Thursday, 9 May 2024
แอนนี่บรู๊ค

ชาวเน็ตสงสาร ‘ฟิล์ม รัฐภูมิ’ ซัด ‘แอนนี่ บรู๊ค’ ตีหน้าเศร้าเล่าความลำบาก ทั้งที่ในอดีตเคยทำชีวิต ‘ผู้ชายคนหนึ่ง’ พังในพริบตา

(13 พ.ค. 66) จากกรณีที่ ‘แอนนี่ บรู๊ค’ ได้ไปออกรายการโต๊ะหนูแหม่ม กับพิธีกร ‘หนูแหม่ม สุริวิภา’ โดยเนื้อหาการให้สัมภาษณ์ เป็นการแชร์ประสบการณ์ชีวิต ความเป็นซิงเกิลมัม หรือแม่เลี้ยงเดี่ยว ที่ต้องมีความแข็งแกร่ง และทำงานหนัก เพื่อหาเงินเลี้ยงลูก พร้อมบอกเล่าถึงความลำบากว่า กว่าจะมีวันนี้ ต้องกินน้ำก๊อกสู้ชีวิตต่างแดน และขายเกมส์ลูกเก็บ เพื่อเงินไว้ให้ลูกได้เรียน

แต่ทว่า เมื่อสัมภาษณ์นี้ถูกเผยแพร่ออกไป ปรากฏว่าเกิดกระแสตีกลับ โดยมีชาวเน็ตจำนวนมาก ออกมาคอมเมนท์ไปในทิศทางเดียวกันว่า “การกระทำของแอนนี่ บรู๊ค ในอดีตได้ทำลายชีวิตผู้ชายคนหนึ่งที่กำลังมีอนาคตสดใส กลับต้องพังทลายลงในพริบตา”

สิ่งที่ชาวเน็ตได้ออกมาคอมเมนท์นั้น ต้องย้อนเหตุการณ์กลับไปเมื่อ 10 กว่าปีก่อน ซึ่งในขณะนั้น แอนนี่ บรู๊ค ได้เกิดตั้งท้องและให้กำเนิดลูกชาย ซึ่งก็คือ น้องฑีฆายุ โดยแอนนี่ ได้อ้างว่า ‘ฟิล์ม รัฐภูมิ โตคงทรัพย์’ เป็นพ่อของเด็ก

พลันที่ แอนนี่ บรู๊ค ออกมาให้ข่าวถึงคนที่เป็นพ่อของเด็ก ทำให้อนาคตของฟิล์ม ซึ่งเป็นดารานักร้องมากความสามารถและกำลังโด่งดังสุดขีด ต้องดับวูบลงทันที

แม้เหตุการณ์จะผ่านมานานกว่า 10 ปีแล้ว แต่แฟนคลับและคนที่เห็นใจฟิล์มยังจดจำได้ดี เพราะเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้องนัก ที่ผู้ชายคนหนึ่งต้องมาเผชิญชะตากรรมและไม่ได้รับความเป็นธรรม ด้วยเหตุว่า แอนนี่ บรู๊ค ไม่ยอมตรวจดีเอ็นเอ เพื่อพิสูจน์ความจริงว่า ฟิล์มเป็นพ่อของเด็กจริงหรือไม่ แต่กลับปล่อยให้สังคมคาใจ

ขณะเดียวกัน ยังได้เรียกร้องและรับค่าเลี้ยงดูลูกมานานหลายปี ถึงแม้ตัวฟิล์มเองจะมั่นใจว่าตนเองไม่ใช่พ่อของเด็ก แต่ก็ยินดีส่งเสียเลี้ยงดู ท่ามกลางชะตาชีวิตที่ยากลำบาก เพราะงานในวงการบันเทิงหดหายไปอย่างมากก็ตาม

แต่สุดท้าย ความจริงก็ปรากฏ เมื่อ แอนนี่ บรู๊ค ออกมาสารภาพเองว่า ฟิล์ม ไม่ใช่พ่อของน้องฑีฆายุ แต่ก็ปล่อยให้เวลาเนิ่นนานมาจนลูกชายอายุ 7-8 ขวบ

