  1.ขับรถโดยไม่มีใบอนุญาตขับขี่ (ปรับ 400 บาท)  2.กลับรถในที่ห้าม (ปรับ 1,000 บาท) 3.ขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายแก่ร่างกาย (ปรับ 1,000 บาท) 4.นำรถที่ยังไม่ได้จดทะเบียนมาใช้ในทาง (ปรับ 1,000 บาท) 5.ใช้รถยนต์ที่ติดป้ายสำหรับขายหรือซ่อม (ป้ายแดง) ในเวลากลางคืน (ปรับ 1,000 บาท) เปรียบเทียบปรับผู้ขับขี่ รวมเป็นเงิน 4,400 บาท

2) คลิปรถโดยสารและรถบรรทุก ไม่หยุดให้คนข้ามทางม้าลาย ขณะที่ไฟสัญญาณทางข้ามเป็นไฟแดงพื้นที่ สน.พญาไท อยู่ระหว่างดำเนินการเรียกตัวผู้ขับขี่มาดำเนินคดีตามกฎหมาย

3) คลิปรถจักรยานยนต์ไรเดอร์ เลี้ยวกลับรถบริเวณเกาะกลางทางม้าลายคนข้าม จนเกือบชนคนเดินข้ามถนน พื้นที่ สน.ทุ่งมหาเมฆ อยู่ระหว่างดำเนินการเรียกตัวผู้ขับขี่มาดำเนินคดีตามกฎหมายทั้งนี้ ตั้งแต่เริ่มโครงการมา  มีประชาชนส่งคลิปมาจำนวนมาก  มีคลิปที่เป็นพยานหลักฐานในทางคดีได้ทั้งหมด 76 คลิป  ซึ่งคณะทำงานเสริมสร้างภาพลักษณ์ ศจร.ตร. ได้ส่งข้อมูลและเร่งรัดติดตามผลคดี กับสถานีตำรวจที่เกิดเหตุ  จนสามารถติดตามตัวผู้กระทำผิดตามคลิปมาดำเนินคดีตามกฎหมายแล้ว จำนวน 25 คดี    
 

ผบ.ตร. พร้อมภาคีเครือข่าย มอบรางวัลคลิปกล้องหน้ารถ 'โครงการอาสาตาจราจร' และเตรียมมอบรางวัลพิเศษช่วงปีใหม่ ในชื่อ '7วัน 7คลิป 7หมื่น'

วันนี้ (2 ธ.ค. 65) เวลา 11.00 น.ณ ห้องศรียานนท์ โซนซี สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. , พล.ต.ทประจวบ  วงศ์สุข ผู้ช่วย ผบ.ตร. , พล.ต.ท.วีระ จิรวีระ รอง จตช. , พล.ต.ท.นัยวัฒน์ ผะเดิมชิต ผบช.สยศ.ตร. และ พล.ต.ต.นิธิธร จินตกานนท์ รอง ผบช.น. พร้อมด้วย นพ.แท้จริง ศิริพานิช เลขาธิการมูลนิธิเมาไม่ขับ, คุณกานดา วัฒนายิ่งสมสุข ที่ปรึกษา ฝ่ายการตลาด บริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด (มหาชน) คุณนิตยา ลีธีระกุล รองผู้จัดการฝ่ายรายการ สถานีวิทยุพิทักษ์สันติราษฎร์ สวพ.91 และ คุณอัจฉรา บัวสมบูรณ์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการ สถานีวิทยุ จส.100 ร่วมแถลงผลการมอบรางวัล และเกียรติบัตร โครงการอาสาตาจราจร โดยมอบรางวัลให้กับประชาชนเจ้าของคลิปกล้องหน้ารถที่บันทึกอุบัติเหตุทางถนนหรือการกระทำผิดกฎจราจรที่สำคัญ รวม 20 รางวัล เป็นเงิน 100,000 บาท (คลิปประจำเดือน ก.ย. และ ต.ค.2565) โดยมีบริษัท วิริยะฯ สนับสนุนเงินรางวัลในกิจกรรมดังกล่าว

