Thursday, 16 May 2024
แพรรี่ไพรวัลย์

'แพรรี่' วอนสังคมอย่าเอาดรามาไปลงกับวัด ชี้!! พระก็เหมือนหมอ เจ็บก็รักษา ตายก็สวดเผา

จากกรณีที่ครอบครัว ส.ต.อ.ปัญญา คำราบ ผู้ก่อเหตุที่ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก อบต.อุทัยสวรรค์ เดินทางไปยังแผนกนิติเวช โรงพยาบาลศูนย์อุดรธานี เพื่อรับร่างผู้ก่อเหตุไปประกอบพิธีทางศาสนา แต่ครอบครัวยังไม่รู้ว่าจะนำไปประกอบพิธีที่วัดใด เนื่องจากไม่มีวัดไหนรับ ล่าสุด มีรายงานว่าทางครอบครัวผู้ก่อเหตุได้นำร่างเดินทางไปที่วัดแห่งหนึ่งในพื้นที่ จ.อุดรธานี เพื่อนำไปประกอบพิธีฌาปนกิจทันที

ด้าน ไพรวัลย์ วรรณบุตร หรือ แพรรี่ อดีตพระมหาไพรวัลย์ ผู้เชี่ยวชาญด้านศาสนา ได้แสดงความเห็นในกรณีนี้ว่ามีอีกเรื่องที่ดิฉันอยากฝากและร่วมแชร์มุมมองนะคะ

คือเรื่องการเผาศพของฆาตกร ดิฉันอยากฝากชวนให้แยกแยะว่า ถ้าวัดหรือพระท่านจะรับเผา ก็เป็นกิจทางศาสนาของพระท่าน ไม่ควรมีใครเอาดราม่าไปลงกับวัดนะคะ

‘แม่หญิงลี’ ประกาศขายเพจ VEEN หลังไม่มีคนจ้างงาน ด้าน ‘แพรรี่’ เผย เสียดายแทน อยากให้ลองคิดดูใหม่

โซเชียลฯ แห่ให้กำลังใจหลังพบ ประกาศขายเพจ VEEN ของ ‘แม่หญิงลี’ และ ‘อีทิพย์’ เผยเหตุผลไม่มีคนจ้างงาน ด้าน ‘แพรรี่’ เผยเสียดายอยากให้ลองคิดใหม่ ล่าสุด ในเพจ VEEN ไม่พบโพสต์การขายเพจของ VEEN แล้ว

(25 ส.ค. 66) เพจ ‘ไพรวัลย์ วรรณบุตร’ หรือ ‘แพรรี่ ไพรวัลย์’ อดีตพระเทศน์ชื่อดัง ได้โพสต์ภาพ ของเพจ VEEN เพจชื่อดังที่เขียนประกาศขายเพจเอาไว้ว่า…

“ประกาศขายเพจ VEEN สนใจทักมาค่ะ”

โดยระบุข้อความว่า “เมืองทิพย์จะสิ้นแล้วจริงๆ หรอ เสียดายแทนมากๆ เลยนะคะ อันนี้พูดแบบจริงใจ ในฐานะของคนที่ติดตามมาตลอด ลองทบทวนดูใหม่ไหมคะ จับมือกันสร้างคอนเทนต์ ขายขำ ขายความน่ารัก ขายความเป็นคนบ้านๆ ขายความเป็นเมืองทิพย์ และขายของจริงๆ เพื่อสร้างรายได้ไปพร้อมๆ กัน สร้างเสียงหัวเราะสร้างความสุขให้กับแฟนคลับที่ติดตาม ลองคิดใหม่ให้ดีๆ ไหมคะ”

ล่าสุด เมื่อเข้าไปในเพจ VEEN ไม่พบโพสต์การขายเพจของ VEEN แล้ว

อย่างไรก็ตาม เพจ ‘VEEN’ นั่นมียอดผู้ติดตามสูงถึง 1.4 ล้านคน พบว่า 1 ในผู้ก่อตั้ง VEEN โดยแม่หญิงลี ได้ออกมาเผยเหตุผลโดยระบุข้อความว่า “ขายเพจวีนแล้วนะคะทุกคน เพราะพี่ไม่มีงานเลยค่ะ”

