Sunday, 19 May 2024
แผ่นดินไหวตุรกี

‘นายกฯ’ แสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์แผ่นดินไหวในตุรเคีย ร่วมส่งทีมกู้ภัยให้ความช่วยเหลือ หวังให้ตุรเคียผ่านพ้นวิกฤต

(9 ก.พ. 66) เวลา 09.00 น. ที่ห้องสีม่วง ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในนามรัฐบาลไทยมอบความช่วยเหลือทางมนุษยธรรมเบื้องต้นให้แก่รัฐบาลสาธารณรัฐตุรเคียผ่าน นางแซรัป แอร์ซอย (H.E. Mrs. Serap Ersoy) เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐตุรเคียประจำประเทศไทย

นายกรัฐมนตรี ในนามของรัฐบาลและประชาชนไทย กล่าวว่า ขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อเหตุการณ์แผ่นดินไหวครั้งรุนแรงที่จังหวัดคาห์รามันมาราช (Kahramanmaras) สาธารณรัฐตุรเคีย (ตุรกี) ( ซึ่งห่างจากกรุงอังการาประมาณ 580 กิโลเมตร) และบริเวณใกล้เคียง ในช่วงเช้าของวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2566 พร้อมขอมอบความช่วยเหลือเบื้องต้นจำนวน 5 ล้านบาทแก่รัฐบาลตุรเคีย และรัฐบาลไทยจะได้จัดส่งทีมหน่วยกู้ภัยฉุกเฉิน จากกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย และความช่วยเหลืออื่น ๆ ตามความต้องการ พร้อมหวังว่า รัฐบาล และประชาชนตุรเคียจะสามารถผ่านพ้นช่วงเวลาที่ยากลำบากนี้ได้โดยเร็ว โดยนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า หากตุรเคียต้องการความช่วยเหลือขอให้ประสานผ่านมายังกระทรวงการต่างประเทศ

“ในวันนี้ได้มีการมอบเงินจำนวนหนึ่งในการแก้ไขปัญหาในตุรเคีย ซึ่งประเทศไทยได้เตรียมความพร้อม จัดชุดทีมกู้ภัยให้พร้อม และให้ตรงกับความต้องการของตุรเคีย ซึ่งหวังว่าสถานการณ์นี้จะเข้าสู่สภาวะปกติโดยเร็วที่สุด ซึ่งในวันนี้ก็เป็นการแสดงความจริงใจ และมิตรต่อกันระหว่างไทยและตุรเคีย” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รับทราบเมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ ว่ามีหญิงชาวไทย 1 ราย เสียชีวิตจากเหตุแผ่นดินไหวครั้งนี้ด้วย และขอแสดงความเสียใจเป็นอย่างมาก และได้สั่งการให้กระทรวงการต่างประเทศ สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงอังการา เร่งประสานงานกับทางการตุรเคีย เพื่อดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป ทั้งนี้ ขอให้รัฐบาลตุรเคียช่วยดูแลชาวไทยซึ่งบางรายอาศัยอยู่ในที่พักพิงชั่วคราวที่ทางการตุรเคียจัดหาให้ด้วย

นอกจากนี้ ยังไม่มีรายงานว่าคนไทยได้รับบาดเจ็บเพิ่มเติม และยังมีคนไทยดำรงชีวิตอยู่ในตุรเคีย รวม 30 ราย ซึ่งบางรายอาศัยอยู่ในที่พักพิงชั่วคราวที่ทางการตุรเคียจัดหาให้ รวมทั้ง คืนนี้ (9 กุมภาพันธ์ 2566) ทีมช่วยเหลือ/กู้ภัย จำนวน 42 นายจะเดินทางไปตุรเคีย พร้อมสิ่งของสำหรับการกู้ภัย การบรรเทาสาธารณภัย และเวชภัณฑ์

ด้านเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐตุรเคียประจำประเทศไทย กล่าวว่าขอบคุณน้ำใจของรัฐบาลไทย และประชาชนไทยในโอกาสนี้ โดยได้เห็นถึงน้ำใจและความช่วยเหลือของทุกภาคส่วน ทั้งรัฐบาล ประชาชน และภาคเอกชนที่ได้ส่งกำลังใจ และแสดงความช่วยเหลือมาทางสถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐตุรเคียประจำประเทศไทยอย่างมากมาย

