Saturday, 4 May 2024
แรมโบ้

"แรมโบ้" อัด "กิตติรัตน์" ทำไมลืมง่ายน้ำท่วมหนักปี 54 แก้ไขปัญหาไม่ได้ ยังจะอวยยิ่งลักษณ์อีก อย่าว่าแต่ปัญหาสำคัญของประเทศ ต่อให้แก้ปัญหาเล็กน้อยก็ไม่สามารถทำได้  มุ่งทำอย่างเดียวคือช่วยพี่ชายกลับบ้าน

นายเสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง อดีตรองนายกรัฐมนตรี ในรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร โพสต์รูปภาพนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร พร้อมระบุข้อความว่า ผมมั่นใจว่า ถ้าคุณยิ่งลักษณ์ยังเป็นนายกฯย่อมไม่เกิดน้ำท่วมทั้งรุนแรง ยาวนานในหลายพื้นที่แบบนี้ เพราะ "ระบบบริหารจัดการน้ำแบบบูรณาการ" ได้ถูกดำเนินการไว้แล้ว" โดยระบุว่านายกิตติรัตน์คงความจำเสื่อมไปแล้วจนจำไม่ได้ว่าน้ำท่วมใหญ่ในปี 2554 นั้นเกิดขึ้นในสมัยนางสาวยิ่งลักษณ์เป็นนายกฯ และนายกิตติรัตน์ เป็นรัฐมนตรี ซึ่งน้ำท่วมในขณะนั้นมีความรุนแรงมากกว่าน้ำท่วมในขณะนี้ และนางสาวยิ่งลักษณ์ก็ไม่สามารถที่จะบริหารจัดการได้

นายเสกสกลยังมองว่าอย่าว่าแต่แก้ไขปัญหาน้ำท่วมของประเทศ  ปัญหาอื่นๆที่เกิดขึ้นกับประชาชนนั้น นางสาวยิ่งลักษณ์ ก็ยังไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้ มีแต่จะสร้างปัญหาให้เกิดขึ้น ปล่อยให้รัฐบาลนายกฯประยุทธ์เข้ามาแก้ไขปัญหาให้  ดังนั้นก่อนที่นายกิตติรัตน์จะโพสต์ข้อความใดๆนั้นขอให้พิจารณาให้ดีก่อนว่าจะย้อนเข้าหาตัวเองหรือไม่  

พร้อมกับมองว่าแผนบริหารจัดการน้ำของรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ที่มีมูลค่าสูง 3.5 แสนล้าน ก็ถูกทักท้วงเรื่องของความไม่พร้อมของโครงการ มีปัญหาด้านความโปร่งใสหลายด้าน รวมทั้งการมีส่วนร่วมของประชาชน ที่เกิดปัญหาขัดแย้งในหลายจังหวัด

"แรมโบ้" ซัด "ปิยบุตร" โพสต์เฟซบุ๊กเข้าข่ายข่มขู่ศาลรัฐธรรมนูญ อ่านคำวินิจฉัยเคลื่อนไหวของกลุ่มม็อบคณะราษฎรหรือไม่ พร้อมแนะทำผิดต้องกล้ารับผิด หากรับกฎหมายไทยไม่ได้ ก็อย่าอยู่บนผืนแผ่นดินไทยเลยดีกว่า

นายเสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงนายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า โพสต์ข้อความในเฟซ บุ๊กให้จับตาคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ นัดอ่านคำวินิจฉัยว่าการเคลื่อนไหวของกลุ่มม็อบคณะราษฎร จะปิดประตูปฏิรูปสถาบันพระมหากษัตริย์หรือไม่ พร้อมยกวลี ปากกาอยู่ที่มัน-ประธานศาลสูงสุดสหรัฐอเมริกา เขียนคำพิพากษาจนพาประเทศสหรัฐไปสู่สงครามกลางเมือง 

โดยนายเสกสกลระบุว่าการออกมาโพสต์ของนายปิยบุตรเช่นนี้ เข้าข่ายการข่มขู่การพิจารณาของศาล และยิ่งเป็นการยุยงให้เกิดความกระด้างกระเดื่องท้าทายอำนาจตุลาการ ที่คนไทยส่วนให้ยอมรับกติกาอยู่ภายใต้กฎหมาย

นายเสกสกลยังไม่แปลกที่นายปิยบุตร ร้อนรนรีบออกมาโพสต์เฟซบุ๊กเรื่องนี้ เพราะที่ผ่านมานายปิยบุตร ก็มักจะออกมาพูดเรื่องการปฏิรูปสถาบัน ก้าวล่วง จาบจ้วงสถาบันไม่หยุด และถูกมองอยู่เบื้องหลัง เป็นอีแอบการเคลื่อนไหวของกลุ่มคณะราษฎร ม็อบสามกีบ เพราะหวังว่าจะได้ประโยชน์จากการเคลื่อนไหวของเยาวชนกลุ่มนี้ ในการคิดล้างสถาบัน ซึ่งไม่มีวันที่คนไทยส่วนใหญ่ที่จงรักภักดีจะยอมนายปิยะบุตรทำลายสถาบันอย่างเด็ดขาด พวกตนและประชาชนส่วนใหญ่จะปกป้องสถาบันด้วยชีวิต และนายกฯและรัฐบาลจะไม่ยินยอมให้แก้ไขม.112 และล้มล้างสถาบันอย่างแน่นอน