ซึ่งพบว่าเพจ VEEN ดังมาจากที่ ‘แม่หญิงลี’ เน็ตไอดอลชื่อดัง หรือ ‘บุหงาวลัย คงขวัญ’ ชื่อเล่น ‘ชาติ’ นับถือศาสนาพุทธ เป็นชาวอำเภอ แม่ลาน จังหวัดปัตตานี และผู้ช่วยชื่อ ‘เป้-เมญ่า ลินดา’ หรือแฟนคลับรู้จักกันในชื่อ ‘อีทิพย์’ เป็นชาวปัตตานีเช่นกัน และคอนเทนต์ที่ทำให้เป็นที่จดจำคือ การเกาะกระแสละครเรื่องเพลิงพระนาง ที่มี ‘อั้ม พัชราภา ไชยเชื้อ’ แสดงนำ

โดยแม่หญิงลีเรียกตนเองว่า “พระมหาเทวีเจ้า” จนโด่งดังมีผู้ติดตามมากมาย จนมีประโยคดัง อาทิ “เจ๊อย่าวีน” และ “กูจะบ้าตายรายวัน”

‘แพรรี่ ไพรวัลย์’ สุดปลื้มถูกเซอร์ไพรส์ด้วย ‘Hermes’ ถามกูรู ‘รุ่นนี้รุ่นอะไร’ ไม่ต้องบอกราคายกเป็นคุณค่าทางใจ

เมื่อวันที่ 11 กันยายน 66 ‘แพรรี่ ไพรวัลย์ วรรณบุตร’ ได้โพสต์คลิปแสดงความดีใจและปลื้มใจหนักมาก หลังจากได้ของขวัญถุงใหญ่จากเจ้าของแบรนด์ ‘SYN FIBER’ เป็นกระเป๋าแบรนด์เนมสุดหรู ‘Hermes’ โดยเจ้าตัวได้ไปร่วมกิจกรรมและเล่นเกมในการไลฟ์สดโปรโมทแบรนด์สินค้า โดยระบุว่า พี่เจ้าของแบรนด์  ‘SYN FIBER’ ได้เซอร์ไพรส์ตนเอง ด้วยการให้หลับตาแล้วบอกมีของจะให้ ซึ่งในใจคิดว่าคงเป็นของขวัญเล็ก ๆ น้อย ๆ แบบตุ๊กตาหมีที่อยู่ในกระเช้าหรือกล่องไฟเบอร์ แต่ที่ไหนได้ กลับเป็นกระเป๋า Hermes ซึ่งถือว่าเป็นเซอร์ไพรส์ที่ใหญ่มาก

โดยแพรรี่ ยังแอบถามกูรูกระเป๋าแบรนด์เนมด้วยว่า ไม่รู้ว่ากระเป๋ารุ่นนี้เป็นรุ่นอะไร เพราะตนเองไม่เคยมีแบรนด์นี้มาก่อน ใบนี้นับเป็นใบแรก จึงรู้สึกตื่นเต้นและดีใจมาก อยากรู้เพียงว่ารุ่นอะไร ไม่อยากรู้ราคา เพราะมั่นใจว่าราคาน่าจะสูงอยู่แล้ว แต่ที่สำคัญคือรู้สึกซาบซึ้งมาก เพราะไม่เคยมีใครเอ็นดูและมอบของขวัญที่มีมูลค่ามากขนาดนี้ ที่นำคลิปมาโพสต์ครั้งนี้ เพื่ออยากจะขอบคุณพี่เจ้าของแบรนด์ ‘SYN FIBER’ เป็นอย่างสูง 

“แม้ว่าจะเป็นของที่มีราคาค่อนข้างสูง แต่โดยส่วนตัวแล้ว ไม่ได้มองที่มูลค่าตรงนั้น แต่มองในแง่คุณค่าทางจิตใจและความเอ็นดูที่ได้รับมากกว่า”

