Sunday, 19 May 2024
เสรีทรงผม

นักเรียน ‘ตื้บครู-คว้าเก้าอี้ฟาด’ เหตุไม่พอใจ จะถูกตัดผม

(1 มิ.ย.65) กลุ่มไลน์ในจังหวัดเลย ได้มีการมีแชร์ข้อความเหตุการณ์เด็กนักเรียนมัธยมแห่งหนึ่ง ได้เกิดไม่พอใจที่ครูจะตัดผม ได้ผลักครูจนล้ม จากนั้นกระทืบซ้ำอีก 3-4 ครั้ง แถมเอาเก้าอี้ฟาดใส่ครู ก่อนจะคว้ากรรไกรจะแทงครู แต่เพื่อนในห้องมาห้ามไว้ทัน เหตุเกิดที่โรงเรียนเทศบาล 5 บ้านหนองผักก้าม ตำบลกุดป่อง อำเภอเมืองเลย จังหวัดเลย

โดยแหล่งข่าวได้เผยบทสัมภาษณ์ ของนายชาญศักดิ์ ราชโยธา ครูสอนวิชาสังคม ผู้ถูกเด็กนักเรียนทำร้าย ระบุว่า เหตุเกิดขึ้นเมื่อช่วงเวลา 15.00 น. วันที่ 31 พฤษภาคม 2565 เป็นคาบเรียนชั่วโมงสุดท้าย เห็นนายต้น อายุ 14 ปี นักเรียนชั้นม.2/2 ไว้ผมยาว จึงให้มาตัดผมที่ห้อง โดยจะตัดปลายผมที่ยาวในห้องเรียนต่อหน้าเพื่อนนับสิบคน ขณะที่นักเรียนกำลังนั่งที่เก้าอี้ จู่ๆ ก็ลุกขึ้นมาผลักตนล้ม จากนั้นใช้เท้ากระทืบตนที่หน้าอกและกลางหลัง 3-4 ครั้ง แล้วเอาเก้าอี้พลาสติกฟาดเข้าที่ร่าง หันไปหยิบกรรไกรที่ตกอยู่ที่พื้น ตนเองเห็นท่าไม่ดีจึงรีบเข้าไปคว้าตัว และแย่งกรรไกรมาได้
 

'พิธา' ชี้ ครูกล้อนผมเด็ก สะท้อนใช้อำนาจเกินขอบเขต ลั่น!! หากก้าวไกลเป็น รบ. พร้อมดันกฎห้าม รร. ละเมิดสิทธิฯ

(7 ก.พ. 66) นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล โพสต์ข้อความลงโซเชียลมีเดีย แสดงความคิดเห็นต่อกรณีที่มีครูโรงเรียนแห่งหนึ่งกล้อนผมนักเรียนในโรงเรียน ว่าเป็นเรื่องที่ขัดกับหลักสิทธิมนุษยชน แสดงให้เห็นว่าการลงนามยกเลิกระเบียบกระทรวงศึกษาธิการ ว่าด้วยทรงผม ไม่ได้ช่วยทำให้นักเรียนมีเสรีภาพมากขึ้นจริงในทางปฏิบัติ เสนอแนะให้กระทรวงศึกษาธิการปกป้องสิทธิเสรีภาพนักเรียน เพื่อสร้างพลเมืองที่ตอบโจทย์โลกอนาคต

โดยพิธา กล่าวว่าตน รู้สึกไม่สบายใจอย่างยิ่ง ที่วันนี้ได้เห็นภาพเหตุการณ์ที่ถูกนำเสนอโดยกลุ่มนักเรียนเลว ที่มีครูในโรงเรียนแห่งหนึ่งในจังหวัดเพชรบูรณ์ ใช้กรรไกรเดินกล้อนผมนักเรียนกว่าร้อยคนจนแหว่งและเสียทรง ในระหว่างเข้าแถวตอนเช้า หลังจากนั้นก็บังคับให้นักเรียนทุกคนแก้ทรงผมกลายเป็นทรงนักเรียนขาว 3 ด้านทั้งหมด

แม้กฎเรื่องทรงผมโรงเรียนจะไม่ได้บังคับให้นักเรียนต้องตัดผมเกรียนก็ตาม นี่แสดงให้เห็นว่า การที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ลงนามยกเลิกระเบียบกระทรวงศึกษาธิการว่าด้วยการไว้ทรงผมของนักเรียน พ.ศ. 2563 เปลี่ยนเป็นการกำหนดแนวปฏิบัติกว้าง ๆ ให้สถานศึกษาแต่ละแห่งนำหลักเกณฑ์ไปกำหนดเป็นระเบียบเอง ไม่ได้เป็นการปลดปล่อยเสรีภาพเหนือร่างกายของนักเรียน แต่กลับทำให้กฎเกณฑ์เรื่องทรงผมนักเรียนถูกกำหนดอย่าง 'ไร้ขอบเขต' กว่าเดิม

“ผมคิดว่าการสอนและสร้างความสำนึกเรื่องสิทธิมนุษยชน และเสรีภาพของมนุษย์ในโรงเรียน เป็นเรื่องเดียวกันกับการพัฒนาคุณภาพการศึกษา เพราะในโลกยุคปัจจุบันเราไม่สามารถเอาวิธีคิดแบบการผลิตพลทหารของโลกยุค 100 ปีก่อน มาใช้ในการสร้างสรรค์การเรียนรู้ สิ่งที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการควรต้องทำจริง ๆ คือการประกาศระเบียบกระทรวงศึกษาธิการ ที่ห้ามบุคลากรทางการศึกษาทั้งครูและผู้บริหารโรงเรียน ไม่ให้ละเมิดสิทธิมนุษยชนตามนโยบายของพรรคก้าวไกล” พิธากล่าว


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top