เหตุการณ์ครั้งนี้ ถือเป็นเหตุการณ์ที่รุนแรงและหนักที่สุดครั้งหนึ่ง ทั้งนี้ มิตรประเทศได้แสดงน้ำใจ ความช่วยเหลือ ซึ่งประเทศไทยถือเป็นหนึ่งในเพื่อนแท้ของตุรเคีย เชื่อว่าตุรเคียจะผ่านเหตุการณ์ที่ยากลำบากครั้งนี้ไปได้ พร้อมกล่าวขอบคุณอีกครั้งสำหรับความช่วยเหลือและกำลังใจของประเทศไทยในครั้งนี้

'ปราสาทกาซีอันเตป' มรดกยุคโรมันอายุ 2 พันปี พังทลายลงจากเหตุแผ่นดินไหวในตุรเคีย

ภัยพิบัติแผ่นดินไหวระดับรุนแรงมากที่เกิดขึ้นในทางตอนใต้ของประเทศตุรเคียและตอนเหนือของประเทศซีเรีย ซึ่งมีศูนย์กลางแผ่นดินไหวอยู่ที่เมืองกาซีอันเตป (Gaziantep) สร้างความเสียหายใหญ่หลวง อาคารบ้านเรือนทลายลงมาเหลือสภาพเป็นซากปรักหักพัง เศษอิฐซากปูนที่ทับถมกองพะเนินมีครอบครัวของใครบางคนที่รอการค้นพบอยู่ในนั้น โดยไม่ทราบว่าจะพบในสภาพเป็นหรือตาย

ครบหนึ่งสัปดาห์ของเหตุการณ์แผ่นดินไหวที่ตุรเคียและซีเรีย ผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นเป็นกว่า 33,000 รายแล้ว และยังมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอีก คาดก็อาจจะขึ้นไปถึงหลักแสน การค้นหาผู้รอดชีวิตและผู้เสียชีวิตดำเนินไปท่ามกลางความโศกเศร้าเสียใจของคนในพื้นที่ ขณะที่อากาศหนาวเหน็บเป็นอุปสรรคต่อการทำงานของเจ้าหน้าที่และอาสาสมัคร บวกกับความซับซ้อนทางการเมืองของพื้นที่ ทำให้ความช่วยเหลือจากนานาชาติเป็นไปอย่างล่าช้า

ความเสียหายทางด้านวัตถุสิ่งปลูกสร้างนั้น หนักหนากว่าการที่ผู้คนสูญเสียบ้านเรือนที่อยู่อาศัย เนื่องด้วยประเทศตุรเคียเป็นดินแดนแห่งอารยธรรมหลายจักรวรรดิสำคัญในประวัติศาสตร์โลก ตั้งแต่จักรวรรดิโรมันตะวันออก จักรวรรดิไบแซนไทน์ และจักรวรรดิออตโตมัน ซึ่งมรดกทางอารยธรรมเหล่านั้นยังหลงเหลืออยู่ให้เห็นหลายแห่งทั่วประเทศตุรเคีย รวมถึงประเทศที่มีพรมแดนติดกันอย่างซีเรีย ซึ่งในอดีตก็เคยเป็นพื้นที่ในจักรวรรดิเดียวกันความเสียหายหรือผลกระทบจากเหตุแผ่นดินไหวครั้งนี้จึงเกิดขึ้นกับโบราณสถานเหล่านั้นด้วย

ในพื้นที่ประเทศตุรเคียและซีเรียมีโบราณสถานหลายแห่งที่ได้รับการขึ้นทะเบียนจากองค์การ เพื่อการศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ หรือ ยูเนสโก (United Nations Educational, Scientific and Cultural Organization : UNESCO) ซึ่งตามข่าวที่ยูเนสโกเผยแพร่ออกมาเมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2566 ยูเนสโกเป็นกังวลและได้ร่วมกับพันธมิตรลงพื้นที่สำรวจความเสียหายแล้ว แต่ยังไม่ได้รับรายงานว่ามีแหล่งมรดกโลกแห่งใดเสียหาย