แน่นอนว่า เมื่อแอนนี่ บรู๊ค ยอมเปิดเผยความจริง เรื่องนี้ได้สร้างความไม่พอใจให้กับแฟนคลับของฟิล์มอย่างมาก ถึงขั้นออกมาเรียกร้องความยุติธรรมผ่านทางโซเชียลมีเดีย ด้วยการติดแฮชแท็ก #ขอความเป็นธรรมให้ฟิล์มรัฐภูมิ พร้อมกับแนะนำให้ฟิล์ม ฟ้องเรียกร้องค่าเลี้ยงดูคืน จนกลายเป็นกระแสโด่งดังเมื่อราว 5 ปีก่อน

แต่อย่างไรก็ตาม กลับเป็นตัว ฟิล์ม รัฐภูมิเอง ที่เป็นคนออกมายุติเรื่องนี้  และวอนแฟนคลับให้หยุดรื้อฟื้นถึงเรื่องเก่าที่เกิดขึ้น เพราะไม่อยากให้ส่งผลกระทบต่อน้องฑีฆายุ ส่วนค่าเลี้ยงดูนั้นไม่ขอเรียกร้องคืน เนื่องจากตนเองก็มีส่วนทำให้เรื่องนี้เกิดขึ้นเช่นกัน

ทั้งนี้ หากใครที่ติดตามเรื่องนี้มาโดยตลอด จะเห็นว่า ฟิล์ม รัฐภูมิ ออกมาปฏิเสธตั้งแต่วันแรก เพราะมั่นใจในตัวเองว่าไม่ใช่พ่อของเด็กแน่นอน พร้อมกับขอตรวจดีเอ็นเอเพื่อพิสูจน์ความชัดเจน แต่ก็ถูกแอนนี่ บรู๊ค ปฏิเสธ เมื่อเป็นเช่นนั้น ฟิล์ม ซึ่งมีความเป็นลูกผู้ชายมากพอ จึงยินดีส่งเสียค่าเลี้ยงดูตลอดมา และพยายามไม่ให้เรื่องที่เกิดขึ้นนั้นส่งผลกระทบกับเด็ก แต่สุดท้ายความจริงก็คือความจริง.....

และแม้ว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจะส่งผลร้ายหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นชื่อเสียง หน้าที่การงาน และความทุกข์ใจของคนรอบข้าง แต่ก็ได้พิสูจน์ให้เห็นถึงความเป็นลูกผู้ชายของคนที่ชื่อ ‘ฟิล์ม รัฐภูมิ โตคงทรัพย์’ ได้เป็นอย่างดี...

‘แอนนี่ บรู๊ค’ อัปเดตชีวิตแม่ค้าออนไลน์ หลังปัญหาธุรกิจรุมเร้า พ้อ!! “เพราะลูกชาย ถึงทำให้อดทนได้ขนาดนี้”

(5 ก.ค. 66) ‘แอนนี่ บรู๊ค’ นักแสดงหญิง ที่ยังทำธุรกิจทางด้านออนไลน์ด้วยนั้น ได้โพสต์ข้อความอัปเดตเรื่องราวชีวิต บนเฟซบุ๊ก โดยระบุว่า

“ความไว้เนื้อเชื่อใจในการทำมาค้าขายเป็นสิ่งสำคัญ ปีที่แล้วตั้งแต่ต้นปีหนักหนามาก เป็นคนมีปัญหาแล้วไม่ค่อยพูด ชอบจัดการปัญหาคนเดียวเงียบๆ

ปีที่แล้วทั้ง supplier ทั้งบริษัทฟูฟิวส์เมนท์ (โกดังแพ็คของ) และคนใกล้ตัว ต่างเรียงหน้ากันเข้ามาสร้างปัญหาในธุรกิจ อาจจะเพราะด้วยเราไม่รู้เรื่องจึงโดนหนักหน่อย โชคดีที่เป็นคนที่ไม่ดื้อ เมื่อรู้ว่าไม่ไหวก็คือพอ และสะสางแก้ปัญหาทั้งหมด ไม่ให้ใครมาว่าเราได้ทีหลัง โลกออนไลน์มันรวดเร็วถ้าเราทำเสียลูกค้า ทุกอย่างก็จะไม่เกิดความไว้เนื้อเชื่อใจ ต่อไปเขาก็ซื้อแค่ครั้งเดียว

