Friday, 17 May 2024
แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี

'สร้างอนาคตไทย' มั่นใจชู 'สมคิด' เป็นนายกฯ แก้ปัญหาเศรษฐกิจฯ ดัน 'สว่างแดนดิน' ขึ้นเป็นจังหวัด

พรรคสร้างอนาคตไทย เดินสายอีสาน ชู 'ดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์' แคนดิเดตนายกฯ แก้ปัญหาเศรษฐกิจ  มั่นใจเสียงตอบรับดี เชื่อได้เก้าอี้ ส.ส.เป็นกอบเป็นกำ พร้อมผลักดัน สว่างแดนดินเป็นจังหวัด 

(26 พ.ค.65) ทีมผู้บริหารพรรคสร้างอนาคตไทย ลงพื้นที่ อ.สว่างแดนดิน จ.สกลนคร นำโดยนายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรค และนายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรค นายสุพล ฟองงาม ประธานภาคอีสาน นายวิเชียร ชวลิต รองหัวหน้าพรรค นายนริศ เชยกลิ่น โฆษกพรรคฯ นายวัชระ กรรณิการ์ รองเลขาธิการพรรคฯ และผู้แสดงเจตจำนงเป็นผู้สมัคร ส.ส. ภาคอีสานกว่า 20 คน เปิดตัวผู้แสดงเจตจำนงเป็นผู้สมัคร ส.ส.ในนามพรรค เขต 4  คือนายชัยมงคล ไชยรบ โดยมีประชาชนและผู้นำชุมชนในพื้นที่ร่วมกิจกรรมเกือบพันคน

นายอุตตม กล่าวว่า การลงพื้นที่ อ.สว่างแดนดิน ครั้งนี้ เพื่อแสดงความตั้งใจของพรรคฯ ที่อาสาแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจปากท้องและหนี้สินของประชาชน  โดยพรรคมีความพร้อมด้านบุคลากรที่มีประสบการณ์ทางเศรษฐกิจมากที่สุดเมื่อเทียบกับทุกพรรคการเมือง จึงมั่นใจว่าสามารถแก้ปัญหาเศรษฐกิจประเทศได้อย่างแน่นอน

“วันนี้ปัญหาเศรษฐกิจปากท้อง เป็นเรื่องสำคัญที่สุด หากปากท้องไม่อิ่ม การขับเคลื่อนประเทศในเรื่องอื่นก็ไม่สามารถทำได้ดี  พรรคฯ จึงมุ่งมั่นทำเรื่องนี้อย่างเต็มที่”

บรรยากาศบนเวทีเป็นไปอย่างคึกคัก เมื่อผู้บริหารพรรคฯ ได้ประกาศชู ดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ อดีตรองนายกรัฐมนตรี เป็นบุคคลที่เหมาะสมที่สุดที่จะเป็นนายกรัฐมนตรีคนต่อไป อีกทั้งยังได้รับปากว่าจะผลักดันให้ สว่างแดนดิน ขึ้นเป็นจังหวัด หลังจากที่ชาวสว่างแดนดิน รอคอยมากว่า 30 ปี

'สร้างอนาคตไทย' ชี้!! 'สมคิด' เหมาะแคนดิเดตนายกฯ ไม่แคร์!! แม้ 'ทักษิณ' บลัฟเป็นได้แค่ขุนคลังยุคทรท.

จากกรณีที่นายทักษิณ ชินวัตร ได้มีการกล่าวพาดพิงถึง ดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ ว่าเคยเป็นคนติดตามตนมาตลอด และหวังจะเคลมผลงาน 30 บาทรักษาทุกโรค อีกทั้งเคยถูกทักโหวงเฮ้งจะได้เป็นนายกฯ พอพรรคไทยรักไทยได้เป็นรัฐบาล ก็ได้เป็นแค่รัฐมนตรีคลังนั้น

นายพงศ์พรหม ยามะรัต รองโฆษกพรรคสร้างอนาคตไทย กล่าวว่า หลายนโยบายของพรรคไทยรักไทย ถือเป็นนโยบายที่ดี และมีบุคคลที่มีความรู้ ความสามารถ จากหลากหลายวิชาชีพ ได้เข้ามาช่วยกันระดมสมอง จนเกิดเป็นนโยบายต่างๆ ขึ้นมาได้ และคุณทักษิณก็เป็นผู้นำในการนำเสนอนโยบายต่างๆ เพื่อนำมาเปลี่ยนแปลงประเทศในขณะนั้นได้จริง 