กระบี่ - 2 สามี-ภรรยา! บุกร้อง "แรมโบ้" ทวงคืน ที่ดินบรรพบุรุษหลังถูก จนท.ป่าชายเลน นำรถแบคโฮ ล้มต้นปาล์มกลางดึก ส่อพิรุธ! หลังเคยร้อง ผวจ.กระบี่ ตรวจสอบแต่เรื่องเงียบ

นายภพ สกุลสวน อายุ 55 ปี พร้อมด้วยนางสายใจ สกุลสวน อยู่บ้านเลขที่ 52/1 ม.5 ต.แหลมสัก อ.อ่าวลึก จ.กระบี่ พร้อมด้วยครอบครัว และตัวแทนสภาเกษตรกร จ.กระบี่ ได้เดินทางมาที่ศาลากลางจังหวัดกระบี่ เพื่อยื่นหนังสือขอความเป็นธรรมกรณีเจ้าหน้าที่ป่าชายเลนกระบี่ เข้ายึดพื้นที่โค่นทำลายต้นปาล์มน้ำมันในที่ดินทำกินที่สืบทอดมาจากบรรพบุรุษ นับ 100 ปี รวมเนื้อที่ 17 ไร่เศษหลังทราบว่า นายเสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เดินทางมาเปิดศูนย์ดำรงธรรมสวนหน้ารับเรื่องร้องเรียน สนับสนุนภารกิจนายกรัฐมนตรี ในการประชุม ครม.สัญจร 15-16 นี้ หลังจากที่เคยยื่นเรื่องขอความเป็นธรรม จาก ผวจ.กระบี่ ไว้แล้ว แต่เรื่องเงียบ

นายภพ และนางสายใจ สองสามีภรรยา กล่าวว่า สำหรับที่ดินแปลงนี้ เดิมเป็นที่ดินมรดก ตกทอดมาจากบรรพบุรุษ ทำกินมา 3 อายุคน รวม กว่า 100 ปี กว่าจะตกทอดมาถึงตนสองคน ครั้งแรกที่จำความได้ที่ดินแปลงนี้มีการทำนา และต่อมาปลูกปาล์มน้ำมันจนหมดอายุเก็บเกี่ยว ประมาณ 30 ปี และก็ได้โค่นทิ้ง และปลูกแทนใหม่ มีอายุ ได้ 13 ปี ก่อนที่จะถูกเจ้าหน้าที่ป่าชายเลน เข้าไปปักป้าย ยึดที่ดินและนำรถแบคโฮ ทำลายต้นปาล์ม เมื่อเวลาประมาณ ตี 3 กลางดึก เสร็จประมาณ 7 โมงเช้า ของคืนวันที่ 20 พ.ค.64 ที่ผ่าน ซึ่งตนเองมองว่าผิดวิสัยของข้าราชการ ที่เข้าทำลายผลอาสินของชาวบ้านในยามวิกาล แล้วยังข่มขู่ห้ามไม่ให้แสดงตัว จึงได้เดินทางมาร้องขอความเป็นธรรม ให้ระงับการดำเนินการและสอบสวนข้อเท็จจริง พร้อมกันนี้เตรียมรวบรวมหลักฐาน ยื่นฟ้องศาลปกครอง ม.157 ต่อไป

จากการตรวจสอบข้อมูลการถือครองที่ดินของนายภพ สกุลสวน และนางสายใจ วหุลสวน 2 สามีภรรยา เดิมเป็นของนายเฟื่อง เนื้ออ่อน เป็นตาของภรรยา ซึ่งนายเฟื่อง เนื้ออ่อน ได้ครอบครองและทำประโยซนในที่ดินดังกล่าวมาก่อน พ.ศ.2485 ซึ่งเป็นการครอบครองและทำประโยชน์มาก่อนที่จะมีประกาศของรัฐ ประกาศให้เป็นเขตป่าไม้ถาวร ประกาศเป็นเขตป่าสงวนแห่งชาติ และประกาศให้เป็นเขตป่าขายเลน นายเฟือง ได้ทำประโยชน์ในที่ดินทำกินโดยการทำนามาอย่างต่อเนื่อง

และประมาณ พ.ศ.2530 จึงเปลี่ยนลักษณะการทำประโยชน์มาเป็นสวนปาล์ม น้ำมัน และได้ปลูกปาล์มน้ำมันเป็นรายแรก ๆ ในจังหวัดกระบี่ ซึ่งผู้เสียหายได้ครอบครองและทำประโยชน์ในที่ดินต่อจากนายเฟื่องฯ และได้ชำระภาษีบำรุงท้องที่ รวมถึงได้จดทะเบียนเกษตรกร และทำกินในที่ดินตลอดมา จนถึงปัจจุบัน และไม่มีสภาพเป็นป่า นอกจากนี้ที่ดินติดกันล้อมที่ดินของผู้เสียหายมีที่อยู่อาศัยในบริเวณใกล้เคียง มีถนน และไฟฟ้า มีทะเบียนบ้าน เป็นชุมชนมีราษฎรอยู่อาศัยหลายครัวเรือนและทำกินกันมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน แต่จนท.กลับดำเนินการเฉพาะที่ดินของผู้เสียหาย

