Monday, 6 May 2024
แพนด้า

เชียงใหม่ - “หมีแพนด้าหลินฮุ่ย” ออกสวนหลังบ้านรับลมหนาว ที่สวนสัตว์เชียงใหม่

สวนสัตว์เชียงใหม่ โดยโครงการวิจัยและจัดแสดงหมีแพนด้าแห่งประเทศไทย ได้นำ หมีแพนด้า“หลินฮุ่ย”    ออกสู่ส่วนจัดแสดงกลางแจ้ง(สวนหลังบ้าน) ให้สัมผัสอากาศหนาวเย็น เพื่อเป็นการส่งเสริมพฤติกรรมที่เป็นธรรมชาติ ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปถึงสิ้นเดือนมกราคม 2565 นี้เท่านั้น

นายวุฒิชัย ม่วงมัน ผู้อำนวยการสวนสัตว์เชียงใหม่ เปิดเผยว่า ในช่วงนี้สภาพอากาศของจังหวัดเชียงใหม่มีอุณภูมิลดลงจากปกติ ประกอบกับมีนักท่องเที่ยวเข้ามาเที่ยวและสัมผัสอากาศที่หนาวเย็นในจังหวัดเชียงใหม่เป็นจำนวนมาก ดังนั้นเพื่อเป็นการรองรับนักท่องเที่ยว ทางสวนสัตว์เชียงใหม่ จึงได้จัดกิจกรรมดี ๆ ขึ้น คือการนำหมีแพนด้า “หลินฮุ่ย” ออกสู่ส่วนจัดแสดงกลางแจ้ง ซึ่งเป็นกิจกรรมที่ได้

ดำเนินมาอย่างต่อเนื่อง เข้าสู่ปีที่ 17 ของการนำหมีแพนด้าออกสู่ส่วนจัดแสดงกลางแจ้ง(สวนหลังบ้าน) ในช่วงฤดูหนาวของทุกปี และในปีนี้ ฤดูหนาวได้มาเยือนภาคเหนือของเรา ตั้งแต่ต้นเดือนพฤศจิกายน และคาดว่าช่วงเวลาที่จะมีอากาศหนาวเย็นเริ่มตั้งแต่เดือนธันวาคม 2564 ถึงปลายเดือนมกราคม 2565 และเพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมให้กับหมีแพนด้า “หลินฮุ่ย” ให้สามารถปรับตัวให้เข้ากับสภาพแวดล้อมและอุณหภูมิที่กำลังเกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้นอย่างช้า ๆ

อีกทั้งเป็นการเปลี่ยนบรรยากาศให้กับหมีแพนด้า “หลินฮุ่ย” ให้ได้ออกมารับแสดงแดดในยามเช้า และได้เดินออกกำลังกาย ซี่งจะทำให้หมีแพนด้าหลินฮุ่ยมีความสุข สุขภาพสมบูรณ์แข็งแรงมากยิ่งขึ้น โดยสวนสัตว์เชียงใหม่ได้ดำเนินการปรับปรุง จัดตกแต่งสถานที่ให้สวยงาม มีการปลูกต้นไม้ ต้นไผ่ ทำลำธาร แอ่งน้ำ และสร้างของเล่นเลียนแบบธรรมชาติ ให้หมีแพนด้า “หลินฮุ่ย” สนุกสนานกับธรรมชาติอย่างเพลิดเพลินอีกด้วย

ทั้งนี้ สวนสัตว์เชียงใหม่ได้รับการสนับสนุนจากงานเก็บกู้และทำลายวัตถุระเบิด กองกำกับการตำรวจตระเวนชายแดนที่ 33 ค่ายสมเด็จพระบรมราชชนนี ในการช่วยค้นหาวัตถุหรือโลหะต่าง ๆ ภายในบริเวณส่วนจัดแสดงกลางแจ้ง ก่อนที่จะมีการนำหมีแพนด้า “หลินฮุ่ย” ออกมายังส่วนจัดแสดงในวันนี้ด้วยครับ

 

12 ตุลาคม พ.ศ.2549 ช่วงช่วง - หลินฮุ่ย แพนด้าจากเมืองจีน เดินทางมาถึงสวนสัตว์เชียงใหม่

12 ตุลาคม พ.ศ. 2549 ช่วงช่วงและหลินฮุ่ย หรือชื่อคำเมืองว่า คำอ้ายและคำเอ้ย แพนด้าทูตสันถวไมตรีจากประเทศจีนเดินทางมาถึงสวนสัตว์เชียงใหม่

