Wednesday, 15 May 2024
เอสโซ่

‘บางจาก’ ซื้อ ‘เอสโซ่’ จ่ายค่าหุ้นครึ่งหลังปี 66 เพิ่มศักยภาพโรงกลั่น - ได้ปั๊มน้ำมันอีก 700 แห่ง

บางจากฯ ประกาศซื้อหุ้นและทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ทั้งหมดของเอสโซ่(ประเทศไทย) โดยทำสัญญาซื้อขายหุ้นกับจาก ExxonMobil เมื่อวันที่ 11 มกราคม 2566 สัดส่วน 65.99 % ที่มีมูลค่ากิจการ 55,500 ล้านบาท และเตรียมทำเทนเดอร์ ออฟเฟอร์ซื้อหุ้นเอสโซ่ทั้งหมด ต่อไป ส่วนราคาซื้อขายหุ้น หากอ้างอิงตามงบการเงินไตรมาส 3/2565 เบื้องต้นประมาณ 8.84 บาทต่อหุ้น คาดว่าจะสามารถดำเนินการซื้อขายและชำระเงินค่าหุ้นแก่ผู้ขายได้ภายในครึ่งหลังของปี 2566 พร้อมก้าวสู่บริบทใหม่เพื่อความมั่นคงด้านพลังงานและการเข้าถึงของผู้บริโภคได้ครอบคลุมมากขึ้น

บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (BCP) ได้แจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการของบริษัท ครั้งที่ 1/2566 เมื่อวันที่ 11 มกราคม 2566 ได้มีมติเอกฉันท์อนุมัติการเข้าทำธุรกรรมและเห็นชอบให้เสนอที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นพิจารณาอนุมัติการเข้าซื้อหุ้นสามัญของบริษัท เอสโซ่ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) (ESSO) จาก ExxonMobil Asia Holdings Pte. Ltd. ('ExxonMobil') โดยบางจากฯ ได้ลงนามในสัญญาซื้อขายหุ้นกับ ExxonMobil เมื่อวันที่ 11 มกราคม 2566 และคาดว่าจะสามารถดำเนินการซื้อขายและชำระเงินค่าหุ้นแก่ผู้ขายได้ภายในครึ่งหลังของปี 2566 โดยต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขบังคับก่อนที่กำหนด และเตรียมพร้อมทำคำเสนอซื้อหุ้นที่เหลือทั้งหมด (tender offer) ของเอสโซ่ หลังจากการทำธุรกรรมกับ ExxonMobil เสร็จสิ้น

นายชัยวัฒน์ โควาวิสารัช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัทบางจากและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า การลงทุนครั้งนี้ เป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญสู่ความมั่นคงทางพลังงานที่มากขึ้นของบางจากฯ และประเทศไทย เป็นการลงทุนที่สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ที่เพิ่มความยั่งยืนและเพิ่มการเข้าถึงพลังงานได้ง่ายขึ้น เชื่อมั่นว่าการทำธุรกรรมครั้งนี้ ถือเป็นการพลิกโฉมสู่บริบทใหม่สำหรับบางจากฯ และประเทศไทย

การลงทุนครั้งนี้มีสินทรัพย์ที่เกี่ยวข้องคือโรงกลั่นน้ำมันกำลังการกลั่น 174,000 บาร์เรลต่อวัน เครือข่ายคลังน้ำมัน และสถานีบริการน้ำมันทั่วประเทศกว่า 700 แห่ง ก่อให้เกิดการประหยัดเชิงขนาดและช่วยเพิ่มประสิทธิภาพต้นทุนของบริษัท โดยจะทำให้บางจากฯ มีกำลังการกลั่นน้ำมันรวม 294,000 บาร์เรลต่อวัน และเครือข่ายสถานีบริการกว่า 2,100 แห่ง สามารถดำเนินธุรกิจโรงกลั่นได้ครบวงจรมากขึ้น จัดหาน้ำมันดิบได้หลากหลายขึ้น และได้รับประโยชน์จากเทคโนโลยีการกลั่นที่เสริมกันของโรงกลั่นทั้งสอง และการให้บริการด้านการตลาดที่ครอบคลุมและนำเสนอบริการให้กับลูกค้าได้ยิ่งขึ้นผ่านสถานีบริการน้ำมันทั่วประเทศ รวมถึงมีการแลกเปลี่ยนความรู้และเทคโนโลยี ช่วยเพิ่มพูนทักษะและความสามารถของพนักงาน สร้างความแข็งแกร่งให้ธุรกิจและก่อให้เกิดการส่งมอบประสบการณ์ที่ดีที่สุดสู่ลูกค้า และเตรียมความพร้อมให้กับกลุ่มบริษัทบางจากในการมุ่งสู่การเปลี่ยนผ่านด้านพลังงาน