ผบ.ตร.กล่าวว่า โครงการนี้ เป็นการรณรงค์เพื่อร่วมกันสร้างจิตสำนึกในการขับรถตามกฎจราจร เพื่อความปลอดภัยบนท้องถนน โดยรณรงค์ให้ประชาชนผู้ที่พบเห็นการทำผิดกฎจราจร หรืออุบัติเหตุ สามารถส่งคลิปมาในช่องทางที่กำหนด ได้แก่ เพจตำรวจทางหลวง เพจกองบังคับการตำรวจจราจร รวมถึงเพจเครือข่ายที่ร่วมโครงการ ทั้งเพจมูลนิธิเมาไม่ขับ สวพ.91 และ จส.100 โดยคลิปที่สามารถเป็นอุทาหรณ์แสดงถึงอันตรายที่เกิดจาก ฝ่าฝืนกฎหมาย หรือคลิปที่สามารถใช้เป็นพยานหลักฐานในการติดตามผู้กระทำผิดมาดำเนินคดี จะได้รับการพิจารณาคัดเลือกจากมูลนิธิเมาไม่ขับและบริษัท วิริยะประกันภัยฯ เดือนละ 10 รางวัล โดยคลิปที่ได้ลำดับ 1 จะได้รับรางวัลสูงสุดถึง 20,000 บาท ซึ่งตั้งแต่เริ่มโครงการเมื่อ ธ.ค. 64 เป็นต้นมา มีประชาชนส่งคลิปมาในโครงการมากกว่า 300 คลิป ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ติดตามดำเนินคดีจนเสร็จสิ้นมากกว่า 200 คดี และมีการมอบรางวัลไปแล้วจำนวนทั้งสิ้น 134 รางวัล รวมเป็นเงิน 740,000 บาท

ผบ.ตร. พร้อมภาคีเครือข่าย มอบรางวัลคลิปกล้องหน้ารถ 'โครงการอาสาตาจราจร' รวม 180,000 บาท / เริ่มใช้ระบบตัดคะแนน 3 สัปดาห์ มีผู้ถูกตัดคะแนนแล้วกว่าหมื่นราย

วันนี้ (31 ม.ค. 66) เวลา 09.30 น.ณ ห้องสารสิน สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. , พล.ต.ท.ธนา  ชูวงศ์ ผู้ช่วย ผบ.ตร. , พล.ต.ท.ประจวบ วงศ์สุข ผู้ช่วย  ผบ.ตร. ,พล.ต.ท.วีระ จิรวีระ รอง จตช. , พล.ต.ท.นัยวัฒน์ ผะเดิมชิต ผบช.สยศ.ตร. และ พล.ต.ต.เอกราช  ลิ้มสังกาศ ผบก.ทล. พร้อมด้วย  นพ.แท้จริง ศิริพานิช เลขาธิการมูลนิธิเมาไม่ขับ, คุณกานดา วัฒนายิ่งสมสุข ที่ปรึกษา ฝ่ายการตลาด บริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด (มหาชน) คุณนิตยา ลีธีระกุล รองผู้จัดการฝ่ายรายการ สถานีวิทยุพิทักษ์สันติราษฎร์ สวพ.91 และ คุณอัจฉรา บัวสมบูรณ์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการ สถานีวิทยุ จส.100  ร่วมแถลงผลการมอบรางวัล และเกียรติบัตร โครงการอาสาตาจราจร โดยมอบรางวัลให้กับประชาชนเจ้าของคลิปกล้องหน้ารถที่บันทึกอุบัติเหตุทางถนนหรือการกระทำผิดกฎจราจรที่สำคัญ รวม 28 รางวัล เป็นเงิน 180,000 บาท ประกอบด้วยคลิปอุบัติเหตุ ช่วง 7 วันควบคุมเข้มข้นเทศกาลปีใหม่ 2566 จำนวน 7 รางวัล และคลิปประจำเดือน พ.ย. และ ธ.ค.2565 โดยมีบริษัท วิริยะฯ สนับสนุนเงินรางวัลในโครงการนี้   

