Thursday, 15 May 2025
โครงการฝึกอบรมครูฝึก

'โครงการฝึกอบรมครูฝึก (ครู ก.)' สำหรับการฝึกทักษะยิงปืนให้แก่ข้าราชการตำรวจ ผู้ปฏิบัติหน้าที่งานป้องกันปราบปราม สืบสวน และ จราจร ใน 'สถานีตำรวจ'

เมื่อวันที่ 23 ก.พ. 66 ที่สนามยิงปืน ศูนย์ฝึกอบรมยุทธวิธีตำรวจกลาง อ.หนองสาหร่าย จ.นครราชสีมา พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. สั่งการให้ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล รอง ผบ.ตร. เป็นประธานในพิธีเปิด “โครงการฝึกอบรมครูฝึก (ครู ก.) สำหรับการฝึกทักษะยิงปืนให้แก่ข้าราชการตำรวจ ผู้ปฏิบัติหน้าที่งานป้องกันปราบปราม สืบสวน และ จราจร ในสถานีตำรวจ”

พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ กล่าวว่า สืบเนื่องจากนโยบายของทางพล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร.ที่ให้ ความสำคัญต่อการพัฒนาทักษะ ศักยภาพของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ตลอดจนการได้รับการฝึกทบทวนการใช้อาวุธปืนประจำกาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ต้องปฏิบัติหน้าที่ในสถานีตำรวจ สายงานป้องกันปราบปราม  สืบสวน และจราจร ซึ่งล้วนแล้วแต่มีภารกิจหน้าที่ที่จะต้องเข้าระงับยับยั้งเหตุซึ่งหน้าต่างๆ รวมถึงการปราบปราม และสืบสวนจับกุมผู้กระทำความผิดในเขตพื้นที่รับผิดชอบ ดังนั้น เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเกิดความชำนาญในการใช้อาวุธปืนประจำกาย สามารถดูแลความสงบเรียบร้อย และรักษาความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินให้แก่ประชาชนได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงเกิดความปลอดภัยต่อตัวเจ้าหน้าที่ตำรวจเอง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ จึงได้จัดทำโครงการดังกล่าวขึ้น

โดยโครงการดังกล่าวจะมีการฝึกอบรมครูฝึกทั้งหมด จะประกอบด้วยกัน 3 ระยะ เรียกว่า ครู ก. , ครู ข. และ ครู ค. โดยครู ก คัดเลือกจากหน่วยระดับ กองบัญชาการ ประกอบด้วย บช.น. และ ภ.1-9 หน่วยละ 30 นาย รวมจำนวน 300 นาย,ครู ข คัดเลือกจากหน่วยระดับ กองบังคับการ และ ตำรวจภูธรจังหวัด ทุกจังหวัด  ทั่วประเทศ หน่วยละ 30 นาย รวมจำนวน 2,550 นาย และครู ค คัดเลือกจากสถานีตำรวจทั่วประเทศ 1,484 สถานีๆ ละ 2 นาย รวมจำนวน 2,968 นาย ซึ่งการฝึกอบรมในครั้งนี้ มีระยะเวลา 3 วัน จะเป็นการฝึกให้กับ ครู ก. ก่อน จากนั้น ครู ก. จะนำความรู้และทักษะไปขยายผลถ่ายทอดให้กับ ครู ข. และ ครู ค. ตามลำดับ ทั้งนี้หลังจากอบรมครูฝึกทั้ง 3 ระยะเสร็จสิ้น และนำไปฝึกอบรมให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจในสถานีตำรวจแล้ว จะเริ่มทำการฝึกทักษะการยิงปืนให้กับตำรวจทั่วประเทศได้พร้อมกัน ในช่วงเดือน พฤษภาคม ที่จะถึงนี้


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top