ปีนี้ ตั้งแต่ต้นปีใช้ตัวเองเป็นต้นทุน ดูแลรักษารูปร่างหน้าตา จึงมีงานต่องาน ตั้งใจทำงานให้กับเจ้าของแบรนด์ทุกแบรนด์ 

ฟื้นฟูจิตใจอยู่นาน ผิดหวังเล็กน้อยกับผู้คน แต่ไม่คิดล้มเลิก ยังคงขายของเป็นปกติแต่ในแพลตฟอร์มอื่น เพียงแค่ไม่ได้ Live สดเท่านั้น ขอบคุณที่ยังติดตามถามไถ่นะคะ ไม่ได้หายไปไหน วันไหนฟ้าสดใส เราก็คงจะได้หัวเราะเอิ๊กอ๊าก หน้า Live สดกันอีกที จะว่าไปเวลา set up หน้า Live สดคนเดียวนี่คือเหนื่อยมาก ติดตั้งเองคนเดียวและเก็บคนเดียวทุกอย่างเลยปังเวอร์ เก่งกว่าแม่ก็แค่ซุปเปอร์แมนละหล่ะ”

ภายหลังจากที่โพสต์ดังกล่าวเผยแพร่ออกไป ได้มีผู้คนเข้าไปให้กำลังใจจำนวนมาก ขณะที่ ทนายเจมส์ ก็ได้เข้าไปคอมเมนต์ด้วยว่า “สุดยอดครับ” ซึ่งแอนนี่ก็ได้ตอบว่า “เพราะ ดช.ฑี นั่นล่ะค่ะ ถึงทำให้อดทนได้ขนาดนี้”

‘แอนนี่ บรู๊ค’ โพสต์ร่ายยาวถึงความรักของ ‘พ่อเลี้ยง’ ที่มีต่อตนเอง แม้วันนี้ไม่อยู่แล้ว แต่เป็นคนที่เปลี่ยนนิยามคำนี้ในใจไปตลอดกาล

เมื่อไม่นานมานี้ นับเป็นคุณแม่เลี้ยงเดี่ยวสุดสตรอง สำหรับนักแสดงสาวอย่าง ‘แอนนี่ บรู๊ค’ โดยล่าสุดได้โพสต์ขอความร่ายยาวถึงคุณพ่อผู้ล่วงลับ ซึ่งทุกอักษรเจ้าตัวเผยว่าได้กลั่นกรองจากใจและความทรงจำที่แสนงดงาม แม้ว่าอีกฝ่ายเป็นแค่พ่อเลี้ยง แต่เรื่องราวดีๆ ระหว่างกันมีมากมายจนอยากนำมาเล่าให้ฟัง

“ตอน 7 ขวบ แอนมีพ่อเลี้ยงค่ะ พ่อเลี้ยงเป็นคนบ้านเดียวกับแม่ ต่างคนต่างมาทำงานที่โรงงานน้ำส้มสายชูและไม่รู้จักกันมาก่อน พ่อบอกแม่ว่าหากอยู่ กทม. แอนจะไม่ได้เรียนหนังสือ 2 ท่านจึงตัดสินใจกลับบ้านนอก ทำกระท่อมมุงหญ้าคา คนบ้านเราใครจะทำบ้านเขาจะไปตัดไม้ไผ่ในป่า แล้วช่วยกันทำบ้าน จักหญ้าคามุงหลังคา 2-3 วันเสร็จได้กระท่อมเล็กๆ 1 หลัง

พอจบป.6 แม่จะส่งแอนเข้า กทม. ทำงานรับจ้าง แต่ครูที่ รร. เข้ามาขอแม่ว่าขอให้ลูกชิงทุนก่อนเพราะเรียนดี ถ้าลูกสอบได้ ขอให้เด็กได้เรียน ได้ต่อมัธยมที่เชียงใหม่ค่ะ รร.เจ้าฟ้าหญิงอุบลรัตน์ (หรือเซนต์ปอลเดอร์ชาร์ตเป็น รร. หญิงล้วนประจำ) ต่อมาแอนได้สอบทุนอีกรอบเข้ามาเรียน กทม. เจอต้มยำกุ้ง เขาไม่จ้างเด็กจบใหม่...สิ่งที่เพื่อนๆ ทำคือแยกย้าย ส่วนแอนเลือกอยู่ต่อในกทม.