ช่วงช่วงและหลินฮุ่ย หรือชื่อคำเมืองว่า คำอ้ายและคำเอ้ย แพนด้าทูตสันถวไมตรีจากประเทศจีนเดินทางมาถึงสวนสัตว์เชียงใหม่ เมื่อวันที่ 12 ตุลาคม พ.ศ. 2549 โดยประเทศไทยมีสัญญากับจีนว่าจะทำการทดลองศึกษาวิจัยชีวิตหมีแพนด้าคู่นี้เป็นระยะเวลา 10 ปี หลังจากนั้นจะต้องส่งกลับ รวมถึงลูกที่เกิดจากทั้งคู่ด้วย 

สำหรับแพนด้าทั้งสองตัวมาจากศูนย์วิจัยและอนุรักษ์หมีแพนด้า เขตอนุรักษ์ วู่หลง เมืองเฉิงตู มณฑลเสฉวน ทั้งสองตัวถูกเลี้ยงไว้ในห้องกระจกติดแอร์เย็นฉ่ำ ซึ่งใช้งบประมาณก่อสร้างราว 46 ล้านบาท และได้กินใบไผ่ (พันธุ์จีนซึ่งสามารถปลูกได้ในเมืองไทย) วันละ 30 กิโลกรัม ทางสวนสัตว์เชียงใหม่ได้จัดงานแต่งงานอย่างยิ่งใหญ่ 5 วัน 5 คืนให้แพนด้าทั้งคู่ เมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน พ.ศ.2549

จอมทำลายล้าง แพนด้ายักษ์ ‘ซุ่นซุ่น’ สร้างความปวดหัวให้ จนท. เหตุ!! ใช้ฟันอันแข็งแรง แทะเรือของเล่นจน ‘พัง’

(12 มี.ค. 66) สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ชวนชมความซุกซนของแพนด้ายักษ์ “ซุ่นซุ่น” ขณะเพลิดกับการเล่นเรือของเล่นที่อุทยานสัตว์ป่าและสวนพฤกษศาสตร์เขตร้อนไห่หนาน นครไห่โข่ว มณฑลไห่หนาน (ไหหลำ) ทางตอนใต้ของจีน 

ซุ่นซุ่นลากเรือของเล่นออกจากสระน้ำและใช้ฟันอันแข็งแรงแทะเรือจนพังภายในเวลาไม่กี่นาทีโดยไม่สนใจเสียงห้ามปราม งานนี้เรียกได้ว่าสร้างความปวดหัวให้ทีมเจ้าหน้าที่ แต่เรียกรอยยิ้มจากผู้คนที่ชื่นชอบความขี้เล่นของแพนด้าตัวนี้ได้ไม่น้อย
 

'หลินฮุ่ย' แพนด้าดังแห่งสวนสัตว์เชียงใหม่ สิ้นใจในวัย 21 ปี  หลังมีอาการป่วยมาตั้งแต่วันที่ 18 เม.ย.66

(19 เม.ย.66) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า 'หลินฮุ่ย' แพนด้าเพศเมีย ที่อยู่ที่สวนสัตว์เชียงใหม่ ตายแล้ว โดยมีอาการไม่ปกติ ตั้งแต่วันที่ 18 เม.ย. ที่ผ่านมา ทางเจ้าหน้าที่จึงได้ตรวจดูอาการอย่างใกล้ชิด พร้อมปรึกษากับผู้เชี่ยวชาญที่จีนอย่างใกล้ชิด ก่อนที่ช่วงเช้าวันนี้ (19 เม.ย. 66) 'หลินฮุ่ย' จะสิ้นใจจากไป ส่วนสาเหตุของการเสียชีวิตนั้น ต้องรอทางสวนสัตว์เชียงใหม่อย่างเป็นทางการ

ซึ่งก่อนหน้านี้ 'ช่วง ช่วง' แพนด้าตัวผู้ ได้ตายในวันที่ 16 ก.ย. 2562 ที่สวนสัตว์เชียงใหม่ เนื่องจากภาวะหัวใจล้มเหลว ส่งผลให้อวัยวะภายในทั่วร่างกายขาดออกซิเจน เป็นเหตุให้ตาย