‘แพรรี่’ ประกาศลาจอสิ้นปีนี้ หลังอยู่หน้ากล้องมากว่า 1 ปี ยืนยัน!! ไม่มีใครไล่ แค่อยากไปทำตามความฝันของตัวเอง

(23 ก.ย.66) ทำเอาแฟนคลับและผู้ติดตามใจหายไปตามๆ ความคืบหน้าล่าสุด ‘แพรรี่ ไพรวัลย์ วรรณบุตร’ ครีเอเตอร์ พิธีกร และนักแสดงชาวไทย โพสต์ข้อความผ่านเพจเฟซบุ๊ก ไพรวัลย์ วรรณบุตร ประกาศอำลาวงการบันเทิง หลังจากทำงานหน้าจอมากว่า 1 ปีเต็ม

แพรรี่ ไพรวัลย์ ได้โพสต์ข้อความระบุว่า หลังปลายปี 2566 อาจไม่ได้เห็นตนทำงานอยู่หน้ากล้องอีก ขอบคุณแสงสีเสียงและผู้ใหญ่ใจดีที่เมตตา มองเห็นในความสามารถของตน ที่ตัดสินใจอำลาวงการบันเทิง บอกลาบทบาทฐานะนักแสดงและพิธีกร ไม่ใช่เพราะมีใครมาไล่ แต่เป็นเพราะอยากไปทำคาเฟ่ร้านอาหารตามที่เคยคิดไว้เมื่อสึกใหม่ ๆ พร้อมขอบคุณแฟนคลับที่ติดตามและคอยให้กำลังใจมาเสมอ

“ทำงานหน้ากล้องมากว่า 1 ปีเต็ม ตอนนี้ใกล้ถึงเวลาแล้วนะคะ ที่ดิฉันจะอำลาหน้าที่การงานที่ได้ทำอยู่ตอนนี้ ขอบคุณแสงสีที่สาดส่องเข้ามาตลอดระยะเวลาของการทำงานอยู่ในวงการบันเทิง (คงจะพูดได้แหล่ะ)

ขอบคุณโอกาสและความเมตตาเอ็นดูจากผู้ใหญ่หลาย ๆ ท่าน ซึ่งมองเห็นศักยภาพและความสามารถอันเล็กน้อยที่มีอยู่ในตัวของดิฉันนะคะ ถ้าไม่มีท่านเหล่านี้ ต่อให้ดิฉันจะอยากได้แสดงความสามารถแค่ไหน ก็คงไม่มีเวทีให้ได้แสดง

มีดวงเรืองก็ต้องมีดาวโรยอันนี้มันเป็นของคู่กันนะคะ ตอนนี้ดูเหมือนว่าดิฉันอยากจะรับบทเป็นดาวโรยแล้วหล่ะ ดิฉันคิดว่า ถึงเวลาที่ดิฉันควรจะหยิบหิ้วกระเป๋าสัมภาระและเก็บของนั่งรถกลับบ้านนาที่จากมาได้แล้ว

ต้องบอกนะคะว่า การที่ดิฉันได้มาอยู่ตรงจุดนี้ จุดที่ตัวเองกำลังยืนอยู่ มันเป็นเรื่องที่เกินฝันมาก ๆ และถึงตอนนี้ก็ไม่มีความทะเยอทะยานอะไรที่ดิฉันอยากจะได้รับมากไปกว่านี้แล้วค่ะ

คงต้องขออนุญาตขอบคุณและบอกลากันตั้งแต่เนิ่น ๆ ว่า หลังปลายปีนี้ คงจะไม่ได้เห็นดิฉันในบทบาทฐานะของนักแสดงและพิธีกรตามรายการต่าง ๆ อย่างที่เคยเห็นมาแล้วนะคะ และก็ไม่ใช่เป็นเพราะว่ามีใครที่ไหนมาขับไล่ไส่ส่งดิฉันให้ไปจากจุดนี้ ไม่มีค่ะ