 

“แรมโบ้” อัด “อรุณี -เพื่อไทย” สมัยยิ่งลักษณ์ เป็นนายกฯ มีเรื่องทุจริตจำนำข้าวชาวนาผูกคอตาย วันๆคิดแต่ช่วยครอบครัวล้างมนทิล คนไล่เป็นล้าน มีความสุขหรือไม่ ขณะที่นายกฯประยุทธ์เข้ามาแก้ไขปัญหาให้

นายเสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงน.ส.อรุณี กาสยานนท์ รองเลขาธิการพรรคเพื่อไทย วิพากษ์วิจารณ์การทำงานนายกฯประยุทธ์ 9 ปีคนไทยค่าแรงเท่าเดิม แต่ค่าครองชีพพุ่ง 7 ปี ไม่ได้คืนความสุขให้ใครว่าในช่วงที่เกิดสถานการณ์การแพร่ระบาดเชื้อโควิด-19 ต้องยอมรับว่าทั่วโลกมีความลำบากเช่นเดียวกัน ซึ่งเรื่องนี้นางสาวอรุณี และพรรคเพื่อไทยน่าจะเข้าใจสถานการณ์ดี และที่ผ่านมานายกฯ มีความตั้งใจในการแก้ไขปัญหาให้กับประชาชน ออกมาตรการผ่านโครงการต่างๆมากมายเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้ประชาชน ซึ่งประชาชนชื่นชอบ ให้การยอมรับ ขณะเดียวสั่งการให้เตรียมของขวัญปีใหม่ให้กับประชาชนแล้ว

นายเสกสกล ยังถามกลับว่าสมัยนางสาวยิ่งลักษณ์เป็นนายกฯ คนไทย ชาวนา มีความสุข หรือลำบากหรือไม่ จากโครงการรับจำนำข้าวจนทำให้ชาวนาหลายคนผูกคอตาย ขณะนี้โครงการนี้ขาดทุน 5 แสนล้านบาท ปัจจุบันรัฐบาลยังมีภาระหนี้จากโครงการดังกล่าวที่ต้องชำระคืนให้กับธ.ก.สอีก  

นอกจากนี้นางสาวยิ่งลักษณ์ ได้แก้ไขปัญหา พัฒนาประเทศหรือไม่ เพราะเห็นทำแต่ในเรื่องของตนเอง ครอบครัวตนเอง ออกกฎหมายนิรโทษกรรมเพื่อช่วยพี่ชาย จนคนไทยทั้งประเทศออกมาขับไล่ แบบนี้หรือคือความสุขของคนไทย แต่ในขณะที่นายกฯประยุทธ์ได้เข้ามาแก้ไขปัญหาให้ พัฒนาประเทศหลายด้าน ออกมาตรการต่างๆช่วยประชาชนจนเป็นที่ชื่นชม   

“แรมโบ้-กวิน"เลขารมต.พลังงาน หารือร่วมกับประธานและกรรมการสหพันธ์การขนส่งทางบกฯ นำข้อเรียกร้องเสนอ"สุพัฒนพงษ์"รองนายกฯและรมต.พลังงาน

นายเสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยนายกวิน ทังสุพานิช เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน นายอภิชาติ ไพรรุ่งเรือง ประธานสหพันธ์การขนส่งทางบกแห่งประเทศไทย นายวุฒิพงษ์  วิศิษฏ์ศักดิ์ อุปนายกสมาคมขนส่งสินค้านำเข้าส่งออก และนายสิรภพ  พิชัยรัตนพงศ์ เลขาธิการสหพันธ์การขนส่งทางบกแห่งประเทศไทย ร่วมกันหารือถึงการแก้ไขปัญหาให้กับประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากราคาน้ำมันดีเซล ที่กระทรวงพลังงาน

โดยการหารือในวันนี้ สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายน 2564 ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี และเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ได้มีการหรือร่วมกับนายอภิชาติ ไพรรุ่งเรือง ประธานสหพันธ์การขนส่งทางบกแห่งประเทศไทยและคณะ ถึงข้อเสนอที่จะให้ตรึงราคาน้ำมันดีเซลให้อยู่ที่ 27 บาทต่อลิตร เป็นระยะเวลา 8 เดือน และผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรีและเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน รับข้อเสนอมาเพื่อจะหารือให้ภายใน 14 วัน และขอให้กลุ่มผู้ประท้วงรถบรรทุกชะลอเดินทางมาในวันที่ 1 ธันวาคม 2564 

ต่อมาผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี และเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ได้นำไปหารือกับฝ่ายนโยบายของกระทรวงพลังงาน พบว่า ปัจจุบัน สถานการณ์ราคาน้ำมันยังคงมีความผันผวนอยู่ และน้ำมันดิบได้ปรับลดราคาลงมา ซึ่งจำเป็นต้องติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด 