ผบ.ตร.กล่าวว่า โครงการนี้ เป็นการสร้างความร่วมมือจากภาคประชาชน  เพื่อร่วมกันเป็นตาจราจร สอดส่องการทำผิดกฎจราจรบนท้องถนน เมื่อประชาชนเกิดการรับรู้ว่า บนถนนอาจมีกล้องหน้ารถบันทึกการฝ่าฝืนกฎจราจรและจะถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามมาดำเนินคดี จะช่วยยับยั้งการฝ่าฝืนกฎหมายบนท้องถนน โดยคลิปต่าง ๆ จะเป็นพยานหลักฐานให้เจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามผู้กระทำผิดมาดำเนินคดี ตลอดจนเป็นพยานหลักฐานในชั้นศาลเพื่อพิจารณาลงโทษผู้ทำผิด โดยประชาชนผู้ที่พบเห็นการทำผิดกฎจราจร หรืออุบัติเหตุ สามารถส่งคลิปมาในช่องทางที่กำหนด ได้แก่ เพจตำรวจทางหลวง เพจกองบังคับการตำรวจจราจร รวมถึงเพจเครือข่ายที่ร่วมโครงการ ทั้งเพจมูลนิธิเมาไม่ขับ สวพ.91 และ จส.100 คลิปสำคัญที่ได้รับการคัดเลือก

นอกจากประชาชนจะได้รับเงินรางวัลแล้ว ยังได้รับใบประกาศเกียรติคุณจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในฐานะพลเมืองดี ช่วยส่งพยานหลักฐานเพื่อช่วยคนดีชี้คนผิด เป็นส่วนหนึ่งในการลดอุบัติเหตุทางถนน ทางด้าน นพ.แท้จริง ศิริพานิช เลขาธิการมูลนิธิเมาไม่ขับ  กล่าวเสริมว่า เพื่อให้เกิดการรณรงค์สร้างจิตสำนึกการขับขี่ในช่วงปีใหม่ที่ผ่านมา  โครงการได้มีรางวัลพิเศษ ให้กับเจ้าของคลิปที่บันทึกเหตุการณ์อุบัติเหตุ หรือการทำผิดกฎจราจรช่วง 7 วันควบคุมเข้มข้นเทศกาลปีใหม่ 2566 (29 ธ.ค.65 – 4 ม.ค.66) รวมจำนวน 7 รางวัล รางวัลละ 10,000 บาท  ซึ่งผลของโครงการนี้ เป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยในการสร้างการตระหนักรู้ในการ ขับขี่ปลอดภัย ให้ประชาชนปฏิบัติตามกฎหมาย ช่วยลดอุบัติเหตุทางถนนในช่วงเทศกาลปีใหม่อย่างเป็นรูปธรรม

ผบ.ตร. และภาคีเครือข่าย มอบรางวัลคลิปกล้องหน้ารถ “โครงการอาสาตาจราจร” พร้อมเตรียมเปิดรับคลิปอุบัติเหตุช่วง 7 วันอันตรายสงกรานต์ มอบรางวัลวันละ 1 คลิป เงินรางวัลร่วม 200,000 บาท

วันนี้ (7 เม.ย.66) เวลา 10.00 น.ณ ห้องสารสิน สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์        กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. , พล.ต.ท.ธนา ชูวงศ์ ผู้ช่วย ผบ.ตร. , พล.ต.ท.ประจวบ วงศ์สุข ผู้ช่วย ผบ.ตร. , พล.ต.ท.นิธิธร จินตกานนท์ ผบช.ประจำ สง.ผบ.ตร. พล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก รอง ผบช.น. และ พล.ต.ต.เอกราช ลิ้มสังกาศ ผบก.ทล. พร้อมด้วย  นพ.แท้จริง ศิริพานิช เลขาธิการมูลนิธิเมาไม่ขับ, คุณ พิศเพลิน วิริยะพันธุ์ ผู้ช่วยผู้จัดการฝ่ายสื่อสารองค์กรบริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด (มหาชน) คุณนิตยา ลีธีระกุล รองผู้จัดการฝ่ายรายการ สถานีวิทยุพิทักษ์สันติราษฎร์ สวพ.91 และ คุณอัจฉรา บัวสมบูรณ์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการ สถานีวิทยุ จส.100 ร่วมแถลงผลการมอบรางวัล และเกียรติบัตร โครงการอาสาตาจราจร โดยมอบรางวัลให้กับประชาชนเจ้าของคลิปกล้องหน้ารถที่บันทึกอุบัติเหตุทางถนนหรือการกระทำผิดกฎจราจรที่สำคัญ ประจำเดือน ม.ค. และ ก.พ. 2566 จำนวน 20 รางวัล เงินรางวัลคลิปสูงสุดคลิปละ 20,000 บาท รวมเงินรางวัลที่มอบทั้งสิ้น จำนวน 100,000 บาท โดยบริษัท วิริยะประกันภัย เป็นผู้สนับสนุนเงินรางวัล