‘บางจาก’ ปิดดีลซื้อ ‘เอสโซ่’ เป็นที่เรียบร้อย ด้วยการถือครองหุ้นทั้งหมดจำนวน 76.34%

(16 ต.ค. 66) นางสาวภัทร์ภูรี ชินกุลกิจนิวัฒน์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ กลุ่มงานบัญชีและการเงิน บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ตามที่บางจากฯ เข้าถือหุ้นร้อยละ 65.99 ของหุ้นสามัญที่ออกและจำหน่ายแล้วทั้งหมดของ บริษัท เอสโซ่ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เมื่อวันที่ 31 สิงหาคม 2566 และได้ยื่นคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ที่เหลือจำนวน 1,177,108,000 หุ้น คิดเป็นร้อยละ 34.01 ของหุ้นสามัญที่ออกและจำหน่ายแล้วทั้งหมดของ เอสโซ่ (ประเทศไทย) ในราคา 9.8986 บาทต่อหุ้น เมื่อวันที่ 5 กันยายน 2566

ซึ่งการทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ของ เอสโซ่ (ประเทศไทย) ได้ดำเนินการแล้วเสร็จ โดยบางจากฯ ได้ชำระค่าหุ้นให้กับผู้ถือหุ้นของ เอสโซ่ (ประเทศไทย) เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ส่งผลให้ปัจจุบัน บางจากฯ ถือหุ้นเอสโซ่ (ประเทศไทย) เป็นจำนวน 2,642,157,198 หุ้น (หุ้นที่ถืออยู่เดิมรวมกับหุ้นที่มีผู้แสดงเจตนาขาย) หรือคิดเป็นร้อยละ 76.34 ของหุ้นสามัญที่ออกและจำหน่ายแล้วทั้งหมด

“จำนวนหุ้นที่ได้จากการทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ฯ คิดเป็นมูลค่า 3,547,729,490 บาทนี้ บางจากฯ ได้ใช้เงินกู้จากวงเงินสินเชื่อระยะยาวจาก ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ที่เป็นพันธมิตรสนับสนุนการเติบโตของ บางจากฯ มาอย่างต่อเนื่อง โดยภายหลังการใช้เงินกู้ครั้งนี้ อัตราส่วนหนี้สินสุทธิต่อทุนของบางจากฯ ยังอยู่ในระดับไม่เกิน 1.1 เท่า สะท้อนถึงความแข็งแกร่งทางฐานะการเงินของบางจากฯ ทั้งนี้ บางจากฯ พร้อมที่จะเดินหน้าขับเคลื่อนการดำเนินงานต่างๆ เพื่อไปสู่การสร้างมูลค่าเพิ่มทางธุรกิจร่วมกัน”

12 มกราคม 2566 เปิดฉากดีลยักษ์ 'เอสโซ่ - บางจาก' ปิดฉากตำนาน 'ปั๊มเสือ' 129 ปีในไทย

นับได้ว่าเป็นอีกหนึ่งประเด็นร้อนแรงในวงการพลังงาน หากย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 12 ม.ค. 2566 บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ได้แจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์ แห่งประเทศไทยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการของบริษัท ครั้งที่ 1/2566 เมื่อวันที่ 11 ม.ค. 2566 ได้มีมติเอกฉันท์อนุมัติการเข้าทำธุรกรรมและเห็นชอบให้เสนอที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นพิจารณาอนุมัติการเข้าซื้อหุ้นสามัญของบริษัท เอสโซ่ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) จาก ExxonMobil Asia Holdings Pte. Ltd. 