จากนั้นคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) มีมติได้ช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบจากราคา โดยปรับสัดส่วนการผสมน้ำมันไบโอดีเซลในน้ำมันดีเซลจากเดิมที่มี 3 ชนิด ได้แก่ B20 B10 และ B7 ให้เหลือเพียงน้ำมันดีเซล (B7) เป็นระยะเวลา 4 เดือน (ตั้งแต่ 1 ธันวาคม 2564 - 31 มีนาคม 2565) และปัจจุบันน้ำมันดีเซลได้ปรับลดลงมาอยู่ที่ราคา 28.24 บาทต่อลิตรแล้ว 

ขณะที่กลุ่มเครือข่ายสหพันธ์การขนส่งทางบกแห่งประเทศไทยได้ร้องขอให้มีการปรับลดสัดส่วนน้ำมันดีเซล จาก B7 ให้เหลือเป็น B5 และลดการเก็บภาษีสรรพสามิตลงอีก 1 บาท และทางกลุ่มฯ จะมีการประชุมสัญจรในเขตภาคอีสาน ที่จังหวัดอุดรธานีในบ่ายวันที่ 24 ธันวาคม 2564 จึงขอให้กระทรวงพลังงานช่วยให้คำตอบเพื่อจะได้นำไปชี้แจงในวันประชุมดังกล่าว

“แรมโบ้” ซัด “เลขา ครป.” ฟังไม่ครบแล้วจับมากระเดียด! นายกพูดถึงนักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง เน้น ปชช. มีรายได้ ชี้ เป็นถึงเลขาครป.น่าจะมีสมองเข้าใจเจตนานายกฯ ขออย่าเปรียบเจ้าสัว และหากว่างมากเอาเวลาไปทำประโยชน์มากกว่ามาโจมตีนายกฯ

นายเสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรีกล่าวถึงนายเมธา มาสขาว เลขาธิการคณะกรรมการรณรงค์เพื่อประชาธิปไตย (ครป.) โพสต์เฟซบุ๊กวิพากษ์วิจารณ์นายกฯ ที่กล่าวกับประชาชน จ.ยะลา แนะนำให้เลี้ยงไก่บ้านละ 2 ตัว ไม่เข้าใจปัญหาเกษตร เลี้ยงไก่เป็นร้อยตัวไม่มีวันรวย เพราะเจ้าสัวผูกขาดการเกษตร โดยนายเสกสกล กล่าวว่า การที่นายกฯส่งเสริมให้เลี้ยงไก่นั้นเป็นเจตนาที่ดีนายกฯต้องการให้ประชาชนยึดหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ตามแนวทางพ่อหลวงรัชกาลที่9 นายกฯมองการณ์ไกลอยากเห็นประชาชนรู้จักหารายได้ทำการเกษตรอย่างพอเพียงให้มีมูลค่าในแปลงเกษตรของตนเองให้มีรายได้สูงขึ้นและลดค่าใช้จ่ายในครัวเรือน

นายกเน้นการปลูกพืชผักสวนครัวเลี้ยงปลา เลี้ยงไก่ ในพื้นที่จำกัดที่มี และพูดถึงการเลี้ยงไก่จะช่วยบรรเทาความเดือดร้อนให้กับประชาชนได้บ้าง ลดรายจ่ายในครอบครัว  ซึ่งนายเมธาเป็นถึงเลขา ครป.มีความรู้ มีสมองก็น่าที่จะเข้าใจนายกฯ และก็ไม่ควรเอาเรื่องนี้ไปเปรียบเทียบกับเจ้าสัว เพราะคนละเรื่องกัน มีแต่คนไร้สมองเท่านั้นที่เอาไปผูกโยงกับนายทุนหรือเจ้าสัวได้

ส่วนการให้ความช่วยเหลือเกษตรกรและชาวนา รวมถึงประชาชนทุกกลุ่มอาชีพนั้น นายกฯและรัฐบาลมีนโยบายให้ความช่วยเหลืออย่างต่อเนื่องอยู่แล้ว  เพราะนายกฯให้ความสำคัญ และทราบดีถึงความเดือดร้อนของประชาชน

'แรมโบ้' จวก 'ฝ่ายค้าน' ตั้งใจทำสภาล่ม ขอ ประชาชนลงโทษ สมัยหน้าอย่าเลือกเข้าสภา เหตุ ทำตัวสกปรก รกรุงรัง น่าอับอายที่สุด เสียดายเงินเดือน ส.ส.ที่มาจากภาษี

นายเสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีส.ส.พรรคร่วมฝ่ายค้าน ระบุสภาฯล่ม เป็นการบ่งบอกถึงความไม่พร้อมของรัฐบาล และฝ่ายค้านไม่ได้เล่นเกม ไม่ใช่ต้นเหตุสภาฯล่ม ว่า พรรคฝ่ายค้านควรตั้งสติและลองทบทวนดูว่าในที่ประชุมมีฝ่ายค้านเข้าร่วมประชุมกี่คน และฝ่ายรัฐบาลเข้าร่วมประชุมกี่คน จากการตรวจสอบพบว่า ฝ่ายรัฐบาลมีส.ส. 268 คน ออกเสียง 219 คน แต่ส.ส.ฝ่ายค้าน มี 208 คน มาออกเสียงเพียง 14 คนเท่านั้น  ดังนั้นฝ่ายค้านไม่ควรที่จะออกมาโทษ ส.ส.จากฝั่งรัฐบาลเพียงอย่างเดียว

ขณะเดียวกันหัวหน้าพรรคเพื่อไทยยังออกมายอมรับแล้วว่าปัญหาสภาล่มหากมีการมองว่าเป็นเกมการเมือง ก็ไม่เถียง แต่เป็นการเล่นเกมการเมืองแบบโปร่งใส รัฐบาลมีหน้าที่เป็นฝ่ายรักษาองค์ประชุมในฐานะเสียงข้างมาก ซึ่งฝ่ายค้านจะให้บทเรียนรัฐบาลแบบนี้ไปเรื่อยๆจนกว่าจะปรับตัวเอง หรือจนกว่าจะยุบสภา  ซึ่งตนเองมองว่าการออกมาพูดแบบนี้เป็นการแก้ตัวน้ำขุ่นๆ และเป็นการแถไปเรื่อย ให้ตัวเองดูดี แต่ประชาชนเขารู้ทันอยู่แล้ว

เป็นถึง ส.ส. ผู้ทรงเกียรติในสภาฯแต่กลับไม่มีสมองคิด ทำผิดต้องยอมรับผิด ทำตัวไม่มีความน่าเชื่อถือ จะเป็นฝ่ายค้าน หรือ รัฐบาล ก็ถือว่าเป็น ส.ส. เช่นเดียวกัน มีหน้าที่ลงพื้นที่รับฟังปัญหาของประชาชน และเข้าประชุมสภาฯ แต่จะมาบอกว่าตนเองเป็นฝ่ายค้าน จึงไม่ต้องเข้าประชุม หากสภาฯล่มก็ถือเป็นความผิดของฝ่ายรัฐบาล แบบนี้ถือเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง 

ขอให้เลิกนิสัยเอาดีใส่ตัวเอาชั่วใส่คนอื่นได้แล้ว และอย่าคิดว่าคนอื่นเขาไม่รู้ว่าพรรคฝ่ายค้านจะทำอะไร เป็น ส.ส. มีหน้าที่ลงพื้นที่และประชุมสภาฯ ยังทำไม่ได้ แบบนี้จะดูแลประชาชนในพื้นที่ได้อย่างไร เสียดายเงินเดือน ส.ส.ที่มาจากภาษีของประชาชน 

“แรมโบ้” ซัด “ก่อแก้ว” สงบปาก สงบคำ และเบิกตาดูก่อน นายกฯทำอะไรให้ประชาชนและประเทศบ้าง ชี้ประชาชนชื่นชอบหลายโครงการรัฐบาล  พร้อมยกผลโพลสำนักวิจัยซูปเปอร์โพล ให้พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนักการเมืองครองใจประชาชน

นายเสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีนายก่อแก้ว พิกุลทอง แกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ(นปช.) และอดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ยก 7 เรื่องออกมาไล่ขยี้พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ให้ลาออกเพื่อเป็นของขวัญปีใหม่ให้ประชาชน หลังจากที่นายกรัฐมนตรี ได้สั่งการให้ทุกกระทรวงจัดของขวัญปีใหม่ให้ประชาชน โดยนายเสกสกล ระบุว่า นายก่อแก้ว ไม่น่าหาเรื่องใส่ตัวเลย เพราะการที่ออกมาพูดอะไร ก็เข้าตัวหมด  นายก่อแก้ว อย่าลืมว่าตัวเอง มีชื่อของการเป็นเสื้อแดงติดอยู่ และคงจะติดตัวไปจนกว่านายก่อแก้ว จะตายจากไป ซึ่งเป็นสิ่งที่ประชาชนส่วนใหญ่รับไม่ได้และรู้ดีว่าเสื้อแดงในอดีตทำอะไรกับประเทศไว้บ้าง สร้างความเสียหาย เผาบ้าน เผาเมือง เสียหายไปเท่าไหร่ ประชาชนที่ร่วมอุดมการณ์ติดคุกไปเท่าไหร่ ขณะที่แกนนำบางคนยังอยู่ดี มีสุข ลอยนวลสบายใจเฉิบ