สำหรับในซีเรีย ยูเนสโกกังวลเป็นพิเศษเกี่ยวกับสถานการณ์ในเมืองโบราณอเลปโป ซึ่งอยู่ในรายชื่อมรดกโลกที่อยู่ในภาวะอันตราย (World Heritage in Danger List) จากการสำรวจของเจ้าหน้าที่และพันธมิตรพบว่า หอคอยด้านตะวันตกของกำแพงเมืองเก่าและอาคารเก่าหลายแห่งในตลาดได้รับความเสียหาย

ส่วนในตุรเคีย ยูเนสโกบอกว่า “รู้สึกเศร้าใจกับการพังทลายของอาคารหลายแห่งในเมืองดิยาร์บากีร์ ซึ่งเป็นที่ตั้งของ ‘ป้อมปราการดิยาร์บากีร์ และภูมิทัศน์วัฒนธรรมสวนเฮฟเซล การ์เดน’ (Diyarbakır Fortress and Hevsel Gardens Cultural Landscape) ซึ่งเป็นศูนย์กลางที่สำคัญของจักรวรรดิโรมัน จักรวรรดิไบแซนไทน์ และจักรวรรดิออตโตมัน”

นอกจากนี้ ยูเนสโกกังวลว่าแหล่งมรดกโลกอื่น ๆ ที่อยู่ไม่ไกลจากศูนย์กลางแผ่นดินไหวอาจได้รับผลกระทบด้วย เช่น โกเบคลี เทเป (Göbekli Tepe), เนมรุต ดัก (Nemrut Dağ) และเนินเขาอาร์สลันเตเป (Arslantepe) แม้จะไม่ใช่มรดกโลก แต่โบราณสถานที่เห็นชัดเจนว่าพังเสียหายจากแรงสั่นสะเทือนของแผ่นดินไหวครั้งนี้ คือ 'ปราสาทกาซีอันเตป' (Gaziantep Castle) มรดกอารยธรรมยุคโรมันที่อยู่คู่เมืองนี้มากว่า 2,000 ปี

เมืองกาซีอันเตป (Gaziantep) ตั้งอยู่บนคาบสมุทรอานาโตเลีย เป็นหนึ่งในเมืองเก่าแก่ที่สุดในโลกที่มีประชากรอาศัยตั้งรกรากต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน

ในยุคจักรวรรดิออตโตมัน (ค.ศ. 1299-1922) เมืองนี้มีชื่อว่า 'แอนเตป' (Antep) ก่อนจะถูกเปลี่ยนชื่อเป็น 'กาซีอันเตป' (Gaziantep) ในปี 1928 และใช้ชื่อนี้ต่อมาถึงทุกวันนี้

ปราสาทกาซีอันเตปตั้งอยู่ใจกลางเมืองกาซีอันเตป จากการขุดค้นทางโบราณคดีมีหลักฐานว่าปราสาทหินแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นครั้งแรก เพื่อเป็นหอสังเกตการณ์ในสมัยจักรวรรดิโรมัน ในช่วง 2-3 ศตวรรษก่อนคริสต์ศักราช และต่อมามีการขยายต่อเติมให้เป็นปราสาทเต็มรูปแบบ ตามข้อมูลจากเว็บไซต์อย่างเป็นทางการของพิพิธภัณฑ์และแหล่งโบราณคดีในประเทศตุรเคีย ระบุว่ารูปแบบปราสาทที่เห็นในยุคปัจจุบันเป็นรูปแบบที่ต่อเติมปรับปรุงในสมัยจักรพรรดิจัสติเนียนแห่งจักรวรรดิไบแซนไทน์ ในช่วง ค.ศ. 527-565

อาลัย 'Proteo' สุนัขค้นหากู้ภัยจากเม็กซิโก เสียชีวิตขณะปฏิบัติภารกิจช่วยผู้ประสบภัยในตุรเคีย

(13 ก.พ. 66) เฟซบุ๊ก 'World Forum ข่าวสารต่างประเทศ' เผยเรื่องราว การจากไปของ 'Proteo' (โปรเตโอ) สุนัขค้นหากู้ภัยขณะปฏิบัติภารกิจ ณ ศูนย์กลางแผ่นดินไหว ประเทศตุรเคีย โดยมีข้อความว่า 