ทุกเรื่องเป็นเพราะดิฉันได้ตัดสินใจด้วยตัวเองแล้วว่าดิฉันต้องการให้ชีวิตของตัวเองดำเนินต่อไปแบบไหน ด้วยหน้าที่การงานอย่างไร เมื่อตัดสินใจแล้วก็ต้องเลือกและแลกค่ะ

ปีหน้าหลังหมดงานในวงการ คงมีหลายเรื่องที่ดิฉันอยากทำและได้ทำเพื่อตัวเองอย่างจริง ๆ จัง ๆ ทั้งการปลูกผมที่คิดไว้นานแล้ว การได้อยู่ดูแลแม่ด้วยตัวเอง ซึ่งระยะหลังนี้ แม่ก็พูดเปรย ๆ ว่ารู้สึกมีความสุขและมีกำลังใจมากขึ้นเวลาที่เราอยู่บ้านด้วย อีกเรื่องก็การทำคาเฟ่ร้านอาหาร นี่ก็เป็นความฝันที่เคยสัญญากับตัวเองไว้ตอนสึกใหม่ ๆ ว่าอยากทำ คงถึงเวลาที่ต้องทำตามสัญญาแล้วหล่ะ

ขอบคุณทุกคนที่คอยติดตามและให้กำลังใจกับดิฉันมาโดยตลอดนะคะ ขอบคุณที่รักและเอ็นดูความเป็นแพรรี่ในตัวของดิฉัน ขอบคุณที่เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้บทบาทของการทำงานในวงการบันเทิงของดิฉันประสบความสำเร็จในแบบที่ดิฉันพอใจ ขอบคุณค่ะ”

หลังจากแพรรี่โพสต์อำลาวงการบันเทิง แฟนคลับต่างเข้ามาแสดงความคิดเห็นเป็นจำนวนมาก ส่วนหนึ่งบอกว่า เคารพทุกการตัดสินใจของแพรรี่ และร่วมยินดีกับเส้นทางที่เลือกเดิน รวมถึงบางส่วนบอกว่าจะสนับสนุนแพรรี่ต่อไป หากคาเฟ่ร้านอาหารเปิดเมื่อไรจะเดินทางไปอุดหนุน

แม้เส้นทางในวงการบันเทิงจะสิ้นสุดลง แต่แฟน ๆ ยังสามารถติดตามคุณแพรรี่ ไพรวัลย์ และสนับสนุนเส้นทางที่คุณแพรรี่เลือกต่อไปได้ ไม่ว่าจะเลือกเส้นทางไหนก็ขอให้ประสบความสำเร็จสมความตั้งใจทุกประการนะคะ

‘แพรรี่’ ลั่น!! ‘ปีชง’ ไม่มีจริง วอนหยุดหากินกับความเชื่อ พร้อมย้ำ!! 365 วัน ชีวิตคนเราต้องเจอปัญหาอยู่แล้ว

(9 ม.ค.67) กลายเป็นคลิปวิดีโอไวรัลในข้ามคืน เมื่ออินฟลูเอนเซอร์ชื่อดังอย่าง ‘แพรรี่ ไพรวัลย์’ หรือ ‘ไพรวัลย์ วรรณบุตร’ ได้ออกมาอัดคลิปวิดีโอฟาดแรงถึงความเชื่อว่า ปีชงมีไว้หลอกคนโง่

โดยในคลิปวิดีโอดังกล่าว ‘แพรรี่ ไพรวัลย์’ พูดว่า “ใช้ชีวิตมา ต่อให้เป็นปีที่ไม่ชง ไม่เกิดปัญหาเลยเหรอ ใช้ชีวิตมา 300 กว่าวัน คือชีวิตดีมากว่างั้น ปีนี้ไม่ชงก็เลยสบาย ทำอะไรชิล ๆ ทำอะไรดีหมดทั้งปี มีเหรอ ไม่มีค่ะ ต่อให้ไม่ชง ชงหรือไม่ชง ชีวิตต้องมีปัญหา”