ดร.สมคิด ยังเคารพนับถือคุณทักษิณไม่เปลี่ยนแปลง และการที่ ดร.สมคิด ได้เข้าไปช่วยพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นั้น เป็นเพราะมองเห็นปัญหาของบ้านเมืองที่กำลังเข้าสู่ภาวะวิกฤต จึงได้เข้าไปเพื่อช่วยแก้ปัญหาเศรษฐกิจเพื่อให้ประเทศชาติเดินหน้าต่อไปได้ โดยไม่เกี่ยวข้องกับการเมืองใด ๆ ทั้งสิ้น แต่เมื่อมาถึงจุดหนึ่งโครงสร้างทางการเมืองและแนวทางในการทำงานร่วมกันเปลี่ยนไป ดร.สมคิด จึงต้องขอถอยออกมา

ซูเปอร์โพลวิเคราะห์ ‘จุดแข็ง-จุดอ่อน’ 6 แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีไทย ชี้ ‘ลุงตู่’ ยืนหนึ่งจงรักภักดี แต่ขี้โมโหง่าย ส่วน ‘อุ๊งอิ๊’ จุดแข็งเป็นคนรุ่นใหม่ แต่ยังไร้ผลงาน

14 ส.ค. 2565 - ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.นพดล กรรณิกา ผู้อำนวยการสำนักวิจัยซูเปอร์โพล (SUPER POLL) เสนอผลสำรวจ เรื่อง จุดแข็ง จุดอ่อน คนจะเป็นนายกรัฐมนตรี กรณีศึกษาประชาชนทุกสาขาอาชีพทั่วประเทศ ดำเนินโครงการทั้งการวิจัยเชิงปริมาณ (Quantitative Research) และการวิจัยเชิงคุณภาพ (Qualitative Research) ผ่านกระบวนการวิจัยเชิงทดลอง(Experimental Survey) เพื่อลดความคลาดเคลื่อนแก้ปัญหาแหล่งความคลาดเคลื่อนจากผู้ถาม ผู้ตอบและเครื่องมือวัดและใช้เทคโนโลยีความปลอดภัยทางไซเบอร์ (Cybersecurity) เกาะติดข้อมูลแวดล้อมในโลกโซเชียลลดปัญหาผลกระทบความน่าเชื่อถือของข้อมูล จำนวน 2,025 ตัวอย่าง ระหว่างวันที่ 9 – 13 สิงหาคม พ.ศ. 2565 ที่ผ่านมา โดยมีค่าความคลาดเคลื่อนจากการกำหนดขนาดตัวอย่างบวกลบร้อยละ 5 ในช่วงความเชื่อมั่นร้อยละ 95 ผลสำรวจพบว่า

ผู้ตอบแบบสอบถามร้อยละ 47.7 เป็นชายและร้อยละ 52.3 เป็นหญิงสอดคล้องกับสัดส่วนของประชากรผู้มีสิทธิเลือกตั้งอายุ 18 ปีขึ้นไปจำนวนทั้งสิ้น 52,173,604 คน อ้างอิงฐานข้อมูลประชากรกรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทยเดือนมิถุนายน พ.ศ.2565 ในตัวอย่างนี้มีร้อยละ 13.4 อายุไม่เกิน 24 ปี ร้อยละ 37.2 อายุ 25 – 39 ปี ร้อยละ 35.9 อายุ 40 – 59 ปี และร้อยละ 13.5 อายุ 60 ปีขึ้นไป และเมื่อจำแนกเป็นอาชีพพบว่า ร้อยละ 6.1 เป็นข้าราชการและเจ้าหน้าที่รัฐ ร้อยละ 19.2 เป็นพนักงานเอกชน ร้อยละ 19.9 ค้าขายอิสระ ร้อยละ 21.6 เป็นเกษตรกร ร้อยละ 18.9 รับจ้างทั่วไป ร้อยละ 8.1 เป็นนักศึกษา ร้อยละ 4.5 เป็นพ่อบ้านแม่บ้านเกษียณอายุ และร้อยละ 1.7 อื่น ๆ และว่างงาน โดยจำนวนมากหรือร้อยละ 30.8 มีสิทธิเลือกตั้งในภาคอีสาน รองลงมาคือร้อยละ 27.8 ภาคกลาง ร้อยละ 15.8 ภาคเหนือ ร้อยละ 17.6 ภาคใต้และร้อยละ 8.0 กรุงเทพมหานคร