กระทรวงกลาโหมเม็กซิโก ประกาศข่าวร้ายในโพสต์บนบัญชีทวิตเตอร์ “ขอบคุณสำหรับงานที่กล้าหาญของคุณ คุณทำงานของคุณสำเร็จแล้ว Proteo”

ตามข้อมูลที่ไม่ได้ลงรายละเอียดลึก ท่ามกลางความเสียใจของทีมค้นหา ระบุว่า “โปรเตโอ กำลังค้นหาในซากอาคาร เกิดอุบัติเหตุซากอาคารถล่มลงมาเขาบาดเจ็บสาหัส โปรเตโอ ทนพิษบาดแผลไม่ไหวหลังจากปฐมพยาบาล”

เครื่องบิน 'กองทัพอากาศ' เดินทางถึงตุรเคียแล้ว ส่งมอบสิ่งของพระราชทาน พร้อมรับคนไทยกลับประเทศ

เครื่องบิน AIRBUS 340-500 เที่ยวบินที่ RTAF 230 ของกองทัพอากาศ เดินทางถึงสนามบินอังการา สาธารณรัฐตุรเคียแล้ว เมื่อเช้าวันนี้ ในภารกิจส่งมอบสิ่งของพระราชทาน ช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติแผ่นดินไหว พร้อมรับคนไทยกลับสู่มาตุภูมิ

(16 ก.พ. 66) นาวาอากาศเอกอนุรักษ์ รมณารักษ์ รองผู้อำนวยการสำนักยุทธการและการฝึก กรมยุทธการทหารอากาศ ในฐานะหัวหน้าคณะทำงานช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมและอพยพคนไทย จากเหตุแผ่นดินไหว ณ สาธารณรัฐตุรเคีย (ส่วนของกองทัพอากาศ) และคณะ เดินทางถึงสนามบินอังการา สาธารณรัฐตุรเคียแล้ว ด้วยเครื่องบิน AIRBUS 340-500 ของกองทัพอากาศ เที่ยวบินที่ RTAF 230 เมื่อเช้าวันนี้ (วันพฤหัสบดีที่ 16 กุมภาพันธ์ 2566) เวลา 05.20 น. ตามเวลาท้องถิ่น หรือ 09.20 น. ตามเวลาประเทศไทย

พบ 'เด็กสาว' รอดชีวิต เหตุแผ่นดินไหวตุรเคีย-ซีเรีย หลังติดอยู่ใต้ซากตึกนานกว่า 11 วัน รวม 260 ชม.!!

(17 ก.พ. 66) ยอดผู้เสียชีวิตจากแผ่นดินไหวตุรเคียและซีเรีย แตะ 44,000 รายแล้ว ปาฏิหาริย์วันที่ 11 สามารถช่วยเด็กติดใต้ซากปรักหักพังนานสุด 260 ชั่วโมง

ความคืบหน้าเหตุแผ่นดินไหวตุรเคียและซีเรีย ยอดผู้เสียชีวิตยังเพิ่มขึ้นแตะ 44,000 รายแล้ว จากการรายงานล่าสุดของซีเอ็นเอ็น โดยเสียชีวิตในตุรเคีย 38,044 คน ส่วนในซีเรียราว 5,800 คน อย่างไรก็ตาม ยังมีผู้สูญหายอีกหลายพันคน ที่คาดว่าติดอยู่ใต้ซากปรักหักพัง แต่ปฏิบัติการค้นหาผู้รอดชีวิต ได้เข้าสู่ช่วงท้ายสุด และกำลังจะปิดลงแล้ว ทั้งรัฐบาลตุรเคียและซีเรียยังไม่เคยยืนยันจำนวนผู้สูญหายจากแผ่นดินไหว

แต่ปาฏิหาริย์ยังคงเกิดขึ้นเมื่อวานนี้ (16 ก.พ. 66) ซึ่งเข้าสู่วันที่ 11 หลังจากเกิดแผ่นดินไหว ผู้รอดชีวิตล่าสุดที่พบใต้ติดอยู่ซากปรักหักพัง นานสุด 260 ชั่วโมง