นั่งรถเมล์ไปสยามทุกวัน เดินตั้งแต่ 10 โมงเช้ายัน 1 ทุ่ม จึงกลับที่พัก จนวันนึงได้เจอพี่คนสวยพาไปเดินแบบ เข้าโมเดลลิ่ง เงินก้อนแรกจากมอเตอร์โชว์ 10 วัน 45,000 พ่อเอ่ยปากขอ บอกว่าขอบ้านให้แม่นะ แม่ต้องมีบ้าน  เงินก้อนนี้สร้างบ้านหลังเล็กๆ นี้ทันที จักรยานให้พ่อคันนึง เตาเผาถ่านให้พ่อ ทองให้แม่ใส่ หลังสร้างบ้านได้ 6-7 ปี พ่อได้จากไปแบบกะทันหัน ติดเชื้อในกระแสเลือด (คาดว่าดื่มเหล้าต้มผิดกฎหมายทุกวันมันสะสม)

ตั้งแต่มีพ่อเลี้ยงก็ไม่เคยรักพ่อเลย เพราะถูกปลูกฝังจากละครและข่าวว่าพ่อเลี้ยงทำร้ายลูก ไม่ชอบหน้าพ่อ แต่ก็ค่อยๆ คลายเพราะความรักที่พ่อมีให้ ตั้งแต่ 7 ขวบมันมีแต่มากขึ้น พอแม่ตีพ่อจะห้ามเสมอ พ่อเป็นคนไม่พูด พ่อเป็นคนเงียบๆ บุญแอนยังมี ก่อนพ่อเสีย 1 วัน พอแอนรู้ว่าพ่อป่วย เย็นนั้นไม่รู้คิดยังไงโทรหาพ่อ บอกพ่อว่า "หนูรักพ่อนะขอโทษที่เคยแสดงออกไม่ดี พ่อให้อภัยหนูนะ" เสียงปลายสาย คือเสียงสะอื้น พ่อร้องไห้ด้วยความยินดีทั้งๆ ที่ป่วย เลยบอกพ่อว่าพรุ่งนี้เจอกันนะ หนูกำลังไปหาพ่อนะ ตี 5 ของอีกวัน อาโทรมาบอกว่า พ่อเสียแล้วนะ

งานศพพ่อ คนมาล้นไปถึงถนนใหญ่ เราเพิ่งรู้ว่าพ่อเป็นคนที่สร้างคุณงามความดี เป็นที่รักของคนทุกหมู่บ้าน ในงานเก้าอี้ไม่พอเขาก็นั่งพื้นหญ้าเพื่อมางานศพพ่อ คนที่โรงงานปูนที่พ่อไปทำงานต่างบอกว่า พ่อชอบไปคุยให้คนที่โรงงานฟัง ว่าลูกสาวเก่ง ลูกสาวเป็นเด็กดี ลูกสาวเป็นนักเรียนทุน ลูกสาวสร้างบ้านให้ เป็นกลากเกลื้อนหรือไม่สบายนี่หายเพราะลูกสาวนะ พ่อพูดเสมอกับทุกคนว่าแอนคือลูกสาวพ่อ และพ่อรักแอนแค่ไหน

พ่อจากไปตอนพ่ออายุได้ 42 เป็นการจากลาที่อย่างน้อยๆ ก็ได้พูดและกล้าพูดคำว่ารัก ครั้งแรกในชีวิต เหมือนพ่อรอฟังแอนอยู่ มันเปลี่ยนนิยามคำว่า ‘พ่อเลี้ยง’ ในใจไปเลย "พ่อเลี้ยง ที่เลี้ยงมาตั้งแต่เล็กจนโต พ่อที่เลี้ยงด้วยคำสุภาพอ่อนโยนเสมอ ปกป้องจากไม้เรียวของแม่ พาไปโรงเรียน พาไปหาหมอ อุ้มขึ้นฆ่าเวลาดูหนังกลางแปลงขากลับบ้าน สอนทักษะชาวทุ่ง การทำมาหากินหาปูหาปลา พาไปสอบชิงทุนในเมือง ป่วยก็อุ้มหาหมอ พ่อเลี้ยงที่แปลว่าเลี้ยงหนูมาจริงๆ ค่ะ  #รักและคิดถึงครบรอบวันจากไปตลอดกาล”