7 ข้อที่ยกมา แค่คำที่ฝ่ายค้านหรือแกนนำเสื้อแดงอย่างนายก่อแก้วคิดว่าสวยหรู แต่ความจริงมันต่างกันมาก ประชาชนรู้ดีว่า ที่ผ่านมานายกรัฐมนตรี ทำอะไรให้เขาบ้าง อยู่ดีกินดีเห็นได้ชัด ทุกโครงการที่รัฐบาลโดยพล.อ.ประยุทธ์ ออกมาช่วยเหลือประชาชน ล้วนโดนใจ ก็ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าหลายโครงการที่ออกมาจะมีชื่อของนายก่อแก้ว หรือคนในครอบครัว หรือสมัครพรรคพวก เป็นหนึ่งที่ได้รับอานิสงส์ด้วยหรือไม่  แต่ก็ไม่เป็นไรหรอก เพราะไม่ว่าจะเป็นคนกลุ่มไหน เสื้อสีอะไร ชอบหรือไม่ชอบ ฝ่ายค้าน หรือรัฐบาล ก็ได้ประโยชน์จากทุกโครงการของรัฐบาลทั้งสิ้น และนายกรัฐมนตรีก็บอกแล้วว่า เป็นนายกรัฐมนตรีของประชาชนทุกคน ทุกภาค ไม่ได้เลือกฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง

และล่าสุดผลโพลจากสำนักวิจัยซูปเปอร์โพลได้ทำการสำรวจด้านการเมืองภาพใหญ่ที่สุดแห่งปี 2564 โดยประชาชนเห็นว่านักการเมืองฝ่ายรัฐบาลที่น่าประทับใจและน่าพอใจที่สุดแห่งปี 2564 อันดับแรกคือ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และพอใจนโยบายและโครงการต่างๆของรัฐบาล ซึ่งตรงนี้น่าจะเป็นการสะท้อนให้เห็นได้แล้วว่า ประชาชนประทับใจและพอใจกับการทำหน้าที่ของนายกรัฐมนตรีจากผลงานที่ประสบความสำเร็จมากมาย รวมถึงการแก้ไขปัญหาจากวิกฤตการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการแพร่ระบาดของโควิด-19 ซึ่งส่งผลต่อเศรษฐกิจอย่างมาก ซึ่งรัฐบาลโดยนายกรัฐมนตรีก็ได้มีมาตรการต่างๆออกมาจนสถานการณ์คลี่คลายและเดินหน้าขับเคลื่อนเศรษฐกิจจนเป็นที่พอใจของทุกฝ่าย  

"แรมโบ้"ฟาด"ทักษิณ" คำพูดไม่ต่างจากผายลม เชื่อถืออะไรไม่ได้ ใกล้ปีใหม่ ขอให้ทำดีก่อนสิ้นลมหายใจ อย่าให้เสียชาติเกิด ที่ได้เกิดมาเป็นคนในชาตินี้

นายเสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณี ที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่กำลังหนีคดีทุจริต อยู่ต่างประเทศ ก่อนหน้านี้ทางด้านนายทักษิณ  เคยได้กล่าวโจมตีรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ว่าไม่มีทางฉีดวัคซีนได้ครบ 100 ล้านโดสในสิ้นปี 2564 ระหว่างการพูดคุยในคลับเฮ้าส์และเฟซบุ๊ก CARE คิด เคลื่อน ไทย เมื่อวันที่  1 มิถุนายน 2564 นายทักษิณ กล่าวตอนหนึ่งว่า "วัคซีนที่บอกว่าสิ้นปีถึง 100 ล้านโดส ผมบอกได้เลย ไม่มีทางเลย ผมไม่แน่ใจเลยว่า สั่งวัคซีนให้มากองให้ครบ 100 ล้านโดส สิ้นปี ยังไม่รู้จะได้หรือเปล่า จะฉีดให้ครบ 100 ล้าน ผมไม่มั่นใจเลยถ้าบริหารแบบนี้ คิดรวมศูนย์เป็นไปไม่ได้หรอก

คนๆเดียวจะไปคิดทุกอย่างไม่ได้หรอก"  นายทักษิณ ย้ำอีกครั้งว่า "ไม่มีทางเลย สิ้นปีนี้ฉีดวัคซีน ได้ 100 ล้านโดส 100 บาทเอาขี้หมากองเดียว สิ้นปีนี้ ไม่มี 100 ล้านโดส ฉีดให้ประชาชน" ด้าน นายแพทย์สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี มองแบบเดียวกันกับ ทักษิณ เป็นไปได้ยาก ขนาดประเทศ อังกฤษ ฉีดมาตั้งแต่ต้นปี ยังได้แค่ 60 ล้านโดส 

นายเสกสกล กล่าวว่า เวลานี้ ประเทศไทย ได้ฉีดวัคซีนครบ 100 ล้านโดส เป็นที่เรียบร้อยแล้วเมื่อวันที่ 19 ธันวาคม  2564 ตามการแถลงข่าวของทางด้านศบค. เมื่อวันที่ 20 ธันวาคม 2564  ตนเองอยากจะขอดูหน้านายทักษิณ สักหน่อย ที่เคยดูถูกปรามาส รัฐบาล ภายใต้การนำของพล.อ.ประยุทธ์ ว่าไม่มีทางเป็นไปได้ ที่จะฉีดวัคซีนครบ 100 ล้านโดสในสิ้นปีนี้ แต่ตอนนี้รัฐบาลทำได้แล้ว อยากรู้เหมือนกันว่านายทักษิณ จะทำอย่างที่เคยพูดเอาไว้ไหม ที่บอกว่า 100 บาท เอาขี้หมากองเดียว  จะดูว่าคนที่เคยเป็นถึงอดีตนายกรัฐมนตรีของประเทศ จะรักษาคำพูดของตัวเองได้แค่ไหน หรือดีแต่พ่นลมปาก ไปวัน ๆ