ทั้งนี้ 'หลินฮุ่ย' เกิดวันที่ 28 ก.ย. 2544 ที่ศูนย์วิจัยและอนุรักษ์แพนด้ายักษ์ เขตอนุรักษ์วู่หลง เมืองเฉิงตู มณฑลเสฉวน สาธารณรัฐประชาชนจีน เกิดจากพ่อหมีแพนด้าชื่อ Pan Pan (พ่าน พ่าน) และแม่หมีแพนด้าชื่อ Tang Tang (ถัง ถัง) เดินทางมาอยู่ที่สวนสัตว์เชียงใหม่ เมื่อวันที่ 12 ต.ค. 2546 เพื่อเป็นทูตสันถวไมตรีระหว่างไทยและสาธารณรัฐประชาชนจีน

'หนูนา' รับ!! ไม่เห็นด้วยไทยจะขอ 'แพนด้า' มาอีก ชี้!! เมืองไทยขาดสภาพธรรมชาติ หนุนช้างไทยกันดีกว่า

(18 ก.ย.66) น.ส.กัญจนา ศิลปอาชา ในฐานะแฟนคลับแพนด้าตัวยง และ ผู้สนับสนุนการอนุรักษ์สรรพสัตว์ โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว ระบุว่า...

ได้ข่าวว่าจะมีการขอแพนด้ามาอีก…ขอบอกว่า อย่าเลย…เขาอยู่ที่จีนน่ะดีแล้ว

ดิฉันรักแพนด้า รักสัตว์ทุกอย่าง และหลินปิงคือแรงบันดาลใจแรก ๆ ของดิฉันในเรื่องสัตว์ต่าง ๆ เมื่อเรารักอะไร เราต้องรักแบบเห็นความสุขเขาเป็นที่ตั้ง ไม่ใช่ความสุขของเรา…

ที่ผ่านมา ทีมแพนด้าของเราทุกคน เลี้ยง ช่วงช่วง หลินฮุ่ย หลินปิงได้ดีมาก แต่สภาพที่อยู่ ส่วนจัดแสดงเราจำกัด เขาอยู่จีน ที่โน่นมีสวนให้ออกมาเดินตามธรรมชาติได้ทุกตัว ของเราไม่มี อยู่แต่ห้องแอร์ ช่วงอากาศหนาว ซึ่งสั้นมาก อาจออกมาได้วันละ 1-2 ชั่วโมงแต่ก็เพียงไม่กี่วัน…และเป็นสวนเล็ก ๆ

งบในการเช่าหมีแพนด้าก็สูงมาก และกระแสแพนด้าก็ไม่แรงแล้ว …กระแสช้างไทยต่างหากที่มาแรง…

ขอบอกเลยนะคะ เอางบมาช่วยเรื่องทำแหล่งอาหารสัตว์ดีกว่า โดยเฉพาะสัตว์ป่า ที่ปีหน้าจะแล้งหนัก… ก็ไม่ทราบจะมีใครฟังเราไหม...ถ้าท่านใดเห็นด้วย กรุณาช่วยดิฉันให้เสียงนี้ดัง ๆ นะคะ…

‘3 แพนด้ายักษ์’ ในสวนสัตว์สหรัฐฯ กลับจีน หลังสิ้นสุดสัญญา 23 ปี ท่ามกลางความสัมพันธ์ทางการทูตที่ตึงเครียดของทั้งสองในขณะนี้

‘สวนสัตว์แห่งชาติสมิธโซเนียน’ (Smithsonian National Zoo) สหรัฐฯ ในกรุงวอชิงตันดีซี ส่งแพนด้ายักษ์ 3 ‘พ่อ-แม่-ลูก’ เดินทางกลับจีนแล้ว หลังสัญญา 23 ปีสิ้นสุด ท่ามกลางความสัมพันธ์ทางการทูตที่ตึงเครียดของจีนกับสหรัฐฯ

(10 พ.ย. 66) เอบีซีนิวส์ของสหรัฐฯ รายงานว่า เมื่อวันที่ 8 พ.ย. 66 ‘แพนด้าเหมย เซียง’ (Mei Xiang) ‘แพนด้าเทียน เทียน’ (Tian Tian) และ ‘แพนด้าเซียว ฉี จี’ (Xiao Qi Ji) แพนด้า 3 พ่อ-แม่-ลูก ถูกส่งตัวกลับจีนแล้ว โดยทั้ง 3 ตัว ถูกนำใส่ลังที่ทำจากเหล็ก ซึ่งภายในใส่ใบไผ่ แอปเปิล และลูกแพร์จำนวนมาก เพื่อเป็นเสบียงอาหารระหว่างเดินทางไกล 19 ชม. ไปยังเมืองเฉิงตูของจีน