“มีใครกล้าบอกไหม สมมติปีที่แล้วไม่ชง ชีวิต 365 วัน ที่ผ่านมาดีหมด ไม่มีปัญหา ไม่มีติดขัด มีเหรอ มันไม่มี ปีชงมันมีไว้สำหรับหลอกคนโง่ค่ะ”

เพราะมันขายของได้ไง ถ้ามันบอกว่ามันชง ปีชงตามมาด้วยการทำพิธีกรรม ทุกอย่างแก้ได้ด้วยการเสียเงิน หรือจะเถียง ที่มันบอกว่ามีเคราะห์ ที่มันบอกว่าชง เดี๋ยวมันให้วิธีแก้ชง แต่วิธีแก้ชง ก็คือเสียเงินแน่นอน เดี๋ยวมันแนะนำให้ไปทำพิธีวัดนู้นวัดนี้ แต่เสียเงิน”

เจ้าตัวยังพูดอีกว่า จะไปชงกับใครก็ไป แต่ไม่ได้ชงกับแล้วคนนึง ไม่ได้กินเงินตนค่ะ ไม่ต้องมาชงกับตน ตนชงเองได้ เอ้าลองคิดดูให้ดี ใช้สติปัญญาให้ดีว่าไอ้ที่เขาบอกว่าคุณชง ปีโน้นคุณชง มันตามมาด้วยอะไร หนึ่ง ถ้าเขาบอกว่าปีนี้คุณชง คุณไม่สบายใจละ ถ้าเขาบอกราศีนี้ชง ร้อยทั้งร้อย คนที่เชื่อเรื่องดวง เชื่อเรื่องราศี ฟังแล้วไม่สบายใจ

เมื่อไม่สบายใจ ตามมาด้วย การต้องทำอะไรสักอย่างหนึ่ง เพื่อแก้ชง เพราะคิดว่าการทำพิธีสิ่งที่ไม่ดี หรือสิ่งที่ชง จะไม่เกิด เสียเงิน เสียเงินแน่นอน มากน้อยต้องเสีย แล้วจะไปเชื่อทำไม ความเชื่อที่ทำให้เราต้องเสียเงินเสียทอง ความเชื่อที่ทำให้เราไม่สบายใจ เราจะไปเชื่อทำไม

ทั้งนี้ แพรรี่ ไพรวัลย์ พร้อมฝากถึงคนที่หากินกับความเชื่อว่า “ถ้าคุณหากินกับความเชื่อแบบนี้ ต้องเจอตน หลอกคนได้หลอกไป แต่เจอตนแน่นอน อีพวกหากินกับความเชื่อคน อาชีพมีเยอะแยะ มีมือมีเท้าก็ไปทำสิ มาหลอกกินกับความเชื่อกับคน

เดี๋ยวจัดพิธีไหว้ของดำ ราหู ถามหน่อย พระพุทธเจ้าบอกไว้ในพระไตรปิฎกเล่มไหน ไหว้ของดำ ไหว้ราหูเนี่ย พระไตรปิฎกเล่มไหนสอน

พวกหมอดูทำไป ก็ยังทำเนานะ มันเป็นอาชีพ แต่เดี๋ยวนี้ลามไปยังวัด พาคนไปสวดสะเดาะเคราะห์ มีในไหนเนี่ยพระไตรปิฎก ชีวิตง่ายขนาดนั้นไม่ต้องมีศาสนาพุทธค่ะ ไปนั่งเอาสายสิญจน์พันหัว มึงไม่เอาพันคอไปเลยหล่ะ จะได้หมดทุกข์ไปเลย

พร้อมทิ้งท้าย ว่า “จะเชื่อก็เชื่อไป ตนไม่ได้ว่าไร คุณจะทำ ก็ทำไป ตนไม่ได้ว่าอะไร แต่มีคนมาถาม ตนก็จะพูดแบบนี้ เพราะตนไม่เชื่อ ตนมีหน้าที่ให้สติคน ไม่ได้ไปล้ำเส้นความเชื่อพวกคุณหนิ ถ้าตนไปพังพิธีคุณ ว่าไปอย่าง”