เพราะที่ผ่านมา การพูดของนายทักษิณแต่ละเรื่อง สุดท้ายก็เชื่อถืออะไรไม่ได้ ลมที่ออกจากปากนายทักษิณ ไม่ผิดอะไรกับการผายลม ที่ออกมาจากก้นของนายทักษิณ เพราะเชื่อถืออะไรไม่ได้ ไม่มีราคา พูดอย่างทำอย่าง ดีแต่โม้ ไปรายวัน เอาเข้าจริงไม่ได้มีความสามารถอะไรเลย  งานนี้นายทักษิณหน้าแตกยับเยินไม่มีเครดิตหน้าเชื่อถืออะได้อีกต่อไป ต่อไปใครที่ไปเชื่อคนขี้โกงหนีคดีไปร่ำรวยคนนั้นก็คงบ้าไปแล้ว เพราะคำพูดยังเชื่อถือไม่ได้ 

" ที่นายทักษิณบอกว่า ถ้ารบ.ฉีดครบ100ล้านโดสไม่มีทาง 100 บาทเอาขี้หมากองเดียว ตนขอเสนอว่า 100 บาทของนายทักษิณมาจากเงินขี้โกงคงไม่มีใครอยากรับ เอาว่าไม่มีใครกล้ารับเงิน100 บาทของนายทักษิณเป็นแน่ แต่ขี้หมากองเดียวอยากให้เก็บไว้ให้สมุนคนใกล้ชิดในคลับเฮาส์ของนายทักษิณไว้กินเอง จะได้ไหม?

วันนี้ถ้านายทักษิณยังคงบริหารประเทศ ในช่วงเวลาวิกฤตโควิด-19 ระบาดแบบนี้
ประเทศไทย คงมีคนเสียชีวิต และติดเชื้อติดลำดับต้น ๆ ของโลกอย่างแน่นอน เพราะนายทักษิณ เป็นคนที่เก่งแต่พูด  แต่ให้ลงมือทำ ทำไม่ได้อย่างที่พูดสักเรื่อง ดูได้จากสิ่งที่นายทักษิณเคยพูดว่าตัวเองนั้นวางมือทางการเมืองแล้ว ไม่ยุ่งเกี่ยวการเมืองแล้ว พูดจนนับครั้งไม่ถูกแล้ว แต่สุดท้ายนายทักษิณ ก็ยังคงวนเวียน กับเรื่องการเมืองของประเทศไทย ไม่เคยหยุดแม้แต่วินาทีเดียว  หรือเรื่องที่บอกว่าตัวเองนั้นจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ ก็เช่นกัน นายทักษิณ ก็มักจะพูดแค่เอาตัวรอดแต่การกระทำต่าง ๆ นั้นประชาชนคนไทยต่างก็ทราบดีว่าที่ผ่านมา นั้นไม่ได้ทำอย่างที่ปากพูด หลายครั้งที่นายทักษิณ พูดอย่างทำอย่าง จนประชาชนคนไทย เขารู้ไส้ รู้พุงนายทักษิณ หมดแล้ว 

“แรมโบ้” ลั่น “นายกฯ” ทำทุกอย่างเพื่อประชาชน และประเทศชาติ แม้เจอวิกฤติ รอบด้าน ก็ไม่เคยท้อ ซัด “เพื่อไทย” อย่าใช้โอกาสนำฉายารัฐบาล ที่สื่อตั้งให้มาเป็นประเด็นการเมืองโจมตีนายกฯ และรัฐบาล มั่นใจสื่อไม่อยากให้นำไปเป็นเครื่องมือใครทั้งสิ้น

นายเสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีน.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ โฆษกพรรคเพื่อไทย วิพากษ์วิจารณ์ฉายารัฐบาลสะท้อนภาพการทำงานที่ผ่านมาจริง ว่าการตั้งฉายารัฐบาล ถือเป็นธรรมเนียบปฏิบัติของสื่อมวลชนประจำทำเนียบรัฐบาลทุกปีอยู่แล้ว ซึ่งในสมัยนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เป็นรัฐบาลยังถูกตัองฉายาเช่นเดียวกัน

ทั้งนี้การตั้งฉายารัฐบาล ยื้อยุทธ์ ยังมีนัยยะที่ต้องยื้อ เพราะนายกฯเป็นคนที่ทำงานแก้ไขปัญหาให้กับบ้านเมืองและพัฒนาประเทศมาโดยตลอด แก้ไขปัญหาจนสถานการณ์คลี่คลายลงโดยเฉพาะในช่วงสถานการณ์โควิด-19 ขณะเดียวกันได้แก้ไขปัญหาที่รัฐบาลของพรรคเพื่อไทยได้ก่อหนี้สร้างปัญหาเอาไว้จากโครงการทุจริตมากมายอีกด้วย 