‘แอนนี่ บรู๊ค’ ชนะคดีฟ้องเพจดัง สร้างคอนเทนต์ขยะ ทำลูกชายเสียหาย วอน!! เลิกเอาอดีตมาบูลลี่-อย่ายุ่งกับชีวิตเด็ก ย้ำ เรื่องผู้ใหญ่มันผ่านมาแล้ว

(15 มี.ค.67) หลังจากที่เคยขึ้นศาลไต่สวนมูลฟ้องคดีหมิ่นประมาท เจ้าของเพจชื่อดัง ที่โพสต์รูปลูกชาย น้องฑีฆายุ วัย 13 ปี มีเกรียนคีย์บอร์ดพาดพิงถึงลูกในแง่ไม่ดี ทั้งที่ลูกยังเป็นเยาวชน ทำให้เกิดความเสียหายทั้งชื่อเสียงและจิตใจ ตั้งแต่เดือน ม.ค. ปีที่ผ่านมา

ล่าสุดวันนี้ แอนนี่ บรู๊ค ได้เผยผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ระบุว่าตนชนะคดีเรียบร้อยแล้ว คู่กรณีโดนโทษอาญา 2 ปี พร้อมค่าปรับ อัดเลิกเถอะ เอาอดีตคนอื่นมาบูลลี่ ส่วนเพจอื่นที่พาดพิงถึงลูกอย่าคิดว่าจะรอด

“ชนะแล้วนะคะ คดีที่แอนฟ้องเพจที่สร้างคอนเทนต์ขยะเกี่ยวกับแอนและลูก โดนโทษอาญาไป 2 ปีและค่าปรับ เลิกเถอะนะคะเอาอดีตคนอื่นมาบูลลี่โดยไม่สนปัจจุบันว่าเขาทำดีแค่ไหนมาไกลอย่างไรแล้ว

🙏ขอบคุณพี่เจมส์ ทนายเจมส์ LK ที่ทำให้เห็นว่าวิชาชีพทนายไม่ใช่มาจากคำบอกเล่า แต่มาจากความสามารถโดยแท้

📌ส่วนคนคอมเมนต์รอหน่อย ทยอยอยู่ ส่วนเพจอื่นตอนนี้ที่ทักไปแล้วบอกให้ลบแล้วยังไม่ยอมลบ ก็อย่าคิดว่าจะรอด ดิฉันว่างค่ะ ถ้าคุณยังไม่หยุดยุ่งกับลูกดิฉัน”

บอกแล้วว่าไม่ไกล่เกลี่ยคือไม่ไกล่เกลี่ยไม่รับเงินใต้โต๊ะใด ๆ ทั้งสิ้น คำไหนคำนั้นเลิกยุ่งกับชีวิตชาวบ้านเขาได้แล้วพวกที่ชอบความสนุกในการพิมพ์ เพราะบางคนเขาไม่ได้ให้อภัยคุณ

คนเราต้องหัดมองปัจจุบันของคนอื่นเขาบ้างว่าเขาเปลี่ยนแปลงตัวเองยังไง ไม่ใช่เอาแต่เรื่องอดีตมาพูดอยู่ตลอดเวลา แม่เลี้ยงเดี่ยวบางคน ตอนนี้มีสามีไปแล้วเป็นร้อย ดิฉันยังไม่เคยทำอะไรผิดพลาดอีกเลย ก็ต้องรู้จักดูกันบ้าง ไม่ใช่เอาความสะใจมาบูลลี่เรื่องอดีตคนอื่นกับเด็กก็ไม่เว้นมันก็ควรโดน

สำคัญคือลูกดิฉันไม่ได้ผิดอะไร เด็กไม่ได้ทำผิดอะไรเลย อย่ายุ่งกับชีวิตของเด็ก เรื่องผู้ใหญ่มันผ่านมาแล้ว”


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top