ผบ.ตร.กล่าวว่า ความร่วมมือจากภาคประชาชนเป็นพลังสำคัญในการแก้ไขปัญหาสังคมหลายเรื่อง รวมทั้งปัญหาการจราจร ประชาชนสามารถช่วยกันสร้างความปลอดภัยบนท้องถนน โดยร่วมกันเป็นตาจราจร สอดส่องพฤติกรรมการใช้รถใช้ถนนที่ฝ่าฝืนกฎจราจร ที่เป็นสาเหตุให้เกิดอุบัติเหตุ เมื่อสังคมเกิดการรับรู้ว่า การขับขี่บนถนนมีกล้องหน้ารถ หรือมีผู้ร่วมทางอาจใช้กล้องโทรศัพท์มือถือบันทึกการกระทำที่ฝ่าฝืนกฎจราจร และจะเป็นพยานหลักฐานจนถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามมาดำเนินคดีในภายหลังได้ ก็จะช่วยยับยั้งปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการขับขี่ที่ผิดกฎหมายบนท้องถนน สำหรับคลิปที่ส่งมาร่วมโครงการทุกคลิป จะเป็นพยานหลักฐานให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดี หรือใช้เป็นพยานหลักฐานในชั้นศาลเพื่อพิจารณาลงโทษผู้ทำผิด  คลิปที่มีเนื้อหาน่าสนใจที่ได้รับการคัดเลือก นอกจากประชาชนจะได้รับเงินรางวัลแล้ว ยังได้รับใบประกาศเกียรติคุณจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในฐานะพลเมืองดี ด้วย 

** นอกจากนั้น ผบ.ตร.กล่าวเน้นย้ำ 3 ประเด็น เพิ่มเติมว่า

1) การส่งคลิปมาร่วมโครงการ ประชาชนสามรถใช้โทรศัพท์มือถือในการบันทึกอุบัติเหตุ หรือการกทำผิดกฎจราจรก็ได้ ไม่จำเป็นต้องเป็นกล้องหน้ารถเท่านั้น  
2) ในช่วงเทศกาลสงกรานต์นี้ จะมีแคมเปญพิเศษเพิ่มเติม ในชื่อว่า “7 วัน 7 คลิป 7 หมื่น” สำหรับให้ประชาชน  ส่งคลิปอุบัติเหตุช่วง 7 วันควบคุมเข้มข้นของเทศกาลสงกรานต์ ระหว่างวันที่ 11 ถึง 17 เมษายน 2566 มาร่วมในโครงการ และจะทำการคัดเลือกคลิปสำคัญที่เป็นพยานหลักฐานทางคดี จำนวน 7 คลิป รางวัลคลิปละ 10,000 บาท รวม 70,000 บาท 
3) เน้นย้ำให้ประชาชนปฏิบัติตามกฎหมาย โดยเฉพาะตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย.66 เป็นต้น มา ตร.           และกรมการขนส่งทางบก ได้เชื่อมโยงข้อมูลทางอิเล็กทรอนิกส์ระหว่างกัน เพื่อบังคับใช้มาตรการชะลอการ ออกป้ายภาษี ตามที่กำหนดไว้ในมาตรา 141/1 พ.ร.บ.จราจรทางบก พ.ศ.2522 ซึ่งจะเป็นมาตรการเพิ่มประสิทธิภาพของกฎหมายจราจร ให้ประชาชนปฏิบัติตามกฎจราจร เพื่อลดอุบัติเหตุที่ฝ่าฝืนกฎหมาย

ทั้ง 3 ประเด็นนี้ อันจะเป็นมาตรการส่งเสริมการรณรงค์ป้องกันอุบัติเหตุ  เพื่อให้ลดสถิติได้ตามค่าเป้าหมายที่รัฐบาลกำหนดทั้งในช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2566 แลภาพรวมตลอดทั้งปีต่อไป  ** 