ที่น่าพิจารณาคือ 3 อันดับจุดแข็ง จุดอ่อน คนจะเป็นนายกรัฐมนตรีในการเลือกตั้งครั้งต่อไป พบว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มีจุดแข็ง ดังนี้ จงรักภักดี (45.1%) อดทนแบกภาระวิกฤตประเทศ (34.8%) มีผลงานเปิดประเทศ ฟื้นสัมพันธ์ไทยซาอุดิอาระเบีย เป็นต้น (34.0%) ในขณะที่จุดอ่อน มีดังนี้ ไม่คุมอารมณ์ โมโหง่าย (55.0%) อยู่นานมา 8 ปี (51.5%) และไม่เก่งเรื่องแก้ปัญหาปากท้อง (48.4%)

เมื่อเทียบกับ นางสาว แพทองธาร ชินวัตร แกนนำพรรคเพื่อไทย มีจุดแข็ง ดังนี้ จงรักภักดี (20.1%) คนรุ่นใหม่ (43.7%) บุตรสาวอดีตนายกรัฐมนตรีทักษิณ ชินวัตร (46.3%) ในขณะที่จุดอ่อนของนางสาว แพทองธาร ชินวัตร มีดังนี้ ขาดประสบการณ์การเมือง (42.8%) ยังไม่มีผลงาน (40.0%) และน่าห่วงเรื่องการตัดสินใจในภาวะกดดันทางการเมือง (32.0%)

ที่น่าสนใจคือ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรค พลังประชารัฐ มีจุดแข็งดังนี้ จงรักภักดี (29.3%) มีเครือข่ายกว้างขวางทุกวงการจัดการอิทธิพลได้ (39.2%) มีผลงานแก้ค้ามนุษย์ แจกที่ทำกิน จัดการน้ำ แก้ภัยแล้ง เป็นต้น (30.9%) ในขณะที่จุดอ่อน คือ อายุมาก (62.7%) ไม่มีเวลาลงพื้นที่ (36.0%) และการสื่อสารประชาสัมพันธ์ (34.9%)

เมื่อเทียบกับนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ที่พบจุดแข็งดังนี้ จงรักภักดี (16.1%) คนรุ่นใหม่ (41.4%) พูดจาเก่ง (36.1%) ในขณะที่จุดอ่อน คือ ยังไม่มีผลงาน (35.9%) ขาดบารมีทางการเมือง (36.4%) และยังมีช่องว่างเข้าไม่ถึงชาวบ้าน (35.8%)

เมื่อพิจารณาจุดแข็งของ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขและหัวหน้าพรรค ภูมิใจไทย พบจุดแข็ง ดังนี้ จงรักภักดี (41.3%) แก้วิกฤตโควิดต่างชาติยกย่อง ดูแลผู้ป่วยดีขึ้น (45.9%) และมีความสามารถทำธุรกิจสำเร็จมั่นคง (40.7%) ในขณะที่จุดอ่อนคือ ยังขาดคนช่วยงานที่เข้าถึงพื้นที่ (49.8%) ไม่โปรโมตตัวเอง (37.2%) และพูดไม่เก่ง (30.8%)

เมื่อถามถึงจุดแข็งของนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์และหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ พบว่า จงรักภักดี (34.7%) มีประสบการณ์การเมือง (43.9) และนายชวน หลีกภัย สนับสนุน (41.4%) ในขณะที่จุดอ่อนมีดังนี้ แก้ขัดแย้งในพรรคไม่ได้ คนเก่งลาออก (56.8%) ไม่โดดเด่น (35.4%) และไม่เห็นผลงาน (30.9%)
.


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top