งานนี้เจ้าตัวยังมีการอัปคลิปวิดีโอวิพากษ์วิจารณ์ความเชื่อในเรื่องต่าง ๆ อีกด้วย ทั้งเบญจเพส, สีเสื้อมงคล, ความเชื่อทางศาสนาอื่น ๆ ท่ามกลางคอมเมนต์จากชาวเน็ต

‘แพรรี่’ เบรกหัวทิ่ม ปมสักไฝแบบ ‘ลิซ่า’ แล้วชีวิตจะปัง ลั่น!! ทำทั้งหน้าก็ไม่พอ แนะ!! มันต้องมีความสามารถเสริมด้วย

เมื่อวานนี้ (16 ม.ค.67) จากกรณี ‘อุ้ม ลักขณา วัธนวงส์ศิริ’ ที่ล่าสุดกับการสักไฝเสริมดวงในตำแหน่งเดียวกับที่ ‘ลิซ่า BLACKPINK’ และ ‘ญาญ่า อุรัสยา เสปอร์บันด์’ มีอยู่ที่ต้นคอ หรือที่เรียกกันว่า ‘ไฝมหารานี’ รวมถึงในจุดต่างๆ บนใบหน้าอีก 2 จุด โดยอุ้มได้เล่าในรายการ เคาะโต๊ะ EP.22 ทางช่องยูทูบ Archita Station ของบิวตี้บล็อกเกอร์สาวคนสวย ‘อาชิ อาชิตา ศิริภิญญานนท์’ ว่าเพิ่งไปสักมาไม่นาน แต่ผลลัพธ์ปังมาก งานเข้า เงินเข้าไม่หยุด ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ล่าสุด ‘แพรรี่ ไพรวัลย์’ ได้โพสต์คลิปวิดีโอลงในเฟซบุ๊กส่วนตัว ‘ไพรวัลย์ วรรณบุตร’ พูดถึงประเด็นดังกล่าวว่า

"โห่ เอาไรมาลิซ่าก่อน ไปทำหน้าค่ะ เอาแค่ไฝไม่อยู่หรอก ต้องดูโครงหน้าเขาด้วย เอาไรมาลิซ่า ลิซ่าเขาสวยทั้งตัวและมีความสามารถ ถึงจะสักไฝเต็มหน้า ก็เป็นลิซ่าไม่ได้หรอก

ใครหลอกมาว่าจะเป็นลิซ่าล่ะ ลิซ่าเขาไม่ได้แค่สวย เขาเก่งมีความสามารถ ทำไมเขาถึงเป็นที่ยอมรับระดับโลก คนตามไอจี 100 ล้านคน เขาไม่ได้ขายแค่ความสวย เขาขายความสามารถด้วย เขาเก่ง มีพรสวรรค์ในตัวเอง เขาไม่หยุดเรียนรู้ พัฒนา

กว่าจะเป็นลิซ่าคิดว่ามันง่ายเหรอ ไปดูบทสัมภาษณ์ที่เขาให้สัมภาษณ์ตามรายการ กว่าจะประสบความสำเร็จต้องต่อสู้ ไปอยู่เกาหลี มีแต่แมวที่เป็นเพื่อนคิดถึงบ้านจะตาย คิดถึงบ้านร้องไห้ ก็ต้องต่อสู้กับอุปสรรค ไม่ใช่ว่ามีไฝแล้วทำให้เขาสำเร็จจะไปสักไฝมันจะประสบความสำเร็จได้ยังไง ดูเบ้าหน้าด้วย ไม่ได้บูลลี่นะ ให้คำนึงถึงข้อเท็จจริง เราจะได้ไม่หลอกตัวเอง อยากประสบความสำเร็จเหมือนเขาก็ต้องพัฒนาความสามารถตัวเองให้มันได้แบบเขาทำได้ป่าวล่ะ ก็ไม่ได้อีก รู้ว่าตัวเองไม่มีความสามารถก็เลยสักไฝแล้วกันง่ายดี"


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top