ทางด้าน นพ.แท้จริง ศิริพานิช เลขาธิการมูลนิธิเมาไม่ขับ กล่าวเสริมว่า โครงการนี้ เป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยในการสร้างการตระหนักรู้ในการขับขี่ปลอดภัย ให้ประชาชนปฏิบัติตามกฎหมาย ช่วยลดอุบัติเหตุทางถนนในช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่กำลังจะถึงนี้ และทางมูลนิธิได้หาทุนสนับสนุนเงินรางวัลเพิ่มเติม ตั้งแต่เดือน มี.ค. 66 เป็นต้นไปจะมีการมอบรางวัลเพิ่มจากเดือนละ 10 คลิป เป็นเดือนละ 20 คลิป เนื่องจากขณะนี้มีประชาชนส่งคลิปมาเพิ่มขึ้นจำนวนมาก โดยนอกจากคลิปกล้องหน้ารถแล้ว ก็ยังสามารถใช้โทรศัพท์มือถือบันทึกการกระทำผิดกฎจราจรส่งมาร่วมโครงการได้เช่นกัน ขอให้พี่น้องประชาชนช่วยกันเป็นอาสาตาจราจร พบเห็นการทำผิดกฎจราจร ให้รีบบันทึกภาพและส่งคลิปมาร่วมโครงการ

ผบ.ตร. พร้อมภาคีเครือข่าย มอบรางวัล พลเมืองดีส่งคลิปฝ่าฝืนกฎหมาย ตาม “โครงการอาสาตาจราจร”

วันนี้ (3 พ.ค.66) เวลา 10.00 น.ณ ห้องสารสิน สำนักงานตำรวจแห่งชาติ  พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร.  พล.ต.ท.ประจวบ  วงศ์สุข ผู้ช่วย ผบ.ตร. พล.ต.ท.วีระ จิรวีระ รอง จตช.  พร้อมด้วย  นพ.แท้จริง ศิริพานิช เลขาธิการมูลนิธิเมาไม่ขับ คุณพิศเพลิน วิริยะพันธุ์ ผู้ช่วยผู้จัดการฝ่ายสื่อสารองค์กร บริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด (มหาชน) คุณนิตยา ลีธีระกุล ผู้บริหารสถานีวิทยุพิทักษ์สันติราษฎร์ สวพ.91 และ คุณอัจฉรา  บัวสมบูรณ์ ผู้บริหารสถานีวิทยุ จส.100 ร่วมแถลงผลการมอบรางวัล และเกียรติบัตร โครงการอาสาตาจราจร โดยมอบรางวัลให้กับประชาชนเจ้าของคลิปกล้องหน้ารถที่บันทึกอุบัติเหตุทางถนนหรือการกระทำผิดกฎจราจรที่สำคัญ ประจำเดือน มี.ค. 2566 และ แคมเปญพิเศษ 7วัน 7คลิป 7หมื่น ช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2566 รวมรางวัลทั้งสิ้น 27 รางวัล เงินรางวัลสูงสุด 20,000 บาท รวมเงินรางวัลที่จะมอบในวันนี้ เป็นเงินจำนวนทั้งสิ้น 170,000 บาท โดยบริษัท วิริยะประกันภัย และ กองทุนเลขสวย (กองทุนเพื่อความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนน) กรมการขนส่งทางบก เป็นผู้สนับสนุนเงินรางวัล 
 
ผบ.ตร.กล่าวว่า การมีส่วนร่วมของภาคประชาชนกับส่วนราชการเป็นหัวใจของการทำงานเพื่อสร้างความยั่งยืนในการแก้ไขปัญหาสังคม รวมทั้งปัญหาการจราจรด้วย ประชาชนสามารถช่วยกันสร้างความสะดวก และปลอดภัยทางถนน โดยร่วมกันเป็นหูเป็นตา สอดส่องพฤติกรรมการใช้รถใช้ถนนที่ฝ่าฝืนกฎจราจร ก่อให้เกิดปัญหาสำหรับผู้ร่วมทางทั้งด้านอุบัติเหตุและความสะดวกใน เมื่อสังคมเกิดการรับรู้ว่า บนถนนอาจมีกล้องหน้ารถ หรือผู้ร่วมทางที่อาจใช้กล้องโทรศัพท์มือถือบันทึกการกระทำที่ฝ่าฝืนกฎจราจร จนถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจติดตาม  มาดำเนินคดี  จะช่วยยับยั้งปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเสี่ยงบนท้องถนน