โดยบางจากฯ ได้ลงนามในสัญญาซื้อขายหุ้นกับ ExxonMobil เมื่อวันที่ 11 ม.ค. 2566 และคาดว่าจะสามารถดำเนินการซื้อขายและชำระเงินค่าหุ้นแก่ผู้ขายได้ภายในครึ่งหลังของปี 2566 โดยต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขบังคับก่อนที่กำหนด และเตรียมพร้อมทำคำเสนอซื้อหุ้นที่เหลือทั้งหมด (tender offer) ของเอสโซ่ หลังจากการทำธุรกรรมกับ ExxonMobil เสร็จสิ้น

ซึ่งการเข้าซื้อกิจการ ESSO ประเทศไทย โดยมีสัดส่วน 65.99% โดยคิดเป็นมูลค่าเบื้องต้นราว 20,000 ล้านบาท โดยราคากิจการที่ซื้อจะเป็นราคาที่ตั้งต้นด้วย 55,000 ล้านบาท ก่อนปรับปรุงรายการทางการเงินต่าง ๆ อีกราว 25,000 ล้านบาท ทำให้เหลือเป็นราคากิจการเบื้องต้นราว 30,000 ล้านบาท และการลงทุนครั้งนี้ เป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญสู่ความมั่นคงทางพลังงานที่มากขึ้นของบางจากฯ และประเทศไทย เป็นการลงทุนที่สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ที่เพิ่มความยั่งยืนและเพิ่มการเข้าถึงพลังงานได้ง่ายขึ้น

สำหรับการลงทุนครั้งนี้มีสินทรัพย์ที่เกี่ยวข้องคือโรงกลั่นน้ำมันกำลังการกลั่น 174,000 บาร์เรลต่อวัน เครือข่ายคลังน้ำมัน และสถานีบริการน้ำมันทั่วประเทศกว่า 700 แห่ง ก่อให้เกิดการประหยัดเชิงขนาดและช่วยเพิ่มประสิทธิภาพต้นทุนของบริษัท โดยจะทำให้บางจากฯ มีกำลังการกลั่นน้ำมันรวม 294,000 บาร์เรลต่อวัน 

และเครือข่ายสถานีบริการกว่า 2,100 แห่ง ซึ่งการเข้าทำธุรกรรมดังกล่าว เป็นการเข้าซื้อหุ้นในสัดส่วน 65.99% ของจำนวนหุ้นทั้งหมดของ เอสโซ่ จาก ExxonMobil โดยมีมูลค่ากิจการ 55,500 ล้านบาท และมีกลไกการปรับราคาซื้อขายหุ้นตามที่ระบุในสัญญาซื้อขายหุ้น

ดังนั้นเมื่อ บางจาก ได้รวมกับ เอสโซ่ แล้ว จะทำให้ บางจาก มีความยิ่งใหญ่เพิ่มมากขึ้นอีกหลายเท่าตัว โดยหากมองจากจำนวนสาขาบริการน้ำมันหากรวมกันจะอยู่ที่กว่า 2,100 สาขา ทั้งนี้หากนำไปเทียบกับสถานีบริการน้ำมันของผู้ประกอบการราย อาทิ เช่น โออาร์ (OR) มีสถานบริการน้ำมันอยู่ที่ 2,473 สาขา และ พีทีจี เอ็นเนอยี (PTG) มีสถานีบริการน้ำมัน 2,212 สาขา 

อย่างไรก็ตาม ถือเป็นการปิดตำนาน ‘ปั๊มพี่เสือ’ อย่างเป็นทางการ หลังเปิดให้บริการมาทั้งสิ้น 129 ปีในประเทศไทย และหลงเหลือไว้แต่เพียงความทรงจำให้นึกถึง...


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top