ทีมกู้ภัยทำงานกันตลอดทั้งคืนวันพฤหัสที่ผ่านมา จนสามารถดึงตัวเด็กชาย 1 คน ที่รอดชีวิต ขึ้นมาจากใต้ซากปรักหักพังได้ ในช่วงเช้าวันศุกร์นี้ (17 ก.พ.) หลังเด็กน้อยติดอยู่นาน 260 ชั่วโมง นับเป็นผู้รอดชีวิตที่ติดใต้ซากนานที่สุดเท่าที่พบจนถึงวันนี้ ทุกคนต่างส่งเสียงโห่ร้องและปรบมือด้วยความดีใจ เมื่อดึงตัวเด็กชายออกจากใต้ซากปรักหักพังได้อย่างปลอดภัย และนำตัวส่งโรงพยาบาลแล้ว

และเมื่อวานนี้ (16 ก.พ. 66) ซึ่งเป็นวันที่ 11 หลังแผ่นดินไหวยังพบผู้รอดชีวิตที่ติดอยู่ใต้ซากตึกนานกว่า 248 ชั่วโมงอีก 3 คน เป็นเยาวชน 2 คน คือเด็กชายอายุ 12 ปีชื่อ 'ออสมาน', เด็กสาววัยรุ่นอายุ 17 ปี ชื่อ 'อาเลย์นา โอลเมซ' และหญิงวัย 30 ปีอีก 1 คน

อย่างไรก็ตาม ปฏิบัติการค้นหาผู้รอดชีวิต ได้เปลี่ยนไปเป็นการช่วยเหลือผู้รอดชีวิตจากแผ่นดินไหว และสถานการณ์ล่าสุดในตุรเคีย เริ่มใช้รถขุดตักเก็บกวาดซากปรักหักพังแล้ว หลังจากไม่คาดคิดว่าจะพบผู้รอดชีวิตจากใต้ซากแล้ว ในขณะที่ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้รอดชีวิตหลายล้านคนจากแผ่นดินไหว ประสบอุปสรรคจากความหนาวเหน็บของฤดูหนาว ที่แผ่ไปทั่วพื้นที่แผ่นดินไหวในตุรเคีย

'ตุรเคีย-ซีเรีย' เจอแผ่นดินไหวรอบใหม่ 6.4 แมกนิจูด เขย่าขวัญกลางดึก ดับแล้ว 3 ศพ บาดเจ็บเพียบ!!

(21 ก.พ. 66) สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า เกิดแผ่นดินไหวขนาด 6.4 ริกเตอร์ เขย่าพื้นที่ทางใต้ของตุรเคีย (ตุรกี) และทางเหนือของซีเรีย เมื่อวันจันทร์ (20 ก.พ.) ตอน 20.04 น. ที่ผ่านมา ตามเวลาท้องถิ่น มีผู้เสียชีวิต 3 คน และสร้างความตื่นตระหนกครั้งใหม่ หลังจากเกิดแผ่นดินไหวขนาด 7.8 เมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ มีผู้เสียชีวิตรวมกันแล้วเกือบ 45,000 คน

กระทรวงมหาดไทยของตุรเคียแจ้งว่า มีผู้เสียชีวิต 3 คน และมีผู้ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล 213 คน ขณะที่กลุ่มไวท์เฮลเม็ตส์ (White Helmets) ในซีเรียแจ้งว่า มีคนบาดเจ็บมากกว่า 130 คน อาคารบางหลังที่เสียหายอยู่แล้วจากแผ่นดินไหวครั้งก่อน ได้พังถล่มลงมา และทำให้ผู้คนติดอยู่ภายใต้ซากปรักหักพังเพิ่มขึ้นอีก

แผ่นดินไหวเมื่อวานนี้เกิดขึ้นที่เมืองเดฟเน จังหวัดฮาไต ของประเทศตุรเคีย เมื่อเวลา 20:04 น. ตามเวลาท้องถิ่น (ตรงกับเวลา 00:04 น.วันนี้ ตามเวลาไทย) แรงสั่นสะเทือนรู้สึกได้ถึงเมืองอันตักเกียในจังหวัดเดียวกัน และจังหวัดอาดานาที่อยู่ห่างขึ้นไปทางเหนือ 200 กิโลเมตร รวมถึงในอียิปต์และเลบานอนที่อยู่ห่างลงไปทางใต้


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top