โดยคลิปต่างๆ จะเป็นพยานหลักฐานให้เจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามผู้กระทำผิดมาดำเนินคดี ตลอดจนเป็นพยานหลักฐานในชั้นศาลเพื่อพิจารณาลงโทษผู้ทำผิด โดยประชาชนผู้ที่พบเห็นการทำผิดกฎจราจร หรืออุบัติเหตุ สามารถส่งคลิปมาในช่องทางที่กำหนด ได้แก่ เพจตำรวจทางหลวง  เพจกองบังคับการตำรวจจราจร  รวมถึงเพจเครือข่ายที่ร่วมโครงการ ทั้งเพจมูลนิธิเมาไม่ขับ สวพ.91 และ จส.100  

คลิปที่มีเนื้อหาน่าสนใจที่ได้รับการคัดเลือก นอกจากประชาชนจะได้รับเงินรางวัลแล้ว ยังได้รับใบประกาศเกียรติคุณจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในฐานะพลเมืองดี ช่วยส่งพยานหลักฐานเพื่อช่วยคนดีชี้คนผิด เป็นส่วนหนึ่งในการลดอุบัติเหตุทางถนน

ผู้ช่วย ผบ.ตร. พร้อมภาคีเครือข่าย มอบรางวัลพลเมืองดีส่งคลิปขับขี่ฝ่าฝืนกฎหมาย ตาม 'โครงการอาสาตาจราจร'

(13 ก.พ. 67) เวลา 16.30 น. พล.ต.ท.ภาคภูมิภิภัทฒ์ สัจจพันธุ์ ผู้ช่วย ผบ.ตร. พร้อมด้วย นายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย ประธานคณะกรรมการบูรณาการกู้ชีพฉุกเฉินและความปลอดภัยทางถนน , นพ.แท้จริง ศิริพานิช เลขาธิการมูลนิธิเมาไม่ขับ , คุณพงศ์พันธ์ ประภาศิริลักษณ์ รักษาการผู้จัดการฝ่ายสื่อสารองค์กร บริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด (มหาชน) , คุณนิตยา ลีธีระกุล ผู้บริหารสถานีวิทยุพิทักษ์สันติราษฎร์ สวพ.91 และ คุณอัจฉรา บัวสมบูรณ์ ผู้บริหารสถานีวิทยุ จส.100 ร่วมแถลงผลการมอบรางวัล และเกียรติบัตรโครงการอาสาตาจราจร โดยมอบรางวัลให้กับประชาชนเจ้าของคลิปกล้องหน้ารถที่บันทึกอุบัติเหตุทางถนนหรือการกระทำผิดกฎจราจรที่สำคัญ ประจำเดือนธันวาคม 2566 รวมทั้งสิ้น 20 รางวัล เงินรางวัลสูงสุด 20,000 บาท รวมเงินรางวัลที่มอบในวันนี้ เป็นเงินจำนวนทั้งสิ้น 100,000 บาท โดยบริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด (มหาชน) และกองทุนเพื่อความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนน เป็นผู้สนับสนุนเงินรางวัล

พล.ต.ท.ภาคภูมิภิภัทฒ์ สัจจพันธุ์ ผู้ช่วย ผบ.ตร. กล่าวว่า นับแต่เริ่มโครงการมาจนถึงปัจจุบัน สังคมมีความตื่นตัว มีคลิปการกระทำผิดกฎจราจรจากภาคประชาชนส่งมาให้คณะทำงานพิจารณาเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ข้อมูลเบาะแสเหล่านี้แสดงถึงความสนใจ ใส่ใจกับปัญหาการจราจร และจะเป็นการขับเคลื่อนที่สำคัญในการแก้ไขปัญหาการจราจร เพื่อสร้างความปลอดภัยทางถนนให้กับผู้ใช้ทาง สำหรับผู้กระทำผิดที่ถูกบันทึกคลิปวิดีโอเจ้าหน้าที่ตำรวจจะนำไปตรวจสอบและติดตามมาดำเนินคดี โครงการนี้มุ่งหวังให้ผู้ขับขี่ยับยั้งชั่งใจในการกระทำผิด เพื่อมุ่งปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการขับขี่ที่สร้างความเดือดร้อนให้กับผู้อื่น สำหรับผู้ที่ต้องการเข้าร่วมกิจกรรม สามารถส่งคลิปการกระทำผิดกฎจราจรมายังช่องทางที่หลากหลาย ได้แก่ เพจอาสาตาจราจร เพจตำรวจทางหลวง เพจกองบังคับการตำรวจจราจร รวมถึงเพจเครือข่ายที่ร่วมโครงการ ทั้งเพจมูลนิธิเมาไม่ขับ สวพ.91 และ จส.100 คลิปที่มีเนื้อหาน่าสนใจผ่านการคัดเลือก นอกจากได้รับเงินรางวัลแล้ว ยังได้รับใบประกาศเกียรติคุณจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในฐานะพลเมืองดี ช่วยส่งพยานหลักฐานเพื่อช่วยคนดีชี้คนผิด เป็นส่วนหนึ่งในการลดอุบัติเหตุทางถนน 