“สื่อให้ฉายานายกฯ ชำรุดยุทธ์โทรม ถือเป็นเรื่องธรรมดา เพราะมองว่าบ้านเมืองชำรุดมามากมายนายกฯต้องทำงานอย่างหนักมาโดยตลอดในการแก้ไขปัญหา ไม่เคยคิดถึงเรื่องของตัวเอง คิดถึงแต่ชาติบ้านเมืองและประชาชน  ตนเองขอบคุณสื่อและประชาชนที่เข้าใจการทำงานของนายกฯว่าทุ่มเทตลอด ตั้งแต่เข้ามารับหน้าที่นี้ ไม่เคยท้อแท้แม้งานหนัก ส่วนเรื่องสุขภาพก็เป็นไปตามวัย แต่ยังแข็งแรงทุกอย่างทั้งร่างกายและจิตใจยังมีความพร้อมที่จะทำงานเพื่อประชาชนต่อไป”

การบริหารราชการแผ่นดินตลอดทั้งปีที่ผ่านมา พล.อ.ประยุทธ์ ถือได้ว่า เป็นผู้ที่รับบทหนักที่สุดแห่ง ไม่ว่าจะเป็นการแก้ปัญหาโควิด-19 การกระตุ้นเศรษฐกิจ การบริหารราชการ หรือแม้แต่เรื่องทางการเมือง ถูกโจมตีรอบด้าน นายกฯก็นิ่งอดทน มีสติไม่เคยคิดตอบโต้ เพื่อให้เกิดการเสียบรรยากาศ มีแต่ตั้งหน้าตั้งตาทำงานอย่างอดทนไม่เคยย่อท้อ

นายเสกสกล ระบุว่า ต้องขอขอบคุณบรรดาพี่น้องสื่อมวลชนประจำทำเนียบรัฐบาล ที่ได้ตั้งฉายาให้กับ นายกรัฐมนตรี  ซึ่งบรรดาสื่อคงทราบดีว่า ตลอดช่วง 2 ปีที่ผ่านมานั้น รัฐบาล และ นายกฯ นั้นเจอกับสถานการณ์ที่ไม่ปกตินัก ตั้งแต่เรื่องของปัญหาการเมืองในประเทศไทย ที่มีกลุ่มการเมืองต้องการเอาชนะกันทางการเมือง จนลืมประชาชน ลืมประเทศ เล่นการเมือง จนทำให้ประเทศชาติเสียหาย จนกระทั่งมาเจอกับการแพร่ระบาดของโควิด-19 ซึ่ง ทุกประเทศทั่วโลกก็เจอกันหมดและรุนแรงเหมือนกันทั้งโลก พล.อ.ประยุทธ์ ต้องนำพารัฐบาล ภายใต้สถานการณ์ ที่ยากลำบากยิ่ง แต่ตัวนายก ก็ไม่เคยหยุดที่จะคิด ทำ เพื่อแก้ปัญหาให้กับประชาชน และประเทศชาติ จนตอนนี้วิกฤติดังกล่าวนั้นค่อย ๆ คลี่คลาย ทำให้ประเทศได้รับการยกย่องให้ เป็นอันดับ 5 ของโลก ที่มีความมั่นคงด้านสุขภาพ  

ในขณะที่วิกฤติที่ถูกซ้ำเติม ตามมาก็คือวิกฤติเศรษฐกิจ ตั้งแต่ภาคครัวเรือนไปจนถึงภาคอุตสาหกรรม ซึ่งเรื่องนี้นายกฯ ก็ตระหนักดี จึงได้มีโครงการต่าง ๆ ออกมาช่วยเหลือประชาชนอย่างต่อเนื่อง  รวมถึงผู้ประกอบการต่าง ๆ ที่ได้รับผลกระทบต่างก็ได้ รับการช่วยเหลือ เยียวยา ดูแลอย่างทั่วถึง จนทำให้ ต่างประเทศจัดให้ประเทศไทย ติดอันดับ 1 ตลาดเกิดใหม่ที่น่าลงทุนที่สุด (1st in Bloomberg’s Emerging) ในปี 2564 โดย Bloomberg Study  สิ่งเหล่านี้พิสูจน์ได้ชัดว่ารัฐบาล ภายใต้การนำของพล.อ.ประยุทธ์ นั้นคิดทำ เพื่อประชาชน และประเทศชาติอย่างต่อเนื่อง 

นายเสกสกล กล่าวต่อว่า นอกจากปัญหาโควิด-19 และ เศรษฐกิจแล้ว สิ่งที่ต้องยอมรับอย่างหนึ่งที่เป็นปัญหาเช่นกันคือสถานการณ์ การเมืองในประเทศไทย ที่มีกลุ่มเคลื่อนไหวทางการเมืองที่กระทำทุกอย่างเพื่อให้ประเทศเกิดปัญหา  สอดรับ สอดคล้องกับการเมืองในสภา ของฝ่ายค้าน ที่ไม่เคยเสนอแนะแนวทางการแก้ปัญหาให้กับประชาชน แต่มุ่ง โจมตี ทำลายรัฐบาล อย่างต่อเนื่อง ดังนั้นจากสถานต่าง ๆ ตลอดปี 2564


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top