โดยแพนด้ายักษ์ทั้ง 3 ตัว ได้เดินทางด้วยเครื่องบินขนส่งสินค้าโบอิ้ง 777 เอฟ ที่มีชื่อว่า ‘เฟดเอ็กซ์ แพนด้า เอ็กซ์เพรส’ (FedEx Panda Express) ออกเดินทางจากสนามบินนานาชาติแดลลัส ของสหรัฐอเมริกา พร้อมผู้ดูแลอีก 3 คน เพื่อเดินทางไปยังเขตป่าสงวนในมณฑลเสฉวนของจีน ซึ่งปัจจุบันยังคงมีแพนด้ายักษ์ อาศัยอยู่ในป่าตามธรรมชาติของจีนประมาณ 1,800 ตัว

ทั้งนี้ ‘เหมย เซียง’ วัย 25 ปี และ ‘เทียน เทียน’ วัย 26 ปี ถูกนำมาที่สวนสัตว์แห่งชาติสหรัฐฯ เมื่อปี 2543 และให้กำเนิดลูกแพนด้ายักษ์ 3 ตัว ระหว่างช่วงปี 2548-2558 โดยล่าสุด คือ เซียว ฉี จี ที่เกิดเมื่อ 3 ปีที่แล้ว ทำให้ เหมย เซียงกลายเป็นแพนด้ายักษ์ที่อายุมากที่สุดที่ให้กำเนิดลูกได้ในสหรัฐฯ

เอบีซี เผยอีกว่า แพนด้ายักษ์ทั้ง 3 ตัวนี้ มีแฟนคลับมากมาย ซึ่งมียอดเข้าชมเว็บไซต์ของสวนสัตว์มากกว่า 100 ล้านครั้ง และบรรยากาศแห่งการจากลาเป็นไปด้วยความเศร้า เพราะเจ้าแพนด้า 3 ตัวที่เป็นดาราประจำสวนสัตว์มาโดยตลอด ไม่สามารถโผล่ออกมากล่าวคำอำลากับเด็กๆ พ่อแม่และแฟนๆ ที่ต้องการกล่าวลาเป็นครั้งสุดท้าย

สำหรับการส่งแพนด้ากลับจีนครั้งนี้ มีขึ้นหลังสัญญาโครงการให้ยืมแพนด้ายักษ์ ที่ทางการจีนทำไว้กับสวนสัตว์ดังกล่าวหมดอายุลง และการเดินทางกลับของแพนด้าเกิดขึ้นไม่นานก่อนที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ‘โจ ไบเดน’ จะพบกับประธานาธิบดีจีน ‘สี จิ้นผิง’ ที่เมืองซานฟรานซิสโก ระหว่างการประชุม APEC ท่ามกลางความตึงเครียดของทั้ง 2 ชาติ

และจากสถานการณ์ความสัมพันธ์ของ 2 ประเทศที่ตึงเครียดขึ้น จึงยังไม่มีวี่แววว่าจะมีการเจรจาเพิ่มเติม โดยผู้อำนวยการสวนสัตว์ แบรนดี สมิท (Brandie Smith) ไม่ยอมตอบตรงคำถามว่ามีความพยายามใดๆ จากสวนสัตว์แห่งชาติสมิธโซเนียนในการต่อสัญญายืมตัวแพนด้าดังกล่าว

นั่นเท่ากับว่า ตอนนี้จะมีแพนด้าจากจีนหลงเหลืออยู่บนแผ่นดินสหรัฐฯ อีกแค่ 2 ตัว เป็นแพนด้าแฝด ชื่อ ‘หยา หลุน’ กับ ‘ซี หลุน’ อยู่ที่สวนสัตว์เมืองแอตแลนตา รัฐจอร์เจีย แต่ก็มีกำหนดจะต้องส่งคืนจีนช่วงต้นปีหน้าเช่นกัน 

ถือเป็นครั้งแรกในรอบ 50 ปี ที่สหรัฐฯ จะไม่มีทูตสันถวไมตรีอย่างแพนด้าอีกต่อไป และนั่นก็หมายความว่า จะเหลือแพนด้าอีกเพียงตัวเดียวในทวีปอเมริกาเหนือ คือ ที่สวนสัตว์ในกรุงเม็กซิโก ซิตี เท่านั้นด้วย


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top