ทางด้าน นพ.แท้จริง ศิริพานิช เลขาธิการมูลนิธิเมาไม่ขับ กล่าวว่า โครงการนี้เป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยในการสร้างการตระหนักรู้ในการขับขี่ปลอดภัย ให้ประชาชนปฏิบัติตามกฎจราจร การมีส่วนร่วมดังกล่าวเป็นการสร้างมาตรฐานทางสังคมให้เกิดความยับยั้งชั่งใจในการกระทำผิด

ในการแถลงข่าว สำนักงานตำรวจแห่งชาติฝากย้ำเตือนไปยังผู้ขับขี่รถทุกคน สำหรับรถทุกชนิด ต้องได้รับใบอนุญาตขับรถตามกฎหมาย เนื่องจากการวิเคราะห์ข้อมูลจากฐานข้อมูลอุบัติเหตุสำนักงานตำรวจแห่งชาติ(PRS) พบว่าในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2567 (29 ธ.ค.66 – 4 ม.ค.67) มีผู้ขับขี่ที่ประสบอุบัติเหตุสูงถึง 78 % ที่ไม่มีใบอนุญาตขับรถ อาจจะเป็นปัจจัยสำคัญส่วนหนึ่งที่ส่งผลต่อการเกิดอุบัติเหตุทางถนน เนื่องจากการได้รับใบอนุญาตขับรถถือเป็นมาตรฐานที่แสดงว่าผู้ขับขี่มีความรู้ด้านกฎหมายจราจร และกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้องกับการใช้รถใช้ทาง รวมถึงทักษะในการขับขี่รถอย่างปลอดภัย ตลอดช่วงที่ผ่านมา สำนักงานตำรวจแห่งชาติได้กวดขันดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดในข้อหาขับรถโดยไม่มีใบอนุญาต และไม่พกพาใบอนุญาตมาอย่างต่อเนื่อง แต่ยังมีผู้ฝ่าฝืนอยู่ จึงขอรณรงค์ประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนทุกคนเข้ารับการทดสอบ จนได้รับใบอนุญาตขับรถก่อนขับรถในทาง สำหรับผู้กระทำผิดฐานขับรถโดยไม่มีใบอนุญาตนั้นมีโทษสูงสุดจำคุกไม่เกิน 1 เดือน 

สำนักงานตำรวจแห่งชาติพร้อมภาคีเครือข่าย มอบรางวัล พลเมืองดีส่งคลิปขับขี่ฝ่าฝืนกฎหมายตาม “โครงการอาสาตาจราจร”

วันนี้ (1มี.ค. 67) เวลา 14.00 น. ณ ห้องสารสิน สำนักงานตำรวจแห่งชาติ  พล.ต.ท.นิธิธร จินตกานนท์ ผู้บัญชาการ ประจำ สำนักงานผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พร้อมด้วย นพ.แท้จริง ศิริพานิช เลขาธิการมูลนิธิเมาไม่ขับ  คุณพิศเพลิน วิริยะพันธุ์ ผู้ช่วยผู้จัดการฝ่ายสื่อสารองค์กร บริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด (มหาชน) คุณนิตยา ลีธีระกุล ผู้บริหารสถานีวิทยุพิทักษ์สันติราษฎร์ สวพ.91 และ คุณอัจฉรา  บัวสมบูรณ์ ผู้บริหารสถานีวิทยุ จส.100 ร่วมแถลงผลการมอบรางวัล และเกียรติบัตรโครงการอาสาตาจราจร โดยมอบรางวัลให้กับประชาชนเจ้าของคลิปกล้องหน้ารถที่บันทึกอุบัติเหตุทางถนนหรือการกระทำผิดกฎจราจรที่สำคัญ ประจำเดือน ม.ค.2567 รวมรางวัลทั้งสิ้น20 รางวัล เงินรางวัลสูงสุด 20,000 บาท รวมเงินรางวัลที่จะมอบในวันนี้ เป็นเงินจำนวนทั้งสิ้น 100,000 บาทโดยบริษัท วิริยะประกันภัย และกองทุนเพื่อความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนน เป็นผู้สนับสนุนเงินรางวัล

พล.ต.ท.นิธิธรฯ กล่าวว่า นับแต่เริ่มโครงการมาจนถึงปัจจุบัน สังคมมีความตื่นตัว มีคลิปการกระทำผิดกฎจราจรจากภาคประชาชนส่งมาให้คณะทำงานพิจารณาเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ข้อมูลเบาะแสเหล่านี้ แสดงถึงความสนใจ ใส่ใจกับปัญหาการจราจร และจะเป็นการขับเคลื่อนที่สำคัญในการแก้ไขปัญหาการจราจร เพื่อสร้างความปลอดภัยทางถนนให้กับผู้ใช้ทาง  สำหรับผู้กระทำผิดที่ถูกบันทึกคลิปวิดีโอเจ้าหน้าที่ตำรวจจะนำไปตรวจสอบและติดตามมาดำเนินคดี  โครงการนี้มุ่งหวังให้ผู้ขับขี่ ยับยั้งชั่งใจในการกระทำผิด เพื่อมุ่งปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการขับขี่ที่สร้างความเดือดร้อนให้กับผู้อื่น  สำหรับผู้ที่ต้องการเข้าร่วมกิจกรรม สามารถส่งคลิปการกระทำผิดกฎจราจรมายังช่องทางที่หลากหลาย ได้แก่ เพจอาสาตาจราจร เพจตำรวจทางหลวง  เพจกองบังคับการตำรวจจราจร  รวมถึงเพจเครือข่ายที่ร่วมโครงการ ทั้งเพจมูลนิธิเมาไม่ขับ สวพ.91 และ จส.100  คลิปที่มีเนื้อหาน่าสนใจผ่านการคัดเลือก นอกจากได้รับเงินรางวัลแล้ว ยังได้รับใบประกาศเกียรติคุณจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในฐานะพลเมืองดี ช่วยส่งพยานหลักฐานเพื่อช่วยคนดีชี้คนผิด เป็นส่วนหนึ่งในการลดอุบัติเหตุทางถนน 

ทางด้าน นพ.แท้จริง  ศิริพานิช เลขาธิการมูลนิธิเมาไม่ขับ  กล่าวเสริมว่า โครงการนี้ เป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยในการสร้างการตระหนักรู้ในการขับขี่ปลอดภัย ให้ประชาชนปฏิบัติตามกฎจราจร การมีส่วนร่วมดังกล่าวเป็นการสร้างมาตรฐานทางสังคมให้เกิดความยับยั้งชั่งใจในการกระทำผิด สำนักงานตำรวจแห่งชาติ แจ้งประชาสัมพันธ์เพิ่มเติม เรื่องใบสั่งจราจร ตามกฎหมายใหม่ เมื่อทำผิดกฎจราจรแล้วได้รับใบสั่งหากไม่ชำระตามเวลาที่กำหนด จะต้องถูกฟ้องต่อศาลทุกราย ตามกฎหมายว่าด้วยการปรับเป็นพินัย ขั้นตอนหลังจากได้รับใบสั่งจะมีกำหนดเวลาให้ชำระค่าปรับระบุไว้ในใบสั่ง หากพ้นกำหนดเวลาเจ้าหน้าที่จะส่งหนังสือเตือนให้ไปชำระตามเวลาที่กำหนดอีก 1 ครั้ง ถ้ายังไม่ไปชำระอีก เจ้าหน้าที่จราจรจะสรุปข้อเท็จจริงเป็นสำนวนส่งไปยังพนักงานอัยการเพื่อส่งฟ้องศาลทุกราย โดยเริ่มมีผลกับใบสั่งที่ออกตั้งแต่ 25 ต.ค.2565 เป็นต้นมา 


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top